The Conjuring 2 ( 2016 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
เป็นการกลับมาสู่ผลงานสยองขวัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองเสียที สำหรับผู้กำกับเจมส์ วาน เจ้าของผลงานอย่าง Saw (2004) และ Insidious (2010) หลังจากที่หนีผีไปกำกับแก๊งค์ซิ่งรถมาใน Furious Seven ปีที่แล้ว โดยคราวนี้เขากลับมาสานต่อผลงาน The Conjuring ซึ่งนำเสนอสู่สายตาชาวโลกไปในปี 2013 และได้รับความนิยมจนกลายเป็นอีกหนึ่งกระแสที่น่าสนใจในวงการภาพยนตร์ไปที่สุด
อย่างไรก็ตาม ความโด่งดังของ The Conjuring ก็ทำให้เกิดผลงานสยองขวัญภาคแยก ที่ใครหลายคนสาปแช่งกันอย่างไม่รู้จบ Annabelle ขึ้น ถึงแม้ตัว เจมส์ วาน จะไม่ได้เป็นคนกำกับผลงานอันน่าผิดหวังนี้เอง แต่มันก็ได้ส่งผลกระทบให้แฟนๆได้แต่หวังว่าภาคต่อภาคหลักของ The Conjuring จะไม่ประสบกับชะตากรรมเช่นเดียวกัน
คุณเคยไหม เวลานั่งดูหนังผีแล้วรู้สึกรำคาญหรือเบื่อหน่าย ความอืดอาดยืดยาด เผยนิดเผยหน่อยแล้วก็เก็บเข้ากล่องจนกว่าจะจบเรื่อง ถ้าหากคุณประสบปัญหานั้น The Conjuring 2 พร้อมที่จะแก้ไขความรำคาญนั้นให้แก่คุณ
ต้องขอชื่นชมผู้กำกับ เจมส์ วาน ที่นอกจากจะปูเรื่องราวของสองสามีภรรยาวอร์เรนซึ่งนำมาสู่ปมปัญหาสำคัญในภาคนี้ได้น่าสนใจแล้ว วิธีการสร้างความสยองขวัญของเขา ก็ไม่มีการออมมือหรือประณีประนอมแต่อย่างใด พร้อมที่จะโยนความน่ากลัวทุกรูปแบบเข้าใส่ผู้ชมอย่างไม่หยุดหย่อน ถ้าหาก Conjuring 2 เปรียบเสมือนบ้านผีสิงในสวนสนุก มันก็คงจะเป็นบ้านผีสิงชั้นเลิศ ที่ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไร ก็ยิ่งทวีคูณความน่ากลัว ชวนให้เราอยากปิดตารีบวิ่งหาทางออกมากขึ้นเท่านั้น
เครดิตส่วนหนึ่งก็ต้องขอยกให้กับผู้กำกับภาพ ดอน เบอร์เกส ซึ่งวางมุมกล้องและใช้การเคลื่อนไหวของกล้องที่บิดเบี้ยว เลื่อยไปมา หรือเล่นกับวัตถุในฉาก สอดรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้ดี ซึ่งเป็นที่มาของบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ สร้างความรู้สึกที่ผู้ชมอย่างเรารู้สึกไม่ปลอดภัยและหวาดระแวงได้อย่างยอดเยี่ยม
ในด้านการแสดง วีร่า ฟาร์มิก้า และแพทริค วิลสัน ยังคงรับบทสามีและภรรยาวอร์เรนได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย ทั้งคู่นำเสนอมุมมองของสองตัวละครได้ค่อนข้างน่าติดตาม สอดแทรกพลังอำนาจบางอย่างของเพศหญิงที่เหนือกว่าเพศชายได้ในรูปแบบที่ค่อนข้างอ่อนโยน ในมิติหนึ่ง เราอาจพูดได้ถึงขนาดที่ว่า ถ้าหากปราศจากเคมีของสองคนนี้ไป เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Conjuring 2 คงจะกลายเป็นเรื่องราวดราม่าอันแสนน่าเบื่อไปได้อย่างง่ายดายแน่นอน
ถึงกระนั้นก็ตาม ตัวเรื่องราวและประเด็นในภาพรวมก็ยังไม่ค่อยแตกต่างไปจากภาคแรกเท่าใดนัก แต่องค์ประกอบและสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยมากที่สุดในภาคนี้ ก็คือมุขผีตุ้งแช่ กระแทรกซาวด์เอฟเฟคทั้งหลาย ซึ่งมีให้เห็นเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด สร้างความน่ารำคาญ และชวนให้เราตั้งคำถามถึงความจำเป็นของเทคนิคอันแสนขี้เกียจนี้ ท่ามกลางองค์ประกอบส่วนอื่นที่ก็มีความน่ากลัวเพียงพออยู่แล้ว
The Conjuring 2 ดูจะมีองค์ประกอบที่หลุดเข้ามาอย่างผิดที่ผิดทาง แต่โชคดีที่ความน่ากลัว ซึ่งมาจากการกำกับภาพหรือการรักษาความตึงเครียด ความน่ากลัวของสถานการณ์ชนิดไม่ให้หยุดพักของ เจมส์ วาน ก็ทำให้ Conjuring 2 กลายเป็นผลงานภาคต่อ ที่เต็มไปด้วยพลังความหลอนเพียงพอจะชวนให้เราเปิดไฟนอนตาสว่างไปทั้งคืนได้ไม่ยากนัก
Final Score: [ 7 ]
อย่างไรก็ตาม ความโด่งดังของ The Conjuring ก็ทำให้เกิดผลงานสยองขวัญภาคแยก ที่ใครหลายคนสาปแช่งกันอย่างไม่รู้จบ Annabelle ขึ้น ถึงแม้ตัว เจมส์ วาน จะไม่ได้เป็นคนกำกับผลงานอันน่าผิดหวังนี้เอง แต่มันก็ได้ส่งผลกระทบให้แฟนๆได้แต่หวังว่าภาคต่อภาคหลักของ The Conjuring จะไม่ประสบกับชะตากรรมเช่นเดียวกัน
คุณเคยไหม เวลานั่งดูหนังผีแล้วรู้สึกรำคาญหรือเบื่อหน่าย ความอืดอาดยืดยาด เผยนิดเผยหน่อยแล้วก็เก็บเข้ากล่องจนกว่าจะจบเรื่อง ถ้าหากคุณประสบปัญหานั้น The Conjuring 2 พร้อมที่จะแก้ไขความรำคาญนั้นให้แก่คุณ
ต้องขอชื่นชมผู้กำกับ เจมส์ วาน ที่นอกจากจะปูเรื่องราวของสองสามีภรรยาวอร์เรนซึ่งนำมาสู่ปมปัญหาสำคัญในภาคนี้ได้น่าสนใจแล้ว วิธีการสร้างความสยองขวัญของเขา ก็ไม่มีการออมมือหรือประณีประนอมแต่อย่างใด พร้อมที่จะโยนความน่ากลัวทุกรูปแบบเข้าใส่ผู้ชมอย่างไม่หยุดหย่อน ถ้าหาก Conjuring 2 เปรียบเสมือนบ้านผีสิงในสวนสนุก มันก็คงจะเป็นบ้านผีสิงชั้นเลิศ ที่ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไร ก็ยิ่งทวีคูณความน่ากลัว ชวนให้เราอยากปิดตารีบวิ่งหาทางออกมากขึ้นเท่านั้น
เครดิตส่วนหนึ่งก็ต้องขอยกให้กับผู้กำกับภาพ ดอน เบอร์เกส ซึ่งวางมุมกล้องและใช้การเคลื่อนไหวของกล้องที่บิดเบี้ยว เลื่อยไปมา หรือเล่นกับวัตถุในฉาก สอดรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้ดี ซึ่งเป็นที่มาของบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ สร้างความรู้สึกที่ผู้ชมอย่างเรารู้สึกไม่ปลอดภัยและหวาดระแวงได้อย่างยอดเยี่ยม
ในด้านการแสดง วีร่า ฟาร์มิก้า และแพทริค วิลสัน ยังคงรับบทสามีและภรรยาวอร์เรนได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย ทั้งคู่นำเสนอมุมมองของสองตัวละครได้ค่อนข้างน่าติดตาม สอดแทรกพลังอำนาจบางอย่างของเพศหญิงที่เหนือกว่าเพศชายได้ในรูปแบบที่ค่อนข้างอ่อนโยน ในมิติหนึ่ง เราอาจพูดได้ถึงขนาดที่ว่า ถ้าหากปราศจากเคมีของสองคนนี้ไป เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Conjuring 2 คงจะกลายเป็นเรื่องราวดราม่าอันแสนน่าเบื่อไปได้อย่างง่ายดายแน่นอน
ถึงกระนั้นก็ตาม ตัวเรื่องราวและประเด็นในภาพรวมก็ยังไม่ค่อยแตกต่างไปจากภาคแรกเท่าใดนัก แต่องค์ประกอบและสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยมากที่สุดในภาคนี้ ก็คือมุขผีตุ้งแช่ กระแทรกซาวด์เอฟเฟคทั้งหลาย ซึ่งมีให้เห็นเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด สร้างความน่ารำคาญ และชวนให้เราตั้งคำถามถึงความจำเป็นของเทคนิคอันแสนขี้เกียจนี้ ท่ามกลางองค์ประกอบส่วนอื่นที่ก็มีความน่ากลัวเพียงพออยู่แล้ว
The Conjuring 2 ดูจะมีองค์ประกอบที่หลุดเข้ามาอย่างผิดที่ผิดทาง แต่โชคดีที่ความน่ากลัว ซึ่งมาจากการกำกับภาพหรือการรักษาความตึงเครียด ความน่ากลัวของสถานการณ์ชนิดไม่ให้หยุดพักของ เจมส์ วาน ก็ทำให้ Conjuring 2 กลายเป็นผลงานภาคต่อ ที่เต็มไปด้วยพลังความหลอนเพียงพอจะชวนให้เราเปิดไฟนอนตาสว่างไปทั้งคืนได้ไม่ยากนัก
Final Score: [ 7 ]
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
แต่ความหลอนนี่โคตรจัดเต็ม แม่ชีในเทรลเลอร์ไม่ค่อยน่ากลัว แต่พอมาในหนังนี่อย่างหลอน
ตอนแรกดูเทรลเลอร์คิดว่ามันปล่อยของมากไปหน่อย ไม่เหมือนภาคแรกที่ปล่อยมาแค่ตบมือแปะๆ(แค่นั้นก็หลอนโคตรละ ทำให้น่าติดตามอยากรู้ว่ามันเป็นผีอะไร) แต่พอดูหนังจริงๆนี่มันมีให้ตกใจอีกเยอะมากๆ
ช็อตตกใจก็สร้างสรรค์เหมือนภาคแรกเลยถึงจะใช้เยอะแต่ไม่เหมือนแบบหนังผีดาดๆทั่วไปเพราะมันน่ากลัวจริงๆ บรรยกาศก็กดดันกว่าภาคแรกมาก รู้สึกอึดอัดสุดๆเลย ตั้งแต่It Followมาก็มีเรื่องนี้แหละที่ทำผมกลัวได้แบบสุดๆ
ภาคแรกให้9ภาคนี้ให้8
ภาคที่แล้วให้ 10
ให้ 7/10
แต่ถ้าน้องจูดี้มีบทเยอะๆ ผมจะให้สิบเต็ม...