7 เดือนผ่านไป กับความล้มเหลวของ Steam Machines
อันนี้เป็นบทความแปลจากบทความของ Arstechnica นะครับตัวเต็มแบบ Original อ่านได้ที่ลิงค์ [Link]
ยาวไปไม่อ่าน ? :
-----------------------------------------------------------------
หลังจากที่ Valve เข็นเครื่อง Steam Machines ลงสนามสู้ศึก Hardware ผ่านไป 7 เดือนตอนนี้ก็เป็นที่แน่ชัดแล้ว่า แผนการที่เคยยิ่งใหญ่ของ Valve ครั้งนี้นั้นดูไม่ดีเอาเสียเลย
ทำไมน่ะเหรอ เพราะทาง Valve เพิ่งออกมาประกาศเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า Steam Controller นั้นขายได้ทั้งหมดทั่วโลกเพียง 500,000 กว่าชุด ซึ่งในจำนวนนี้ได้รวมเอายอดของ Controller ที่พ่วงไปกับเครื่อง Steam Machines ไปด้วยแล้วนั่นเอง
หรือพูดได้อีกแบบว่าถ้าตัดยอดคนซื้อ Steam Controller แยกเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นซื้อเพื่อไปลองเล่นบน Windows หรือซื้อ Controller เพิ่มอีกตัวเผื่อพังอะไรก็แล้วแต่ ในเวลาครึ่งปีกว่าๆ ยอดขายรวมทั้งหมดของ Steam Machines นั้นยังไม่ถึง 500,000 ชุดด้วยซ้ำ
หน้าตาเจ้า Steam Controller
ถึงแม้ถ้าเราคิดในแง่บวก ตีซะว่า Steam Machines ขายได้ 500,000 ชุดถ้วน แม้ว่ามันจะไม่ได้ดูแย่อะไร แต่ถ้าเอาไปเทียบกับ Hardware ซึ่งถือได้ว่าเป็นคู่แข่งขันในตลาดอย่าง PS4 และ XBone นั้น ถือว่าน้อยมาก เพราะในช่วงเวลาเดียวกัน คอนโซลสองเจ้าก็ขายได้รวมกันมากกว่า 15 ล้านเครื่องทั่วโลกเข้าไปแล้ว (PS4 - 10 ล้าน, XBone 5.5 ล้าน)
ืทีนี้เราไปมองที่ตลาด PC ดูบ้าง ยอดรายได้ประมาณการณ์ของ PC ในกลุ่มเกมมิ่งนั้นอยู่ที่ราวๆ 18.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราวๆ 6 แสน 5 หมื่นล้านบาท) ซึ่งถ้าเราตีราคากลางของเจ้า Steam Machines อยู่ที่ 1500 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 5 หมื่นบาท) แล้วล่ะก็ รายได้ของ Steam Machine นั้นคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 4% ของรายได้ PC ในกลุ่มดังเกล่วเท่านั้นเอง ซึ่งตัวเลขนี้ดูไม่ดีนักสำหรับ Valve เพราะผู้ผลิต Hardware คงไม่อยากที่จะสนับสนุนต่อในอนาคต
สำหรับสาเหตุหลักที่ Steam Machines ไม่ประสบความสำเร็จนั้น สาเหตุประการหนึ่งก็เกิดจาการที่ตัวเครื่องนั้นไม่มีเกม Exclusive เด่นๆ ดังๆ เป็นตัวชูโรงให้คนมาซื้อเครื่องเลย ค่ายเกมยักษ์ใหญ่ต่างก็ไม่สนับสนุน และในกรณีที่เกมนั้นลงทั้ง Windows และ Linux ประสิทธิภาพของเกมเมื่อเล่นบน Steam OS นั้นด้อยกว่าเมื่อเทียบกับการเล่นเกมบน Windows ด้วย Hardware เดียวกันซะอีก
แม้ว่าในอนาคต ตลาด PC อาจจะพลิก (อย่างเช่น Windows ไม่ใช่ระบบปฎิบัติการหลักที่เกมเมอร์ใช้แล้ว) หรือแม้ว่าค่ายเกมอาจเปลี่ยนใจเบิกเนตรจักระ เปลี่ยนใจเอาเกมดังๆ มาลง Steam Machines แต่ตอนนี้ที่เห็นได้ชัดๆ แจ่มแจ้งคือ ความทะเยอทะยานของ Valve ในการขยับขยายอารยธรรม อาณาจักร Gabe ในตลาด Hardware นั้นแลดูจะล้มเหลว และในที่สุด Steam Machines ก็อาจจะกลายเป็นเศษซากอารยธรรมตกกระป๋องที่จะมีเพียงแค่ชื่อเล็กๆ ในประวัติศาสตร์วงการเกมเท่านั้น
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
คอนเซ๊ปมันเพี้ยนๆนะ คือต้องให้ dev มาพอตเกมให้รันบน steam OS linux ได้อีก
ละคนที่ใช้จริงๆก็น้อยกว่า windows ปกติมากๆ มองในมุมมองของ dev จะทำไปให้เหนื่อยเล่นทำไมนั่น
แถมผู้เล่นแม่มก็กลุ่มเดียวกัน คือ PC แต่แยกมาซื้อเครื่องเล่นสตีมแค่นั้น
ราคาขนาดนี้ผมไปซื้อ pc ดีกว่าถ้าต้องจำใจจริงๆ อย่างน้อยๆ pc ก็โหลดบิท ตัดต่อวีดีโอ photoshop ได้
เอาตรงๆผมก็ไม่เห็นมันมีอะไรไปสู้กับคอนโซลหรือคอมประกอบได้
เกม ก็ไม่มีเกมEXล่อตาล่อใจ
PC มันก็ทำอะไรได้มากกว่าเจ้านี่
เดี๋ยวก็กลายเป็นที่ทับกระดาษเหมือนOuyaในบ้านผม
แต่อย่า คิดแบบผมนะครับ เดียว ผมจะอดเล่น dota2
เป้าหมายหลักจริงๆของ valve ไม่ใช่ต้องการขาย hardware เฉยๆ แต่ต้องการลดการพึ่งพาตัวเองจาก microsoft ครับ
กล่าวคือ valve สร้าง steam machine มาเพื่อผลักดันให้. Dev ทำเกมให้รองรับ steam os ด้วยนั่นเอง ซึ่งก็ได้ผลบ้างเล็กน้อย
เชื่อว่า valve ไม่ได้เสียอะไร เพราะไม่ได้ทำ hardware เอง
และนี่จะเป็นแผนการระยะยาว (มากๆ) ของ valve
เรื่อง performance นี่ก็มี. Vulkan ที่กำลังจะมาแทน opengl แล้ว advance เหมือน dx12 น่าจะช่วยได้เยอะ
ใช่ครับหลักๆก็อย่างที่ว่านั่นหละ ไม่ปลื่มตั้งแต่ windows 8 ละเลยพยามหาทางออก
เท่าที่มองคือกลัว MS ผูกขาดเรื่องการเล่นเกมขายเกมบน windows รึเปล่าไม่แน่ใจ
แต่กลับลืมมองนะ ว่าตัวเองก็เกือบจะผูกขาดทั้งตลาด PC แล้วด้วยเหมือนกัน (ถ้าไม่มี GOG, Origin, Uplay)
ที่ยากคือ พอมันขายไม่ค่อยออกแล้ว มันจะไม่มี hardware เจ้าไหนมาทำให้แล้วนี่สิ
เลยว่าเจ้าเครื่องนี้มันยังอยู่อีก
ส่วนที่บอกว่าแย่งตลาดคอลโซลไม่ได้ไม่แปลกเพราะเค้าไม่ได้มองตลาดคอลโซลแต่จะแย่งฐานลูกค้า PC ระหว่างตลาด คอลโซลที่มีผู้ใช้งานไม่ถึง 100 ล้านเครื่องเมื่อเทียบ PC นั้นน้อยนิดมาก
สเปกก็เน่าๆแต่ขายแพง 1500$ คอมประกอบเองถูกกว่าบานแรงกว่าด้วย