ผู้ก่อตั้ง BioWare ฉะแนวคิด XB1.5/PS4.5
ข่าวลือเรื่องการอัพเกรดคอนโซลระหว่างกลาง Life Cycle นั้น เริ่มมีการพูดถึงจากการให้สัมภาษณ์ของ Phil Spencer ว่าพวกเราจะได้เห็น Microsoft จะอัพเกรดเพิ่มความสามารถของ Hardware ระหว่างกลาง Generation ซึ่งต่อมาก็มีข่าวลือมาว่า Sony เองก็กำลังเล็งที่จะออกเครื่อง PS4.5 ที่อัพเกรดฮาร์ดแวร์ สามารถแสดงผลระดับ 4K ด้วยเช่นกัน
ทาง GameSpot ก็เลยไปถามความรู้สึกของ Greg Zeschuck หนึ่งในผู้ก่อตั้ง BioWare ว่ารู้สึกยังไงกับข่าวนี้ ซึ่งทาง Greg Zeschuck ได้ระบุว่าเขาไม่ชอบใจกับไอเดียนี่เท่าไหร่นัก เพราะมันจะทำให้ Developer ปวดหัวกันมากขึ้น จุดประสงค์ของคอนโซลแต่แรกมันก็คือการที่สเปคมันอยู่นิ่ง ทำให้ Developer รู้สภาพแวดล้อมของเกมที่จะถูกรันได้
"การที่เปลี่ยนแปลงนิยามของมัน เป็นเรื่องที่บ้าบอสิ้นดี" เขากล่าว
"มันเหมือนว่า Microsoft รู้ตัวว่า Sony นั้นก้าวล้ำพวกเขาไปแล้ว และทาง Microsoft เองก็คงอยากที่จะไล่ตามให้ทัน ส่วน Sony น่ะเหรอ มันก็ประมาณว่า เอ้อ ถ้าคุณจะทำแบบนั้น เราก็จะลงมาเล่นกับคุณด้วย"
"ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่แย่มาก ผมคิดว่าการล็อคสเปคแล้วให้ Developer ตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาเกมของเขาไปบน Hardware ที่มีอยู่จะดีกว่า เพราะมันจะให้ผลดีกว่ามากถ้าเทียบกับการที่เราแยกชนชั้น แยกสเปคคอนโซล การทำแบบนั้นก็ต้องใช้แรงงานมากขึ้น และต้องพอร์ทเกมลง (ให้เหมาะสมกับ Hardware) อีก"
นอกจากนี้ Greg Zeschuck ยังได้ระบุว่า ถ้า Microsoft หรือ Sony จะออกคอนโซลกลางเจน มันก็ทำให้ผู้บริโภครู้สึกรำคาญมากกว่า กรณีคอนโซลมันไม่เหมือน Apple ที่จะชักชวนทำให้คนแห่กันมาซื้อมือถือกันได้ทุกปี การที่ออกคอนโซลรุ่นอัพเกรดนั้นมันมีโอกาสประสบความสำเร็จน้อยมาก ดูอย่าง Nintendo DS ก็ได้
อนึ่ง หลังจากที่มีข่าว XB1.5/PS4.5 ออกไปซักระยะ ทาง Phil Spencer หัวหน้า Xbox ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เครื่อง Xbone นั้นยังขายได้ดีอยู่ ถ้าทาง Microsoft จะอัพเกรดก็อยากจะออกเครื่องรุ่นใหม่ที่อัพเกรดแบบก้าวกระโดดไปเลยมากกว่าครับ
[Link]
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
ผมเข้าใจนะกับคนที่ไม่ค่อยพอใจกับสเปกคอนโซลยุคนี้และอยากให้มันอัพเกรด แต่ก็ต้องย้อนกลับมานึกถึงแก่นหลักของเครื่องเกมคอนโซล 2 ข้อหลักคือ 1.เกม EX 2.ซื้อครั้งเดียวจบไม่ยุ่งยากไม่ต้องคอยกังวลว่าสเปกจะเล่นได้มั้ย
2 ข้อนี้มันเป็นหัวใจหลักในการซื้อคอนโซลใฃ่หรือไม่ ถ้ามันขาดไปข้อนึงมันก็เหมือนแก่นของคอนโซลหายไปละ
เรื่องสเปกที่มันด้อยกว่า PC มันก็เป็นแบบนี้มาหลายเจนแล้วไม่ใช่เหรอถ้าคนเล่นคอนโซลมาตลอดก็จะเข้าใจได้บางคนแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่า FPS 30 กับ 60 ต่างกันยังไง ขอแค่มันไม่ตกน่าเกลียดแล้วภาพมันก็ไม่ได้ดรอปจนน่าใจหาย เอาเข้าจริงดู Line Up ของเกม PS4 มันก็ภาพแจ่มๆทั้งนั้นแหละโดยเฉพาะเกม Ex ถึงกระนั้นเกม 3rd ก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยแค่มันไม่เท่า PC ซึ่งมันไม่มีทางตามทันอยู่แล้ว
สมัยSFC การสร้างเกมมันไม่ได้ซับซ้อน และมีเครื่องเดียวในตลาดมันก็ไม่ยากสำหรับ Dev ส่วนลูกค้ามันวัดไม่ได้นะครับ สมัยนั้นคนเล่นเกมไม่ได้เป็นวงกว้างเหมือนทุกวันนี้ ใครจะรู้สมัยนั้นไม่มี Social Network ถ้ามีทำไมจะไม่มีคนบ่นเรื่องหัวโปร
สำหรับ PS4.5 หลักๆทำมารองรับ 4k กับ VR ถ้ามันมาแค่นั้นแสดงว่า Sony ก็คงมั่นใจกับ VR มากว่าจะรุ่งจนคนยอมซื้อเครื่องนี้แต่ถ้าไม่ล่ะ มันจะขายได้จากอะไร เพราะผมว่า VR นั้นน่าสนใจ แต่มันก็เหมือนกับ WiiMote ที่เราตื่นเต้นกับมันอยู่พักนึงแต่ท้ายที่สุดเราก็รู้ว่า การเอนกายลงบนเตียงหรือโซฟาแล้วจับจอยเกมเล่นแบบผ่อนคลายมันเบสิคสุดละ
ถ้าให้เล่นกราฟฟิคอย่าง the witcher3 unity call of duty ภาคล่าสุด กราฟฟิคเท่านี้ เฟรมเรตเท่านี้ ส่วนตัวผมพอเเล้วครับอย่างน้อย 2-3 ปีนี้สำหรับผมไม่มีปัญหาเลย ถ้าผมไม่ริไปเปลี่ยนทีวีเเบบ 4k 65 นิ้วออกมา
http://wccftech.com/heres-why-ps4k-ace-will-be-hdr-support-more-than-any-resolution-boost/
จริง 4.5 Native เดิมจะเป็น 1080p หรือ หรืออัพสเกลเป็น 1080 (บางเกม)
ส่วน 4.5 จะอัพ Native resolution เป็น 2K ไม่ใช่ 4K แล้วทำการอัพสเกลเป็น 4K อีกที
แถมอุปกรณืเชื่อมต่ออย่าง HDMI ที่ใช้บน PS4 มันล้าสมัยไปแล้ว
ที่ โซนี่ต้องปรับปรุงหลายๆอย่างก็เพราะ PS4 เดิมมันไม่ผ่านมาตรฐานใหม่ๆ อย่าไปเอาความคิด dev หัวโบราณที่ไม่คิดปรับตัวมาใส่ใจเลย 2K นี่เขาเล่นกันมาสัก 2 - 3 ปีได้แล้วและไม่กินสเปกมากเท่า 4K ดังนั้น APU ตัวใหม่รันไหวแน่นอนที่ 30FPS
ใครที่ใช้ทีวีจอ 40 นิ้วและรองรับนี้ได้ฟินแน่นอน
ส่วนแว่น VR ของโซนี่พี่แกยัง 1080p อยู่
สรุปคือโลกแห่งความเป็นจริงคือ 2K 30FPS และ VR ส่วนเรื่อง 4K แบบแท้ๆนั้นเป็นเพียงการโฆษณาครับจะกระต่ายตื่นตูมไปทำไม
ส่วน dev หัวโบราณอย่างรายที่ให้สัมภาษณ์นี้ ก็ปล่อยให้แกหายไปกับเวลาเถอะครับ
ที่สำคัญกว่าเครื่องจะออกก็ราวๆปีหน้าแถม Dev ได้เล่นได้ลองก่อนมีเวลาอีกยาวๆ
ที่ออกมาบ่นกันก็เพราะขี้เกียจแค่นั้นแหละ
จริงใน Youtube ก็มีคลิปเทียบภาพเยอะนะจริงๆ PS4 หลายเกมมันห่วย วิ่งดรอปต่ำกว่า 30 ใครที่บอกว่า 30 กับ 60 แยกไม่ออกเนี่ยไม่เข้าใจหรือไงครับว่าใน PS4 บางเกมบางฉากพี่แกดรอปเหลือ 9 FPS ก็มี ผมเล่นหลายเกมตั้งแต่ PS4 ออกใหม่ๆภาพกระตุก FPS ร่วงโดยไม่ต้องมีเลขโชว์รู้สึกได้เองด้วยซ้ำไป
https://youtu.be/NE9nONBpdc0
http://wccftech.com/heres-why-ps4k-ace-will-be-hdr-support-more-than-any-resolution-boost/
จริง 4.5 Native เดิมจะเป็น 1080p หรือ หรืออัพสเกลเป็น 1080 (บางเกม)
ส่วน 4.5 จะอัพ Native resolution เป็น 2K ไม่ใช่ 4K แล้วทำการอัพสเกลเป็น 4K อีกที
แถมอุปกรณืเชื่อมต่ออย่าง HDMI ที่ใช้บน PS4 มันล้าสมัยไปแล้ว
ที่ โซนี่ต้องปรับปรุงหลายๆอย่างก็เพราะ PS4 เดิมมันไม่ผ่านมาตรฐานใหม่ๆ อย่าไปเอาความคิด dev หัวโบราณที่ไม่คิดปรับตัวมาใส่ใจเลย 2K นี่เขาเล่นกันมาสัก 2 - 3 ปีได้แล้วและไม่กินสเปกมากเท่า 4K ดังนั้น APU ตัวใหม่รันไหวแน่นอนที่ 30FPS
ใครที่ใช้ทีวีจอ 40 นิ้วและรองรับนี้ได้ฟินแน่นอน
ส่วนแว่น VR ของโซนี่พี่แกยัง 1080p อยู่
สรุปคือโลกแห่งความเป็นจริงคือ 2K 30FPS และ VR ส่วนเรื่อง 4K แบบแท้ๆนั้นเป็นเพียงการโฆษณาครับจะกระต่ายตื่นตูมไปทำไม
ส่วน dev หัวโบราณอย่างรายที่ให้สัมภาษณ์นี้ ก็ปล่อยให้แกหายไปกับเวลาเถอะครับ
ที่สำคัญกว่าเครื่องจะออกก็ราวๆปีหน้าแถม Dev ได้เล่นได้ลองก่อนมีเวลาอีกยาวๆ
ที่ออกมาบ่นกันก็เพราะขี้เกียจแค่นั้นแหละ
จริงใน Youtube ก็มีคลิปเทียบภาพเยอะนะจริงๆ PS4 หลายเกมมันห่วย วิ่งดรอปต่ำกว่า 30 ใครที่บอกว่า 30 กับ 60 แยกไม่ออกเนี่ยไม่เข้าใจหรือไงครับว่าใน PS4 บางเกมบางฉากพี่แกดรอปเหลือ 9 FPS ก็มี ผมเล่นหลายเกมตั้งแต่ PS4 ออกใหม่ๆภาพกระตุก FPS ร่วงโดยไม่ต้องมีเลขโชว์รู้สึกได้เองด้วยซ้ำไป
https://youtu.be/NE9nONBpdc0
ใจเย็น ๆ พ่อคนเก่ง
ถ้ามีลูกค้าต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง,ผ่านเงื่อนไขคือ ทำออกมาวางขายด้วยราคาที่ลูกค้ารับได้,ค่ายทำเครื่องเกมส์ได้กำไร, คำนวณแล้วว่าจะได้เปรียบทางธุรกิจในระยะยาว แค่นี้น่าจะเพียงพอเป็นเหตุให้โซนี่กล้าสร้างPS4K
แต่ถ้าDev. บ่นว่าทำเกมส์ยากนี่มันอัลไร? ก็แค่เริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ Optimize สองทีแรกๆมันอาจจะใช้เวลา,ืุทุนที่มากขึ้นจริง ,แต่ถ้าทำเป็นเกมส์ที่สอง,ที่สาม และต่อๆไปมันก็เหมือนการทาขนมปังด้วยเนยมาตลอดและต่อไปก็แค่ทาเนย,ทาแยม,ทาน้ำพริกเผา เท่านั้นเอง
สิ่งที่ควรทำคือสนองความต้องการลูกค้าให้ได้ครอบคลุมทุกระดับเป็นวงกว้างจะได้กำไรดีดี ส่วน Dev.มึงเป็นผู้ผลิตมึงต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆให้ได้ถ้ายังดักดานนิยามคอนโซลเป็นแบบเดิมๆที่ต้องสเปคเดิมจนจบเจนจะกลายเป็นคนไม่ทันยุคสมัยเอานา
ส่วนโซนี่มันน่าจะมีคำถามในใจมากกว่าว่า ถ้าทำPS4Kตอนนี้จะต้องตั้งราคาเท่าไหร่? แล้วเอาราคาที่ว่าไปสำรวจตลาดคำนวณดูว่าราคานี้ ลูกค้าจะซื้อกี่คนคำนวณทางเลือกว่า จะทำแค่PS4ตัวเดียว หรือจะทำควบPS4,PS4K แล้วทางเลือกไหนได้กำไรมากกว่า,ได้เปรียบทางธุรกิจมากกว่า ไอ้เรื่องDev. 3rd Party บ่นว่าทำเกมยากนี่เรื่องเล็กน้อยมาก
รู้ว่ายากแต่ทำได้ = ลงทุนธุรกิจได้
รู้ว่าทำไม่ได้หรือทำแล้วแล้วขาดทุน=หยุดแผนชั่วคราว
แต่ถ้าแค่คน3tdPartyบ่นว่าทำยากแต่ 1st บอกว่าทำสบายอันนี้แล้วแต่จะคิด
ทำยากหรือทำไม่ได้ ครับแค่นี้จริงๆนะผมว่าคนทำงานส่วนใหญ่จะเคยเจอคนเหนือกว่าถามคำถามนี้แน่
- มันทำได้ แล้วก็ตามข่าวบอกเลยครับ เสียต้นทุนทุกอย่างเพิ่ม base ก็น้อยทำไปได้อะไรกลับมาบ้าง
สั้นๆได้ใจความครับ จบการรายานเพียงเท่านี้
- มันทำได้ แล้วก็ตามข่าวบอกเลยครับ เสียต้นทุนทุกอย่างเพิ่ม base ก็น้อยทำไปได้อะไรกลับมาบ้าง
สั้นๆได้ใจความครับ จบการรายานเพียงเท่านี้
อย่าลืม ว่า base น้อย แต่ คู่แข่งก้น้อยครับ
คุณเพิ่งซื้อ ps4.5 มา คุณจะซื้ออะไรระหว่าง
เกมเดิมๆ
เกมที่รองรับ 4.5
ถ้าคุณบอก โอ้ย เขาก็ต้องเอาเกมที่อยากเล่นสิ อย่าลืมว่า อย่างน้อยก็ต้องซื้อ showcase เครื่องใหม่สักเกมอยู่ดี อย่าบอกว่าจะไม่ซื้อเลย
แล้วมันก็ไม่ได้ลงทุนเพิ่มมากมายเป็น 100% หรืออะไร ค่าลงทุนมันอาจจะแค่ 10-20% ด้วยซ้ำ
แล้วที่เทียบ fragmentation ของ android นี่ก็โอเวอร์ไปครับ
แบบนี้มันเทียบกับ iphone - ipad ก็พอ
ของ android มันร้อยพ่อพันแม่ fragmentation หลายร้อย
ของ apple มันคุมให้อยู่ไม่เกิน 4-5 config ยังไงก็สบาย
ของ sony นี่แค่ 2 config เท่านั้นเอง ไม่น่าลำบากเท่าไหร่นะ
ปกติค่ายเกมหลายๆ ค่ายเห็นทำ ps3, ps4 พร้อมกัน ผมว่านั่นยังทำยากกว่าเลย (ข้ามสถาปัตยกรรม) ถ้า drop ps3 ไป แล้วเหลือแค่ ps4, ps4.5 มันง่ายกว่ากันเยอะครับ
ดีไม่ดีทำแอพฯ android ยังปวดหัวเพราะ fragmentation น้อยกว่า console อีกมั้ง
console หลายเกมเขาลง low-level วิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการทำเกมกันยันรากก่อนจะทำ
ไม่ใช่เดินดุ่มๆมาบอก "เห้ย อยากทำเกมว่ะ" แล้วนั่งเขียนโค้ด สร้าง asset กันเลยนะครับ
ตลาดตอนนี้ คู่แข่ง ps4 ตอนนี้มีแค่ xb1 เองมั้ง แล้วข่าวออกกันประจำเลยนะ
ว่าเกมเดียวกันออกให้สองเครื่องนี้เนี่ย ps4 ขายได้เยอะกว่าตลอด ไม่ใช่แค่นิดๆด้วยนะ(ถ้าจำไม่ผิด)
แล้วอย่างนี้ถ้าผมเป็น dev ผมจะไปเสี่ยงกับอะไรดีกว่ากันล่ะครับ ฝั่งที่แน่นอนแล้วว่ามี base เยอะ(ps4)
กับไปเสี่ยงโดยการเดาสุ่มเอาเองว่าอีก base(ps4k) นึงมีคู่แข่งน้อย คุณมองแต่ฝั่งตรงข้ามเป็นคู่แข่ง
คุณไม่ได้มองความเป็นไปได้ว่าคุณมีคู่แข่งอยู่อีกตัว คือ ps4 ที่อยู่ฝั่งเดียวกัน มองฝั่ง dev นะ
ผมว่าอย่าพึ่งพูดถึงเกมที่รองรับ ps4k เลย ขนาดยังไม่มีคอนเฟิร์ม dev ก็เริ่มบ่นกันละคิดดู
อีกอย่างผมเห็นด้วยนะ ดรอป gen เก่าไปแล้วไปมุ่งกับ gen ปัจจุบันแทน
เกมใหม่ๆก็ไม่มี ps3 กันหลายเกมละ เขาน่าจะไม่ทำกันแล้วแหละ
ดีไม่ดีทำแอพฯ android ยังปวดหัวเพราะ fragmentation น้อยกว่า console อีกมั้ง
console หลายเกมเขาลง low-level วิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการทำเกมกันยันรากก่อนจะทำ
ไม่ใช่เดินดุ่มๆมาบอก "เห้ย อยากทำเกมว่ะ" แล้วนั่งเขียนโค้ด สร้าง asset กันเลยนะครับ
ตลาดตอนนี้ คู่แข่ง ps4 ตอนนี้มีแค่ xb1 เองมั้ง แล้วข่าวออกกันประจำเลยนะ
ว่าเกมเดียวกันออกให้สองเครื่องนี้เนี่ย ps4 ขายได้เยอะกว่าตลอด ไม่ใช่แค่นิดๆด้วยนะ(ถ้าจำไม่ผิด)
แล้วอย่างนี้ถ้าผมเป็น dev ผมจะไปเสี่ยงกับอะไรดีกว่ากันล่ะครับ ฝั่งที่แน่นอนแล้วว่ามี base เยอะ(ps4)
กับไปเสี่ยงโดยการเดาสุ่มเอาเองว่าอีก base(ps4k) นึงมีคู่แข่งน้อย คุณมองแต่ฝั่งตรงข้ามเป็นคู่แข่ง
คุณไม่ได้มองความเป็นไปได้ว่าคุณมีคู่แข่งอยู่อีกตัว คือ ps4 ที่อยู่ฝั่งเดียวกัน มองฝั่ง dev นะ
ผมว่าอย่าพึ่งพูดถึงเกมที่รองรับ ps4k เลย ขนาดยังไม่มีคอนเฟิร์ม dev ก็เริ่มบ่นกันละคิดดู
เดี๋ยวนะ ไม่ได้บอกให้ drop. Ps4 แล้วไปทำให้ ps4k ซะหน่อย ก็ทำ ps4+ps4k น่ะแหละ เพราะมัน compatible กัน
คือยังไงก็ขายบน ps4 อยู่แล้ว แล้วเพิ่มfeature ให้หากเล่นบน ps4k ก็ขายได้ 2 ฝั่ง
ตานี่มันบ่นก็น่าแปลกนะ เพราะเมื่อก่อนก็ทำเกมลง pc เป็นหลัก fragmentation หนักกว่า android ก็เห็นทำได้
น่าจะตอบในมุมมอง gamer มากกว่ามุมมอง dev ด้วยซ้ำ
อันนี้ผมเอาความเห็นของ dev project cars มาฝากละกัน
[Link]
ในแง่ dev เค้าไม่ได้บ่นอะไรนะ แต่กลัว consumer จะโกรธ sony มากกว่า
ผมถึงคิดว่าพวกทำเกมส์มันต้องสนองผู้บริโภคให้ได้สิ่ถึงจะถูก ถ้าบอกว่ายังไม่ทำเพราะทุนมันสูงไปทำแล้วไม่กำไรคนิยากได้4Kมีน้อยเกินไปอาจจะฟังขึ้นบ้างแต่ถ้าบอกกูไม่ทำเพราะมันทำยากนี่ คนฟังไม่น่าจะรับได้
ส่วนเรื่องบอกว่าทำ app android มีปัญหาเรื่อง fragmentation เอาเข้าจริงมันไม่ใช่
เรื่องใหญ่อะไรเลยนี่นา ไปทำความเข้าใจเรื่อง responsive ก็จบล่ะ
แถมนี่เกมนะเวลาทำอย่าลืมว่ามันทำผ่าน software framework , game engines
ตัว dev เองมันไม่ได้เขียนดิบอยู่แล้ว เวลาทำไม่ต่างจากปรกติแน่ๆ
คือยังไงก็ขายบน ps4 อยู่แล้ว แล้วเพิ่มfeature ให้หากเล่นบน ps4k ก็ขายได้ 2 ฝั่ง
ตานี่มันบ่นก็น่าแปลกนะ เพราะเมื่อก่อนก็ทำเกมลง pc เป็นหลัก fragmentation หนักกว่า android ก็เห็นทำได้
น่าจะตอบในมุมมอง gamer มากกว่ามุมมอง dev ด้วยซ้ำ
ตอบนะครับ PC มันผ่าน api ที่เป็น high level ซึ่ง console มีทั้งใช่และไม่ใช่ เดี๋ยวผมขอยกไปอธิบายอีกคอมเมนท์
[Link]
ในแง่ dev เค้าไม่ได้บ่นอะไรนะ แต่กลัว consumer จะโกรธ sony มากกว่า
“It depends on how it’s done,” he answered cautiously. “I didn’t say that it’s a good idea, necessarily, but that we will always look at- if there is more power available, then we will be there to look at how to use it,"
เจอประโยคนี้ของ dev ก็บอกเป็นนัยๆแล้วครับ ว่ามันไม่ได้ทำกันง่ายๆแค่เพิ่มโค๊ดไป
อันนี้คุณเคยทำใช่ไหมครับ ถึงว่า dev กาก เท่าที่ผมอ่านมามันไม่เป็นงั้นนะ
ลองไปถามเว็บไทยใหญ่ๆ droidsans ดูก็ได้ครับ เขามี dev อยู่
เรื่องใหญ่อะไรเลยนี่นา ไปทำความเข้าใจเรื่อง responsive ก็จบล่ะ
แอพไม่ใช่เว็บครับ ยิ่งเป็น android มันไม่มีหรอกครับ bootstrap ทำ responsive ให้เองอะไรเอง
หรือถ้าทำแอพเป็น HTML based แล้วแปลงโค๊ดเอาผมว่าอันนั้นกากกว่าอีก ลองดูแอพ 7-11
ตัว dev เองมันไม่ได้เขียนดิบอยู่แล้ว เวลาทำไม่ต่างจากปรกติแน่ๆ
มีทั้งเขียนดิบและไม่ดิบ, จะมี engine จะมี framework สุดท้ายการทำงานให้ได้ตามจริงมันลงโค๊ดหมดครับ
เพราะ engine/framwork มันทำมาเผื่อหลายสเปคหลาย HW คุณต้องเป็นคนจัดการการทำงานมันเองอยู่ดี
ถ้าคุณเข้าใจคำว่า high-level api กับ low-level api คุณจะรู้ว่าทำไม dev ถึงอยากได้นักหนา low-level api เนี่ย
เพราะมันให้คุณคุมทุกอย่าง คุณต้องนั่งควบคุมเองทุกอย่าง อะไรเท่าไหร่ อะไรถึงตอนไหน ทำยังไง
เกม PC ทั่วไปทุกวันนี้ใช้ DX11(Direct3D11) มันเป็น high-level api มันถึงง่ายไงครับสำหรับหลายสเปค
แต่พอลองใช้ low-level สิครับ แบบ console จะใช้กันเยอะ คุณจัดการแทบทุกอย่างเองอิงตามสเปค HW
พอสเปค HW มันเปลี่ยนไปมันอาจจะ compatible แค่บางส่วน หรือไม่ compatible เลยก็ได้ นี่ไงครับ dev ถึงบ่น
เพราะมันหมายความว่าคุณต้องมานั่งจัดการทุกอย่างเองใหม่ หรือถ้าเอาแบบง่าย dev คงเพิ่มอะไรได้นิดหน่อยเหมือนกรณี
อาจจะได้ เงาดีขึ้น aa ดีขึ้น fps ดีขึ้นด้วย ถ้าสเปคมันเหมือนกันมากๆ แต่มันก็ต้องทำเพิ่มอยู่ดีใช่ไหมครับ
ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี่ ผมไม่ได้ไม่เห็นด้วยนะที่ Sony จะออก PS4 รุ่นใหม่ ถ้าออกจริงผมก็รอซื้ออยู่
จุดประสงค์แรกที่ผมต้องการอธิบายคือ ที่ dev บ่นว่ามันทำยากน่ะ มันเป็นจริงๆไม่ใช่ dev อยู่ๆก็พูดขึ้นมาเพราะขี้เกียจ
ถามหน่อยครับ คุณทำงานด้าน software development หรือgame development หรือเปล่าครับ
ผมว่าเขียนเกมให้ support หลายความละเอียดนี่ง่ายกว่าเขียน ui อีกนะ
เพราะui พอมันล้น ux ก็เจ๊ง เวลาทำ bootstrap ก็ต้องวางแผนก่อนว่าอะไรจะไว้ก่อนไว้หลัง พอเปลี่ยนขนาดจอก็ต้องเรียง ui ใหม่
แต่เกมนี่ ui ยังไงก็เหมือนกันหมด
ทำยากหรือทำไม่ได้ ครับแค่นี้จริงๆนะผมว่าคนทำงานส่วนใหญ่จะเคยเจอคนเหนือกว่าถามคำถามนี้แน่
ถ้าออกปีหน้า
ราคาเหมาะสมหนะเท่าไหร่ อยากเล่น witcher 3 fallout4 4k 30fps รายละเอียดทุกอย่างฉากหญ้าใบไม้ ต้นไม้ ระเบิด ควัน จำนวนโพลิกอน ต่างๆเท่าตัวที่ทำลง ps4 เเต่เป็น 4k 30fps 599 เหรียญก็ไม่พอหรอกนาย เพราะมันต้องเปลี่ยนหลายอย่าง ทั้งระบบไฟฟ้ากินพลังงานกว่าเดิม cpu gpu ก็คงต้องเเยกออกจากกัน ดังนั้นจะให้เครื่องเล็กเเบบเดิมไม่ได้เเล้ว เครืองใหญ่กว่าเดิม ซีพียู ก็ต้องเปลี่ยนใหม่อีก เพื่อที่สามารถดึงพลังการ์ดจอเเรงมาใช้ได้ ระบบระบายความร้อนก็ต้องดีกว่าเดิมเเพงกว่า หัวอ่านก็คงต้องใช้ตัวที่จุข้อมูลได้เยอะๆ ซึ่ง bluray ตันเเล้ว เกมส์นึง 4 เเผ่นรับได้เปล่าหละ ดีไม่ดีเปลี่ยนสาย hdmi ใหม่อีก ต้นทุนทั้งนั้น เเค่คิดว่า ณ ตอนนี้ 599 นี่เเทบเป็นไปไม่ได้ เเละราคา ใครมันจะซื้อจะซื้อก็มีเเค่กลุ่มเล็กๆ เเล้ว ค่าการตลาดอีกหละ
นี่ในเเง่ ผู้ผลิตเครื่องอย่าง sony นะ ยังปัญหาขนาดนี้ นี่ยังไม่รวม 3rd อีกอะมันคงไม่ผลิตให้เครื่องรุ่นใหม่ มันทำรุ่นเก่านี่เเหละซึ่งมีฐานอยู่ถึง 60 ล้านเครื่อง รวม x1
sony ขาย ps4 เเล้วลดราคาปีละ 50 เหรียญเเค่นี้ไม่หนี 100 ล้านเครื่องเเล้ว จะหาเรื่องทำไม ms มันพยายามขุดหลุมให้ ps4 ลงไปตายด้วยเหมือน x1
ถามหน่อยครับ คุณทำงานด้าน software development หรือgame development หรือเปล่าครับ
เรียนอยู่ครับ เคยทำนิดหน่อย แต่ game ไม่เคยทำ เคยแต่อ่านนิดๆหน่อยๆ
iOS ผมไม่เคยเขียนนะ อันนี้ผมออกตัวไว้ก่อน
แต่ android สุดท้ายแล้วก็ต้องมานั่งทำ layout เอง ทั้ง smartphone, phablet, tablet ยังจะมี landscape,portrait อีก
สำหรับผมทำแค่ smartphone อย่างเดียวให้ดียังเหนื่อยเลย ต้องมานั่งคิดทั้ง performance, resource management
(ถึงจะทำกากๆไปหน่อยก็มั้ง), network อีกต่อตรง battery life เลย, ux(อันนี้ผมให้เพื่อนๆลองไม่กี่คนเอง)
ส่วนตัวผมไม่รู้นะว่าที่ผมทำไปมันดีแค่ไหนผมก็ทำเท่าที่ผมจะอ่านได้จาก doc ของ google น่ะแหละ
คนเดียวทำทุกอย่างไม่สนุกจริงจัง ตอนแรกคิดว่า tool มันจะลากวางเขียนโค๊ดนิดๆหน่อยๆ สุดท้ายพิมพ์ล้วน
เพราะui พอมันล้น ux ก็เจ๊ง เวลาทำ bootstrap ก็ต้องวางแผนก่อนว่าอะไรจะไว้ก่อนไว้หลัง พอเปลี่ยนขนาดจอก็ต้องเรียง ui ใหม่
แต่เกมนี่ ui ยังไงก็เหมือนกันหมด
เรื่อง res ผมว่าไม่น่าง่ายนะ ทุกวันนี้คนใช้จอ 21:9 ยังต้องเล่นบางเกมแบบ 16:9 อยู่เลยมั้งครับ
ถ้าผมผิดตรงไหนอะไรยังไง แย่งมาอธิบายให้ฟังผมก็รับฟังครับขอบคุณมาก
มีโอกาสอะไรยังไง อยากจะขอเรียนรู้วิชาด้วย ผมอยากไปทำงานสายนี้มากแต่ต้องหาโอกาสเริ่มก่อน
ux มันก็หายไปไงครับ ถ้าใช้ด้วยกันผมไม่ค่อยถูกใจ
อย่างถ้าแอพมีหลายหน้า(ใช้เป็น fragment) smartphone ก็แสดงแค่ fragment เดียวไปอันอื่นเปลี่ยน fragment เอา
พอเป็น tablet ที่มันเยอะ ใช้แบบ smartphone ก็เสียพื้นที่เปล่า เลยเอา fragment มาโชว์หลายๆอันตามขนาดพื้นที่
พอหมุนแนวนอนก็ต้องเปลี่ยนอีก ผมไม่รู้นะ ผมอาจจะเรื่องมากไปหน่อย ไหนจะต้องตามไกด์ไลน์ material design อีก ตาย
ผมยังไม่เคลียร์อ่ะครับ แยกกรอบคืออะไร responsive หมายความว่าอะไรใน android
เพราะเท่าที่ผมเข้าใจ ถ้า layout มันเปลี่ยนมันก็ต้องทำ xml ใหม่อยู่ดี ถึงโค๊ด fragment ไม่ต้องทำใหม่+แก้นิดๆหน่อยๆก็เถอะ
เอิ่มเอาง่ายๆ และไม่ต้องอธิบายมาก
ลองไปดูคอสสอนใน udamy ซักตัว
ก็ได้มีอธิบายหมด
มันคนละเรื่องกับการพัฒนาเกม
อย่างที่แจ้ง เกมมันมี ui แบบไหน แบบนั้น ไม่มีจอกว้าง จอยืด บังคับไปเลยว่าจะนอนหรือตั้ง
ความละเอียดยิ่งแล้ว เพราะคอนโซลมัน scale เอา
ที่ต้องทำคือ พอsupport ความละเอียดสูง ก็ต้องมี raster image แยกอีกชุดนึง
ซึ่งในแง่การผลิตมันไม่มีอะไร ทำครั้งเดียว render 2 รอบ
เรื่องอื่นๆก็ทำกันไป แต่ถ้าทำเกมแบบ target ลง pc ด้วย ตงไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงแน่นอน
เอิ่มเอาง่ายๆ และไม่ต้องอธิบายมาก
ลองไปดูคอสสอนใน udamy ซักตัว
ก็ได้มีอธิบายหมด
จาก doc ของ google เองก็แบ่ง layout น่ะแหละครับ ไม่มีอย่างอื่นละ นั่นแหละ responsive ของ android
มันคนละเรื่องกับการพัฒนาเกม
อย่างที่แจ้ง เกมมันมี ui แบบไหน แบบนั้น ไม่มีจอกว้าง จอยืด บังคับไปเลยว่าจะนอนหรือตั้ง
ความละเอียดยิ่งแล้ว เพราะคอนโซลมัน scale เอา
ที่ต้องทำคือ พอsupport ความละเอียดสูง ก็ต้องมี raster image แยกอีกชุดนึง
ซึ่งในแง่การผลิตมันไม่มีอะไร ทำครั้งเดียว render 2 รอบ
เรื่องอื่นๆก็ทำกันไป แต่ถ้าทำเกมแบบ target ลง pc ด้วย ตงไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงแน่นอน
scale มาเกี่ยวกับประเด็นเรายังไงครับ ถึง native จะน้อยกว่า res จอ แต่มันก็ต้อง ratio เดียวกันไม่ใช่หรอ
ui ที่ท่านพูดถึงนี่เป็น ui เมนูของเกมใช่มั๊ยครับ
เพิ่มเติม:
เอาเป็นว่านะ ความรู้ผมคงไม่ถึงอ่ะ พูดกันยืดยาวจะ 30 คอมเมนท์ละ ผมคงไม่ต่อละ จะยังไงก็ตามนั้นละกัน
android มี folder ที่ชื่อ values เอาไว้ช่วยเวลาจัด layout ทั้งแนวตั้งและแนวนอนได้นะ
การทำงานก็คล้ายกับ css เวลาเขียน web
ส่วนตรงไหนไม่ได้ดังใจตาม UI ที่ออกแบบไว้จับสร้าง class เพิ่ม หรือไม่ก็เขียนมาเพิ่มจัดการ save restore อีกนิดหน่อยก็จบแล้ว ส่วน ของใน layout ถ้าใช้ให้คล่องๆ หน่อยมันไม่ซ้ำซ้อนนะ เนื้อใช้ร่วมกันได้ถ้าทำแบบ responsive ไว้ แค่ทำกรอบไว้ดึงแยกตาม device ที่จงใจทำให้หน้าจอต่างตามที่ออกแบบไว้ ส่วนที่เหลือก็เอา resource ใส่ใน mipmap ปั้มจาก photoshop กด action แป๊ปเดียวจบ
ปล. ไม่อธิบายเรื่อง nine patches กับเอา api ใหม่ไปใช้กับรุ่นเก่านะ
ส่วนเกมถ้าลองมองหน่วย scale เป็น dp ก็ไม่ยุ่งยากนะ เพราะอัตราส่วนหน้าจอมันเท่ากัน ถึงเพิ่มความละเอียดไปก็ 16:9 เหมือนเดิม
ทำแอพบนแอนดรอย ทำบนโคตร hi level แต่ถ้าต้องการ performance ก็ต้องจัดการเอาเอง มีหลาย folder หลาย layout แต่ถ้าต้องการให้ apk เล็กสุด เพื่อ ux ของผู้ใช้ เพื่อสะดวก ก็ต้อง เตรียมการให้ดี nine patch อาจจะจบ แต่บางทีต้องการความสวยงามมากกว่านั้น
ทำเกมบน android อยากรีด performance ต้องลงไปเล่น ndk เอาเอง ลำพัง gl surface ของ java กากไป ซึ่งก็จะคนละเรื่องกับ java ละ
Dev หลายราย บางทีก็สดกับ api เครื่องนะครับ ถึงจะใช้ Engine ก็เถอะ เพราะบางกรณี หาก Engine Update ไม่ทัน หรือ มีบั๊ก หรือ มีปัญหาเรื่องงบ dev ก็อยากจะเข้าไปเล่นใน lowlevel เองอยู่แล้ว
และถึงจะใช้ Engine มันก็ไม่ได้วิเศษอะไรครับ ทุกวันนี้ Unity ยังบั๊กบานตะไท ยิ่งพวก ครอสแพลตฟอร์ม ยิ่งมีข้อจำกัด เพราะต้องทำให้เล่นได้ทั้งหมด มันดีตรงมีทูลให้ใช้ ทดสอบง่าย พัฒนาง่าย แต่ถึงช่วง Optimize มันก็นรกพอๆกับสดเองแหละครับ เพราะบางที เรา op กับดีไวซ์นึง มันอาจจะไม่เข้ากับอีกดีไวซ์นึง อย่างบางที เขียนๆเกมด้วยเอนจิ้นบน pc อยู่ รันผ่านทูลบน pc ทำงานดี๊ดี แต่พอบิ้วลงเครื่องจริง เอ้าฟังก์ชั่นทำงานผิด performance ตก ไปไล่แก้สคริปต์ จนบางทีอยากจะเปิด c++ แก้ render api มันเองด้วยซ้ำ
ตอนเทสต์เกมคุณก้อต้องลง effort เทสเครื่อเพิ่มอีก ซวยๆ เจอบั๊ก ps4 แต่ ps4K ไม่เจอนี่มาหากันมันส์เลยว่าเป็นอะไร จะปล่อยเกมออกโดยไม่เทสต์ก้อไม่ดีละมั้ง ยิ่งหลายเครื่องปัญหาที่ตามมามันก้อเยอะตามครับ บวกลบแล้วบางกรณีอาจจะคุ้ม บางกรณีไม่คุ้ม จะบ่นบ้างไม่แปลก แต่ถ้าจะบอกว่า เอ้า ps4k มัน เบสออน ps4 ทำเกมบน ps4 แล้วปล่อยมันมาวิ่งใน 4k แล้วแต่บุญแต่กรรม อันนี้ก็ทำได้ ถ้าผู้บริหารมีวิสัยทัศน์แค่นั้นก็ลักไก่ไป
คุณ hell อธิบายได้ดีแล้วครับ
คู่แข่งไม่ใช่ปัญหาเท่า install base ครับ บางทีคู่แข่งนี่คือตัวบอกเทรนด์ให้เกาะตามกันไปได้ด้วยซ้ำ
จากต้องทำ PC,PS4,XB1 มาเป็น PC,PS4,XB1,PS4K
แถมจากความเป็นไปได้คือ PS4KรันPS4 ได้ด้วย
ผมไม่เถียงประเด็นที่บอกยิ่งรุ่นฮาร์ดแวร์เยอะก็ต้องทำต้องเทสกันนานขึ้น แต่นี่ส่วนใหญ่ก็ทำPC อยู่แล้วมีฮาร์ดแวร์ใหม่เพิ่มมาตัวเดียวมันคงไม่ยากกว่าการ ออปติไมซ์บนPC หรอก
อีกอย่างคือยึดติดกับอะไรบางอย่างของนิยามคอนโซลหรือเปล่าเช่น
1. เจนนึงอายุ 7-10ปี
........ทั้งๆที่PS4,XB1 มันเปิดตัวมาสเปคตามหลังPC ปัจจุบัน หลายคนก็บอกอยู่ว่า เจนนี้น่าจะอายุสั้นเพราะสเปคเริ่มตามPCไม่ทัน
2.สเปคคอนโซลต้องตายตัวจนจบเจน
.....การซอยรุ่นของ 3DS คืออะไร? ทำไมมือถือซอยรุ่นได้,แต่เครื่องเกมส์ทำไม่ได้
3.ทำเครื่องให้Dev.ทำงานง่าย
....ทำงานง่ายมันก็ดี ถ้าทำเสร็จเร็วปัญหาน้อย ทุนทำเกมส์มันก็ต่ำ แต่เครื่องเกมส์ควรจะตอบสนองความต้องการผู้บริโภคมากกว่าผู้ผลิต
4.โซนี่มันทำเครื่อง4K คนเดียว
.....ก็เจน PS4,XB1 มันเข้าปีที่สามแล้ว บริษัทพวกมันจะไม่มีแผนการพัฒนาเครื่องรุ่นต่อไปเลยเหรอ? ไอ้ฝั่งXB มันให้ข่าวว่าไม่สนทำรุ่นครึ่งๆกลางๆก็จริง แค่ถ้าเกิดโซนี่มันออก4Kมาแล้วขายดี มันก็ต้องเปลี่ยนแผนเอาตัวโปรโตไทป์ สเปคพอๆกันเอาลงตลาดมาสู้แน่
ข่าวนี้มันเป็นแบบ ฝั่ง MSให้ข่าวก่อนแล้วพอมีสัมภาษณ์ฝั่งโซนี่ ผู้บริหารก็ตอบมาว่าตอนนี้ดูความเป็นไปได้อยู่ ซึ่งผมตีความว่า อะไรก็ไม่แน่ไม่นอน เพราะมันต้องคำนวณว่าทำแล้วกำไรหรือเปล่า (หรือทำ4Kออกมาแล้วลูกค้าเก่าจะรู้สึกโดนหักหลังแล้วมีผลเสียระยะยาวหรือเปล่า)
เรื่องที่น่าจะฟันธงว่า 4Kมาชัวร์น่าจะเป็น VR ขายดี,คนมีทีวี4Kเยอะมาก,สเปคคอมพ์มีเกมส์4Kเป็นมาตรฐาน ราคาฮาร์ดแวร์ สามารถเอามาทำ Mass Productได้
เค้าเข็ดกับ pc ไงครับ เลยอยากมาอัดเต็มๆ บนคอนโซลที่แน่ใจว่าอีก 10 ล้านเครื่องเล่นได้แน่ๆตามที่ผลิตเกมมา
ปัญหา มันเพิ่มมาเครื่องนึง มันลง effort ทั้งพอร์ต ทั้งเทสต์ ทั้งความคาดหวัง ทั้งการตลาด
อย่างทำเกมไป x1 ด้วย โอเค เพราะมันมีตลาดมารองรับ อาจจะคุ้ม
แต่ลง effort เพิ่ม เพื่อ 4k
ถ้าทำลง ps4 แล้วปล่อยให้ 4k รันเอาเองเลย แล้วมันได้แค่เฟรมเพิ่มมา 10 fps คนก้อคงด่าอะ หรือ ทำ texture แค่ ps4 คนซื้อ 4k ไปเล่นจะรู้สึกยังไง? นี่ตูซื้อมาทำไม ไม่ได้ดีกว่า ps4 ถึงจะ upscale ได้ก็เถอะ แต่มันก็นะ
แล้วถ้าบอกว่าเพื่อ vr เพราะ ps4 มัน vr ไม่ไหว ทีนี้ ต้องทำหลายๆอย่างเพื่อ vr และยอด 4k มันน้อย จะคุ้มไหม? อาจจะต้องรอ 1st ทำให้ 4k success แล้วค่อยวิ่งเข้าใส่
เอาเวลามาโม่เกมที่ spec เดียวอาจจะดีกว่านะ
แต่ทั้งนี้ บทสรุปอาจจะแค่ ทำเกมบน ps4 แล้วปล่อยวิ่งบน 4k ตามบุญตามกรรมเอาก็ได้ ถ้า 4k มันบูม
ทางค่ายอาจจะทำ auto config เมื่อเล่นในแต่ละเครื่องก็ได้ คุ้มไม่คุ้มต้องดูทิศทางลม 5555
เอิ่มเอาง่ายๆ และไม่ต้องอธิบายมาก
ลองไปดูคอสสอนใน udamy ซักตัว
ก็ได้มีอธิบายหมด
จาก doc ของ google เองก็แบ่ง layout น่ะแหละครับ ไม่มีอย่างอื่นละ นั่นแหละ responsive ของ android
มันคนละเรื่องกับการพัฒนาเกม
อย่างที่แจ้ง เกมมันมี ui แบบไหน แบบนั้น ไม่มีจอกว้าง จอยืด บังคับไปเลยว่าจะนอนหรือตั้ง
ความละเอียดยิ่งแล้ว เพราะคอนโซลมัน scale เอา
ที่ต้องทำคือ พอsupport ความละเอียดสูง ก็ต้องมี raster image แยกอีกชุดนึง
ซึ่งในแง่การผลิตมันไม่มีอะไร ทำครั้งเดียว render 2 รอบ
เรื่องอื่นๆก็ทำกันไป แต่ถ้าทำเกมแบบ target ลง pc ด้วย ตงไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงแน่นอน
scale มาเกี่ยวกับประเด็นเรายังไงครับ ถึง native จะน้อยกว่า res จอ แต่มันก็ต้อง ratio เดียวกันไม่ใช่หรอ
ui ที่ท่านพูดถึงนี่เป็น ui เมนูของเกมใช่มั๊ยครับ
เพิ่มเติม:
เอาเป็นว่านะ ความรู้ผมคงไม่ถึงอ่ะ พูดกันยืดยาวจะ 30 คอมเมนท์ละ ผมคงไม่ต่อละ จะยังไงก็ตามนั้นละกัน
ชักอยากได้ท่านเป็นศิษย์ เรื่องการเขียนเกม
..... เผลอๆจะเป็นแบบVRขายดีมาก งั้นปีหน้าทำVR2 สเปคดีขึ้นออกมาแทนก็ได้นะ ซึ่งไอ้VR2 เนี่ยแหล่ะจะต้องการขุมพลังที่ใหญ่กว่า PS4
value ที่ไว้ใส่ไฟล์ค่าอะไรก็แล้วแต่ ที่บอกว่าคล้าย css น่าจะเป็น style ซึ่งไม่เกี่ยวกับ layout กับการ support different screen size เลย เปิดดู doc google ก็ได้ stackoverflow ก็น่าจะมี
ส่วนแอพที่ผมทำ ผมทำ material design ซัพพอร์ทตั้งแต่ jellybean api16 ยันปัจจุบัน api23 ไม่ง่ายแน่นอน ไม่ต้องอธิบายก็ได้ครับ
หลุดคำสาบานไปหน่อย แต่อันนี้น่าจะสุดท้ายจริงๆละ สวัสดีครับ
value ที่ไว้ใส่ไฟล์ค่าอะไรก็แล้วแต่ ที่บอกว่าคล้าย css น่าจะเป็น style ซึ่งไม่เกี่ยวกับ layout กับการ support different screen size เลย เปิดดู doc google ก็ได้ stackoverflow ก็น่าจะมี
ส่วนแอพที่ผมทำ ผมทำ material design ซัพพอร์ทตั้งแต่ jellybean api16 ยันปัจจุบัน api23 ไม่ง่ายแน่นอน ไม่ต้องอธิบายก็ได้ครับ
หลุดคำสาบานไปหน่อย แต่อันนี้น่าจะสุดท้ายจริงๆละ สวัสดีครับ
สนใจทำเกมมั๊ยครับ อ่านๆที่ท่านตอบนี่ สัมผัสได้ว่าท่าน Dev ตัวจริง
ตอบ
values เวลาจะใช้ค่าให้ support ตาม screen size มันก็ values-xxx ไง
ส่วนเรื่อง api มันมีตัวสำเร็จรูปที่ google ทำมาให้แล้ว จะ support version เก่าๆ (ค่ามาตรฐาน 15 ถึงแม้คนใช้จะน้อยลงแล้วก็เหอะ) ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนิ แค่ app บวมหน่อยนึง แต่แยก pack เวลา upload ขึ้น store ให้เล็กลงได้อยู่ดี
ยังไม่มี official confirmation หรือ deny แต่ข่าวมันมาขนาดนี้ ไม่น่ารอด
ค่อนข้างสมเหตุผลด้วยถ้าเอามา support vr
ที่แน่ใจคือมองความเป็นไปได้ว่าพัฒนาอยู่นี่ 100% แต่จะวางขายในนาม PS4K หรือเปล่า คงต้องดูว่าโซนี่จะทิ้งทุ่นPS3 แล้วจะทำตลาดควบ PS4,PS4K หรือจะมีแค่ตัวเดียว จนจบเจน, (ถ้าVR ขายดีก็วางขายไวหน่อย)
เรื่องพัฒนายาก ผมถือว่าถ้าค่าย1st โซนี่มันทำได้ก่อน และมันอยากให้เกมส์บางเกมส์ทำเวอร์ชัน 4K เพื่อเป็นความได้เปรียบ โซนี่อาจจะจ่ายเงิน,ส่งคนไปช่วยด้วยซ้ำ ทำตัวเป็นป๋าดันให้ตัวเองได้เปรียบไปอีก 4-6 ปีก็น่าทำ
เหลือแต่ในญี่ปุ่น
NEW3DS คือคำตอบ 5555
ยิ่งอันหลังนี่ เท่าที่นึกออกมี Xenoblade เกมเดียวเอง