Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Zack Snyder พูดถึงหนังฺ batman V Superman ฉบับ ULTIMATE CUT เวอร์ชั่นเรท R ยาว 3 ชั่วโมง

<<
<
1
Reply
Vote
# Mon 28 Mar 2016 : 9:23PM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)


DC Universe Club

Zack Snyder พูดถึงหนังฉบับ ULTIMATE CUT เวอร์ชั่นเรท R ยาว 3 ชั่วโมง
[เปิดเผยเนื้อหาสำคัญด้านใน]
.
.
.

.
อย่างที่ทราบกัน Batman v Superman : Dawn of Justice จะมีเวอร์ชั่นที่เรียกว่า ULTIMATE CUT ซึ่งเป็นธรรมเนียมของ Zack Snyder มาสมัย Watchmen ว่าเขาจะมีเวอร์ชั่นพิเศษมาลงแผ่นอีกที คราวนี้ Collider ก็ได้นั่งจับเข่าคุยกับแกครับว่าเราจะได้เห็นอะไรในเวอร์ชั่นนี้บ้าง

"เราเรียกมันว่า Ultimate Cut สำหรับผมแล้วมันคือการที่คุณจะได้เข้าถึงโลกของเราลึกลงไปอีกและยาวขึ้นกว่าเดิม ผมคงต้องบอกว่าเราไม่เล่าเนื้อหา Superman กับ Batman ของแต่ละคนมากเท่าไร แต่มันก็มีเรื่องราวย่อยๆที่คั่นกลางระหว่างความขัดแย้งนั้น ซึ่งมันจะช่วยต่อเติมเรื่องราวที่โดนตัดออกมา นั่นคือสิ่งที่ผู้ชมจะได้รับครับ"

แล้วอะไรบ้างล่ะที่ผู้ชมจะได้เพิ่มเติมจากฉบับเก่า Zack ก็เผยนิดๆให้เรารู้มาหน่อยครับ

- ฉากแอคชั่นเพิ่มขึ้น
- ฉากความรุนแรงที่โดนหั่นออกโดยองค์กรจัดเรท MPAA ซึ่งจะนำกลับมาให้เต็มๆ (เช่นฉากที่ยิงหัวอาจจะได้เห็นหัวโดนยิงเป็นรูอะไรแบบนั้น)
- ความรุนแรงในฉาก Batman ในโกดังที่มากขึ้นและยาวขึ้น
- ความเข้มข้นในฉากที่ต่อสู้กับ Doomsday จะทวีคูณ
- ฉากจบนานกว่าเดิม และฉากเปิดเรื่องที่แอฟฟริกาจะเปลี่ยนไปที่แตกต่างจากฉบับฉายโรงมาก

ยังไม่นับรวมถึงฉากที่ Jena Malone ตัวละคร Barbara Gordon โดนตัดออกจากหนังด้วยครับ และด้วยฉากที่เพิ่มขึ้นมาหนังจะยาวขึ้นอีก 30 นาที

อ้าวแล้วทำไมฉากพวกนั้นถึงโดนตัดออกล่ะอาจจะลดความรุนแรงลงแต่ให้ยาว 3 ชั่วโมงก็ได้นิ Zack ก็ตอบดังนี้ครับ

"ตอนหนังเสร็จคือมันก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรครับ แต่เพราะว่ามันยาวเกิน ยาวโคตรๆ ซึ่งผมไม่ได้คิดนะว่ามันยาว แต่เมื่อพอคุณทำหนังที่ยาวมากกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ทางค่ายก็เริ่มไม่แน่ใจล่ะ และผมก็ไม่ใช่ James Cameron ด้วยที่จะพูดใส่หน้าค่ายว่า "ไม่ ถ้ามันจะ 3 ชั่วโมงก็ต้อง 3 ชั่วโมง!" "

ใครที่ยังไม่อิ่มจากฉบับฉายโรงก็รอฉบับ Ultimate Cut ได้เลย โดยจะวางจำหน่ายวันที่ 27 กรกฎาคมครับ อีก 4 เดือน

http://collider.com/batman-v-superman-deleted-scenes-directors-cut/

Cr.DC Universe Club




####################################################################################################


แถม
ไขข้อข้องใจเกิดอะไรขึ้นกับฉาก Knightmare Batman?

เผื่อใครงงเรื่องฉากที่บรูซ เวนย์ ฝัน

[Edited 1 times toranin - Last Edit 2016-03-28 21:50:10]


# Mon 28 Mar 2016 : 9:48PM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
ที่บอกว่า ULTIMATE CUT ฉากจบสู้นานขึ้น ผมอยากเห็นแฮะ โอเคหลายคนชอบฉากจบที่ว่ามันจัดเต็มกัน แต่ส่วนตัวผมเฉยๆกับฉากสู้ตอนจบแฮะ พอเห็นว่าสู้กันนานขึ้น เออ โอเคเลย




################################################################################################


หนังดีไม่ดี ใครชอบไม่ชอบนี่วัดกันในโรงนะครับ ไม่เกี่ยวกับว่าจะต้องไปดูฉบับ ULTIMATE CUT แล้วหนังจะดีขึ้น ดีไม่ดี ชอบไม่ชอบจบแค่ในโรง

แต่เชื่อเถอะว่าคนที่ดูในโรงแล้วไม่รู้เรื่อง พอดูแผ่นเวอร์ชั่น 3 ชม. ก็จะไม่รู้เรื่องอยู่ดี


- อันนี้เห็นเห็นหลายคนว่ากัน ว่าหนังมีปัญหาเพราะบทมันพยายามปูพื้นตัวละครหลายตัว (คือดูยังไง ถามว่าแล้วมันปูพื้นตัวละครตัวไหนล่ะ) จริงๆหนังมันไม่ปูพื้นอะไรเลย มันเล่าเรื่องเหมือนมันเป็นหนังสือคอมิกส์เลย แต่เป็นหนังสือคนอ่านมันรู้จักตัวละครกันดีอยู่แล้วไงครับ ตัวละครไหนโผล่มาแว๊บๆมันก็รู้ มันก็เข้าใจมุก แต่นี่เป็นหนังไง มันเลยรู้สึกเหมือนโผล่มาดูหนังซีรี่ย์ตอนกลางๆซีซั่น

การเล่าเรื่องแบบ เป็นท่อนๆ เหมือนหนังโฆษณาขนาดสั้น แล้วเอามาวางเรียงเว้นช่วงห่างกัน เอ มันก็เข้าท่าดีนะ ถ้าคนดูจะดูรู้เรื่อง และเมื่อเอามาเรียงร้อยกันแล้วมันมีมิติมีเหตุผลรองรับ แต่เผอิญแบทซุปบทมันแบนไง มันประมาณละครหลังข่าวที่นางเอกตบกับตัวอิจฉานั่นแหละ คนดูสะใจ สนุก แต่มันไม่มีเหตุผลรองรับ บ้านเราน่าจะชินกันนะ แต่ฝรั่งนี่ก็สมควรแล้วที่มันโวยวายกัน


- เรื่องเพลง ก็เห็นหลายคนบอกกันอีก ว่าส่วนที่ดีที่สุดของหนังคือเพลงประกอบ เอาจริงๆเพลงมันไม่ค่อยกลมกลืนกับหนังเลย ธีมของซุปที่ได้ยินในภาคนี้ก็เหมือนจับยัด อารมณ์มันขัดๆแฮะ ธีมของ WW นี่ยิ่งแล้วใหญ่ อยู่แม่มลีดกีตาร์ขึ้นมาเลย แล้วเพลงมันล้น มันฟังดูกระโดดออกมาเลย (โอเค เพลงมันสนุก ฟังแล้วฮึกเหิม สะใจ) มันประมาณคนดูมวยที่เชียร์มวยกัน เอิ้วๆๆ!!!! เสียงเชียร์ดุเดือดมาก แต่พอภาพตัดไปที่นักมวย มันแค่ยืนทำหน้าเซ็งกอดอกพิงเชือก คือมันบิ้วอารมณ์เกินไปอ่ะ 5555

แต่ก็นั่นแหละนะ มันแล้วแต่คนจะมองไง 55555

ส่วนตัวคิดว่าเวอร์ชั่น 3 ชม. คนที่ไม่ชอบยังไงมันก็ไม่ชอบ ส่วนคนที่ดูรู้เรื่อง ชอบ ยังไงมันก็ดูแล้วฟิน




# Mon 28 Mar 2016 : 10:51PM

Abandon
member

Since 2012-12-12 12:39:51
(852 post)
ตอบในคลิบ ถ้าไม่มีซุปกับWW จะสู้ดาร์คไซด์ได้มั้ย

# Mon 28 Mar 2016 : 11:53PM

Zelestiner
member

Since 2012-12-18 03:05:32
(294 post)
ส่วนตัวผมอยากเห็นหนังกระชับขึ้น สั้นลงด้วยซ้ำ อะไรนี่ขาดๆเกินๆตัดออกก็ได้ เเต่ 3ชั่วโมงเลย เอิ่มมม จริงๆที่มีในเรื่องผมก็ว่ามันเยอะซะจนจะเลี่ยนเเล้วนนะ สู้เพิ่มขึ้นนี่เเบบ......ก็...เอาที่สบายใจเลยละกัน -...-

ปล.ส่วนเรื่องรสนิยมอันนี้เเล้วเเต่บุคคลอะนะ เพราะ กระเพราะไก่ร้านเดียวคงไม่ถูกใจคนทุกคน - -

# Tue 29 Mar 2016 : 12:46AM

taekun
member

Since 25/3/2006
(6820 post)
ใส่มาเยอะๆเลย

# Tue 29 Mar 2016 : 1:13AM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)


หนึ่งในฉากที่ตัดออก ที่วอร์เนอร์เอามาโชว์ ดาร์คไซด์มาแน่ จริงๆมันก็ยืนยันตั้งแต่พาราเดมอนแล้วนะ อันนี้ก็ย้ำเข้าไปอีก แล้วดาร์คไซคงไม่กากแน่ เพราะขนาดดูมส์เดย์ยังขนาดนี้



000000000000000000000000000000000000000000000


เนื้อหาของ BVS จริงๆไม่เยอะนะครับ แต่อีสเตอร์เอ้ก+รายละเอียดมันใส่ไว้เต็ม

คือคนดูรู้เรื่องอยู่แล้ว พล็อตมันเรียบง่าย ไม่ได้ซับซ้อนแบบอินเซ็ปชั่น หรือ ต้องรอด แต่อาจไม่เข้าใจพื้นฐานของตัวละคร คือบทมันไม่มีแบ็คกราวน์ของตัวละคร ก็จะไม่เข้าใจมุกในหนัง ไม่ฟินกับบางฉาก แต่ภาพรวมนี่รู้เรื่อง+สนุก อันนี้ผมถามลุงอายุ 60+ ที่ไปดูมา แกก็บอกว่าดูรู้เรื่องไม่เห็นจะงงตรงไหน

ส่วนตัวผมชอบ BVS นะครับ โคตรชอบเลย ถึงจะมีหลายส่วนให้ติ และถ้าว่าเรื่องความสนุกแล้ว ผมก็ให้ 8-9 คะแนนอยู่ สนุกกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่หลายเรื่องเยอะเลย นี่ขนาดผมว่าฉากจบมันจัดหนักน้อยไปนะ 5555555
[Edited 1 times toranin - Last Edit 2016-03-29 18:16:40]

# Tue 29 Mar 2016 : 1:14AM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
เบิ้ล ดิตครับ

ส่วนตัวผมคิดว่านี่เป็นหนังที่ผมคงดูได้หลายรอบ watchmen ผมก็ดูหลายรอบ รายละเอียดเยอะดี BVS นี่ก็เหมือนกัน ถ้าให้ผมไปดูโรงอีกรอบผมก็ดูอยู่ครับ คิดๆอยู่เหมือนกันว่าจะจัดอีกรอบ ส่วนแผ่นเวอร์ชั่นเรต R นี่รอเลยครับ
[Edited 1 times toranin - Last Edit 2016-03-29 01:50:32]

# Tue 29 Mar 2016 : 1:52AM

TheJokerz
member

Since 2013-11-13 22:29:27
(1418 post)
มีใครทราบไหมว่า เวอร์ชั่นนี้จะวางขายเมื่อไหร่ จะเป็นแผ่นแรกที่จัดแบบบลูเรย์เลย
View all 2 comments >

# Tue 29 Mar 2016 : 9:48AM

Pique`
member

Since 23/5/2006
(7243 post)
จริง ๆ เวอชั่นหนังโรงผมว่ามันน่าจะจบที่ ไม่เกิน 120 นาทีนะ แต่นี้ 150 นาทียังน่าเบื่อขนาดนี้ ถ้า 180 นาทีนี้จะน่าเบื่อขนาดไหน

# Tue 29 Mar 2016 : 10:14AM

Sorrowkung
member
ทำยอดได้ไม่ดีสินะ รีบประกาศออกแผ่นไวขนาดนี้
View all 3 comments >

# Tue 29 Mar 2016 : 10:45AM

yentrek
member

Since 4/7/2008
(6030 post)
ผมรู้สึกว่าเป็นปัญหาที่การตัดต่อและลำดับเรื่องราวที่จะเล่า

เรื่องโอเครแล้วล่ะ สิ่งที่จะเล่าโอเครแล้วล่ะ

แต่พอลำดับมันเพี้ยนก็เลยกลายเป็นดูแย่ๆไป

ตัวอย่างที่ผมว่ายังไม่ควรเล่า แต่น่าจะเอาไปเป็นหลังเครดิตผมว่าน่าจะพีคกว่านี้




รีบร้อนเกินไป ทุกอย่างดูรีบร้อนไปหมด แต่หนังกลับทำให้รู้สึกอืดอาดซะยังงั้น คำจำกัดความความของหนังเรื่องนี้สำหรับผมครับ


# Tue 29 Mar 2016 : 11:05AM

heavenfliper
member

Since 8/9/2009
(2106 post)
เวอร์ 3 ชั่วโมง ไม่พลาดแน่นอน ถึงหนังจะขัดใจหลายจุด แต่ภาพรวมที่น่าชื่นชมมีมากกว่า

รายละเอียดที่ตั้งใจทำ คีย์เวิร์ดต่างๆ แทรกมาตลอดเรื่อง ถ้าตามทัน หรือสะกิดใจบ้าง จะสนุกไปกับการปะติดปะต่อเรื่องราว ยิ่งการตัดฉากแบบสะเปะสะปะนั่นส่งเสริมการกระตุ้นความคิดได้ดีทีเดียว

แต่ถ้าเคยชินกับหนังแบบเคี้ยวละเอียดๆแล้วป้อน สำเร็จรูปสไตล์ฮีโร่มาเวลจนเคยตัว ก็ทำให้เกลียดเรื่องนี้ได้ไม่ยากเลย

# Tue 29 Mar 2016 : 11:26AM

Lowrider
member

Since 2/9/2007
(2721 post)
เสียดายจริง ถ้าหนังมันตัดต่อวางลำดับดีๆ บอกที่มาที่ไปสักนิดนี่เทพมาก

# Tue 29 Mar 2016 : 12:25PM

Thaza_Lover
member

Since 2012-01-19 20:35:12
(2445 post)
เกลียดหนังประเภท ที่เหมือนไล่ให้ดูรอบ 2-3 เพื่อให้เข้าใจ
ตัวเองเป็นคนทำตัดต่อห่วยแตกขนาดนี้ ทำให้ต้องยอมเสียตังหลายๆรอบ เพื่อให้ดูสนุกขึ้นด้วย
View all 3 comments >

# Tue 29 Mar 2016 : 7:04PM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
Thaza_Lover wrote:
เกลียดหนังประเภท ที่เหมือนไล่ให้ดูรอบ 2-3 เพื่อให้เข้าใจ
ตัวเองเป็นคนทำตัดต่อห่วยแตกขนาดนี้ ทำให้ต้องยอมเสียตังหลายๆรอบ เพื่อให้ดูสนุกขึ้นด้วย

หนังมันไม่ได้ไล่ให้ไปดู 2-3 รอบ ถึงจะเข้าใจหรอกครับ คนละประเด็นไม่เกี่ยวกันครับ

หนังมันก็กะให้คนเข้าไปดูๆกันเหมือนหนังเรื่องอื่นๆทั่วไปนั่นแหละครับ แต่ใครจะดูแล้วเข้าใจอะไรแค่ไหนอันนั้นเป็นเรื่องของแต่ละคนละ ส่วนที่เป็นแฟนเซอร์วิสในหนังมันไม่ได้มีผลกับเนื้อเรื่อง หรือทำให้คนดูทั่วไปสับสนเลยครับ หนังมันก้พล็อตเรื่องเรียบง่ายจะตาย


ส่วนใครจะดูรอบที่ 2-3-4-5-6..... อันนี้ก็แล้วแต่แต่ละคนล่ะครับ เอาง่ายๆก็แบบ Interstellar น่ะครับ คนที่ไปดูในโรงก็ดูกันรอบเดียวเข้าใจ แต่คนที่ดูแล้วไม่เข้าใจก็มี ส่วนคนที่ชอบจะกลับไปดูรอบ 2-3-4 แล้วเห็นรายละเอียด หรือเห็นมุมมองใหม่ๆเพิ่มขึ้น อันนั้นก็อีกเรื่องครับ

2001: A Space Odyssey (โคตรอภิมหาหนังไซไฟอันดับหนึงของโลก) นี่ Stanley Kubrick กับ Arthur C. Clarke บอกเลยนะครับว่า ไม่มีทางที่คนดูรอบเดียวจะเก็บเกี่ยวทุกอย่างในหนังได้หมด เพราะพวกเขาใส่สัญลักษณ์ใส่รายละเอียดเข้าไปเยอะมากๆๆๆๆ ด้วยการเขียนบท+ขยายโครงเรื่องของนิยายไปพร้อมๆกับการสร้าง เสร็จพร้อมๆกันทั้งบท+นิยาย และถ่ายทำใช้เวลาถึง 5 ปี

<<
<
1
Reply
Vote




1 online users
Logged In :