Liongates เตรียมตัดงบ The Divergent Series ��าคสุดท้าย หลังเปิดตัวได้น่าผิดหวัง
อย่างที่รายงานไปในข่าวก่อนหน้านี้ว่า ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากแฟรนไชส์ The Divergent Series ในชื่อ Allegiant นั้นเปิดตัวได้น่าผิดหวังมากทีเดียว ด้วยตัวเลขเปิดตัวที่หล่นจากประมาณ 50 กว่าล้านเหรียญสหรัฐในทั้งสองภาคแรก มาเหลือเพียง 29 ล้านเท่านั้น
ซึ่งด้วยเหตุนี้เองทำให้ทางค่าย Liongates ต้องรีบออกมาจัดการกับแฟรนไชส์ที่เหลืออีกหนึ่งภาค ที่ภาคสุดท้ายจะใช้ชื่อว่า Ascendant ในทันที โดยการตัดงบประมาณลดลงจากภาคล่าสุด ซึ่งก็ไม่ได้เปิดเผยว่าตัดงบไปประมาณเท่าไร แต่ที่แน่ๆคือทางค่ายจะไม่ลงทุนสูงถึง 110 ล้านเหรียญสหรัฐแบบใน Allegiant อย่างแน่นอนครับ (ในตอนนี้รายได้จากทั่วโลกยังไม่เท่าทุนด้วยซ้ำเพราะทำไปเพียง 87 ล้านเท่านั้น)
ในระหว่างนี้เองก็มีการพูดถึงสาเหตุของความล้มเหลวในภาคนี้ จนเรียกได้ว่าแทบจะโยนความผิดกันไปมาซะเอง ตั้งแต่การโทษฝ่ายโปรดัคชั่นที่ผลงานขาดคุณภาพ , การตัดสินใจหั่นหนังสือเล่มเดียวมาเป็นภาพยนตร์สองภาค ไปจนถึงตัวประเภทภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือนวนิยายสำหรับเยาวชน (Young Adult) ที่ดูจะเริ่มอ่อนแรงลงทุกทีๆ
ที่แน่นอนในตอนนี้คือภาคสุดท้ายสำหรับแฟรนไชส์ The Divergent Series จะมีการเปลี่ยนตัวผู้กำกับอย่างแน่นอน โดยหน้าที่จะตกไปอยู่ในมือของ ลี โทแลนด์ ครีเกอร์ (ภาพด้านล่าง) แทน โรเบิร์ต ชเวนเก้ (ภาพด้านบน) ที่กำกับสองภาคล่าสุด (Insurgent และ Allegiant) ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นตัว ชเวนเก้ ที่ถอนตัวไปเอง นี้อาจจะเป็นโอกาสดีที่จะทำให้แฟรนไชส์ปิดตัวลงได้สวยงามกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ครับ เนื่องจากว่าตามข่าวแล้วเคยมีรายงานว่า นักแสดงหลัก ไชลีน วู้ดลีย์ ได้บ่นถึงคุณภาพของบทภาพยนตร์ในภาคนี้ รวมไปถึงไม่ค่อยถูกกับตัวผู้กำกับ โรเบิร์ต ชเวนเก้ เท่าไรนักอีกด้วย
The Divergent Series: Ascendant กำหนดฉายที่อเมริกา 9 มิถุนายน 2017 ซึ่งชนกับ The Mummy ฉบับรีบู้ทนำแสดงโดย ทอม ครูซ และ World War Z 2 นำแสดงโดย แบรต พิตต์ ทำให้โอกาสที่ตัวภาพยนตร์จะถูกเลื่อนวันฉายมีโอกาสค่อนข้างสูงทีเดียวครับ
ref: [Link]
ซึ่งด้วยเหตุนี้เองทำให้ทางค่าย Liongates ต้องรีบออกมาจัดการกับแฟรนไชส์ที่เหลืออีกหนึ่งภาค ที่ภาคสุดท้ายจะใช้ชื่อว่า Ascendant ในทันที โดยการตัดงบประมาณลดลงจากภาคล่าสุด ซึ่งก็ไม่ได้เปิดเผยว่าตัดงบไปประมาณเท่าไร แต่ที่แน่ๆคือทางค่ายจะไม่ลงทุนสูงถึง 110 ล้านเหรียญสหรัฐแบบใน Allegiant อย่างแน่นอนครับ (ในตอนนี้รายได้จากทั่วโลกยังไม่เท่าทุนด้วยซ้ำเพราะทำไปเพียง 87 ล้านเท่านั้น)
ในระหว่างนี้เองก็มีการพูดถึงสาเหตุของความล้มเหลวในภาคนี้ จนเรียกได้ว่าแทบจะโยนความผิดกันไปมาซะเอง ตั้งแต่การโทษฝ่ายโปรดัคชั่นที่ผลงานขาดคุณภาพ , การตัดสินใจหั่นหนังสือเล่มเดียวมาเป็นภาพยนตร์สองภาค ไปจนถึงตัวประเภทภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือนวนิยายสำหรับเยาวชน (Young Adult) ที่ดูจะเริ่มอ่อนแรงลงทุกทีๆ
ที่แน่นอนในตอนนี้คือภาคสุดท้ายสำหรับแฟรนไชส์ The Divergent Series จะมีการเปลี่ยนตัวผู้กำกับอย่างแน่นอน โดยหน้าที่จะตกไปอยู่ในมือของ ลี โทแลนด์ ครีเกอร์ (ภาพด้านล่าง) แทน โรเบิร์ต ชเวนเก้ (ภาพด้านบน) ที่กำกับสองภาคล่าสุด (Insurgent และ Allegiant) ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นตัว ชเวนเก้ ที่ถอนตัวไปเอง นี้อาจจะเป็นโอกาสดีที่จะทำให้แฟรนไชส์ปิดตัวลงได้สวยงามกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ครับ เนื่องจากว่าตามข่าวแล้วเคยมีรายงานว่า นักแสดงหลัก ไชลีน วู้ดลีย์ ได้บ่นถึงคุณภาพของบทภาพยนตร์ในภาคนี้ รวมไปถึงไม่ค่อยถูกกับตัวผู้กำกับ โรเบิร์ต ชเวนเก้ เท่าไรนักอีกด้วย
The Divergent Series: Ascendant กำหนดฉายที่อเมริกา 9 มิถุนายน 2017 ซึ่งชนกับ The Mummy ฉบับรีบู้ทนำแสดงโดย ทอม ครูซ และ World War Z 2 นำแสดงโดย แบรต พิตต์ ทำให้โอกาสที่ตัวภาพยนตร์จะถูกเลื่อนวันฉายมีโอกาสค่อนข้างสูงทีเดียวครับ
ref: [Link]
Popular News
แสดงความคิดเห็น
จะหั่น 2 ภาคทำไม ฉายก็ผิดเวลา
ดีนะคุณเนธานเข้าใจ5555