"ต้อง รอด" The Revenant ( 2015 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
The Revenant ( 2015 ) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz
"ต้อง รอด"
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า The Revenant เป็นภาพยนตร์ที่มีส่วนผสมหลักค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียว ไม่ใช่แค่จากนักแสดงหลักอย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ หรือทอม ฮาร์ดี้ แต่รวมไปถึงผู้กำกับ อเลฮานโดร อินาริตู เจ้าของรางวัลออสการ์ Birdman ในปี 2014 นี้เอง เรียกได้ว่าแค่ชื่อของพวกเขาเหล่านี้ก็แทบจะพาเอาคอหนังทุกคนจับตามองกันตั้งแต่เริ่มสร้างเลยทีเดียว
ถ้าหากพูดถึงสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดใน The Revenant ก็คงหนีไม่พ้นโปรดัคชั่นอันแสนอลังการงานสร้างของมัน ไม่ว่าจะเป็นฉาก อุปกรณ์ เสื้อผ้า หรือบรรยากาศ ต่างก็งดงามมากทีเดียว ยิ่งผนวกไปกับแนวความคิด ความพยายามในการสะท้อนสัจธรรมของโลก ซึ่งผู้อ่อนแอไม่อาจมีชีวิตรอด ก็ยิ่งทำให้ Revenant เป็นภาพยนตร์ที่ละสายตาได้ยากมากที่สุดเรื่องหนึ่งในปี 2015 เลยทีเดียว
ซึ่งความที่โลกของ The Revenant นั้นยอดเยี่ยม นั่นก็ส่งผลมาสู่เรื่องราวการผจญภัยอันแสนทรหดของตัวละครเอก รับบทโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เช่นเดียวกัน ทำให้การผจญภัยของตัวละครนี้รู้สึกเต็มไปด้วยอันตรายและการกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดยิ่งกว่าภาพยนตร์เรื่องไหนๆ ด้านการแสดง เขายังคงสร้างผลงานได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในฉากแอ็คชั่น หรือในฉากอารมณ์ ต่างก็ทำให้ผู้ชมเชื่อมต่อกับตัวละครได้ไม่ยากนัก ถึงแม้ว่าในด้านบทตัวละครจะยังถูกเขียนมาขาดมิติไปบ้างก็ตาม
ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือตัวละครของ ทอม ฮาร์ดี้ ซึ่งกลายเป็นว่าน่าค้นหายิ่งกว่าตัวละครเอกซะอีก สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็มาจากตัวบทและเส้นทางของตัวละคร ความที่ในช่วงกลางถึงท้ายเรื่อง ตัวละครของลีโอนาร์โดนั้นค่อนข้างมีเป้าหมายและทัศนคติที่ชัดเจนมาก อาจมากเกินไปหน่อย จนเสมือนเผยทุกอย่างในมือให้ผู้ชมได้เห็นซะหมด ทำให้ตัวละครของลีโอนาร์โดมีความน่าค้นหาน้อยลง ในขณะที่ตัวละครของ ทอม ฮาร์ดี้ ยังคงมีความคลุมเครือและชวนค้นหามากกว่า
แต่ถ้าหากมองในภาพรวมของ The Revenant แล้ว สิ่งที่น่าตั้งคำถามจริงๆคงจะเป็นการกำกับและเล่าเรื่องของ อเลฮานโดร อินาริตู ซะส่วนมาก ไม่ใช่ว่าแย่แต่อย่างใด แต่มันธรรมดาและจืดชืดจนเกินไป ขาดลูกเล่นหรือชั้นเชิงที่จะมาทำให้ตัวภาพยนตร์นั้นโดดเด่น มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น สร้างความน่าจดจำแม้ภาพยนตร์จะจบลงไปแล้ว ในบางมุมเสมือนเป็นการเพลย์เซฟ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับผลงานก่อนหน้าอย่าง Birdman ที่ดูจะเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และโดดเด่นในการเล่าเรื่อง เป็นเอกลักษณ์มากกว่าผลงานชิ้นนี้ ถึงแม้ว่าจะมีความพยายามในการใส่เทคนิคถ่ายทำติดต่อกันโดยไม่ตัดหรือ Long Take แบบที่เคยทำใน Birdman มาบ้าง แต่นั้นก็ไม่ได้มีพลังมากพอ ที่จะสร้างความแตกต่างให้กับภาพยนตร์ทั้งเรื่องซึ่งยาวถึง 156 นาทีได้ จริงๆแล้วสาเหตุอีกส่วนหนึ่งก็มาจากการเลือกเครื่องมือ ซึ่งเนื้อหาและองค์ประกอบต่างๆของทั้งสองภาพยนตร์มีความแตกต่างกัน จึงทำให้เครื่องมือบางชนิดที่นำมาใช้ ได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคำนึงถึงความคุ้มค่าและเวลาที่เสียไปในการชมภาพยนตร์ เพียงแค่โปรดัคชั่นอันน่าทึ่ง การผจญภัยที่ยอดเยี่ยม และการแสดงของลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ก็ทำให้ The Revenant เป็นทางเลือกที่ห้ามพลาดสำหรับคอหนังทุกคน ถึงแม้ว่ามันจะยังห่างจากคำว่าสมบูรณ์แบบก็ตาม
Final Score : [ 7.5 ]
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
สปอยนะครับ
ผมก็รู้สึกว่านานไปเหมือนกัน จริงๆบางส่วนน่าจะตัดได้บ้าง แต่ผมคิดว่าตัวผกก อเลฮานโดร คงอยากให้คนดูได้รู้สึกว่าตัวละครฟันฝ่าอะไรมาเยอะจริงๆ ลำบากจริงๆ เลยยาวขนาดนี้
กว่าครึ่งเรื่องเป็นการโชว์ โลเคชัน ซึ่งสวยยอมรับ (เคสเดียวกันกับ สเปคเตอร์เลย)
อีกหนึ่งเสี้ยวเป็นเนื้อเรื่อง อีกเสี้ยวที่เหลือ เป็นการฟัง ลีโอ ไอ กับ หายใจ
ปีก่อน พูดเยอะในวุล์ฟแล้วไม่ได้
ปีนี่ แกไม่พูดละ ขอไออย่างเดียว แค่กๆๆๆ
ลีโอนาโด ดิคาปริโอ รับบท "แบร์ กิล"
ที่น่าตกใจคือ นี่เมิงจะได้ออสก้าร์เพราะไอ้บทแบร์ กิลเนี่ยนะ