รีวิว Tomorrowland
"ดินแดนของผู้มีความฝัน"
นับว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่น่าสนใจมาก กับการที่ดิสนีย์คิดจะทำหนังที่มีแนวคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับจินตนาการ ถึงแม้กระแสรีวิวเมืองนอกจะออกมาแบบใครชอบก็ชอบ เกลียดก็เกลียดไปเลย แต่ของแบบนี้ต้องลองสัมผัสด้วยตัวเองก่อนครับ
Tomorrowland เป็นหนังที่นำแนวคิด 3 อย่างมาประกอบเข้าด้วยกัน แล้วใส่ความบันเทิงสนุกสนานตามสไตล์ดิสนีย์เข้าไป อันได้แก่ จินตนาการ ความเชื่อมั่น และความใฝ่ฝัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สามารถแฝงในหนังแบบกลมกลืนแนบเนียนไปกับการดำเนินเรื่องได้ดีมาก ขณะที่ดูไปผู้ชมจะซึมซับกับแนวคิดเหล่านี้ได้ตลอด
เรื่องราวของ Tomorrowland เป็นเหตุการณ์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งเล่าผ่านมุมมองของสองตัวเอกของเรื่องก่อนที่จะมาบรรจบกันในภายหลัง อันได้แก่เรื่องราวของตัวเอกชาย แฟรงค์ วอล์คเกอร์ นักประดิษฐ์อัจฉริยะในวัยเด็ก ที่ได้มีโอกาสเข้าไปเยือนดินแดนสุดไฮเทคดั่งโลกอนาคต Tomorrowland และตัวเอกหญิง เคซี่ นิวตั้น สาวไฮสคูลผู้คลั่งไคล้ในเรื่องดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ซึ่งเหตุการณ์บางอย่างทำให้เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับดินแดน Tomorrowland ด้วย นอกจากสองตัวละครหลักแล้ว ยังมีสาวน้อยปริศนานาม อาธีนา เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อเนื้อเรื่อง
จะว่าไปการเล่าเรื่องแนวนี้ก็เพิ่งถูกใช้ไปกับหนังเรื่องก่อนหน้าอย่าง Into The Woods ซึ่งค่อนข้างได้รับคำชมพอสมควร เมื่อนำมาใช้ในผลงานเรื่องนี้ ในช่วงแรกอาจทำให้ผู้ชมสับสนเล็กน้อยว่าอะไรเป็นอะไร แต่ทุกอย่างจะค่อยๆเฉลยทีละน้อยเมื่อเรื่องราวดำเนินไป แถมเนื้อเรื่องมีการหักมุมและชวนคาดไม่ถึงด้วย นอกจากนี้ theme ของหนังนั้นว่าด้วยเรื่องของวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเราจะได้เห็นอุปกรณ์สิ่งประดิษฐ์หลายอย่าง ตั้งแต่ของเล่นพื้นฐานที่พบเห็นได้ทั่วไปเช่น ปืนลำแสง ไปจนถึงสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำที่เห็นแล้วต้องอุทาน อื้อหือ! ด้วย สิ่งที่เป็นสีสันของหนังเลยคือการแสดงของสองนักแสดงสาว Britt Robertson ซึ่งถึงแม้อายุจะเลยวัยไฮสคูลแล้ว แต่แสดงได้เป็นธรรมชาติเข้ากับบทของตัวละครมาก(ในหนังดูเด็กกว่าโปสเตอร์เยอะ) กับสาวน้อย Raffey Cassidy ซึ่งฝีมือการแสดงยอดเยี่ยมเกินวัยจริงๆและน่ารักมากๆ ซึ่งพวกเธออาจทำให้คุณหลงรักโดยไม่รู้ตัว
สิ่งที่น่าชื่นชมจริงๆของหนังเรื่องนี้คือแนวคิดที่แฝงไว้ครับ เราจะสังเกตได้ว่าหนังทุกเรื่องของดิสนีย์จะมีการแฝงข้อคิดไว้เสมอ ซึ่งสิ่งที่เรื่องนี้ต้องการจะสื่อค่อนข้างยิ่งใหญ่และต่างออกไปจากเรื่องก่อนๆพอสมควร (ชื่อหนัง Tomorrowland ก็เหมือนจะเป็นการแฝงนัยความหมายของข้อคิดนี้ด้วย) รวมถึงมีการเสียดสีสังคมมนุษย์ในปัจจุบันที่ดูจะสุขสำราญกับเทคโนโลยีจนมองข้ามสิ่งต่างๆบนโลกไป ไม่ว่าสิ่งนั้นจะร้ายแรงขนาดไหนก็ตาม หลังจากดูจบอยากจะปรบมือให้จริงๆ และถึงแม้การดำเนินเรื่องบางจุดจะดูรวบรัดเร่งรีบจนจับประเด็นยาก โดยเฉพาะช่วงเฉลยปมหรืออธิบายสิ่งต่างๆจะไปไวมาก แต่สิ่งที่หนังต้องการสื่อนั้นเราสามารถรับรู้ได้ง่าย และยังนำไปตีความต่อยอดได้อีก ไม่แน่ว่าหลังดูจบอาจทำให้ใครหลายคนเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะเดินตามเส้นทางความฝันที่เราเชื่อมั่นด้วย
โดยรวมแล้ว Tomorrowland เป็นหนังที่ให้ทั้งความสนุกและแง่คิดดีๆ และเป็นแนวคิดที่สื่อถึงคนทุกเพศทุกวัย ไม่ควรพลาดครับ
คะแนน 8.5/10
นับว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่น่าสนใจมาก กับการที่ดิสนีย์คิดจะทำหนังที่มีแนวคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับจินตนาการ ถึงแม้กระแสรีวิวเมืองนอกจะออกมาแบบใครชอบก็ชอบ เกลียดก็เกลียดไปเลย แต่ของแบบนี้ต้องลองสัมผัสด้วยตัวเองก่อนครับ
Tomorrowland เป็นหนังที่นำแนวคิด 3 อย่างมาประกอบเข้าด้วยกัน แล้วใส่ความบันเทิงสนุกสนานตามสไตล์ดิสนีย์เข้าไป อันได้แก่ จินตนาการ ความเชื่อมั่น และความใฝ่ฝัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สามารถแฝงในหนังแบบกลมกลืนแนบเนียนไปกับการดำเนินเรื่องได้ดีมาก ขณะที่ดูไปผู้ชมจะซึมซับกับแนวคิดเหล่านี้ได้ตลอด
เรื่องราวของ Tomorrowland เป็นเหตุการณ์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งเล่าผ่านมุมมองของสองตัวเอกของเรื่องก่อนที่จะมาบรรจบกันในภายหลัง อันได้แก่เรื่องราวของตัวเอกชาย แฟรงค์ วอล์คเกอร์ นักประดิษฐ์อัจฉริยะในวัยเด็ก ที่ได้มีโอกาสเข้าไปเยือนดินแดนสุดไฮเทคดั่งโลกอนาคต Tomorrowland และตัวเอกหญิง เคซี่ นิวตั้น สาวไฮสคูลผู้คลั่งไคล้ในเรื่องดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ซึ่งเหตุการณ์บางอย่างทำให้เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับดินแดน Tomorrowland ด้วย นอกจากสองตัวละครหลักแล้ว ยังมีสาวน้อยปริศนานาม อาธีนา เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อเนื้อเรื่อง
จะว่าไปการเล่าเรื่องแนวนี้ก็เพิ่งถูกใช้ไปกับหนังเรื่องก่อนหน้าอย่าง Into The Woods ซึ่งค่อนข้างได้รับคำชมพอสมควร เมื่อนำมาใช้ในผลงานเรื่องนี้ ในช่วงแรกอาจทำให้ผู้ชมสับสนเล็กน้อยว่าอะไรเป็นอะไร แต่ทุกอย่างจะค่อยๆเฉลยทีละน้อยเมื่อเรื่องราวดำเนินไป แถมเนื้อเรื่องมีการหักมุมและชวนคาดไม่ถึงด้วย นอกจากนี้ theme ของหนังนั้นว่าด้วยเรื่องของวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเราจะได้เห็นอุปกรณ์สิ่งประดิษฐ์หลายอย่าง ตั้งแต่ของเล่นพื้นฐานที่พบเห็นได้ทั่วไปเช่น ปืนลำแสง ไปจนถึงสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำที่เห็นแล้วต้องอุทาน อื้อหือ! ด้วย สิ่งที่เป็นสีสันของหนังเลยคือการแสดงของสองนักแสดงสาว Britt Robertson ซึ่งถึงแม้อายุจะเลยวัยไฮสคูลแล้ว แต่แสดงได้เป็นธรรมชาติเข้ากับบทของตัวละครมาก(ในหนังดูเด็กกว่าโปสเตอร์เยอะ) กับสาวน้อย Raffey Cassidy ซึ่งฝีมือการแสดงยอดเยี่ยมเกินวัยจริงๆและน่ารักมากๆ ซึ่งพวกเธออาจทำให้คุณหลงรักโดยไม่รู้ตัว
สิ่งที่น่าชื่นชมจริงๆของหนังเรื่องนี้คือแนวคิดที่แฝงไว้ครับ เราจะสังเกตได้ว่าหนังทุกเรื่องของดิสนีย์จะมีการแฝงข้อคิดไว้เสมอ ซึ่งสิ่งที่เรื่องนี้ต้องการจะสื่อค่อนข้างยิ่งใหญ่และต่างออกไปจากเรื่องก่อนๆพอสมควร (ชื่อหนัง Tomorrowland ก็เหมือนจะเป็นการแฝงนัยความหมายของข้อคิดนี้ด้วย) รวมถึงมีการเสียดสีสังคมมนุษย์ในปัจจุบันที่ดูจะสุขสำราญกับเทคโนโลยีจนมองข้ามสิ่งต่างๆบนโลกไป ไม่ว่าสิ่งนั้นจะร้ายแรงขนาดไหนก็ตาม หลังจากดูจบอยากจะปรบมือให้จริงๆ และถึงแม้การดำเนินเรื่องบางจุดจะดูรวบรัดเร่งรีบจนจับประเด็นยาก โดยเฉพาะช่วงเฉลยปมหรืออธิบายสิ่งต่างๆจะไปไวมาก แต่สิ่งที่หนังต้องการสื่อนั้นเราสามารถรับรู้ได้ง่าย และยังนำไปตีความต่อยอดได้อีก ไม่แน่ว่าหลังดูจบอาจทำให้ใครหลายคนเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะเดินตามเส้นทางความฝันที่เราเชื่อมั่นด้วย
โดยรวมแล้ว Tomorrowland เป็นหนังที่ให้ทั้งความสนุกและแง่คิดดีๆ และเป็นแนวคิดที่สื่อถึงคนทุกเพศทุกวัย ไม่ควรพลาดครับ
คะแนน 8.5/10
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
ชอบที่หนังแฝงข้อคิดความเป็นคนคิดบวก ไม่ยอมแพ้ คือหนังเกือบดี เสียแต่ที่บทมันหลวมไปนิด
ช่วงหลัง ดิสนี่ หลุดๆเยอะ ตั้งเเต่อินทูเดอะวูด
ขอถามครับ อาเทน่า ใช่คนเดียวกับที่เป้นตัวละคร นาตาเลีย ใน resident evil revelation2 หรือป่าว
คงเป็นความรักในวัยเด็กของตาลุงนั่น
หากจบแบบเกินเลย มันจะเหมือนตาแก่ซัดเด็กไปนิด
สงสัยนิดนึงครับว่า..
แบบว่าจำรายละเอียดบางจุดไม่ค่อยได้อะครับ บางจุดเลยงงว่าที่มาที่ไปมันเป็นยังไง
สงสัยนิดนึงครับว่า..
แบบว่าจำรายละเอียดบางจุดไม่ค่อยได้อะครับ บางจุดเลยงงว่าที่มาที่ไปมันเป็นยังไง
โอ้ว สงสัยจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ขอบคุณครับ ^^
ชะ ใช่หรือครับ มันชะลอวัยได้ขนาดนั้นเลยหรือครับ ฮ๋าๆ
น่าจะพูดประชดประชันกันหรือเปล่าหว่า
http://www.imdb.com/title/tt1964418/reviews?ref_=tt_urv
เพราะผมไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว ดูเพราะแม่อยากดูจอร์จ คลูนี่ย์
เหมือนจะพยายามทำให้เป็นหนังเด็กๆดู ครอบครัวพามาดู แต่ผมว่าเด็กงง 100% กับเนื้อเรื่อง
แรกๆก็ดีนะ แต่หลังมันเหมือนพยายามตัดจบมากๆ เล่าเรื่องได้ห่วยจริงๆ ดูไปก็งงไป