โซนี่ได้ประกาศแผนการดำเนินงานว่าภายใน 3 ปีนับจากนี้ไป (ปี 2018) จะทำกำไรให้ได้ 4.2 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ จะมุ่งเน้นไปที่แผนกที่ทำกำไรหลักให้บริษัท ได้แก่ เซนเซอร์ภาพ ธุรกิจเกมและบริการสื่อบันเทิงต่างๆ โดยจะลงทุนในแผนกนั้นๆ มากขึ้น และแม้ว่าธุรกิจสมาร์ทโฟนของโซนี่ นั้นจะมีภาพรวมที่ดีขึ้นจากข้อมูลไตรมาสที่แล้ว แต่ก็ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง

Kaz Hirai, CEO ของโซนี่ได้กล่าวเกี่ยวกับธุรกิจทีวีและสมาร์ทโฟนไว้ว่ายังไม่มีการตัดสินใจที่จะขาย 2 ธุรกิจนี้ออกไปเพราะทางบริษัทยังคงเห็นถึงความเป็นไปได้ของ 2 ธุรกิจนี้อยู่ ตอนนี้ทางโซนี่ กำลังเน้นการลดความเสี่ยงในธุรกิจดังกล่าว และพยายามทำให้กลับมากำไรให้ได้โดยจะเพิ่มความระมัดระวัง ในการส่งสินค้าเข้าสู่ตลาดมากขึ้น

ในธุรกิจสมาร์ทโฟนนั้นโซนี่ได้ลดจำนวนรุ่นที่ผลิตลงตามที่ Hiroki Totoki หัวหน้าฝ่ายมือถือของโซนี่ ได้กล่าวไว้เมื่อปีที่แล้วและครั้งนี้โซนี่ได้บอกอีกว่ากำลังมองหาบริษัทอื่นมาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ในแผนกนี้

ที่มาของบทความแปล : [Link]

ที่มาของข่าว : [Link]

ที่มาของแผนดำเนินการจากเวปโซนี่โดยตรง : [Link]

ประกาศทางการจากเวปทางการอย่างนี้ สยบข่าวลือเรื่องขายแผนกทีวีและมือถือต่างๆนาๆทั้งหมดเลยทีเดียว
ไม่ขาย แต่เน้นการทำสินค้าให้ได้ผลที่ลดความเสี่ยงลงเท่านั้น

ถ้าอย่างนั้น Z4 มาแน่นอน ถ้าจะรอดได้แบบไม่เจ็บตัว Z5 เป็นต้นไปต้องขายรุ่นธงปีต่อปีพอเถอะนะเฮีย

ซื้อแน่นอนครับ

ไม่ใช่ Z4 มา ประกาศขาย Xperia 55555 (ล้อเล่น)

รอสอย ultima Xperia อยู่นะsony เปลี่ยนเป็นปีล่ะรุ่นแล้วอัดของเยอะๆเถิด

ผมก็เชื่อว่าโซนี่ไม่ขายทั้งธุรกิจทีวีและมือถือหรอกครับ
ทีวี มีความเป็นไปได้ที่จะไปได้ดีกับ Playstation แต่ก็ต้องดูโอกาสอื่นๆ ประกอบด้วย เพื่อแข่งกับแบรนด์เกาหลี
ส่วน Xperia คิดว่าถ้าจะทำแบรนด์ให้หรูหราอยากให้ใช้บทเรียนจาก Samsung (ที่กำลัง drop) และปรับปรุงระบบ Logistics ให้มันดีดี อาจจะดีขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเพิ่มความอิสระให้กับทั้ง 2 BU ด้วย

คือเอาจริงๆ ที่ทีวี และมือถือ กำลังแย่ตอนนี้ก็เพราะ เป็นตลาดที่มีการแข่งขันที่สูงขึ้นมาก

ด้วยทั้ง Hardware ที่เติบโตเร็วสุดๆ Software ก็มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย(ทั้งภาษาใหม่เกิด ทั้งภาษาเดิมเปลี่ยนรูปแบบ)

จะเห็นว่าทีวีตั้งแต่ปี 2010 มา ถูกตีแตกมาตลอดเพราะแบรนด์เกาหลีอัดฟีเจอร์ซัดใส่โครมๆๆ spec กับคุณภาพถึงจะดีกว่าเขาจริงแต่มันทำให้ต้นทุนสูงกว่าเขาด้วย แถมขายได้น้อยเพราะยังติดที่ว่า ทีวีก็คือจอแสดงผลเฉยๆ แต่ของเกาหลี มีซอฟท์แวร์ที่ทำงานอย่างอื่นได้ด้วย เหอๆ

มือถือที่สุดจริงๆ โซนี่ตีตลาดโลกไม่ค่อยได้ ได้ที่ดีจริงๆก็เป็นหย่อมๆ เช่น มาเลเซีย ยุโรป (ไทยเราส่วนน้อยนะแต่เติบโตโดยมี %สูงสุดใน SE-Asia) เพราะใช้แนวการตลาดโดยเปิด store เองขายไปทั่วโลก แต่แย่ที่การประชาสัมพันธ์มีน้อยมาก ตรงนี้ก็เป็นจุดด้อยที่ค่ายอื่นใช้วิธีผูกสัญญาทาสกับค่ายมือถือเอา ค่ายมือถืออยากได้สัญญาทาสเยอะๆ ก็เชียร์คนใช้ให้ซื้อมือถือเพิ่มอีกแรง
เพิ่งจะมาตั้งแต่ Z3 นี่ละมังเริ่มเห็นแนวการตลาดที่เปลี่ยนไป (จะเห็นว่าท่านประธานบอกว่าช่วงไตรมาสหลังของปี 2013ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยสำหรับมือถือ)

ต้องเอาใจช่วยค่อนข้างมาก สาวกก็ต้องอุดหนุนเป็นแรงเสริม (แต่จะอุดหนุนยังไงไหวหว่า XZ ในมือผมเข้าปีที่สามละยังไม่งอแงเลยให้ตายดิ)

เรื่องขายทีวีเนี่ย เหตุเกิดเพราะว่า sony มันแถลงว่าจะแยกเป็นอีกบริษัทนึง ทำให้หลายๆ คนก็คิดว่า จะเตรียมตัดหางปล่อยวัดรึเปล่า

แต่จริงๆ ไอ้ที่บอกว่าจะแยกบริษัทน่ะ มันพูดตั้งกะปีที่แล้วแล้ว แต่ปีนี้ยังทำไม่สำเร็จ คราวนี้เลยแถลงอีกรอบว่าจะทำให้เสร็จให้ได้

ส่วนสาเหตุที่แยก ก็บอกไว้ชัดเจนอยู่แล้วคือ ตอนนี้เวลาตัดสินใจอะไรมันจะต้องขึ้นกับ sony ใหญ่ทั้งหมด ทำให้บางครั้งมันตามสภาพตลาดไม่ทัน ก็เลยคิดจะแยก

นี่แหละครับ ประเด็น
แล้วคนเขียนข่าวก็เฮโลตีไข่ใส่เพิ่มแล้วเดาไปว่าแยกเพื่อเตรียมขายทิ้ง

จริงๆ บริษัทญี่ปุ่นที่ผลิตทีวีตอนนี้ทุกบริษัทก็ ปรับโครงสร้างองค์กรณ์กันยกใหญ่ครับ ไม่ได้มีแค่พี่หนี้หรอก

อย่างพานานี่หนีไปเน้นทำแผนกเครื่องใชัในบ้าน การแพทย์ และระบบในรถยนตร์แทน
ส่วน Toshiba นี่แผนกทีวีก็ขาดทุนมาหลายปีเหมือนกัน ปิดโรงงาน ปลดพนักงานออก

ตลาดมือถือโซนี่ลำบากนะครับ เจอพวกยี่ห้อจีนสเป๊คดีๆราคาถูกคุณภาพดี

Z เรารอเปลี่ยนเป็น Z5 เลยละกัน