หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Drakengard 3 ถ้าไม่นับ Nier ที่เป็นภาค spin off แล้วล่ะก็ห่างหายไปนานถึงเกือบ 10 ปีเลยทีเดียว มีอะไรน่าสนใจบ้างเรามาดูกัน

...จริง ๆ น่าสนใจมากเลยนะ ซื้อมาเล่นขำ ๆ ไป ๆ มาเก็บหมด แถมชอบมาด้วย เป็นหนึ่งใน Top 5 ของปีนี้สำหรับผมเลยครับ

เนื้อเรื่องย่อ: เป็นเนื้อเรื่องช่วงก่อนภาคแรกและไม่มีอะไรเกี่ยวดองกันแบบพิเศษ ในอดีตนานแสนนานมาแล้ว (แต่ดันมีตึกมีคอนโด) โลกตกอยู่ในยุคมืดบัดซบ มีสงครามและการกดขี่ข่มเหงไปทั่ว จนกระทั่งวันหนึ่งเหล่า "อุตะฮิเมะ" (เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง หรือ Intoner ในภาคภาษาอังกฤษ) เสด็จลงมาโปรดสัตว์ด้วยพลังเวทมนตร์แห่งเสียงเพลง "อุตะอุไต" (ความปรารถนาในการขับร้อง) เหล่าพี่น้องเทพเพลงทั้ง 5 องค์จึงได้ปกครองทั้ง 5 ดินแดนอย่างผาสุข โดยมีพี่คนโตคือ "วัน (One)" คอยร่วมสามัคคีพี่น้อง 5 สาวสวย

ทว่า อยู่มาวันหนึ่ง พี่ใหญ่ที่แท้จริงมีนามว่า "ซีโร่ (Zero)" บินมาพร้อมกับมังกรคู่ใจ มาถึงมาไล่ฆ่าเหล่าน้องสาวเพราะว่า "โลกนี้ไม่ต้องการอุตะฮิเมะถึง 5 คนหรอก" ว่าแล้วก็ได้เวลาที่ผู้เล่นจะละเลงเลือดทั้ง 5 อาณาจักรให้มันเละเทะไปเลย

ส่วนที่เหลือเบื้องลึกเบื้องหลัง จะแฝงอยู่ในเนื้อหาบริบทหรือบทสนทนาในเกมเองครับ รับรองว่างงแน่ แล้วก็ตามประสาซีรีย์ Drag-On Dragoon รับรองว่า *เซ็นเซอร์* กับ *เซ็นเซอร์* และ *เซ็นเซอร์* แน่นอน ยังไงเดี๋ยวพูดถึงอีกทีในเนื้อหาข้างล่าง 

กราฟฟิค

ขอบอกไว้เลยว่าต้องปลงครับ ปลงก่อนเลย เผลอ ๆ ปลงยิ่งกว่าตอน Nier อีก คำพูดสบประมาทที่ว่าประมาณ PS2 หรือแม้กระทั่ง PSP ไม่ได้พูดเกินเลยแต่อย่างใด ทุเรศได้ถึงระดับนั้นจริงครับ โมเดลที่ตั้งใจปั้นมีแค่เหล่าตัวเอกหกสาว ผู้ติดตาม มังกร กับบอส ที่เหลือเอาพอให้ดูออกว่านี่ก้อนหิน นี่ต้นไม้ นี่ทหารนะ เรียกได้ว่าไม่แคร์สื่อเลย เท่านั้นยังไม่พอครับ เฟรมยังสามารถตกได้อย่างน่าเกลียดมาก ตกไปที่ประมาณ 20 เฟรมหรือต่ำกว่า เรียกมังกรมาช่วยพ่นไฟก็ทำให้ภาพเกือบค้างได้ หมุนจอเร็วไปก็มีสกรีนเทียร์ริ่งให้ดูแล้วช้ำใจเล่น คนทำเกมในส่วนนี้จบจากสถาบันไหนน่าส่งลูกไปเรียนจัง สาเหตที่เป็นแบบนี้พอเดา ๆ ดูว่าฉากทั้งฉากคงโหลดออกมาหมดทีเดียวไม่ได้กั๊กไว้เป็นโซน ๆ ครับ เพราะฉากที่มองกว้างมากผู้เล่นสามารถมองจากสุดฉากทางนี้แล้วเห็นศัตรู (พร้อมหลอดเลือด) จากอีกสุดฉากทางนั้นได้เลย.............ไม่ก็แค่ทำเกมไม่เป็นหรือจงใจกวนบาทาคนเล่นนั่นแหละ มันอดคิดแบบนี้ไม่ได้จริง ๆ

โดยส่วนตัวแล้ว ผมให้อภัยไม่ได้แค่เรื่องเฟรมตกน่าเกลียดนะครับ เพราะว่าไม่ได้อยู่ฝั่งกราฟฟิคเท่าไหร่ เกมไหนสวยก็คือกำไรสายตา เกมไหนไม่สวยก็ขอตัดคะแนนออกบ้าง ส่วนเกมนี้.....ปลงเถอะ

นี่คือตั้งใจปั้นที่สุดแล้ว...

เดือนนี้มีเกม PS2 ออกด้วยเหรอ ?

ระบบ / เกมเพลย์

ในส่วนของพื้นฐานแล้วจะออกมาเป็นเกมตะลุยด่านทั่วไป ออกมาคล้ายกับพวกซีรีย์มุโซอยู่พอสมควร แตกต่างที่ศัตรูจะออกมาจำนวนน้อยกว่าแต่มีความสมดุลและยากกว่า รวมถึงมีชนิดศัตรู บอสรอง แล้วก็เหล่าขบวนบอสทั้งขนาดเท่าผู้เล่นและขนาดเท่าตึกอีกจำนวนมาก บางครั้งไม่ได้สู้บนพื้นอย่างเดียวต้องขึ้นมังกรลุย การพัฒนาตัวละครก็จะอาศัยการเก็บค่าประสบการณ์เพื่อเลเวลอัพค่า HP และค่า Stamina 2 อย่าง ที่เหลือก็จะเป็นการหาเงินเพื่อนไปซื้อและพัฒนาอาวุธ โดยทั้งเงินและอาวุธนั้นจะมีหน้าที่เป็นของซ่อนอยู่ตามด่านต่าง ๆ ด่านละสามหีบเป็นความลับให้ผู้เล่นค้นหา ทั้งเลเวลอาวุธและเงินนอกจากจะหาในเนืื้อเรื่องหลักแล้วเกมยังเสนอเควสเสริมมากมายมาให้เล่นด้วย ตัวอาวุธนั้นจะมี 4 ชนิดคือ ดาบ หอก หมัด แล้วก็จักร (chakram) มีขนาด ชนิด และความสามารถพิเศษต่างกันออกไปหลายอย่าง เลือกใช้งานได้ตามความถนัดของผู้เล่น แถมยังเปลี่ยนไปมา 4 อย่างระหว่างคอมโบได้อีกด้วย แต่เอาเข้าจริง ๆ เล่นจนทะลุปรุโปร่งแล้วผมไม่ได้ใช้งานพวกคอมโบเท่าไร ส่วนใหญ่เน้นโจมตี 1 ทีแรง ๆ แล้วพุ่งหลบเรื่อย ๆ เสียมากกว่า พูดได้อีกอย่างคือชั้นเชิงของคิวบู๊เกมนี้ถึงจะมีหลากหลาย แต่ไม่ได้ลึกล้ำลึกซึ้งมากกว่าเกมแอคชั่นที่เน้นไปทางด้านนี้โดยเฉพาะครับ (ยกตัวอย่างเช่นซีรีย์ Devil May Cry) เน้นท่าหากินท่าเดียวอยู่จะกลายเป็นเล่นง่ายไปเลย

ตามที่ได้กล่าวไปว่าเฟรมตก ภาพกากตดเกินห้ามใจ แต่ไม่อาจจะห้ามความสนุกของเกมนี้ไปได้ ขอพูดเน้น ๆ ชัด ๆ ไปเลยนะครับว่า Drag-On Dragoon 3 แม่-มันทุกเม็ด สะใจทุกดอก ทำได้ไงสนุกแบบนี้เนี่ย จากเกมซื้อมาเล่นขำ ๆ เพราตามซีรีย์นี้ กลับกลายเป็นขึ้นหิ้งติดอันดับในดวงใจเรียบร้อย โดยเฉพาะฉากขี่มังกรกับสู้บอสนี่โอ้โห ยิงลูกไฟทีคนที่เล่นอยู่ก็อยากจะพ่นตามไปด้วย ศัตรูกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทางก็มันในอารมณ์สุด ๆ โดนตีทีเลือดลดฮวบ ๆ ก็พาลใจหายไปด้วย สู้กับบอสก็สนุกมาก โอ้พระเจ้าจอร์จ... 

แถมบอสใหญ่ตัวสุดท้ายนี่คนสร้างไม่อยากให้เราจบเกมสุด ๆ เล่นแล้วอยากไปบีบคอมัน ใครคิดเนี่ย น่าฆ่าทิ้งมาก ถ้าได้ลองแล้วก็จะรู้ซึ้งครับ ไม่สปอยล์

ทำเควสหาเงินมาซื้อ+อัพเกรดอาวุธ

ไฝว้กับบอสแล้วก็ขี่มังกรสู้ เป็นอะไรที่มันมาก

บท / เนื้อเรื่อง

คำจำกัดความคือ "มืดมนและน่าขยะแขยง" ครับ เป็นหนึ่งในเกมญี่ปุ่นไม่กี่เกมที่พูดคำหยาบแล้วก็พูดเรื่องเอากันฆ่ากันอย่างหน้าไม่อาย (คนรีวิวก็เขียนแบบหน้าไม่อายเหมือนกัน) แต่ไม่มีฉากเอากันนะ อย่าคาดหวังอะไรผิด ๆ ยากครับที่จะหาจิตใจที่งดงามในเกมนี้ มีตัวละครเดียวเองมั้งที่พูดได้ว่าเป็นคนดี๊ดี ที่เหลือนี่ไม่บ้ากามก็บ้าคลั่ง โอเคว่าถ้าไม่อ่านอะไรก็แค่ดูมันฆ่ากันเฉย ๆ แต่ถ้าอ่านนี่ก็จะมีความอุบาทว์ให้หลายรสชาติอยู่เหมือนกัน ความรุนแรงยังอยู่ในจุดที่ถือว่าไม่มากเท่าไร ส่วนมุกตลกอยู่ในระดับเกรด A  (ขำอึแตก) แถมเกรียนใส่ผู้เล่นในบางโอกาสด้วย เกมญี่ปุ่นน้อยเกมนักที่จะมาถึงในระดับนี้...ระดับเหนือชั้น ใครเซ็งอนิเมจ๋า cliche ซ้ำ ๆ ซาก ๆ โลกสวยอวยกันเอง เกมนี้ตอบโจทย์ของท่านได้ โลกชั่วมั่วเซ็กส์ดี สะใจ  

การดำเนินเรื่องแบบภาคก่อน ๆ ก็คือไปจบเกมแบบ A B C D ซึ่งเป็นโลกคู่ขนานกัน แต่ไปแบบเรียงต่อกันทีละขั้นไม่มีเงื่อนไขอะไรเป็นพิเศษไม่วุ่นวายกับชีวิตคนเล่น แต่ละโลกผู้เล่นก็จะได้ข้อมูลและข้อมูลที่จะแก้ปริศนาของเนื้อเรื่องเพิ่มมากขึ้น 

ถ้าภาคภาษาอังกฤษไม่เซ็นเซอร์อะไรออกไปแบบภาคก่อน ปีหน้าเราก็อาจจะได้มาร่วมแขยงกันสำหรับเกมนี้

วันนี้คุณฆ่าน้องสาวแล้วหรือยัง

นางเอกและเหล่าทาสเซ็กส์

เพลง

อยู่ตรงข้ามกับเนื้อเรื่องโดยสิ้นเชิงเหมือนแสงสว่างกับความมืด ซาวน์แทร็คของเกมนี้งดงามมากครับ สวรรค์ของคนรักเสียงเพลงเพราะ ๆ มาก เช่นเดียวกับที่เคยพูดถึงตอนรีวิว Nier (3 ปีก่อน) ไปว่า ส่วนนี้อาจจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดของเกมเลยก็เป็นได้

แล้วก็นักพากย์ซีโร่ เกิดอาการเบื่อสาวห้าวพักนี้เจอแต่สาวห้าวสาวมั่นเลยไปค้นดูว่าใครพากย์อีกฟระ...ปรากฏว่าคนพากย์คือคนเดียวกันกับอีปัญญาอ่อนริกกะในจูนิเบียวฯ (หัวเราะ) ซะงั้น

เกมบ้าเลือด แต่เพลงไม่เมทัลตาม

คะแนน 8/10

ม้ามืดสุด ๆ ถ้าภาพมันโอเคกว่านี้ได้ 9 ไปแล้วนะขอบอก เกมเพลย์ผ่าน เนื้อเรื่องผ่าน เพลงประกอบยิ่งกว่าผ่าน หนึ่งในสุดยอดแห่ง 2013 จริง ๆ

ปล. เก็บโทรฟี่ค่อนข้างง่าย ถ้าไม่นับบอสใหญ่ตัวสุดท้ายกับเควสโหด ๆ ครับ 

(Click to expand)