Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
A Simple Guide on Duty Finder
NekoDream at 2013-08-31 14:36:34 , Reads (72182), Comments (93) , Source :

ปาดได้ยังฮะ ถ้ายังจะได้ลบ
แค่จะถามว่าบางดันมันไม่บังคับใช่มั้ย

(Click to expand)


แสดงความคิดเห็น
83 more comments >>
จะอัพดาบเป็นอนิมัสเควสโครตโหดต้องซื้อหนังสือตั้ง9เล่นคิดมาได้งัยเควสแบบนี้
Akh Afah Amphitheatre Extreme

Shiva Ex นั่นแหละ
บอสจะสุ่มเลือกใช้อาวุธ โรเทชั่น อาจจะตายตัวและไม่ตายตัวในเวลาเดียวกัน แต่ถ้ารู้ว่ามันเลือกอาวุธอะไรมา จะรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ไม่ยาก

สิ่งที่ควรจำเลยคือ
บอสจะ Stack Damage Dealt ทุกๆ 1 นาที ดังนั้น มีเวลาราวๆ 9-10 นาที เพราะพอ Stack ถึง 10 แค่ Icicle Impact ก็ทำให้ตายได้ในครั้งเดียวแล้ว และ หลังจาก Stack 10 (หรือเฟสแรกดาเมจเร็วอาจจะ Stack 11) แล้วถ้าจบลูป จะ Enrage Diamond Dust ทันที

Skill Boss ทั้งหมด
Sword Mode
- Icebrand ท่านี้โดนคนเดียว 9000+ บังคับว่าต้องแชร์ดาเมจกัน ซึ่งทันทีที่เข้าโหมดนี้ มันจะใช้ท่านี้ก่อนทุกครั้งเสมอ
- Heavenly Strike กระแทกคนที่อยู่รอบๆ Shiva ให้กระเด็นออกไป
- Whiteout เสกน้ำแข็ง AOE แบบ โดนัท คล้าย Luna Dynamo ของ T9
- Auto-attack ของโหมดนี้จะมีโอกาสทำให้ติดดีบัฟ Blunt Resist Down โดยจะ Stack ไปเรื่อยถึง 8 Stack ระยะเวลา 3 นาที

Staff Mode
- Hailstorm สุ่ม AOE คล้ายๆกับ Thunder Strike ของ ลามู ห้ามยืนซ้อนกัน เฟสแรกครั้งแรกสุดจะเล็งทุกคน แต่เฟสสุดท้ายจะสุ่ม 4 คน เช่นเดียวกับ Sword Mode เข้าโหมดนี้เมื่อไหร่ Shiva จะใช้ท่านี้ทันที
- Absolute Zero เป็นท่า AOE ทั้งฉาก คล้าย Tidal Roar ของริเวียทานหรือ Tumult ของ Titan แต่ท่านี้แรงกว่ามาก และเฟสหลังๆ จะใช้ถี่ขึ้น
- Auto-attack ของโหมดนี้จะมีโอกาสทำให้ติดดีบัฟ Slash Resist Down โดยจะ Stack ไปเรื่อยถึง 8 Stack ระยะเวลา 3 นาที เช่นกัน

Bow Mode
- โหมดนี้จะมาเมื่อเข้าเฟส 3 เท่านั้น
- Glass Dance ยิง AOE 210 องศา ด้านหน้าของ Shiva เมื่อเข้า Bow Mode เธอจะใช้ท่านี้ทันที และ ทิศที่ยิง จะขึ้นกับทิศที่เธอหันหน้าก่อนลอยตัวขึ้นไปเปลี่ยนอาวุธ
- Avalanche สุ่ม 1 คน ล็อคเป้าสีฟ้า แล้วยิงเลเซอร์ธนูกระแทกเป็นเส้นตรง
- พิเศษของโหมดนี้ อัตราคริติคอลสูงมาก และ ยิงถี่มาก

Skill อื่นๆที่ใช้นอกเหนือจากแต่ละโหมด
- Icicle Impact สุ่ม AOE วงขาวๆบนพื้น ซึ่งมี Pattern ต่างกัน (อ่านรายละเอียดได้ที่ Rotation)
- Permafrost พายุขาวก่อนที่จะเสกพื้นทั้งหมดเป็นน้ำแข็ง และ ทุกคนติดสถานะ Thin Ice และ Frostbite / Thin Ice จะทำให้ลื่นระยะ 25y และ Frostbite จะ DOT ทุกคน ไม่สามารถแก้ได้ด้วย Esuna หรือ Leeche

อื่นๆ
- ขอบสนาม ห้ามไปเหยียบเด็ดขาด ถ้าโดนจะโดนขังหินน้ำแข็งแบบเดียวกับไททัน เมื่อโดนขังจะโดน DOT และ ถ้ามี AOE อะไรตรงจุดที่เราโดน ก็จะรับดาเมจไปเต็มๆ ระหว่างโดนขัง คนที่โดนได้รับ Cure ตามปกติเช่นเดิม น้ำแข็งที่ขังสามารถตีให้แตกได้ (แต่ค่อนข้างถึก)

Discuss Rotation
100%-95%
ไม่มีอะไร ชกอย่างเดียว

95%-85% สุ่ม Sword ไม่ก็ Staff อย่างใดอย่างหนึ่ง
กรณี Sword
- Icebrand
- Auto-attack
- Heavenly Strike
- Auto-attack*2
- Gracier Bash
- Auto-attack + Blunt Resist Down ไปเรื่อยๆ ถ้า dps เร็ว จะโดนแค่ 1 stack หรือไม่โดนดีบัฟเลย
- Whiteout ถ้า DPS "ช้ามาก" จะมี Whiteout ตามมาด้วย

กรณี Staff
- Hailstorm
- Auto-attack
- Absolute Zero
- Auto-attack + Slash Resist Down ไปเรื่อยๆ ถ้า dps เร็ว จะโดนแค่ 1 stack หรือไม่โดนดีบัฟเลย
- Absolute Zero ครั้งที่ 2 และ ถ้ามีครั้งที่ 3 แสดงว่า DPS "ช้ามาก"

85%-80%
- ถ้า DPS ถึงที่กำหนด (ราวๆ 89%) จะเริ่มใช้ Icicle Impact แบบทั้งห้อง โดยจะสุ่มจุดหลบให้แค่ 1 จุดเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องหลบถ้าคิดว่าหลบไม่ได้ ยอมโดนไป 1 Stack ได้เลย
- หลังจากนี้ Stack Damage Dealt จะเพิ่มมา 1 Stack แล้วหยิบอาวุธ
- ถ้าช่วงแรกใช้ Sword ตอนนี้จะใช้ Staff กลับกันถ้าช่วงแรกใช้ Staff ช่วงนี้มันก็จะใช้ Sword แทน พอเข้าช่วงนี้แล้ว ทุก Auto-attack จะแทรกดีบัฟลดต้านทานทุกครั้ง

79%-75%
เสกทหารโกเล็มน้ำแข็ง 4 ตัว
Shiva จะใช้ Sword ตลอดเฟส
- Icebrand
- Auto-attack
- Gracier Bash
- Auto-attack
- Heavenly Strike
- Auto-attack x 8 หลังจากนี้มันจะทิ้งอาวุธและ Diamond Dust

ถ้าบอสโจมตี Auto-attack ครบ 8 ครั้งหลังจาก Heavenly Strike แล้ว จะเริ่มใช้ Diamond Dust และถ้าฆ่าโกเล็มยังไม่หมดก่อนโดนแช่แข็ง = wipe
**ถ้าคิดว่า DPS ไม่ทัน เราเสนอวิธีซื้อเวลาเฟสนี้ขอรับ ด้วยการให้ Main Tank หลังแชร์ดาเมจจาก Icebrand แล้วก็ให้ MT วิ่งล่อ Shiva รอบห้องเลย เพราะกว่ามันจะฟันได้แต่ละครั้งและสกิลกว่าจะออก จะเสียเวลาราวๆ 5 วินาที แถมกว่าจะโดนฟันก็เท่ากับซื้อเวลาได้พักใหญ่ๆเลย**

74%-0%
- Icicle Impact 4 มุม
- Staff mode Rotation จะเป็นแบบนี้ตลอด
- Icicle Impact 4 มุม + ตรงกลาง และ Hailstorm สุ่ม 4 คน
- Auto-attack
- Absolute Zero *2 *3 *4 แล้วแต่ช่วง (รอบแรกใช้ 2 ครั้งแต่หลังจากนั้นจะถี่ขึ้น)
- No weapon mode > Icicle Impact แบบวงกลมไล่ทั้งฉาก

- Bow Mode Rotation
- Glass Dance
- Auto-attack*6 (Tanker ควรเปิด Awareness และ บัฟลดดาเมจ เพราะโอกาสติดคริติคอลจะสูงมาก)
- Avalanche
- Auto-attack*3
- No weapon mode > Icicle Impact แบบ 4 มุมห้อง

- หลังจากนี้ อาวุธที่ Shiva จะเลือก จะสุ่มระหว่าง Sword และ Staff ถ้า Staff Rotation จะเหมือนเดิม แต่ถ้า Sword จะมีโรเทชั่นแบบนี้

- Sword Mode Rotation
- Icebrand บังคับแชร์ดาเมจ และ มาพร้อมกับ Icicle Impact แบบ 4 แฉก + ตรงกลาง แต่สามารถแชร์และหลบ Icicle Impact ได้
- Auto-attack *2
- Glacier Bash
- Auto-attack *2 หรือ 3
- Whiteout
- Auto-attack
- Heavenly Strike
- No weapon mode > Icicle impact แบบวงกลมไล่ทั้งฉาก

- และหลังอาวุธรอบนี้ อาวุธรอบถัดไปที่มันจะเลือกจะเป็น Bow และ หลังจาก Bow ก็จะสุ่มเลือกระหว่าง Sword หรือ Staff
- สรุปง่ายๆละกันว่า เฟส 3 เริ่มที่ Staff > (**) Bow > Random(Sword หรือ Staff) > Bow > Random(Sword หรือ Staff) > Loop**
- สำคัญตรง Permafrost ท่านี้ บางทีมันก็นึกครื้มใช้สลับก่อนเปลี่ยนอาวุธและหลังอาวุธก็มีนะ อันนี้ต้องดูเอาเอง ไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะใช้ตอนไหน บางทีมันก็ใช้ตอนก่อนจะเข้า Bow Mode ถ้ารู้ว่ามันจะเข้า Bow Mode ก็วิ่งไปหลบหลัง Shiva ได้เลย

วิธีหลบ Icicle Impact ในช่วงที่ Shiva ใช้ Staff และ Hailstorm และ Icicle Impact แบบ วนทั้งห้อง



- กำหนดตำแหน่งทิศละ 2 คน จะมาร์คพื้นและมาร์คหัว หรือยังไงก็ได้ ส่วน Icicle Impact แบบวนทั้งห้อง ก็จะคล้ายๆกับบอมบ์ของไททันใน Hard Mode นั่นแหละ (แบบวงกลม) คือมันจะขึ้นมาตรงกลางก่อน และสุ่มเกิดตรงไหนจุดนึง แต่มันจะมีจุดที่ต้องระวังคือ มันจะเป็นทั้งตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกา ก็ให้วิ่งหลบไปอยู่อันที่มาหลังสุดก่อนแล้วรอตรงกลางหาย ค่อยวิ่งกลับไปตรงกลาง
- แต่ถ้ารู้สึกว่าเสียเวลานั่งสังเกตว่ามันจะเป็นวนทวนหรือตามเข็ม พอเห็นอันที่ 2 โผล่มา ก็วิ่งไปฝั่งตรงข้ามได้เลย เช่น Icicle อันแรกโผล่ที่ตำแหน่งทางด้านเหนือ เราก็วิ่งมาทางด้านใต้ แล้วรอจังหวะที่ตรงกลางมันเริ่มจะหายก็วิ่งกลับมาตรงกลาง เป็นต้น
วิธีการเตรียมพร้อมหลบ Icicle Impact ที่มีที่ว่างแบบ + และ X
- จังหวะที่ Shiva ทิ้ง Bow ไปแล้ว ถ้าที่ว่างเป็น + ครั้งต่อไป จะเป็น X เสมอ กลับกัน ถ้าครั้งแรกเป็น X ครั้งต่อไปจะเป็น + เสมอ

Discuss จุดที่น่าจะพลาดๆกัน
1. Tanker ลืมแชร์ Icebrand สำคัญมาก พลาดตรงนี้คือ Tanker ดับอนาถทันที วิธีแก้ ทุกครั้งที่มันลอยขึ้นฟ้าเข้าโหมดดาบ ให้วิ่งเข้าหาปาร์ตี้ทันที ห้ามรอ เพราะพอมันใช้ดาบ มันจะ Icebrand ทันที
2. Glacier Bash ท่านี้ ห้ามหันไปโดนคนอื่น ความแรงจะทวีคูณตามจำนวนคนที่โดน สำคัญมาก
3. จุดที่ DPS และ Healer ตายค่อนข้างบ่อยคือ Grass Dance ทุกครั้งที่บอสลอยขึ้นฟ้าและใช้ธนู จะไม่สามารถทำให้ Shiva หันทิศทางได้ สำคัญมาก เพราะ ทันทีที่เธอหยิบธนูมาใช้เมื่อไหร่ เธอหันไปด้านไหน Grass Dance ก็จะยิงไปทางด้านนั้นในรัศมี 210 องศา พูดง่ายๆ ถ้าเกิดหัน Shiva เข้าตี้ แล้วเผอิญเข้าเฟสธนูพอดี ก็ต้องวิ่งมาหลบหลังบอส
4. อีกอันไม่แพ้กัน หลบ Icicle Impact แบบวงกลม ให้นึกถึงสมัยเล่น Titan HM ตอนลูกระเบิดหล่นลงมา วิธีหลบก็คล้ายกัน และ สำคัญว่า เฟสหลังๆ อย่าโดนเลยจะดีที่สุด เพราะ สแตกโดนหนักขึ้น แค่ 1 สแตก ก็โดน Hailstorm ทีละ 4000+ ได้แล้วสำหรับ DPS และ Healer
5. Permafrost อันนี้จุดสังเกตมีแค่จุดเดียวคือ จะมีพายุขาวโผล่มาทั้งฉาก ก่อนที่จะเป็นพื้นน้ำแข็ง ถ้าเห็นพื้นขาว ห้ามขยับตัว แต่สามารถใช้สกิลได้ตามปกติ ส่วนใหญ่จะพลาดเพราะ ไม่ทันได้ดูพายุขาวนี่แหละ
6. สำหรับเฟสสุดท้าย คนที่ไม่รู้ว่ามันจะสุ่มออกอาวุธอะไร เรามึวิธีดูว่ามันจะใช้อาวุธอะไร ระหว่าง Sword และ Staff
ถ้าเป็น Sword Shiva จะลอยขึ้นไปตรงๆ
ถ้าเป็น Staff Shiva จะหมุนตัว 1 รอบระหว่างลอยตัวขึ้นไป

Tank ตอน Duty Finder
- ส่วนใหญ่มักจะให้สลับ Tank กันตอน Phase Bow ด้วยเหตุผล 3 ประการดังนี้
1. เวลาที่แทงค์หลักตอนนั้น พา Shiva ไปยังที่จุดที่กำหนด จะโดน Stack แรงขึ้น 1 Stack ถ้า Sub จังหวะนั้นไม่ได้โดน Stack จะทำให้ลดภาระของ Healer ลงได้
2. Cooldown Buff ของแทงค์ จะสามารถใช้ลดดาเมจได้สม่ำเสมอกว่าการสลับ Tank ตอนจังหวะ Sword หรือ Staff
3. Debuff ลดความต้านทานฟันและกระแทก มันจะหายพอดีก่อนที่จะเข้าโหมด Sword และ Staff ในรอบถัดไป เลยไม่ต้องมานั่งพะวงว่าจะสลับตอนนี้หรือไม่ เป็นต้น

The Dragon's Neck
เป็นเนื้อเรื่องของ Hildibrant ตอนที่ 4 โดยจะมี Trial ที่ค่อนข้างยากสำหรับ DPS ให้ลงด้วย

บอสมี 2 เฟส เป็นไฟต์ที่เรียกได้ว่า DPS Mechanic Check คือถ้า DPS ไม่เป็นงานก็ Wipe ได้ง่าย
เงื่อนไข Wipe
1. ตายหมด
2. ตกเวทีหมดทุกคน
3. หรือ อยู่ในสภาพต่อสู้ไม่ได้ทั้งหมด
แต่มีข้อยกเว้นถ้าติดสตันแล้วกลับขึ้นมาบนเวทีทัน ก็จะไม่ Wipe

Tank จับคนละตัว ที่ต้องระวังคือ Typhoon เพราะจะมีท่าพ่นลม ทำให้ตกเวทีได้ง่ายๆ
ส่วน หมึกหื่น Ultros จะมีท่าสายฟ้าช็อตรอบตัว
แมคคานิคที่ควรจำ
DPS เมื่อตีไปซักพัก Typhoon จะแบ่ง Hp จาก Ultros และ Ultros จะใช้สาปกัปปะ ( Imp ) กับ DPS ทั้งหมด
ในสภาพ Imp ถ้าไปโดน Ultros พ่นน้ำใส่ จะติดบัฟ Wet Plate 1 สแตก ตรงนี้เดียวเอาไว้ทำอะไร จะอธิบายต่อ ซึ่งจำไว้ว่า Ultros มันจะพ่นน้ำใส่แค่ 3 ครั้งเท่านั้น (4 คนรวมแล้วสูงสุดจะได้แค่ 12 สแตก)
แต่ Wet Plate ถ้าโดน AOE จาก Typhoon พ่นไฟบอลใส่ Wet Plate ที่สะสมมา จะหายหมด

แล้ว Wet Plate ไว้ทำไร
พอเข้าช่วงนึง Ultros จะสั่งให้ Typhoon ใช้ท่าพ่นลม AOE หมู่ ซึ่ง Typhoon จะมีบัฟ Invigoration ขึ้นมา 8 สแตก ซึ่ง ถ้าบัฟนี้ยังไม่หายมันก็จะร่ายท่า AOE เป่าทุกคนหล่นเวทีนั่นเอง
วิธีแก้ ให้คนที่โดน Wet Plate ไปใช้ท่า Imp Punch ใส่ Typhoon เมื่อใช้แล้ว สแตก Wet Plate จะเอาไปลบกับ Invigoration ของ Typhoon เมื่อทำให้บัฟหายได้เมื่อไหร่ Typhoon จะหยุดชาร์จท่าพ่นลม
อนึ่ง คนที่ใช้ท่า Imp Punch ใส่ Typhoon จะหลุดจากบัฟ Imp ทันที นั่นหมายความว่า มีโอกาสแค่คนละทีเท่านั้น (ได้รู้กันล่ะว่า DPS ไหนไม่เป็นงาน)

ส่วนที่เลวกว่าระดับนั้นคือ ช่วงที่ 2 Typhoon จะมาอยู่กลางฉาก ตรงนี้จะตีไม่ได้ และมันจะเริ่มเป่าลมเป็นเส้นตรงด้านหน้าและหลังของมัน แล้วมันจะหมุนตามเข็มนาฬิกาด้วย แถม DPS ทุกคนจะโดนสาปเป็นกับปะกันหมด ซึ่งแน่นอนว่า ต้องไปเอาบัฟ Wet Plate ที่ Ultros มันพ่นน้ำใส่ด้วย

ถ้าผ่านเฟสนั้นได้แล้ว คราวนี้ Typhoon จะพ่นลมแบบคอมโบล่ะ ให้พยายามยื้อวิ่งเข้าตรงกลางอย่าให้ตกเวทีเป็นอันใช้ได้
Like : Mindlody
กระทู้ยัง update ข้อมูลใหม่ๆอยู่ ดีใจ
สุดยอดมากคับ ผมปกติเล่นฮีล แต่ไม่ชอบดูไฟท์ก่อน *0* จขกท ยังอัพเดทข้อมูลรึป่าวคับ ถ้ายังยังไง ขอ ลง T5-T9 และ Ramuh(Ex) Shiva (Hard, Ex) หน่อยคับ อิอิ หรือว่าลงแล้ว เหอะๆ

sub class เล่นแท็ง Warrior เหอๆ
View all 1 comments >
ผมไม่ได้เล่นละครับ แต่คุณยูน่าซังยังอัพเดตให้ตลอด
Snowcloak
- โซนแรก มีเสาน้ำแข็งมาระหว่างทาง ซึ่งหลังเสาปักลงมา มันจะระเบิดเสาด้วย
- โซนที่ 2 มีพายุหิมะ อย่าไปยืนแช่
- โซนที่ 3 มีจุดนึงที่ต้องกำจัดมอนสเตอร์ให้หมด ถึงจะไปต่อได้
- บอสตัวแรก จะมีท่าพายุหิมะ ถ้าไม่วิ่งวอร์มอัพจะโดนสแตกน้ำแข็ง 1 แสตก ครบ 4 สแตกก็ Deep Freeze ขยับไม่ได้และโดน DOT 10 วิ
- มีลูกน้องเป็นบอมบ์น้ำแข็งด้วย ให้รีบกำจัดก่อนที่มันจะระเบิด AOE ทั้งห้อง ถ้ามันระเบิดก็จะได้แสตกด้วย
- ระหว่างสู้ไปซักพัก พื้นที่สู้จะแคบลงห้ามไปยืนตรงพื้นน้ำแข็ง
- บอสตัวที่ 2 Yeti ดาเมจพวกเราสามารถทำได้ตามปกติ แต่ บอส Hp เยอะมาก (ย้ำว่ามาก)
- ระหว่างสู้จะมีกระต่าย Sprigan Icecutter ให้ Tanker ล่อมันพ่นหิมะใส่ พวกนั้นจะกลายเป็นลูกบอลหิมะ ซึ่งสามารถทำได้ 3 ระดับ ระดับแรก ดาเมจ 200 ระดับ 2 ดาเมจ 2000-3000 ระดับ 3 ดาเมจ 30000+
- ระหว่างที่กำลังปั้นหิมะ จะมีออคน้ำแข็งออกมา ให้รีบฆ่า ไม่งั้นมันจะไล่ทำลายบอลหิมะที่เราสร้างขึ้นมา
- เมื่อปั้นบอลหิมะแล้ว ก็ตีกระแทกบอลให้กลิ้งไปชนบอส
- ท่าชาร์จบอสนี้ ไม่สามารถ Stun ได้ แต่สามารถหยุดได้ด้วยการเอาบอลหิมะไปกระแทกเท่านั้น ถ้าหยุดไม่ทัน ทุกคนจะโดนดีบัฟ โดนตีหนักขึ้น 1 สแตก
- บอสตัวที่ 3 Fenrir ระหว่างสู้จะมีพายุหมื่นปี เป็น AOE ทั้งฉาก
- มีสุ่มเสาน้ำแข็งตกลงมา 3 จุด โดย 2 จุดแรกเมื่อตกแล้วมันจะกลายเป็น AOE เส้นตรงสุ่มเป้าหมายในตี้ และ อีกเสาจะระเบิดรอบตัวเองในเวลาอีก 20 วิ (โดยประมาณ)
- ทุกๆ 2 รอบของเสาน้ำแข็งทั้ง 3 ที่ตกมา บอสจะใช้ท่า Luna Cry ให้ไปหลบหลังเสาน้ำแข็งที่เหลือต้นเดียว ก่อนที่ Luna Cry จะชาร์จเสร็จ ถ้าหลบไม่ทันจะโดน Deep Freeze และ Fenrir จะไล่ตะปบคนที่เป็นน้ำแข็งทันที (แรงมากเพราะโดน Deep Freeze แล้ว โดนดีบัฟโดนดาเมจแรงขึ้นอย่างมากอีกเป็นของแถม)

Sastasha Hard
- มอนเยอะ
- โซนที่ 2 เจอกลุ่มพวกแม่งู จะมีวิญญาณลอยเข้าหากลุ่มพวกงู ให้ DPS คนนึงคอยไล่ทำลายวิญญาณก่อนที่มันจะเข้าไปเติมพลังให้กับพวกแม่งู (พลาดคือ hp เต็ม)
- โซน 3 โจรสลัดซอมบี้อย่างเยอะ
- บอสแรก ระวังแค่ท่า Tornado หลบไม่ได้ สุ่มยิง Healer หรือ DPS ทำให้เหลือ Hp แค่ 1 แต่ท่านี้ Stun ได้
- อนึ่งจะมีสกิลสไลม์ ที่คอย DoT คนในกลุ่มไปเรื่อยๆ ให้แก้ด้วย Esuna หรือ Leeche ก่อนที่มันจะใช้ท่าทำให้เหลือ 1 (ไม่งั้นตาย)
- บอส 2 จะมี 2 ท่าที่ต้องระวังคือ ท่าชาร์จเข้ามาฟัน อันนี้ยืนเฉยๆจะไม่เป็นไร ส่วนอีกท่าจะเป็นล็อคเป้า 1 คน แล้วยิงแบบไม่หยุด แถมแรงขึ้นทุกนัดที่ยิงออกมา โดยจะมี adds โผล่มา ตรงนี้ให้รุมบอสเพื่อให้มันหยุดยิงก่อน แล้วค่อยเคลียร์ adds ที่เกิด
- บอส 3 คราเคน ไม่จำเป็นต้องทำลายหนวด สามารถตีบอสตรงๆได้เลย แต่ ทำลายบางจุดก็ดี จะได้ไม่หนักภาระฮิลเลอร์มากนัก บอสจะพ่นน้ำหมึกค่อนข้างถี่ แถมมีเทนทาเคิลที่คอยจับเราโยนไปหน้าบอสอีก ต้องระวังอย่าเข้าไปใกล้มันมาก

The Sunken Temple of Qarn Hard
- มอนสเตอร์รูปหน้า จะดรอปลูกแก้วที่ใช้เปิดประตู
- ช่วงที่ 3 จะเป็นพวกนักล่าสมบัติแทนที่ดรอปของใช้เปิดประตู
- โซนสุดท้ายก่อนห้องบอสให้ฆ่ามอนให้หมดแล้วประตูจะเปิดเข้าไปกดสวิตช์เพื่อเปิดทางไปยังห้องบอสได้
- บอสตัวแรก จะมีจุดให้เล็ง 4 จุด จุดอ่อนจะสุ่ม (ขึ้นแสงสีแดงๆแป้บเดียว) ถ้าทำลายถูกจุดแล้วมันจะตัวแตก พร้อมกับมี Adds ที่ค่อนข้างกระจอกออกมาให้ตบเล่น
- ระวังพื้นทรายดูด ถ้ามันขึ้นมา จะมีเวลาแค่ 10 วิในการวิ่งออก ถ้าเวลาหมด = ตาย
- นอกจากนี้ยังสุ่มล็อคเป้าหมาย 1 คน เอาลูกระเบิดทรายมาแปะไว้ ให้วิ่งล่อไปยังจุดที่ไม่คิดว่าจะคน แล้วปล่อยให้มันระเบิดตรงนั้นไป
- วนลูปทำลายส่วนบอส 3 รอบ พอ รอบที่ 4 จะเหลือแค่ราวๆ 5% ก็ตีมันให้พังไปได้เลย
- บอส 2 ซาโบเทนเดอร์ (อะไรซักอย่าง ไม่เคยจำชื่อมันได้เลยซักที)
- บอสจะมีท่าชาร์จเข็ม 100000 เล่ม ให้ตีมันไปจนกระทั่งมันหยุดชาร์จ
- adds จะโผล่มาเรื่อยๆทุกๆ 20% ของ Hp บอสที่ลดลงไป
- ทันทีที่เหลือ Hp 40% จะมี ซาโบเทนเดอร์การ์เดี้ยนโผล่มา และสร้างบาเรียให้กับบอส แถมบอสชาร์จเข็มแสนเล่ม รอทำให้พวกเรา wipe ในครั้งเดียว ให้รีบฆ่าการ์เดี้ยนก่อนเลย (จะ LB หรืออะไรก็แล้วแต่) หลังการ์เดี้ยนตายก็ตีบอสให้มันหยุดชาร์จ ที่เหลือก็ไม่มีอะไรแล้ว
- บอส 3 จะสุ่มเปิดโลงศพมัมมี่ 2 จุด แบบแรนด้อม ต้องดูเอาเอง แต่เส้นทางที่มัมมี่เดินจะเป็นเส้นตรง
- ถ้าไปโดนหมอกสีม่วง จะโดนสแตกคำสาปมัมมี่ 1 สแตก ครบ 4 สแตกจะกลายเป็นมัมมี่ ควบคุมตัวละครไม่ได้ระยะเวลาราวๆ 20-30 วิ
- แน่นอน ถ้า Tanker โดนสาปเป็นมัมมี่ Emnity ที่ทำไว้จะโดนรีเซ็ตด้วย
- ช่วง Hp เหลือ 40% บอสจะใช้ท่าดาบม่วง ซึ่งเป็นคลื่นมีผลเหมือนกับสาปมัมมี่ ไม่มี AOE บอก ต้องวิ่งหลบเอาเอง และจะสุ่มล็อคเป้าหมาย 1 คน ลิงค์เส้นใส่ ให้แทงค์ Stun เพื่อหยุด ไม่งั้นคนที่ตกเป็นเป้าหมายจะโดนคำสาปมัมมี่สแตกขึ้นไปเรื่อยๆจนครบ 4 สแตกได้
^
สงสัยตรงบอส 2 Satasha Hard เหมือนกับว่าตอนมันยิงปืนต้องให้ DPS ถลุงมันจนหยุดเหมือนกับกระบองเพชรของ Sunken temple hard ไม่ใช่เหรอครับ ? จากที่เคยลงมาเหมือน adds ไม่หมดมันก็หยุดเหมือนกัน จริง ๆ มีเพื่อนในกลุ่มบอกว่าให้ยืนใกล้ ๆ บอสจนบอสเล็งคนไหนให้วิ่งไปจนหลุดระยะมันจะหยุดเองแต่วิธีนี้ไม่เคยลองเองเหมือนกันครับ


ChocoboFFVII_USA wrote:
สุดยอดมากคับ ผมปกติเล่นฮีล แต่ไม่ชอบดูไฟท์ก่อน *0* จขกท ยังอัพเดทข้อมูลรึป่าวคับ ถ้ายังยังไง ขอ ลง T5-T9 และ Ramuh(Ex) Shiva (Hard, Ex) หน่อยคับ อิอิ หรือว่าลงแล้ว เหอะๆ

sub class เล่นแท็ง Warrior เหอๆ


ผมคิดว่าดูก่อนน่าจะดีกว่านะ ยิ่งระดับ EX นี่ลงสด ๆ อาจพาเพื่อน Wipe ได้ง่าย ๆ ก็ได้นะ จากที่เล่น Main Healer การรู้อะไรก่อนดีกว่าแน่นอน ที่เหลือก็อยู่ที่ฝีมือตัวเองล่ะ

ปล. ดีใจแฮะที่อัพแต่เชื่อว่าหลายคนไม่รู้แน่ ๆ ว่าจะมาที่ตรงนี้ยังไง -*-
บอส 2 นี่ผมก็ไม่ชัวร์แฮะ เคยโดนยิงเกือบไส้แตกเหมือนกัน แต่จู่ๆก็หยุดยิงไปดื้อๆ คนในทีมไล่ตีแอดกันหมด
บอสแรก satasha วันนี้ไปลงมาพอมานหันหน้ายกหางจะยิง tornado สตั๊นได้น่ะครับ cancel ท่าเลย
ไปลง Titan Ex เป็นครั้งแรกมา ไม่ผ่านครับ T-T

อ่านไกด์ของกระทู้นี้ซะดิบดี ไปเจอของจริงก็โดนตบตกเหวตายอยู่ดี "orz

พอเป็น WHM แล้วดันลงไปนอนก้นเหวคนแรก = ตี้ล่ม

แพ้รัวๆจนบัฟ The Echo ขึ้นไปถึง 25 เปอร์เซ็น แล้วก็โหวต Abandon ไป รู้สึกผิดและเฟลมากครับ

T13 Guide

ในกรณีสมาชิกในทีมยังมีชีวิตอยู่ครบทั้ง 8 คน
สกิลของ Bahamut Prime มีดังนี้
1. Megaflare จะมี 4 แบบดังนี้
แบบที่ 1 แบบสุ่มเล็งลงหัว จะสุ่มลงโดนทุกคน ยกเว้น MT รัศมี 5y รอบตัว ดังนั้น ห้ามยืนติดกันหรือใกล้กันเกินไป เพราะจะโดนของคนอื่นด้วย
แบบที่ 2 แบบ AOE บนพื้น จะสุ่มทุกคนไม่เว้นกระทั่ง MT ห้ามยืนรับโดยเด็ดขาด ดาเมจค่อนข้างแรงมาก ราวๆ 4000-5000
แบบที่ 3 แบบล็อคเป้าตัวละคร จะขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ล็อคเป้า คนที่โดน Megaflare รูปแบบนี้จะไม่มีทางโดนแบบที่ 1 เด็ดขาด (เว้นแต่ไปยืนโดนในระยะของคนที่โดนแบบที่ 1 ) ซึ่ง จะสุ่มล็อคเป้า 2-4 คน โดยที่ เมก้าแฟลร์จะสุ่ม ลงบนหัวใน 2-4 คนนั้นๆ ถ้าไม่แชร์ดาเมจ คนที่โดนเล็งจะตายแน่นอน แต่ถ้าแชร์ดาเมจน้อยคนเกินไป ก็มีโอกาสตายสูง เพราะดาเมจมันจะค่อนข้างสูงมาก ดังนั้น บังคับว่า ต้องแชร์ให้ครบทุกคนที่โดนล็อคเป้า สำคัญ "คนที่ไม่ได้โดนล็อคเป้าหมายด้วยเมก้าแฟลร์รูปแบบที่ 3 ห้ามเข้ามาแชร์โดยเด็ดขาด ไม่งั้นแล้วจะตายทันที"
แบบที่ 4 เป็นเสา AOE เล็กๆ สุ่มขึ้นมา 1 เสา โดยสุ่มที่ใครก็ได้ไม่เว้นกระทั่ง MT ต้องมีคนยืนรับดาเมจในเสานั้น มิฉะนั้น เสาจะระเบิดแล้วติด Bleeding กับยกปาร์ตี้ DOT ของ Bleeding อยู่ที่ 1200 ต่อ 3 วินาที ถ้าเป็น เฟส 2 ห้ามให้เสาระเบิดโดยเด็ดขาด
กรณีสมาชิกในปาร์ตี้มีชีวิตไม่ครบ 8 คน Mega Flare แบบที่ 3 จะมีโอกาสสุ่มโดน MT ด้วย

2. Flatten จะใช้ในเฟส 1 และ 2 เท่านั้น คล้ายท่าล้มโต๊ะ หรือท่าไม้ตายที่ทำให้ MT แทบสิ้นชีวิตในครั้งเดียว ท่านี้ดาเมจถ้าไม่เปิดบัฟจะแรงมากถึงขั้น 10000 dmg ได้เลย บังคับว่าต้องเปิดบัฟรับทุกครั้ง

3. Flare Breath พ่นไฟข้างหน้าเป็นโคน 3 เหลี่ยม ระยะเป็นอนันต์ ดังนั้นแทงค์ห้ามหันให้มันพ่นท่านี้ใส่คนในปาร์ตี้โดยเด็ดขาด ดาเมจอยู่ที่ราวๆ 4000 ถ้าไม่เปิดบัฟ และมี Shield Oath

4. Earth Shaker จะใช้ในเฟส 1 และ เฟส 4 สุ่มสัญลักษณ์สีขาว เล็งบนหัว 2 คน โดยคนที่จะถูกสุ่ม จะเป็น OT และ DPS เท่านั้น Healer จะไม่มีทางโดนท่านี้โดยเด็ดขาด ท่านี้หลังจากสัญลักษณ์บนหัวหายไปแล้ว มันจะระเบิด Earth Shaker พร้อมกับสร้าง AOE ระยะ 5y รอบตัวคนที่โดนเล็งเป้า ซึ่ง AOE นี้จะมี DOT ดาเมจที่ 2000+ และ ติดสถานะ Heavy ด้วย ดังนั้น ห้ามยืนแช่ วิธีหลบคือ พอมันระเบิดก็ให้วิ่งออก แค่นั้นแหละ แต่ Earth Shaker มันจะระเบิดทั้งหมด 3 ครั้งติดกัน

5. Gigaflare จะใช้ทุกครั้งก่อนที่จะเปลี่ยนเฟส (นั่นคือ 75% และ 51% ) และในเฟส 4 จะใช้ทุกๆครั้งที่จบ 2 โรเทชั่นของ Bahamut ดาเมจถ้าไม่มี Dragon Kick และ Virus แท้ จะอยู่ที่ราวๆ 6200+ ถ้าเป็นสาย Caster ที่มี Mag Def สูงๆ ก็จะราวๆ 5900 เป็นอย่างต่ำ ดังนั้น ก่อนมันจะร่ายท่านี้จบ อย่าลืม Dragon Kick และ Virus ด้วย จะช่วยลดดาเมจที่ได้รับลงเหลือ 4000-5000 ได้เลยทีเดียว

6. Flare Star จะเริ่มใช้ในเฟสที่ 2 เท่านั้น หลัง Bahamut ร่ายเวทนี้จบ จะสุ่มลูกบอลที่เรียกว่า Dark Aether ขึ้นมา 2-4 ลูก ทั้งหมด 3 รอบ และจะสุ่มล็อคเป้าหมายคนที่โดน ถ้ามีใครไปโดนลูกบอล ลูกบอลจะระเบิดเป็น AOE ระยะ 5-7y แน่นอนว่าถ้ามีใครอยู่ในรัศมีก็จะได้รับระเบิดนี้ด้วย ซึ่งคนที่โดนระเบิดจะติด Stack ของ Dark Aether 1 Stack โดยดาเมจจะเป็น ครั้งแรก 400 ครั้งที่ 2 3600-4000 และ ครั้งที่ 3 อาจจะถึง 10000+ ดังนั้น ห้ามโดนเกิน 2 ครั้งโดยเด็ดขาด และ การโดน Dark Aether จะส่งผลต่อดาเมจจากท่า Rage Of Bahamut อีกทอดนึง

7. Rage Of Bahamut จะใช้ในเฟส 2 เท่านั้น และจะใช้หลัง Megaflare ท่านี้ความแรงจะขึ้นกับ Stack Dark Aether ที่เราได้รับมาในแต่ละรอบ และหลังจากโดนท่านี้แล้ว จะล้าง Stack ทั้งหมดของ Dark Aether ยิ่ง Stack มาก จะยิ่งโดนดาเมจแรง ถ้ามี 3 Stack จะโดนดาเมจจาก Rage of Bahamut 12000+ ได้เลยทีเดียว (ในกรณี DPS หรือ Healer ) ดังนั้น ในช่วงระหว่างเคลียร์ Dark Aether ห้ามไม่ให้โดน Stack เกิน 2 โดยเด็ดขาด

8. Ahk Morn จะใช้ในเฟส 4 เท่านั้น โดยจะเริ่มใช้เป็นสกิลแรกของโรเทชั่นเฟส 4 ความรุนแรงมหาศาลขนาดที่ Flatten เทียบไม่ติด โดยจะเล็งใส่ MT หรือคนที่มี Enmity สูงที่สุดในทีม "จำเป็นต้องแชร์ดาเมจและเปิดบัฟลดดาเมจ" จำนวนครั้งที่ Ahk Morn จะลงใส่หัวจะเป็น "รอบของ Ahk Morn +1" เช่น Ahk Morn รอบที่ 1 จะยิงมา 2 ครั้ง Ahk Morn รอบที่ 2 จะยิงมา 3 ครั้ง เป็นต้น ในส่วนของ Healer ที่ต้องระวังเลยก็คือ ดาเมจจาก Ahk Morn ในครั้งแรกสุดของรอบนั้นๆ จะรุนแรงมากที่สุด นั่นคือ ถ้าเปิดบัฟ จะลดกันคนละ 5000-6000 และในครั้งต่อไปดาเมจจะค่อยๆลดลง แต่ดาเมจจะมาถี่ขึ้น(ขึ้นกับรอบของ Ahk Morn) ดังนั้น Healer จะต้องงัด Hp ในทันเพื่อที่จะรับลูกที่ 2 และถัดไป

9. Tempest Wing จะใช้ในเฟส 4 เท่านั้น ทุกครั้งที่มี Mega Flare และ Earth Shaker ในกรณี Mega Flare จะสุ่มเส้นลิงค์ไปหาคนในปาร์ตี้ ทั้งหมด 2 เส้น โดยจะสุ่มทั้งหมดไม่เว้นกระทั่ง Healer หรือ MT แต่ในกรณีของ Earth Shaker จะเล็งเฉพาะคนที่โดนเล็งด้วย Earth Shaker เท่านั้น ท่านี้คุณสมบัติคือ ถ้าโดนเส้นลิงค์อยู่และจบแมคคานิคของ Mega Flare หรือ Earth Shaker แล้ว จะมีพายุใส่คนที่โดนเส้นลิงค์นั้นๆ ดาเมจราวๆ 4000+ และ ถ้ามีใครอยู่ในบริเวณรัศมีรอบๆคนที่โดน Tempest Wing จะโดนดีดกระเด็นระยะ 30-40y พร้อมทั้งติดสถานะ Stun และ Tornedo (เอาง่ายๆคือ กระเด็นถึงขั้นติดขอบจอ ตายได้เลยว่างั้น) ดังนั้น การแก้แมคคานิคจะให้แทงค์เป็นคนไปตัดเส้นกลับมา เพื่อไม่ให้ไปชนกับแมคคานิคของ Mega Flare นั่นเอง (ในกรณีต้องมาแชร์ดาเมจด้วย Mega Flare รูปแบบที่ 3

10. Dive Bomb จะมีในเฟส 3 เท่านั้น ไม่มีอะไรมากแค่ว่าถ้าหลบไม่ได้จะโดนชนกระเด็นไปติดขอบสนามตายนั่นเอง โดยในเฟส 3 เราจะต้องหลบทั้งหมด 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 และ 2 จะมี Bahamut และ Storm เป็นตัว Dive การหลบ ให้ไปรวมกันตรงกลางฉาก (แล้วแต่จุดที่เรามาร์คว่าเป็น A หรือ B หรือ C แต่มันต้องเป็นกลางฉากเท่านั้น) จากนั้นดูสัญลักษณ์บนหัว เห็นสีแดงปุ้บ ให้หมุนมุมกล้องหาตำแหน่ง Bahamut ก่อน แล้วพอมาร์คเขียวขึ้นหัว ให้วิ่งฉีกไปด้านข้าง ตามตำแหน่งที่ได้นัดแนะกันตั้งแต่แรก โดยระหว่างที่เราวิ่งออก ให้หันมุมกล้องหาตัว Storm ด้วย ซึ่งถ้าเห็นตัว Storm อยู่ในแนวพุ่งที่ตรงกับจุดที่เราวิ่งอยู่ ต้องฉีกออกอีกทอดนึง ด้วยเป็นต้น แต่ในครั้งที่ 3 พอมาร์คแดงขึ้น ก็ให้วิ่งออกได้เลย เพราะจะไม่มี Storm (เนื่องจากมันลงมาสู้ หรือตายไปก่อนหน้านั้นในช่วงเวฟที่ 2 ของ phase 3 นั่นแหละ)


ดั่งรูป สมมุติหันมุมกล้องไปเจอบาฮามุทแล้ว ให้เราอิงบาฮามุทเป็น 12 นาฬิกา สมมุติถ้าเกิด Storm มันลงมาตรง 11 นาฬิกา ก็ให้วิ่งฉีกออกข้าง(สมมุติวิ่งไปทางขวา) ก็ฉีกขึ้นไปทางเหนือนิดหน่อย แต่ตำแหน่งตรงนี้มันใช่ว่า Storm จะพุ่งจาก 11 นาฬิกาเสมอไป อาจจะพุ่งจาก 9 ไป 3 หรือ 4 ไป 10 ก็ได้

อนึ่ง Dive Bomb เมื่อหลบแล้วจะมี Megaflare เหมือน Phase 1 ทุกประการเลย คือ สุ่มเล็งบนหัว บนพื้น และ ล็อคเป้า แต่คนที่โดนล็อคเป้าจะมีแค่ 2 คนเท่านั้น

คุณสมบัติ Adds แต่ละตัวในเฟส 2-3
เฟส 2
จะมีแค่ Shadow of Meracydia ตัวนี้ถ้าอยู่ใกล้ๆกับ Bahamut จะลิงค์เส้นกัน ทำให้ทั้งตัว Bahamut และ Shadow ตีแรงขึ้น และ ป้องกันสูงขึ้น ดังนั้น ห้ามให้ 2 ตัวนี้อยู่ใกล้กันจนมีเส้นลิงค์เด็ดขาด อนึ่ง ระยะห่างที่ทำให้ยังมีเส้นลิงค์อยู่ก็คือ เกือบครึ่งห้อง ดังนั้น ต้องแยก 2 ตัวนี้ให้อยู่ห่างกันคนละมุมห้องเลย
เฟส 3
1. Pain of Meracydia มีท่าตบกวาด ห้ามคนอื่นที่ไม่ใช่แทงค์ไปยืนข้างหน้าโดยเด็ดขาด และมีท่าตวัดหาง เป็น AOE โคน สามารถมองเห็นได้
2. Blood of Meracydia ตอนมัน Spawn มา จะมีบัฟสุ่มขึ้นมาระหว่าง ป้องกันกายภาพ หรือ ป้องกันเวทมนตร์ หลังจากมัน Spawn มาได้ 9 วินาที มันจะสลับบัฟจากป้องกันกายภาพเป็นเวทมนตร์ หรือ จากป้องกันเวทมนตร์ เป็นกายภาพ แต่ตัวนี้ Hp น้อยมาก เป็นไปได้ ควรเอามันลงไปก่อนเป็นอันดับแรก
3. Gust of Meracydia รูปร่างคล้ายแมลงปอ ตบไม่แรงมาก แต่เจ้าตัวนี้มันจะเป็นอาหารให้กับ Pain of Meracydia ถ้านำมันเข้าไปในระยะใกล้ๆกัน แน่นอนว่า ถ้า Pain กิน Gust เข้าไปปุ้บ Hp มันจะเต็มทันทีและ Max Hp + Dmg มันจะเพิ่มขึ้น ดังนั้น ห้ามเอาเข้าไปใกล้ Pain โดยเด็ดขาด ถ้า Pain ยังมี ชีวิตอยู่
4. Sin of Meracydia เป็นมังกรตัวสีฟ้าเข้ม หลังจากมันเกิดผ่านไป 15 วินาทีโดยประมาณ มันจะหันไปสุ่มพ่นดาเมจใครคนนึงและกระจายดาเมจใส่คนรอบข้าง โดยดาเมจที่ได้รับจะขึ้นกับ % Hp ที่เหลืออยู่ของ Sin ดังนั้นควรลด Hp มันให้มากที่สุดก่อนที่มันจะพ่น อนึ่ง ถ้ามันมี 2 ตัว ควรเอาตัวใดตัวนึงให้ลงไปก่อนที่มันจะพ่นใส่คนในปาร์ตี้
5. Storm of Meracydia คล้าย Twintania ใน T5 ท่าหลักๆเลยคือมี Plummet (ทับใส่คนที่ Enmity สูงสุดในกลุ่ม และ คนรอบๆในระยะ) และ Death Sentence ที่ตวัดหางใส่ Tanker แบบไม่ปราณี ดาเมจราวๆ 7000-10000 ได้เลยในทีเดียว (กรณีไม่เปิดบัฟลดดาเมจ) และหลังจากตัวนี้ตาย มันจะทิ้ง AOE ที่เรียกว่า Flare Dampening ซึ่งจะลดดาเมจที่เรากระทำได้ถ้าไปอยู่ข้างใน AOE และ ลดดาเมจที่ได้รับจาก Tera Flare

โรเทชั่น Bahamut Prime
Phase 1
Flare Breath
Mega Flare
Flare Breath
Flatten
Flare Breath x 3
Earth Shaker
Loop

Phase 2
Add Spawn "Shadow" (ครั้งแรกที่ 12 นาฬิกา ครั้งที่ 2 ที่ 7 นาฬิกาและครั้งที่ 3 ที่ 5 นาฬิกา ตามลำดับ)
Flare Star
Flare Breath
Flatten
Flare Breath
Mega Flare
Flare Breath
Rage of Bahamut
Loop (ไม่ควรครบ 3 ครั้ง)

Phase 3
Dive Bomb x2
Add Spawn
Blood ที่ 3 นาฬิกา & Pain ที่ 9 นาฬิกา
Gust x3 ที่ 10 , 2 และ 6 นาฬิกา
Sin ที่ 12 และ 6 นาฬิกา
ตำแหน่ง [Link]
Dive Bomb x2
Add Spawn
Storm ที่กลางฉาก
Blood ที่ 12 นาฬิกา
Gust x2 ที่ 6 นาฬิกา
Sin ที่ 3 นาฬิกา
Pain ที่ 9 นาฬิกา
ตำแหน่ง [Link]
Dive Bomb 1 ครั้ง
Tera Flare

Phase 4
Ahk Morn
Mega Flare
Earth Shaker
Flare Breath
Ahk Morn
Mega Flare
Earth Shaker
Giga Flare
Loop
ถ้าครบ 14 นาทีแล้วยังล้มบอสไม่ได้
Giga Flare Enrage

แนวทางการเล่นของ PLD ในกรณีที่เป็น MT (กรณีมี Hallowed Ground)



แนวทางการเล่น War หรือ OT



แนวทางการเล่นของ DPS ทั้ง Melee และ Range



แนวทางเล่น Healer


อื่นๆไว้ก่อน ว่างค่อยเขียนต่อ