<<
<
2
3
4
5
6
7
Reply
Vote
# Wed 12 Nov 2014 : 5:57AM
ไปลง Titan Ex เป็นครั้งแรกมา ไม่ผ่านครับ T-T
อ่านไกด์ของกระทู้นี้ซะดิบดี ไปเจอของจริงก็โดนตบตกเหวตายอยู่ดี "orz
พอเป็น WHM แล้วดันลงไปนอนก้นเหวคนแรก = ตี้ล่ม
แพ้รัวๆจนบัฟ The Echo ขึ้นไปถึง 25 เปอร์เซ็น แล้วก็โหวต Abandon ไป รู้สึกผิดและเฟลมากครับ
อ่านไกด์ของกระทู้นี้ซะดิบดี ไปเจอของจริงก็โดนตบตกเหวตายอยู่ดี "orz
พอเป็น WHM แล้วดันลงไปนอนก้นเหวคนแรก = ตี้ล่ม
แพ้รัวๆจนบัฟ The Echo ขึ้นไปถึง 25 เปอร์เซ็น แล้วก็โหวต Abandon ไป รู้สึกผิดและเฟลมากครับ
# Wed 17 Jun 2015 : 1:58PM
T13 Guide
ในกรณีสมาชิกในทีมยังมีชีวิตอยู่ครบทั้ง 8 คน
สกิลของ Bahamut Prime มีดังนี้
1. Megaflare จะมี 4 แบบดังนี้
แบบที่ 1 แบบสุ่มเล็งลงหัว จะสุ่มลงโดนทุกคน ยกเว้น MT รัศมี 5y รอบตัว ดังนั้น ห้ามยืนติดกันหรือใกล้กันเกินไป เพราะจะโดนของคนอื่นด้วย
แบบที่ 2 แบบ AOE บนพื้น จะสุ่มทุกคนไม่เว้นกระทั่ง MT ห้ามยืนรับโดยเด็ดขาด ดาเมจค่อนข้างแรงมาก ราวๆ 4000-5000
แบบที่ 3 แบบล็อคเป้าตัวละคร จะขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ล็อคเป้า คนที่โดน Megaflare รูปแบบนี้จะไม่มีทางโดนแบบที่ 1 เด็ดขาด (เว้นแต่ไปยืนโดนในระยะของคนที่โดนแบบที่ 1 ) ซึ่ง จะสุ่มล็อคเป้า 2-4 คน โดยที่ เมก้าแฟลร์จะสุ่ม ลงบนหัวใน 2-4 คนนั้นๆ ถ้าไม่แชร์ดาเมจ คนที่โดนเล็งจะตายแน่นอน แต่ถ้าแชร์ดาเมจน้อยคนเกินไป ก็มีโอกาสตายสูง เพราะดาเมจมันจะค่อนข้างสูงมาก ดังนั้น บังคับว่า ต้องแชร์ให้ครบทุกคนที่โดนล็อคเป้า สำคัญ "คนที่ไม่ได้โดนล็อคเป้าหมายด้วยเมก้าแฟลร์รูปแบบที่ 3 ห้ามเข้ามาแชร์โดยเด็ดขาด ไม่งั้นแล้วจะตายทันที"
แบบที่ 4 เป็นเสา AOE เล็กๆ สุ่มขึ้นมา 1 เสา โดยสุ่มที่ใครก็ได้ไม่เว้นกระทั่ง MT ต้องมีคนยืนรับดาเมจในเสานั้น มิฉะนั้น เสาจะระเบิดแล้วติด Bleeding กับยกปาร์ตี้ DOT ของ Bleeding อยู่ที่ 1200 ต่อ 3 วินาที ถ้าเป็น เฟส 2 ห้ามให้เสาระเบิดโดยเด็ดขาด
กรณีสมาชิกในปาร์ตี้มีชีวิตไม่ครบ 8 คน Mega Flare แบบที่ 3 จะมีโอกาสสุ่มโดน MT ด้วย
2. Flatten จะใช้ในเฟส 1 และ 2 เท่านั้น คล้ายท่าล้มโต๊ะ หรือท่าไม้ตายที่ทำให้ MT แทบสิ้นชีวิตในครั้งเดียว ท่านี้ดาเมจถ้าไม่เปิดบัฟจะแรงมากถึงขั้น 10000 dmg ได้เลย บังคับว่าต้องเปิดบัฟรับทุกครั้ง
3. Flare Breath พ่นไฟข้างหน้าเป็นโคน 3 เหลี่ยม ระยะเป็นอนันต์ ดังนั้นแทงค์ห้ามหันให้มันพ่นท่านี้ใส่คนในปาร์ตี้โดยเด็ดขาด ดาเมจอยู่ที่ราวๆ 4000 ถ้าไม่เปิดบัฟ และมี Shield Oath
4. Earth Shaker จะใช้ในเฟส 1 และ เฟส 4 สุ่มสัญลักษณ์สีขาว เล็งบนหัว 2 คน โดยคนที่จะถูกสุ่ม จะเป็น OT และ DPS เท่านั้น Healer จะไม่มีทางโดนท่านี้โดยเด็ดขาด ท่านี้หลังจากสัญลักษณ์บนหัวหายไปแล้ว มันจะระเบิด Earth Shaker พร้อมกับสร้าง AOE ระยะ 5y รอบตัวคนที่โดนเล็งเป้า ซึ่ง AOE นี้จะมี DOT ดาเมจที่ 2000+ และ ติดสถานะ Heavy ด้วย ดังนั้น ห้ามยืนแช่ วิธีหลบคือ พอมันระเบิดก็ให้วิ่งออก แค่นั้นแหละ แต่ Earth Shaker มันจะระเบิดทั้งหมด 3 ครั้งติดกัน
5. Gigaflare จะใช้ทุกครั้งก่อนที่จะเปลี่ยนเฟส (นั่นคือ 75% และ 51% ) และในเฟส 4 จะใช้ทุกๆครั้งที่จบ 2 โรเทชั่นของ Bahamut ดาเมจถ้าไม่มี Dragon Kick และ Virus แท้ จะอยู่ที่ราวๆ 6200+ ถ้าเป็นสาย Caster ที่มี Mag Def สูงๆ ก็จะราวๆ 5900 เป็นอย่างต่ำ ดังนั้น ก่อนมันจะร่ายท่านี้จบ อย่าลืม Dragon Kick และ Virus ด้วย จะช่วยลดดาเมจที่ได้รับลงเหลือ 4000-5000 ได้เลยทีเดียว
6. Flare Star จะเริ่มใช้ในเฟสที่ 2 เท่านั้น หลัง Bahamut ร่ายเวทนี้จบ จะสุ่มลูกบอลที่เรียกว่า Dark Aether ขึ้นมา 2-4 ลูก ทั้งหมด 3 รอบ และจะสุ่มล็อคเป้าหมายคนที่โดน ถ้ามีใครไปโดนลูกบอล ลูกบอลจะระเบิดเป็น AOE ระยะ 5-7y แน่นอนว่าถ้ามีใครอยู่ในรัศมีก็จะได้รับระเบิดนี้ด้วย ซึ่งคนที่โดนระเบิดจะติด Stack ของ Dark Aether 1 Stack โดยดาเมจจะเป็น ครั้งแรก 400 ครั้งที่ 2 3600-4000 และ ครั้งที่ 3 อาจจะถึง 10000+ ดังนั้น ห้ามโดนเกิน 2 ครั้งโดยเด็ดขาด และ การโดน Dark Aether จะส่งผลต่อดาเมจจากท่า Rage Of Bahamut อีกทอดนึง
7. Rage Of Bahamut จะใช้ในเฟส 2 เท่านั้น และจะใช้หลัง Megaflare ท่านี้ความแรงจะขึ้นกับ Stack Dark Aether ที่เราได้รับมาในแต่ละรอบ และหลังจากโดนท่านี้แล้ว จะล้าง Stack ทั้งหมดของ Dark Aether ยิ่ง Stack มาก จะยิ่งโดนดาเมจแรง ถ้ามี 3 Stack จะโดนดาเมจจาก Rage of Bahamut 12000+ ได้เลยทีเดียว (ในกรณี DPS หรือ Healer ) ดังนั้น ในช่วงระหว่างเคลียร์ Dark Aether ห้ามไม่ให้โดน Stack เกิน 2 โดยเด็ดขาด
8. Ahk Morn จะใช้ในเฟส 4 เท่านั้น โดยจะเริ่มใช้เป็นสกิลแรกของโรเทชั่นเฟส 4 ความรุนแรงมหาศาลขนาดที่ Flatten เทียบไม่ติด โดยจะเล็งใส่ MT หรือคนที่มี Enmity สูงที่สุดในทีม "จำเป็นต้องแชร์ดาเมจและเปิดบัฟลดดาเมจ" จำนวนครั้งที่ Ahk Morn จะลงใส่หัวจะเป็น "รอบของ Ahk Morn +1" เช่น Ahk Morn รอบที่ 1 จะยิงมา 2 ครั้ง Ahk Morn รอบที่ 2 จะยิงมา 3 ครั้ง เป็นต้น ในส่วนของ Healer ที่ต้องระวังเลยก็คือ ดาเมจจาก Ahk Morn ในครั้งแรกสุดของรอบนั้นๆ จะรุนแรงมากที่สุด นั่นคือ ถ้าเปิดบัฟ จะลดกันคนละ 5000-6000 และในครั้งต่อไปดาเมจจะค่อยๆลดลง แต่ดาเมจจะมาถี่ขึ้น(ขึ้นกับรอบของ Ahk Morn) ดังนั้น Healer จะต้องงัด Hp ในทันเพื่อที่จะรับลูกที่ 2 และถัดไป
9. Tempest Wing จะใช้ในเฟส 4 เท่านั้น ทุกครั้งที่มี Mega Flare และ Earth Shaker ในกรณี Mega Flare จะสุ่มเส้นลิงค์ไปหาคนในปาร์ตี้ ทั้งหมด 2 เส้น โดยจะสุ่มทั้งหมดไม่เว้นกระทั่ง Healer หรือ MT แต่ในกรณีของ Earth Shaker จะเล็งเฉพาะคนที่โดนเล็งด้วย Earth Shaker เท่านั้น ท่านี้คุณสมบัติคือ ถ้าโดนเส้นลิงค์อยู่และจบแมคคานิคของ Mega Flare หรือ Earth Shaker แล้ว จะมีพายุใส่คนที่โดนเส้นลิงค์นั้นๆ ดาเมจราวๆ 4000+ และ ถ้ามีใครอยู่ในบริเวณรัศมีรอบๆคนที่โดน Tempest Wing จะโดนดีดกระเด็นระยะ 30-40y พร้อมทั้งติดสถานะ Stun และ Tornedo (เอาง่ายๆคือ กระเด็นถึงขั้นติดขอบจอ ตายได้เลยว่างั้น) ดังนั้น การแก้แมคคานิคจะให้แทงค์เป็นคนไปตัดเส้นกลับมา เพื่อไม่ให้ไปชนกับแมคคานิคของ Mega Flare นั่นเอง (ในกรณีต้องมาแชร์ดาเมจด้วย Mega Flare รูปแบบที่ 3
10. Dive Bomb จะมีในเฟส 3 เท่านั้น ไม่มีอะไรมากแค่ว่าถ้าหลบไม่ได้จะโดนชนกระเด็นไปติดขอบสนามตายนั่นเอง โดยในเฟส 3 เราจะต้องหลบทั้งหมด 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 และ 2 จะมี Bahamut และ Storm เป็นตัว Dive การหลบ ให้ไปรวมกันตรงกลางฉาก (แล้วแต่จุดที่เรามาร์คว่าเป็น A หรือ B หรือ C แต่มันต้องเป็นกลางฉากเท่านั้น) จากนั้นดูสัญลักษณ์บนหัว เห็นสีแดงปุ้บ ให้หมุนมุมกล้องหาตำแหน่ง Bahamut ก่อน แล้วพอมาร์คเขียวขึ้นหัว ให้วิ่งฉีกไปด้านข้าง ตามตำแหน่งที่ได้นัดแนะกันตั้งแต่แรก โดยระหว่างที่เราวิ่งออก ให้หันมุมกล้องหาตัว Storm ด้วย ซึ่งถ้าเห็นตัว Storm อยู่ในแนวพุ่งที่ตรงกับจุดที่เราวิ่งอยู่ ต้องฉีกออกอีกทอดนึง ด้วยเป็นต้น แต่ในครั้งที่ 3 พอมาร์คแดงขึ้น ก็ให้วิ่งออกได้เลย เพราะจะไม่มี Storm (เนื่องจากมันลงมาสู้ หรือตายไปก่อนหน้านั้นในช่วงเวฟที่ 2 ของ phase 3 นั่นแหละ)
ดั่งรูป สมมุติหันมุมกล้องไปเจอบาฮามุทแล้ว ให้เราอิงบาฮามุทเป็น 12 นาฬิกา สมมุติถ้าเกิด Storm มันลงมาตรง 11 นาฬิกา ก็ให้วิ่งฉีกออกข้าง(สมมุติวิ่งไปทางขวา) ก็ฉีกขึ้นไปทางเหนือนิดหน่อย แต่ตำแหน่งตรงนี้มันใช่ว่า Storm จะพุ่งจาก 11 นาฬิกาเสมอไป อาจจะพุ่งจาก 9 ไป 3 หรือ 4 ไป 10 ก็ได้
อนึ่ง Dive Bomb เมื่อหลบแล้วจะมี Megaflare เหมือน Phase 1 ทุกประการเลย คือ สุ่มเล็งบนหัว บนพื้น และ ล็อคเป้า แต่คนที่โดนล็อคเป้าจะมีแค่ 2 คนเท่านั้น
คุณสมบัติ Adds แต่ละตัวในเฟส 2-3
เฟส 2
จะมีแค่ Shadow of Meracydia ตัวนี้ถ้าอยู่ใกล้ๆกับ Bahamut จะลิงค์เส้นกัน ทำให้ทั้งตัว Bahamut และ Shadow ตีแรงขึ้น และ ป้องกันสูงขึ้น ดังนั้น ห้ามให้ 2 ตัวนี้อยู่ใกล้กันจนมีเส้นลิงค์เด็ดขาด อนึ่ง ระยะห่างที่ทำให้ยังมีเส้นลิงค์อยู่ก็คือ เกือบครึ่งห้อง ดังนั้น ต้องแยก 2 ตัวนี้ให้อยู่ห่างกันคนละมุมห้องเลย
เฟส 3
1. Pain of Meracydia มีท่าตบกวาด ห้ามคนอื่นที่ไม่ใช่แทงค์ไปยืนข้างหน้าโดยเด็ดขาด และมีท่าตวัดหาง เป็น AOE โคน สามารถมองเห็นได้
2. Blood of Meracydia ตอนมัน Spawn มา จะมีบัฟสุ่มขึ้นมาระหว่าง ป้องกันกายภาพ หรือ ป้องกันเวทมนตร์ หลังจากมัน Spawn มาได้ 9 วินาที มันจะสลับบัฟจากป้องกันกายภาพเป็นเวทมนตร์ หรือ จากป้องกันเวทมนตร์ เป็นกายภาพ แต่ตัวนี้ Hp น้อยมาก เป็นไปได้ ควรเอามันลงไปก่อนเป็นอันดับแรก
3. Gust of Meracydia รูปร่างคล้ายแมลงปอ ตบไม่แรงมาก แต่เจ้าตัวนี้มันจะเป็นอาหารให้กับ Pain of Meracydia ถ้านำมันเข้าไปในระยะใกล้ๆกัน แน่นอนว่า ถ้า Pain กิน Gust เข้าไปปุ้บ Hp มันจะเต็มทันทีและ Max Hp + Dmg มันจะเพิ่มขึ้น ดังนั้น ห้ามเอาเข้าไปใกล้ Pain โดยเด็ดขาด ถ้า Pain ยังมี ชีวิตอยู่
4. Sin of Meracydia เป็นมังกรตัวสีฟ้าเข้ม หลังจากมันเกิดผ่านไป 15 วินาทีโดยประมาณ มันจะหันไปสุ่มพ่นดาเมจใครคนนึงและกระจายดาเมจใส่คนรอบข้าง โดยดาเมจที่ได้รับจะขึ้นกับ % Hp ที่เหลืออยู่ของ Sin ดังนั้นควรลด Hp มันให้มากที่สุดก่อนที่มันจะพ่น อนึ่ง ถ้ามันมี 2 ตัว ควรเอาตัวใดตัวนึงให้ลงไปก่อนที่มันจะพ่นใส่คนในปาร์ตี้
5. Storm of Meracydia คล้าย Twintania ใน T5 ท่าหลักๆเลยคือมี Plummet (ทับใส่คนที่ Enmity สูงสุดในกลุ่ม และ คนรอบๆในระยะ) และ Death Sentence ที่ตวัดหางใส่ Tanker แบบไม่ปราณี ดาเมจราวๆ 7000-10000 ได้เลยในทีเดียว (กรณีไม่เปิดบัฟลดดาเมจ) และหลังจากตัวนี้ตาย มันจะทิ้ง AOE ที่เรียกว่า Flare Dampening ซึ่งจะลดดาเมจที่เรากระทำได้ถ้าไปอยู่ข้างใน AOE และ ลดดาเมจที่ได้รับจาก Tera Flare
โรเทชั่น Bahamut Prime
Phase 1
Flare Breath
Mega Flare
Flare Breath
Flatten
Flare Breath x 3
Earth Shaker
Loop
Phase 2
Add Spawn "Shadow" (ครั้งแรกที่ 12 นาฬิกา ครั้งที่ 2 ที่ 7 นาฬิกาและครั้งที่ 3 ที่ 5 นาฬิกา ตามลำดับ)
Flare Star
Flare Breath
Flatten
Flare Breath
Mega Flare
Flare Breath
Rage of Bahamut
Loop (ไม่ควรครบ 3 ครั้ง)
Phase 3
Dive Bomb x2
Add Spawn
Blood ที่ 3 นาฬิกา & Pain ที่ 9 นาฬิกา
Gust x3 ที่ 10 , 2 และ 6 นาฬิกา
Sin ที่ 12 และ 6 นาฬิกา
ตำแหน่ง [Link]
Dive Bomb x2
Add Spawn
Storm ที่กลางฉาก
Blood ที่ 12 นาฬิกา
Gust x2 ที่ 6 นาฬิกา
Sin ที่ 3 นาฬิกา
Pain ที่ 9 นาฬิกา
ตำแหน่ง [Link]
Dive Bomb 1 ครั้ง
Tera Flare
Phase 4
Ahk Morn
Mega Flare
Earth Shaker
Flare Breath
Ahk Morn
Mega Flare
Earth Shaker
Giga Flare
Loop
ถ้าครบ 14 นาทีแล้วยังล้มบอสไม่ได้
Giga Flare Enrage
แนวทางการเล่นของ PLD ในกรณีที่เป็น MT (กรณีมี Hallowed Ground)
แนวทางการเล่น War หรือ OT
Phase 1 ไม่มีอะไรมาก คอยใช้ Storm Path และ Eye สลับกัน ถ้าโดน Earth Shaker ก็ต้องวิ่งออกไปตามแมคคานิค แต่ถ้าคนครบ 8 จะไม่โดนแชร์ เมก้าแฟลร์แบบที่ 3 แน่ๆ
Phase 2 เริ่มมาต้องจับ Shadow ทันที ห้ามปล่อยให้หลุดไปหา Healer ได้ อาจจะต้องเปิด Vengence และ Inner Beast
Phase 3
Wave 1 ให้คอยดึง Blood ออกมา เพื่อทอนดาเมจที่จะไปลงใส่ MT หลังตี Blood ตายแล้ว ไปรอตรงกลางฉาก แล้วจับ Gust ทั้ง 3 ตัว แล้วดึงลงไปทาง 6 นาฬิกา (หรือ 12 นาฬิกา ก็แล้วแต่ปาร์ตี้) ระหว่างตี พอ Sin เกิด ให้จับ Sin ในตำแหน่งของตัวเองซึ่งแน่นอนว่า DPS จะลงกระหน่ำใส่ตัวที่เราจับก่อนเป็นอันดับแรก
Wave 2 ตี Storm Path ใส่ Storm แล้ว ตี คอมโบ 1 รอไว้ จากนั้นไปจับ Blood ที่ 12 นาฬิกามารวมที่ 6 นาฬิกา ระหว่างดึง Enmity ก็ให้คอยสังเกต Sin ที่ 3 นาฬิกาด้วย พอ Sin เกิด ให้ตีเพิ่ม Enmity แล้วรีบลากมารวมที่ 6 นาฬิกาเช่นเดิม เมื่อตีคอมโบ (123) จบไป 2 ชุดแล้ว Pain จะเกิด ดังนั้นต้องไปจับ Pain แล้วยืนตรงตำแหน่งที่ Pain เกิดไปจนกระทั่ง Dive ครั้งที่ 3 มา
Phase 4
Ahk Morn 1 แชร์ดาเมจร่วมกับ PLD โดยต้องเปิดทั้ง Inner Beast และ Vengence
Ahk Morn 2 ตอนที่บอสใช้ Earth Shaker แล้วตามด้วย Tempest Wing บอสจะ Flare Breath ใส่ MT 1 ครั้ง ตรงนี้ให้ Provoke ทันที ระหว่างที่ Flare Breath และ พอ Ahk Morn 2 ร่ายไป 80% ให้กด Holmgang
Ahk Morn 3 แชร์ร่วมกับ PLD เช่นเดิม เปิดทั้ง IB และ Vengence
Ahk Morn 4 ปล่อยให้ PLD โซโล่ไป
Ahk Morn 5 เช่นเดิมเปิดทั้ง IB และ Vengence
สำคัญคือ เฟส 4 OT หรือ War ต้องคอยตัดเส้นไม่ให้ Tempest Wing รบกวนฝั่ง Healer หรือ DPS ด้วย ทุกครั้ง เหมือน MT (สามารถอ่านได้ที่รายละเอียดการเล่นของ MT) วิธีตัดเส้นก็เหมือนๆกัน
ข้อควรระวัง สมมุติว่า ถ้าเกิดไม่ได้ Holmgang ใน Ahk Morn 2 แล้วบังคับว่าต้อง Holmgang ตอน Ahk Morn 3 ให้กด Holmgang ตอนเกจร่าย 90% หรือก่อนหน้านั้นนิดหน่อย จะสามารถรับดาเมจได้ครบ 4 ครั้งก่อนที่ Holmgang จะหมด
ทำไมถึงให้ War Holmgang นั่นเป็นเพราะ PLD ช่วงตอน Ahk Morn 2 CD ลดดาเมจอาจจะยังรีไม่ทันครบ ซึ่ง PLD อาจจะร่วงก่อนนั่นเอง
แนวทางการเล่นของ DPS ทั้ง Melee และ Range
แนวทางเล่น Healer
อื่นๆไว้ก่อน ว่างค่อยเขียนต่อ
ในกรณีสมาชิกในทีมยังมีชีวิตอยู่ครบทั้ง 8 คน
สกิลของ Bahamut Prime มีดังนี้
1. Megaflare จะมี 4 แบบดังนี้
แบบที่ 1 แบบสุ่มเล็งลงหัว จะสุ่มลงโดนทุกคน ยกเว้น MT รัศมี 5y รอบตัว ดังนั้น ห้ามยืนติดกันหรือใกล้กันเกินไป เพราะจะโดนของคนอื่นด้วย
แบบที่ 2 แบบ AOE บนพื้น จะสุ่มทุกคนไม่เว้นกระทั่ง MT ห้ามยืนรับโดยเด็ดขาด ดาเมจค่อนข้างแรงมาก ราวๆ 4000-5000
แบบที่ 3 แบบล็อคเป้าตัวละคร จะขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ล็อคเป้า คนที่โดน Megaflare รูปแบบนี้จะไม่มีทางโดนแบบที่ 1 เด็ดขาด (เว้นแต่ไปยืนโดนในระยะของคนที่โดนแบบที่ 1 ) ซึ่ง จะสุ่มล็อคเป้า 2-4 คน โดยที่ เมก้าแฟลร์จะสุ่ม ลงบนหัวใน 2-4 คนนั้นๆ ถ้าไม่แชร์ดาเมจ คนที่โดนเล็งจะตายแน่นอน แต่ถ้าแชร์ดาเมจน้อยคนเกินไป ก็มีโอกาสตายสูง เพราะดาเมจมันจะค่อนข้างสูงมาก ดังนั้น บังคับว่า ต้องแชร์ให้ครบทุกคนที่โดนล็อคเป้า สำคัญ "คนที่ไม่ได้โดนล็อคเป้าหมายด้วยเมก้าแฟลร์รูปแบบที่ 3 ห้ามเข้ามาแชร์โดยเด็ดขาด ไม่งั้นแล้วจะตายทันที"
แบบที่ 4 เป็นเสา AOE เล็กๆ สุ่มขึ้นมา 1 เสา โดยสุ่มที่ใครก็ได้ไม่เว้นกระทั่ง MT ต้องมีคนยืนรับดาเมจในเสานั้น มิฉะนั้น เสาจะระเบิดแล้วติด Bleeding กับยกปาร์ตี้ DOT ของ Bleeding อยู่ที่ 1200 ต่อ 3 วินาที ถ้าเป็น เฟส 2 ห้ามให้เสาระเบิดโดยเด็ดขาด
กรณีสมาชิกในปาร์ตี้มีชีวิตไม่ครบ 8 คน Mega Flare แบบที่ 3 จะมีโอกาสสุ่มโดน MT ด้วย
2. Flatten จะใช้ในเฟส 1 และ 2 เท่านั้น คล้ายท่าล้มโต๊ะ หรือท่าไม้ตายที่ทำให้ MT แทบสิ้นชีวิตในครั้งเดียว ท่านี้ดาเมจถ้าไม่เปิดบัฟจะแรงมากถึงขั้น 10000 dmg ได้เลย บังคับว่าต้องเปิดบัฟรับทุกครั้ง
3. Flare Breath พ่นไฟข้างหน้าเป็นโคน 3 เหลี่ยม ระยะเป็นอนันต์ ดังนั้นแทงค์ห้ามหันให้มันพ่นท่านี้ใส่คนในปาร์ตี้โดยเด็ดขาด ดาเมจอยู่ที่ราวๆ 4000 ถ้าไม่เปิดบัฟ และมี Shield Oath
4. Earth Shaker จะใช้ในเฟส 1 และ เฟส 4 สุ่มสัญลักษณ์สีขาว เล็งบนหัว 2 คน โดยคนที่จะถูกสุ่ม จะเป็น OT และ DPS เท่านั้น Healer จะไม่มีทางโดนท่านี้โดยเด็ดขาด ท่านี้หลังจากสัญลักษณ์บนหัวหายไปแล้ว มันจะระเบิด Earth Shaker พร้อมกับสร้าง AOE ระยะ 5y รอบตัวคนที่โดนเล็งเป้า ซึ่ง AOE นี้จะมี DOT ดาเมจที่ 2000+ และ ติดสถานะ Heavy ด้วย ดังนั้น ห้ามยืนแช่ วิธีหลบคือ พอมันระเบิดก็ให้วิ่งออก แค่นั้นแหละ แต่ Earth Shaker มันจะระเบิดทั้งหมด 3 ครั้งติดกัน
5. Gigaflare จะใช้ทุกครั้งก่อนที่จะเปลี่ยนเฟส (นั่นคือ 75% และ 51% ) และในเฟส 4 จะใช้ทุกๆครั้งที่จบ 2 โรเทชั่นของ Bahamut ดาเมจถ้าไม่มี Dragon Kick และ Virus แท้ จะอยู่ที่ราวๆ 6200+ ถ้าเป็นสาย Caster ที่มี Mag Def สูงๆ ก็จะราวๆ 5900 เป็นอย่างต่ำ ดังนั้น ก่อนมันจะร่ายท่านี้จบ อย่าลืม Dragon Kick และ Virus ด้วย จะช่วยลดดาเมจที่ได้รับลงเหลือ 4000-5000 ได้เลยทีเดียว
6. Flare Star จะเริ่มใช้ในเฟสที่ 2 เท่านั้น หลัง Bahamut ร่ายเวทนี้จบ จะสุ่มลูกบอลที่เรียกว่า Dark Aether ขึ้นมา 2-4 ลูก ทั้งหมด 3 รอบ และจะสุ่มล็อคเป้าหมายคนที่โดน ถ้ามีใครไปโดนลูกบอล ลูกบอลจะระเบิดเป็น AOE ระยะ 5-7y แน่นอนว่าถ้ามีใครอยู่ในรัศมีก็จะได้รับระเบิดนี้ด้วย ซึ่งคนที่โดนระเบิดจะติด Stack ของ Dark Aether 1 Stack โดยดาเมจจะเป็น ครั้งแรก 400 ครั้งที่ 2 3600-4000 และ ครั้งที่ 3 อาจจะถึง 10000+ ดังนั้น ห้ามโดนเกิน 2 ครั้งโดยเด็ดขาด และ การโดน Dark Aether จะส่งผลต่อดาเมจจากท่า Rage Of Bahamut อีกทอดนึง
7. Rage Of Bahamut จะใช้ในเฟส 2 เท่านั้น และจะใช้หลัง Megaflare ท่านี้ความแรงจะขึ้นกับ Stack Dark Aether ที่เราได้รับมาในแต่ละรอบ และหลังจากโดนท่านี้แล้ว จะล้าง Stack ทั้งหมดของ Dark Aether ยิ่ง Stack มาก จะยิ่งโดนดาเมจแรง ถ้ามี 3 Stack จะโดนดาเมจจาก Rage of Bahamut 12000+ ได้เลยทีเดียว (ในกรณี DPS หรือ Healer ) ดังนั้น ในช่วงระหว่างเคลียร์ Dark Aether ห้ามไม่ให้โดน Stack เกิน 2 โดยเด็ดขาด
8. Ahk Morn จะใช้ในเฟส 4 เท่านั้น โดยจะเริ่มใช้เป็นสกิลแรกของโรเทชั่นเฟส 4 ความรุนแรงมหาศาลขนาดที่ Flatten เทียบไม่ติด โดยจะเล็งใส่ MT หรือคนที่มี Enmity สูงที่สุดในทีม "จำเป็นต้องแชร์ดาเมจและเปิดบัฟลดดาเมจ" จำนวนครั้งที่ Ahk Morn จะลงใส่หัวจะเป็น "รอบของ Ahk Morn +1" เช่น Ahk Morn รอบที่ 1 จะยิงมา 2 ครั้ง Ahk Morn รอบที่ 2 จะยิงมา 3 ครั้ง เป็นต้น ในส่วนของ Healer ที่ต้องระวังเลยก็คือ ดาเมจจาก Ahk Morn ในครั้งแรกสุดของรอบนั้นๆ จะรุนแรงมากที่สุด นั่นคือ ถ้าเปิดบัฟ จะลดกันคนละ 5000-6000 และในครั้งต่อไปดาเมจจะค่อยๆลดลง แต่ดาเมจจะมาถี่ขึ้น(ขึ้นกับรอบของ Ahk Morn) ดังนั้น Healer จะต้องงัด Hp ในทันเพื่อที่จะรับลูกที่ 2 และถัดไป
9. Tempest Wing จะใช้ในเฟส 4 เท่านั้น ทุกครั้งที่มี Mega Flare และ Earth Shaker ในกรณี Mega Flare จะสุ่มเส้นลิงค์ไปหาคนในปาร์ตี้ ทั้งหมด 2 เส้น โดยจะสุ่มทั้งหมดไม่เว้นกระทั่ง Healer หรือ MT แต่ในกรณีของ Earth Shaker จะเล็งเฉพาะคนที่โดนเล็งด้วย Earth Shaker เท่านั้น ท่านี้คุณสมบัติคือ ถ้าโดนเส้นลิงค์อยู่และจบแมคคานิคของ Mega Flare หรือ Earth Shaker แล้ว จะมีพายุใส่คนที่โดนเส้นลิงค์นั้นๆ ดาเมจราวๆ 4000+ และ ถ้ามีใครอยู่ในบริเวณรัศมีรอบๆคนที่โดน Tempest Wing จะโดนดีดกระเด็นระยะ 30-40y พร้อมทั้งติดสถานะ Stun และ Tornedo (เอาง่ายๆคือ กระเด็นถึงขั้นติดขอบจอ ตายได้เลยว่างั้น) ดังนั้น การแก้แมคคานิคจะให้แทงค์เป็นคนไปตัดเส้นกลับมา เพื่อไม่ให้ไปชนกับแมคคานิคของ Mega Flare นั่นเอง (ในกรณีต้องมาแชร์ดาเมจด้วย Mega Flare รูปแบบที่ 3
10. Dive Bomb จะมีในเฟส 3 เท่านั้น ไม่มีอะไรมากแค่ว่าถ้าหลบไม่ได้จะโดนชนกระเด็นไปติดขอบสนามตายนั่นเอง โดยในเฟส 3 เราจะต้องหลบทั้งหมด 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 และ 2 จะมี Bahamut และ Storm เป็นตัว Dive การหลบ ให้ไปรวมกันตรงกลางฉาก (แล้วแต่จุดที่เรามาร์คว่าเป็น A หรือ B หรือ C แต่มันต้องเป็นกลางฉากเท่านั้น) จากนั้นดูสัญลักษณ์บนหัว เห็นสีแดงปุ้บ ให้หมุนมุมกล้องหาตำแหน่ง Bahamut ก่อน แล้วพอมาร์คเขียวขึ้นหัว ให้วิ่งฉีกไปด้านข้าง ตามตำแหน่งที่ได้นัดแนะกันตั้งแต่แรก โดยระหว่างที่เราวิ่งออก ให้หันมุมกล้องหาตัว Storm ด้วย ซึ่งถ้าเห็นตัว Storm อยู่ในแนวพุ่งที่ตรงกับจุดที่เราวิ่งอยู่ ต้องฉีกออกอีกทอดนึง ด้วยเป็นต้น แต่ในครั้งที่ 3 พอมาร์คแดงขึ้น ก็ให้วิ่งออกได้เลย เพราะจะไม่มี Storm (เนื่องจากมันลงมาสู้ หรือตายไปก่อนหน้านั้นในช่วงเวฟที่ 2 ของ phase 3 นั่นแหละ)
ดั่งรูป สมมุติหันมุมกล้องไปเจอบาฮามุทแล้ว ให้เราอิงบาฮามุทเป็น 12 นาฬิกา สมมุติถ้าเกิด Storm มันลงมาตรง 11 นาฬิกา ก็ให้วิ่งฉีกออกข้าง(สมมุติวิ่งไปทางขวา) ก็ฉีกขึ้นไปทางเหนือนิดหน่อย แต่ตำแหน่งตรงนี้มันใช่ว่า Storm จะพุ่งจาก 11 นาฬิกาเสมอไป อาจจะพุ่งจาก 9 ไป 3 หรือ 4 ไป 10 ก็ได้
อนึ่ง Dive Bomb เมื่อหลบแล้วจะมี Megaflare เหมือน Phase 1 ทุกประการเลย คือ สุ่มเล็งบนหัว บนพื้น และ ล็อคเป้า แต่คนที่โดนล็อคเป้าจะมีแค่ 2 คนเท่านั้น
คุณสมบัติ Adds แต่ละตัวในเฟส 2-3
เฟส 2
จะมีแค่ Shadow of Meracydia ตัวนี้ถ้าอยู่ใกล้ๆกับ Bahamut จะลิงค์เส้นกัน ทำให้ทั้งตัว Bahamut และ Shadow ตีแรงขึ้น และ ป้องกันสูงขึ้น ดังนั้น ห้ามให้ 2 ตัวนี้อยู่ใกล้กันจนมีเส้นลิงค์เด็ดขาด อนึ่ง ระยะห่างที่ทำให้ยังมีเส้นลิงค์อยู่ก็คือ เกือบครึ่งห้อง ดังนั้น ต้องแยก 2 ตัวนี้ให้อยู่ห่างกันคนละมุมห้องเลย
เฟส 3
1. Pain of Meracydia มีท่าตบกวาด ห้ามคนอื่นที่ไม่ใช่แทงค์ไปยืนข้างหน้าโดยเด็ดขาด และมีท่าตวัดหาง เป็น AOE โคน สามารถมองเห็นได้
2. Blood of Meracydia ตอนมัน Spawn มา จะมีบัฟสุ่มขึ้นมาระหว่าง ป้องกันกายภาพ หรือ ป้องกันเวทมนตร์ หลังจากมัน Spawn มาได้ 9 วินาที มันจะสลับบัฟจากป้องกันกายภาพเป็นเวทมนตร์ หรือ จากป้องกันเวทมนตร์ เป็นกายภาพ แต่ตัวนี้ Hp น้อยมาก เป็นไปได้ ควรเอามันลงไปก่อนเป็นอันดับแรก
3. Gust of Meracydia รูปร่างคล้ายแมลงปอ ตบไม่แรงมาก แต่เจ้าตัวนี้มันจะเป็นอาหารให้กับ Pain of Meracydia ถ้านำมันเข้าไปในระยะใกล้ๆกัน แน่นอนว่า ถ้า Pain กิน Gust เข้าไปปุ้บ Hp มันจะเต็มทันทีและ Max Hp + Dmg มันจะเพิ่มขึ้น ดังนั้น ห้ามเอาเข้าไปใกล้ Pain โดยเด็ดขาด ถ้า Pain ยังมี ชีวิตอยู่
4. Sin of Meracydia เป็นมังกรตัวสีฟ้าเข้ม หลังจากมันเกิดผ่านไป 15 วินาทีโดยประมาณ มันจะหันไปสุ่มพ่นดาเมจใครคนนึงและกระจายดาเมจใส่คนรอบข้าง โดยดาเมจที่ได้รับจะขึ้นกับ % Hp ที่เหลืออยู่ของ Sin ดังนั้นควรลด Hp มันให้มากที่สุดก่อนที่มันจะพ่น อนึ่ง ถ้ามันมี 2 ตัว ควรเอาตัวใดตัวนึงให้ลงไปก่อนที่มันจะพ่นใส่คนในปาร์ตี้
5. Storm of Meracydia คล้าย Twintania ใน T5 ท่าหลักๆเลยคือมี Plummet (ทับใส่คนที่ Enmity สูงสุดในกลุ่ม และ คนรอบๆในระยะ) และ Death Sentence ที่ตวัดหางใส่ Tanker แบบไม่ปราณี ดาเมจราวๆ 7000-10000 ได้เลยในทีเดียว (กรณีไม่เปิดบัฟลดดาเมจ) และหลังจากตัวนี้ตาย มันจะทิ้ง AOE ที่เรียกว่า Flare Dampening ซึ่งจะลดดาเมจที่เรากระทำได้ถ้าไปอยู่ข้างใน AOE และ ลดดาเมจที่ได้รับจาก Tera Flare
โรเทชั่น Bahamut Prime
Phase 1
Flare Breath
Mega Flare
Flare Breath
Flatten
Flare Breath x 3
Earth Shaker
Loop
Phase 2
Add Spawn "Shadow" (ครั้งแรกที่ 12 นาฬิกา ครั้งที่ 2 ที่ 7 นาฬิกาและครั้งที่ 3 ที่ 5 นาฬิกา ตามลำดับ)
Flare Star
Flare Breath
Flatten
Flare Breath
Mega Flare
Flare Breath
Rage of Bahamut
Loop (ไม่ควรครบ 3 ครั้ง)
Phase 3
Dive Bomb x2
Add Spawn
Blood ที่ 3 นาฬิกา & Pain ที่ 9 นาฬิกา
Gust x3 ที่ 10 , 2 และ 6 นาฬิกา
Sin ที่ 12 และ 6 นาฬิกา
ตำแหน่ง [Link]
Dive Bomb x2
Add Spawn
Storm ที่กลางฉาก
Blood ที่ 12 นาฬิกา
Gust x2 ที่ 6 นาฬิกา
Sin ที่ 3 นาฬิกา
Pain ที่ 9 นาฬิกา
ตำแหน่ง [Link]
Dive Bomb 1 ครั้ง
Tera Flare
Phase 4
Ahk Morn
Mega Flare
Earth Shaker
Flare Breath
Ahk Morn
Mega Flare
Earth Shaker
Giga Flare
Loop
ถ้าครบ 14 นาทีแล้วยังล้มบอสไม่ได้
Giga Flare Enrage
แนวทางการเล่นของ PLD ในกรณีที่เป็น MT (กรณีมี Hallowed Ground)
Phase 1
เริ่มมาหลังตีไปได้ 2-3 วิ จะมี Flare Breath มา 1 ครั้ง
จากนั้นจะเป็น Mega Flare ถ้ากรณีมี Melee 2 คน หรือ 3 คน OT จะวิ่งมายืนทับตำแหน่ง MT เพื่อล่อ Mega Flare ไม่ให้ไปกระทบกับจุดที่คนอื่นต้องเข้ามาแชร์ในกรณี Mega Flare รูปแบบที่ 3
หลังจบ Mega Flare ตรงนี้ จะมี Flare Breath 1 ครั้ง และ Flatten PLD เปิด "Sentinel"
ต่อมาเป็น Earth Shaker ถ้ามี Melee โดน Earth Shaker ควรจะกด Cover ให้กับ Melee คนนั้นด้วย
หลังจากนี้ก็จะเป็นลูป
พอถึง Flatten 2 PLD กด Hallowed Ground เลย
ถ้ามี Flatten 3 ก็เหลือ Rampart แต่ถ้าไม่มี Flatten 3 ในเฟส 1 ก็เก็บไว้ใช้ใน Phase 2 แทน
Phase 2
หลัง Flare Star ให้สังเกต Dark Aether ด้วย เห็นชุดที่ 2 โผล่มา ให้เตรียมเปิดบัฟเพื่อรับ Flatten โดยตรงนี้จะเปิด Rampart ก่อน
Flatten ที่ 2 ของเฟส 2 นี้ ให้เปิด Sentinel
ถ้าลด Hp Bahamut ไม่ทันจะมี Flatten 3 มา ตรงนี้ก็ให้เปิด Rampart ไป บัฟมันจะวนทันพอดี
ในเฟส 1 และ 2 กรณีไม่มี Hallowed Ground การเปิดบัฟจะเป็นแบบนี้แทน
Phase 1
Flatten 1 เปิด Rampart
Flatten 2 เปิด Sentinel
Phase 2
Flatten 1 เปิด Rampart
Flatten 2 เปิด Bulwark + Foresight (ถ้าเป็นไปได้ ร้องขอ Adlo และ StoneSkin ด้วยก็ดี)
Flatten 3 เปิด Rampart หรือ Sentinel
Phase 3
หลังหลบ Dive Bomb เสร็จปุ้บ
เริ่มมา PLD จับ Blood และ Pain แล้วลาก Blood ไปรวมกับ Pain หลังตีคอมโบ 123 จบปุ้บ ให้ลากไปเกือบๆขอบฉากตรง 9 นาฬิกา เพื่อไม่ให้ Pain มันไปกิน Gust
หลัง Pain ตาย ไปรอที่ 12 นาฬิกา เพื่อเตรียมจับ Sin ฝั่งเหนือ ไปรวมกับฝั่งใต้
หลังมันพ่นแล้วกลับไปรวมกันที่ตรงกลางฉากเพื่อหลบ Dive Bomb ที่ 2
หลังหลบแล้ว Storm จะเกิด ให้คอมโบ 123 แล้วลากลงไปที่ 6 นาฬิกา
จากนั้นระหว่างรอ OT ลาก Blood มารวม ให้สังเกตที่ Storm เมื่อไหร่มันใช้ Death Sentence ให้เปิดบัฟ "Rampart" ก่อน จากนั้น Gust จะเกิด ให้ Flash ทันที (ราวๆ 3-4 ครั้ง) เพื่อให้ Gust อยู่กระจุกรวมกับ Storm ระหว่างนี้ ก็ดึง Enmity ของ Gust กับ Storm มาให้อยู่กับเราให้มากที่สุด
หลัง Storm ตาย ไปรวมกันตรงกลาง เพื่อหลบ Dive Bomb ที่ 3 หลังจากหลบแล้ว ช่วยตี Pain ให้ตาย และ รีบเข้าไปอยู่ในวง Flare Dampening
พอ Bahamut ชาร์จ Tera Flare รอให้มัน Countdown เหลือ 5 วินาที กด Limit Break ของ Tanker เพื่อลดดาเมจ
Phase 4
เริ่มมาให้ไปตำแหน่งระหว่างตรงกลางกับ 12 นาฬิกา เพื่อเตรียมรับ Ahk Morn
Ahk Morn 1 เปิดบัฟ อะไรก็ได้ที่มีอยู่ (พวก Rampart ) หลังโดนครบแล้ว ให้ลาก Bahamut ไปตรง 12 นาฬิกา
Mega Flare ให้เตรียมตัดเส้น Tempest Wing ด้วย ขึ้นกับตกลงกับ OT ว่าจะตัดของฝั่งไหน แนะนำให้วิ่งเข้าในวงตัวบอสเพื่อตัดเส้นมาจากนั้นวิ่งกลับมาที่เดิม
Earth Shaker ก็จะทำเหมือนกันคือ คอยตัดเส้น Tempest Wing อันนี้จะง่ายกว่าตอน Mega Flare
หลังตัดเส้นได้แล้ว ให้เก็บดาบไปเลย เพื่อให้ OT Provoke ไปรับ Ahk Morn 2 คนเดียว ตอน Ahk Morn ตูมที่ 1 ลง ให้ Cover OT ด้วย
หลัง Ahk Morn 2 จบ ให้ Provoke กลับแล้วเล่นแบบเดิมเลย คือ คอยตัดเส้นตอน Mega Flare และ Earth Shaker
Ahk Morn 3 ให้แชร์ดาเมจ เปิดบัฟลดดาเมจ
Ahk Morn 4 ให้ PLD เปิด Hallowed Ground
Ahk Morn 5 ให้เปิดบัฟทุกอย่างที่มี เปิดให้หมดเลย
เริ่มมาหลังตีไปได้ 2-3 วิ จะมี Flare Breath มา 1 ครั้ง
จากนั้นจะเป็น Mega Flare ถ้ากรณีมี Melee 2 คน หรือ 3 คน OT จะวิ่งมายืนทับตำแหน่ง MT เพื่อล่อ Mega Flare ไม่ให้ไปกระทบกับจุดที่คนอื่นต้องเข้ามาแชร์ในกรณี Mega Flare รูปแบบที่ 3
หลังจบ Mega Flare ตรงนี้ จะมี Flare Breath 1 ครั้ง และ Flatten PLD เปิด "Sentinel"
ต่อมาเป็น Earth Shaker ถ้ามี Melee โดน Earth Shaker ควรจะกด Cover ให้กับ Melee คนนั้นด้วย
หลังจากนี้ก็จะเป็นลูป
พอถึง Flatten 2 PLD กด Hallowed Ground เลย
ถ้ามี Flatten 3 ก็เหลือ Rampart แต่ถ้าไม่มี Flatten 3 ในเฟส 1 ก็เก็บไว้ใช้ใน Phase 2 แทน
Phase 2
หลัง Flare Star ให้สังเกต Dark Aether ด้วย เห็นชุดที่ 2 โผล่มา ให้เตรียมเปิดบัฟเพื่อรับ Flatten โดยตรงนี้จะเปิด Rampart ก่อน
Flatten ที่ 2 ของเฟส 2 นี้ ให้เปิด Sentinel
ถ้าลด Hp Bahamut ไม่ทันจะมี Flatten 3 มา ตรงนี้ก็ให้เปิด Rampart ไป บัฟมันจะวนทันพอดี
ในเฟส 1 และ 2 กรณีไม่มี Hallowed Ground การเปิดบัฟจะเป็นแบบนี้แทน
Phase 1
Flatten 1 เปิด Rampart
Flatten 2 เปิด Sentinel
Phase 2
Flatten 1 เปิด Rampart
Flatten 2 เปิด Bulwark + Foresight (ถ้าเป็นไปได้ ร้องขอ Adlo และ StoneSkin ด้วยก็ดี)
Flatten 3 เปิด Rampart หรือ Sentinel
Phase 3
หลังหลบ Dive Bomb เสร็จปุ้บ
เริ่มมา PLD จับ Blood และ Pain แล้วลาก Blood ไปรวมกับ Pain หลังตีคอมโบ 123 จบปุ้บ ให้ลากไปเกือบๆขอบฉากตรง 9 นาฬิกา เพื่อไม่ให้ Pain มันไปกิน Gust
หลัง Pain ตาย ไปรอที่ 12 นาฬิกา เพื่อเตรียมจับ Sin ฝั่งเหนือ ไปรวมกับฝั่งใต้
หลังมันพ่นแล้วกลับไปรวมกันที่ตรงกลางฉากเพื่อหลบ Dive Bomb ที่ 2
หลังหลบแล้ว Storm จะเกิด ให้คอมโบ 123 แล้วลากลงไปที่ 6 นาฬิกา
จากนั้นระหว่างรอ OT ลาก Blood มารวม ให้สังเกตที่ Storm เมื่อไหร่มันใช้ Death Sentence ให้เปิดบัฟ "Rampart" ก่อน จากนั้น Gust จะเกิด ให้ Flash ทันที (ราวๆ 3-4 ครั้ง) เพื่อให้ Gust อยู่กระจุกรวมกับ Storm ระหว่างนี้ ก็ดึง Enmity ของ Gust กับ Storm มาให้อยู่กับเราให้มากที่สุด
หลัง Storm ตาย ไปรวมกันตรงกลาง เพื่อหลบ Dive Bomb ที่ 3 หลังจากหลบแล้ว ช่วยตี Pain ให้ตาย และ รีบเข้าไปอยู่ในวง Flare Dampening
พอ Bahamut ชาร์จ Tera Flare รอให้มัน Countdown เหลือ 5 วินาที กด Limit Break ของ Tanker เพื่อลดดาเมจ
Phase 4
เริ่มมาให้ไปตำแหน่งระหว่างตรงกลางกับ 12 นาฬิกา เพื่อเตรียมรับ Ahk Morn
Ahk Morn 1 เปิดบัฟ อะไรก็ได้ที่มีอยู่ (พวก Rampart ) หลังโดนครบแล้ว ให้ลาก Bahamut ไปตรง 12 นาฬิกา
Mega Flare ให้เตรียมตัดเส้น Tempest Wing ด้วย ขึ้นกับตกลงกับ OT ว่าจะตัดของฝั่งไหน แนะนำให้วิ่งเข้าในวงตัวบอสเพื่อตัดเส้นมาจากนั้นวิ่งกลับมาที่เดิม
Earth Shaker ก็จะทำเหมือนกันคือ คอยตัดเส้น Tempest Wing อันนี้จะง่ายกว่าตอน Mega Flare
หลังตัดเส้นได้แล้ว ให้เก็บดาบไปเลย เพื่อให้ OT Provoke ไปรับ Ahk Morn 2 คนเดียว ตอน Ahk Morn ตูมที่ 1 ลง ให้ Cover OT ด้วย
หลัง Ahk Morn 2 จบ ให้ Provoke กลับแล้วเล่นแบบเดิมเลย คือ คอยตัดเส้นตอน Mega Flare และ Earth Shaker
Ahk Morn 3 ให้แชร์ดาเมจ เปิดบัฟลดดาเมจ
Ahk Morn 4 ให้ PLD เปิด Hallowed Ground
Ahk Morn 5 ให้เปิดบัฟทุกอย่างที่มี เปิดให้หมดเลย
แนวทางการเล่น War หรือ OT
Phase 1 ไม่มีอะไรมาก คอยใช้ Storm Path และ Eye สลับกัน ถ้าโดน Earth Shaker ก็ต้องวิ่งออกไปตามแมคคานิค แต่ถ้าคนครบ 8 จะไม่โดนแชร์ เมก้าแฟลร์แบบที่ 3 แน่ๆ
Phase 2 เริ่มมาต้องจับ Shadow ทันที ห้ามปล่อยให้หลุดไปหา Healer ได้ อาจจะต้องเปิด Vengence และ Inner Beast
Phase 3
Wave 1 ให้คอยดึง Blood ออกมา เพื่อทอนดาเมจที่จะไปลงใส่ MT หลังตี Blood ตายแล้ว ไปรอตรงกลางฉาก แล้วจับ Gust ทั้ง 3 ตัว แล้วดึงลงไปทาง 6 นาฬิกา (หรือ 12 นาฬิกา ก็แล้วแต่ปาร์ตี้) ระหว่างตี พอ Sin เกิด ให้จับ Sin ในตำแหน่งของตัวเองซึ่งแน่นอนว่า DPS จะลงกระหน่ำใส่ตัวที่เราจับก่อนเป็นอันดับแรก
Wave 2 ตี Storm Path ใส่ Storm แล้ว ตี คอมโบ 1 รอไว้ จากนั้นไปจับ Blood ที่ 12 นาฬิกามารวมที่ 6 นาฬิกา ระหว่างดึง Enmity ก็ให้คอยสังเกต Sin ที่ 3 นาฬิกาด้วย พอ Sin เกิด ให้ตีเพิ่ม Enmity แล้วรีบลากมารวมที่ 6 นาฬิกาเช่นเดิม เมื่อตีคอมโบ (123) จบไป 2 ชุดแล้ว Pain จะเกิด ดังนั้นต้องไปจับ Pain แล้วยืนตรงตำแหน่งที่ Pain เกิดไปจนกระทั่ง Dive ครั้งที่ 3 มา
Phase 4
Ahk Morn 1 แชร์ดาเมจร่วมกับ PLD โดยต้องเปิดทั้ง Inner Beast และ Vengence
Ahk Morn 2 ตอนที่บอสใช้ Earth Shaker แล้วตามด้วย Tempest Wing บอสจะ Flare Breath ใส่ MT 1 ครั้ง ตรงนี้ให้ Provoke ทันที ระหว่างที่ Flare Breath และ พอ Ahk Morn 2 ร่ายไป 80% ให้กด Holmgang
Ahk Morn 3 แชร์ร่วมกับ PLD เช่นเดิม เปิดทั้ง IB และ Vengence
Ahk Morn 4 ปล่อยให้ PLD โซโล่ไป
Ahk Morn 5 เช่นเดิมเปิดทั้ง IB และ Vengence
สำคัญคือ เฟส 4 OT หรือ War ต้องคอยตัดเส้นไม่ให้ Tempest Wing รบกวนฝั่ง Healer หรือ DPS ด้วย ทุกครั้ง เหมือน MT (สามารถอ่านได้ที่รายละเอียดการเล่นของ MT) วิธีตัดเส้นก็เหมือนๆกัน
ข้อควรระวัง สมมุติว่า ถ้าเกิดไม่ได้ Holmgang ใน Ahk Morn 2 แล้วบังคับว่าต้อง Holmgang ตอน Ahk Morn 3 ให้กด Holmgang ตอนเกจร่าย 90% หรือก่อนหน้านั้นนิดหน่อย จะสามารถรับดาเมจได้ครบ 4 ครั้งก่อนที่ Holmgang จะหมด
ทำไมถึงให้ War Holmgang นั่นเป็นเพราะ PLD ช่วงตอน Ahk Morn 2 CD ลดดาเมจอาจจะยังรีไม่ทันครบ ซึ่ง PLD อาจจะร่วงก่อนนั่นเอง
แนวทางการเล่นของ DPS ทั้ง Melee และ Range
รู้โรเทชั่นบอสล่วงหน้า จะมีชัยไปกว่าครึ่ง ถ้ารู้ว่าบอสจะออกสกิลอะไร จะทำให้เตรียมตัวทำแมคคานิคไม่ยากนัก และ จะได้ไม่เป็นภาระให้กับ Healer ด้วย
Phase 1
Mega Flare ตอนร่าย ห้ามไปยืนตรงตำแหน่งที่จะแชร์ดาเมจ(ด้วย Mega Flare แบบที่ 3 ) สำคัญมาก เพราะการไปยืน เท่ากับว่าจะมีโอกาสที่ Mega Flare แบบที่ 2 จะเกิดที่ตำแหน่งตรงนั้นด้วย ทำให้เข้าไปแชร์ดาเมจลำบาก
Earth Shaker กรณีเป็น Melee อย่าง Mnk ให้ร้องขอ Cover จาก MT จะดีมาก แต่ถ้าไม่มี บังคับว่าต้องวิ่งออก แต่ จังหวะวิ่งออก เราสามารถวิ่งตอนที่มาร์คบนหัว หายไปแล้วก็ได้ แน่นอนว่าห้ามยืนแช่
ถ้าเป็น Ninja ใช้ Perfect Dodge ในช่วงจังหวะที่ระเบิดครั้งที่ 1 หรือ 2 เพราะจะหลบดาเมจได้ 1 ครั้ง
ถ้าเป็น BLM ใช้ Mana Wall ในช่วงก่อนที่ครั้งที่ 1 จะระเบิด จะสามารถป้องกัน ครั้งที่ 2 และ 3 ได้
สำคัญ ถ้าเป็นสาย Magic เห็นบอส Flare Breath ก่อนที่จะ Earth Shaker ให้กด Sprint รอได้เลย เพราะยังไงก็ต้องวิ่งแน่ๆ
Phase 2
รอ OT จับ Shadow ก่อนก็ยังไม่สาย แต่ต้องเอา Shadow ลงให้เร็วที่สุด
ที่ต้องระวังคือห้ามโดนสแตก Dark Aether เกิน 2 ห้ามโดยเด็ดขาด
หลังจากทำแมคคานิค Maga Flare แล้ว ให้รวมกันที่ด้านหลังของบอสทันที เพราะ Healer จะได้งัด Hp กลุ่มตรงนั้นก่อนที่ Rage Of Bahamut จะมา
สำคัญ ถ้ารู้ว่า Rage Of Bahamut มาแน่ๆ และบอสเหลือ Hp 53-52% ให้หยุด DPS ทันที เพราะถ้าเหลือ 51% เมื่อไหร่ ก็แทบจะ Wipe ทันที (เนื่องจาก 51% ปุ้บ บอสจะ Giga Flare ใส่ทันที และถ้า Shadow ลงมาตอนนั้น มันจะลิงค์เส้นกับบาฮามุท แน่นอนว่าดาเมจเพิ่มอีก 50% รวมทั้ง Giga Flare ด้วย ง่ายๆคือ ตายยกตี้แน่นอน)
Phase 3
เรื่อง Dive bomb ไปอ่านเอาข้างบนนั่นแหละ
Order จะเรียงตามนี้
Wave 1
เริ่มมาให้ฆ่า Blood ก่อน ตามด้วย Pain
จากนั้น Gust มา ให้กระหน่ำ AOE ใส่ (ถ้าเป็นไปได้)
Sin 2 ตัวเกิด ให้ตี Sin ฝั่งที่ Gust อยู่ (ฝั่งที่ OT จับ) แล้วฆ่าให้ตายให้เร็วที่สุด จากนั้นตอด Sin ไปเรื่อยๆ พอมันพ่นใส่ Tank หรือ ฝั่ง DPS & Healer ให้รวมกันที่ตรงกลางเพื่อหลบ Dive Bomb 2
Wave 2
เริ่มมาตี Storm ก่อน ระหว่างตี จะมี Blood เกิด ให้ดูบัฟของ Blood ว่าตีเข้าหรือไม่ ถ้าได้ ให้ตี ถ้าไม่ ตี Storm ต่อ
Gust เกิด 2 ตัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Caster ไป พวก Melee ตี Storm ต่อ
Sin เกิด ให้หันไปตี Sin ก่อน เอาให้ลงให้เร็วที่สุด หลัง Sin ตายแล้ว ตี Storm ต่อ
Pain เกิด ให้ตี Storm ต่อไปจนกว่ามันจะตาย แล้วค่อยไปตี Pain
หลบ Dive Bomb 3 และตี Pain ให้ตายต่อ
Phase 4
ทำแมคคานิคคล้ายเฟส 1 คือ ทำแมคคานิคของ Megaflare ก่อน (ซึ่งจะเหมือนกับ เฟส 2) และ Earth Shaker นอกนั้นก็ไม่มีอะไรละ สำคัญคือ ทุกๆ 2 โรเทชั่นของบอส จะมี Giga Flare ต้องมารวมกลุ่มกันเพื่อรับ Heal ก่อน Giga Flare ด้วย
Phase 1
Mega Flare ตอนร่าย ห้ามไปยืนตรงตำแหน่งที่จะแชร์ดาเมจ(ด้วย Mega Flare แบบที่ 3 ) สำคัญมาก เพราะการไปยืน เท่ากับว่าจะมีโอกาสที่ Mega Flare แบบที่ 2 จะเกิดที่ตำแหน่งตรงนั้นด้วย ทำให้เข้าไปแชร์ดาเมจลำบาก
Earth Shaker กรณีเป็น Melee อย่าง Mnk ให้ร้องขอ Cover จาก MT จะดีมาก แต่ถ้าไม่มี บังคับว่าต้องวิ่งออก แต่ จังหวะวิ่งออก เราสามารถวิ่งตอนที่มาร์คบนหัว หายไปแล้วก็ได้ แน่นอนว่าห้ามยืนแช่
ถ้าเป็น Ninja ใช้ Perfect Dodge ในช่วงจังหวะที่ระเบิดครั้งที่ 1 หรือ 2 เพราะจะหลบดาเมจได้ 1 ครั้ง
ถ้าเป็น BLM ใช้ Mana Wall ในช่วงก่อนที่ครั้งที่ 1 จะระเบิด จะสามารถป้องกัน ครั้งที่ 2 และ 3 ได้
สำคัญ ถ้าเป็นสาย Magic เห็นบอส Flare Breath ก่อนที่จะ Earth Shaker ให้กด Sprint รอได้เลย เพราะยังไงก็ต้องวิ่งแน่ๆ
Phase 2
รอ OT จับ Shadow ก่อนก็ยังไม่สาย แต่ต้องเอา Shadow ลงให้เร็วที่สุด
ที่ต้องระวังคือห้ามโดนสแตก Dark Aether เกิน 2 ห้ามโดยเด็ดขาด
หลังจากทำแมคคานิค Maga Flare แล้ว ให้รวมกันที่ด้านหลังของบอสทันที เพราะ Healer จะได้งัด Hp กลุ่มตรงนั้นก่อนที่ Rage Of Bahamut จะมา
สำคัญ ถ้ารู้ว่า Rage Of Bahamut มาแน่ๆ และบอสเหลือ Hp 53-52% ให้หยุด DPS ทันที เพราะถ้าเหลือ 51% เมื่อไหร่ ก็แทบจะ Wipe ทันที (เนื่องจาก 51% ปุ้บ บอสจะ Giga Flare ใส่ทันที และถ้า Shadow ลงมาตอนนั้น มันจะลิงค์เส้นกับบาฮามุท แน่นอนว่าดาเมจเพิ่มอีก 50% รวมทั้ง Giga Flare ด้วย ง่ายๆคือ ตายยกตี้แน่นอน)
Phase 3
เรื่อง Dive bomb ไปอ่านเอาข้างบนนั่นแหละ
Order จะเรียงตามนี้
Wave 1
เริ่มมาให้ฆ่า Blood ก่อน ตามด้วย Pain
จากนั้น Gust มา ให้กระหน่ำ AOE ใส่ (ถ้าเป็นไปได้)
Sin 2 ตัวเกิด ให้ตี Sin ฝั่งที่ Gust อยู่ (ฝั่งที่ OT จับ) แล้วฆ่าให้ตายให้เร็วที่สุด จากนั้นตอด Sin ไปเรื่อยๆ พอมันพ่นใส่ Tank หรือ ฝั่ง DPS & Healer ให้รวมกันที่ตรงกลางเพื่อหลบ Dive Bomb 2
Wave 2
เริ่มมาตี Storm ก่อน ระหว่างตี จะมี Blood เกิด ให้ดูบัฟของ Blood ว่าตีเข้าหรือไม่ ถ้าได้ ให้ตี ถ้าไม่ ตี Storm ต่อ
Gust เกิด 2 ตัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Caster ไป พวก Melee ตี Storm ต่อ
Sin เกิด ให้หันไปตี Sin ก่อน เอาให้ลงให้เร็วที่สุด หลัง Sin ตายแล้ว ตี Storm ต่อ
Pain เกิด ให้ตี Storm ต่อไปจนกว่ามันจะตาย แล้วค่อยไปตี Pain
หลบ Dive Bomb 3 และตี Pain ให้ตายต่อ
Phase 4
ทำแมคคานิคคล้ายเฟส 1 คือ ทำแมคคานิคของ Megaflare ก่อน (ซึ่งจะเหมือนกับ เฟส 2) และ Earth Shaker นอกนั้นก็ไม่มีอะไรละ สำคัญคือ ทุกๆ 2 โรเทชั่นของบอส จะมี Giga Flare ต้องมารวมกลุ่มกันเพื่อรับ Heal ก่อน Giga Flare ด้วย
แนวทางเล่น Healer
เหนื่อย ไว้ค่อยเขียน
อื่นๆไว้ก่อน ว่างค่อยเขียนต่อ
[Edited 2 times YunaSung - Last Edit 2015-06-17 20:39:30]
<<
<
2
3
4
5
6
7
Reply
Vote
Related Thread
Popular Thread
1 online users
Logged In :
Logged In :
member
Since 29/1/2007
(3880 post)