Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
วัยรุ่นคริปโต วัยรุ่นเทรดเดอร์ มีบ้างไหมครับ

Reply
Vote
# Tue 14 Feb 2023 : 4:51PM

Sukoy
member

Since 24/6/2005
(15516 post)
ความเห็นส่วนตัวผมว่า crypto มันไม่สามารถเป็นเงินได้ตามที่ฝ่ายวัยรุ่นคริปโตพยายามเชียร์

ความเสี่ยงในการถือ ในการใช้ มันเยอะเกิน แถมวงการนี้มีโจรเยอะไป (SBF Do Kwon พวกนี้เตรียมมาโกง และพวก hacker ที่พร้อมจะมาสูบเงินคนทำพลาด)

ถ้าไม่สามารถดึงคนเล่นรายใหม่ๆ เอาเงินจริงเข้ามาซื้อ ราคามันก็คงไม่ไปไหนล่ะ
[Edited 1 times Sukoy - Last Edit 2023-02-14 16:51:44]
View all 8 comments >
Wed 15 Feb 2023 : 7:45AM

suede
member

Since 23/4/2006
(22159 post)
ไม่ลองซะหน่อยรึครับ เงินท่านเหลือๆ

ยุคใหม่ยังไงๆมันกฟ้ต้องวิ่งไปทาง ดิจิตัลนะ
ขนาดทุกวันนี้เอาเข้าจริงคนเรายังไม่ได้สนใจตัวกระดาษ หรือเหรียญใน บช. กันเลย สนแต่ตัวเลข โอนไปโอนมา เลขวื่งไม่มีการเข้ารหัสซับซ้อนด้วย ยอมรับกันเพราะ กม. กับ ความเชื่อ

การมีตัวกลางในยุคปัจจุบันและระบบที่มีผู้ชนะ หรือ เศรษฐีอยู่แล้ว ย่อมกางปีกปกป้องโลกที่ตัวเองชนะอยู่ อนาคตเลยเข้ายากหน่อยจนกว่าฝั่งโลกเก่าจะพร้อม

คุณสมบัติคริปโตในตัวมันเอง พร้อมเป็นเงินมากว่า เวินปัจจุบันอีก

Wed 15 Feb 2023 : 10:19AM

Sukoy
member

Since 24/6/2005
(15516 post)
คริปโตนี่ถ้าดูจากเงินในมือ whale และรายย่อยแล้ว น่าจะกลับกับที่ท่านว่านะ มันอาจจะ centralised มากกกว่าซะอีก

วัยรุ่นคริปโตจะพยายามบอกว่ารัฐบาล ธนาคารกลาง และพวกคนรวยเอาเปรียบคนจนในโลกการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งทุนนิยมคนรวยได้เปรียบคนจนแน่อยู่แล้ว ในโลกคริปโตก็เหมือนกัน และน่าจะหนักกว่า เพราะคนรวยบางคนมันพิมพ์เงินให้ตัวเองได้

แต่ดูพวก whale และเจ้าของเหรียยญที่เสกเหรียญให้ตัวเองฟรีๆ ก่อนเอาไปขายให้พวกท่าน (และสุดท้ายหลายคนก็ rug ท่าน 555) นี่มันยิ่งกว่า central bank พิมพ์เงินไหม?

เวลา Central Bank พิมพ์เงิน ธนาคารและสถาบันการเงินอยากได้ไปใช้ต้องมากู้นะครับ ไม่ใช่แจกฟรี กู้ไปแล้วก็ต้องคืน ที่สำคัญคนตัดสินใจจะเพิ่มจะลด money supply ไม่สามารถพิมพ์เงินแจกตัวเองได้ ผู้ว่าแบงค์ชาติ รัฐมนตรีคลัง เสกเงินเข้ากระเป๋าตัวเองไม่ได้ ทำได้แค่ปล่อยกู้สถาบันการเงิน หรือไปซื้อพันธบัตรในตลาด ซึ่งมันเป็นการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจไม่ใช่หาเงินเข้ากระเป๋าคนบางคนแบบพวกเหรียญบ้าบอไรที่เสกออกกันมา

ส่วนเงินเป็นตัวเลขในบัญชีนั่นถูกครับ และมันควรเป็นแบบนั้นแหละ ที่แตกต่างคือมันปลอดภัยกว่ามาก

เงินจริงที่ท่านเก็บในสถาบันการเงิน และในตลาดหุ้น ท่านไม่โดนโกงง่ายๆ หรือโดนโกงก็ตามคืนได้เป็นส่วนใหญ่ แทบเป็นไปไม่ได้ที่เงินหายเป็นร้อยล้านพันล้านแล้วตามไม่ได้ และมันจะมีคน (สถาบันการเงิน) ที่ต้องรับผิดชอบเสมอ (และมันมีทุนที่สามารถรับผิดชอบให้ท่านด้วย)

ถ้าท่านเอาเงินไปอยู่คริปโต exchange แล้วมันโกงท่านหรือมันเจ๊งโดยสุจริต หรือเงินในกระเป๋าส่วนตัวที่ท่านเก็บเอง เวลาพลาดพลั้งคีย์หลุด โอนผิด หรือโดนแฮก มันก็มักจะหายแบบตามคืนไม่ได้ you are your own bank
[Edited 5 times Sukoy - Last Edit 2023-02-15 15:17:02]

Wed 15 Feb 2023 : 4:15PM

suede
member

Since 23/4/2006
(22159 post)
Sukoy wrote:
คริปโตนี่ถ้าดูจากเงินในมือ whale และรายย่อยแล้ว น่าจะกลับกับที่ท่านว่านะ มันอาจจะ centralised มากกกว่าซะอีก

วัยรุ่นคริปโตจะพยายามบอกว่ารัฐบาล ธนาคารกลาง และพวกคนรวยเอาเปรียบคนจนในโลกการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งทุนนิยมคนรวยได้เปรียบคนจนแน่อยู่แล้ว ในโลกคริปโตก็เหมือนกัน และน่าจะหนักกว่า เพราะคนรวยบางคนมันพิมพ์เงินให้ตัวเองได้

แต่ดูพวก whale และเจ้าของเหรียยญที่เสกเหรียญให้ตัวเองฟรีๆ ก่อนเอาไปขายให้พวกท่าน (และสุดท้ายหลายคนก็ rug ท่าน 555) นี่มันยิ่งกว่า central bank พิมพ์เงินไหม?

เวลา Central Bank พิมพ์เงิน ธนาคารและสถาบันการเงินอยากได้ไปใช้ต้องมากู้นะครับ ไม่ใช่แจกฟรี กู้ไปแล้วก็ต้องคืน ที่สำคัญคนตัดสินใจจะเพิ่มจะลด money supply ไม่สามารถพิมพ์เงินแจกตัวเองได้ ผู้ว่าแบงค์ชาติ รัฐมนตรีคลัง เสกเงินเข้ากระเป๋าตัวเองไม่ได้ ทำได้แค่ปล่อยกู้สถาบันการเงิน หรือไปซื้อพันธบัตรในตลาด ซึ่งมันเป็นการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจไม่ใช่หาเงินเข้ากระเป๋าคนบางคนแบบพวกเหรียญบ้าบอไรที่เสกออกกันมา

ส่วนเงินเป็นตัวเลขในบัญชีนั่นถูกครับ และมันควรเป็นแบบนั้นแหละ ที่แตกต่างคือมันปลอดภัยกว่ามาก

เงินจริงที่ท่านเก็บในสถาบันการเงิน และในตลาดหุ้น ท่านไม่โดนโกงง่ายๆ หรือโดนโกงก็ตามคืนได้เป็นส่วนใหญ่ แทบเป็นไปไม่ได้ที่เงินหายเป็นร้อยล้านพันล้านแล้วตามไม่ได้ และมันจะมีคน (สถาบันการเงิน) ที่ต้องรับผิดชอบเสมอ (และมันมีทุนที่สามารถรับผิดชอบให้ท่านด้วย)

ถ้าท่านเอาเงินไปอยู่คริปโต exchange แล้วมันโกงท่านหรือมันเจ๊งโดยสุจริต หรือเงินในกระเป๋าส่วนตัวที่ท่านเก็บเอง เวลาพลาดพลั้งคีย์หลุด โอนผิด หรือโดนแฮก มันก็มักจะหายแบบตามคืนไม่ได้ you are your own bank



ทุกวันนี้คนควบคุมโทรศัพท์โอนเงินหมดแบงค์ก็ไม่เห็นธนาคารช่วยอะไรนะ

และ ในความหมายของผมคือ คริปโตมันยังสามารถพัฒนาได้อีกนะ

คริปโต กับ พฤติกรรมคนมันต้องแยกออกมาก่อน ระบบปัจจุบัน พฤติกรรมคนมันก้อทำอะไรแย่ๆกับการเงินได้หมดนะ เรื่องวาฬ นั่นมันก็ในปง่การลงทุน ผมไม่เหฌนว่ามัรจะต่างจาก เวลาพวกรวยๆในระบบเงินปรกติขยับละทำคนอื่นเดือดร้อนเลย


Wed 15 Feb 2023 : 5:24PM

Sukoy
member

Since 24/6/2005
(15516 post)
โดน scam หลอกเงิน แบงค์มันก็ตามให้เท่าที่ตำรวจจะจัดการคนร้ายแหละ เพราะกรณีแบบนี้แบงค์ไม่ได้ผิด และถ้าเงินมันเยอะจริงๆ (แบบหลายล้าน) มันโอนไม่ผ่านโดนบล็อคที่แบงค์ ไม่ว่าต้นทางหรือปลายทาง ถ้าเป็น crypto wallet โดนแบบเดียวกันมีเท่าไหร่ก็หมดเท่านั้น ไม่มีใครรับผิดชอบเพราะโดยระบบมันไม่มี risk transfer เหมือนการฝากเงิน

ถ้าพนักงานแบงค์ หรือบุคคลภายนอกมายักยอกเงินลูกค้า ที่มีเคสหลายสิบล้านหรือร้อยล้าน ผมเห็นได้คืน 100% โดยแบงค์จ่ายให้ก่อนเลย เพราะความเสี่ยงของเงินท่านถูกโอนไปให้ผู้รับผิดชอบคือแบงค์แล้ว

ถ้าเป็นกรณีเดียวกันกับ exchange ที่ล้มๆ กัน ไม่เห็นมีใครได้คืน บางคนโดนเป็นสิบล้าน
[Edited 5 times Sukoy - Last Edit 2023-02-15 17:33:13]

Wed 15 Feb 2023 : 8:45PM

Burm
member

Since 15/3/2006
(17830 post)
ประเด็นคือ crypto มันไม่มีตัวกลางจริงๆ โดยระบบ แต่พวก exchange มันมีตัวกลาง ซึ่งถ้าตัวกลางไม่ซื่อ เงินก็หมดได้
แบบที่เขามีการพูดว่า not your wallet, not your coin

กรณี ftx ง่ายๆ คือ เอาเงินไปวางไว้ แล้วเขาแอบเอาไปลงทุนจนเจ๊ง เลยไม่มีเงินมาคืน มีแค่บัญชี แค่ที่ผ่านมาเงินมันเยอะ เลยไม่มีประเด็นเท่าไหร่ พอที่ลงทุนไปเจ๊ง เยอะๆ เงินเริ่มไม่พอก็พัง

แต่จริงๆตัว tech มันก็ดีแหละ เราสามารถ scan ดู transaction ดูกระเป๋าพวก exchange ได้ ลองนึกว่าเป็นเงินสดดู กรณี ftx ไอ้ sbf น่าจะหนีไปไกลแล้ว หรือ genesis ก็คงไม่มีใครจับได้ว่าจะเจ๊ง (คนเห็นธุรกรรมของกระเป๋า genesis ก่อนแล้ว bank run)

แต่พวก exchange มันควรถูกกำกับแหละ เพราะมันเป็นการเอาเงินคุณไปฝากกับใครก็ไม่รู้ ถ้ามันหนีก็พัง

Wed 15 Feb 2023 : 9:28PM

Sukoy
member

Since 24/6/2005
(15516 post)
กรณีเงินไปอยุ่กับ exchange เทียบได้กับการเอาเงินไปฝากธนาคาร หรือเอาเงินไปซื้อหลักทรัพย์

ในโลก crypto โจรมันมาเยอะ exchange ต่อให้ไม่เถื่อนแบบ FTX ก็รักษาทรัพย์สินของลูกค้าได้ยากและเสี่ยงสูงมาก ถ้าพิจารณา credit risk ของ crypto exchange และ crypto bank ก็จะเห็นว่าพวกแม่งพร้อมเจ๊งเสมอ และเจ๊งให้เห็นมาเยอะแล้ว เพราะโดนแฮกทีก็ต้องเอาทุนมาชดใช้ (นี่พูดถึงกรณีมันไม่โกง) ต่อให้มี regulator มาคุม ความเสี่ยงตรงนี้ก็ยังมี regulator ก็คิดได้ว่าคุมยาก เลยปล่อยแม่งเลย wild wild west web3.0 555

เก็บเหรียญใน wallet ตัวเอง ผมเห็นสรรหา hardware wallet มาใช้กัน ซึ่งเอาจริงๆ เราจะเชื่อถือพวกนี้ได้แค่ไหนว่ามันไม่ยัดไส้อะไรมา เทียบกับการเก็บเงินในเซฟที่บ้าน หรือฝังตุ่ม ความเสี่ยงก็คนละเรื่อง และทุกครั้งที่ทำ transaction ก็มีความเสี่ยงทุกรอบ คนทั่วไปที่ไม่ใช่ geek มันไม่เข้าใจทั้งหมด มันพลาดกันทำ key หลุดมาเยอะล่ะ และสำหรับ crypto ถ้าคีย์หลุด คีย์หาย เท่ากับเงินหาย ถ้าเงินในตุ่มโจรจะขโมยต้องมาบ้านเรา ส่วน crypto มีคีย์ก็เท่ากับได้เงิน

ขำๆ สำหรับคนที่เก็บเหรียญอย่างรอบคอบ เรื่องนี้อาจจะเป็นข้อดี เพราะเวลาผ่านไป เหรียญที่หมุนเวียนจะน้อยลงเรื่อยๆ เพราะคนทำคีย์หาย ตายไปไม่บอกลูกเมีย ฯลฯ 555

นอกจากนั้นสำหรับพวก whale ถือเหรียญเยอะๆ มันเพิ่มความเสี่ยงในชีวิตอีก สมมตินาย A มี BTC 10,000 เหรียญ คุณคิดว่านาย A จะกล้าไปเที่ยวอเมริกาใต้หรือแถวบ้านเราไหม ถ้าใครรู้ว่าไอ้นี่มีตังค์ จับมันไปรีดคีย์ ไม่ต้องเสี่ยงโดนจับแบบเรียกค่าไถ่จากญาติ

ในเมื่อโดยพื้นฐานมันเป็นแบบนี้ มันจะเป็นเงินที่ใช้แลกเปลี่ยนกันทั่วไปได้อย่างไร? มันยากเกินคนทั่วไปจะบริหารจัดการได้ และด้วยความเสี่ยงมหาศาล คนรวยที่ไหรมันจะกล้าเอาเงินเยอะๆ เช่น 10% ของ wealth ไปไว้ในคริปโต มีแต่วัยรุ่นคริปโตที่ all in 555

ในเรื่อง blockchain ที่เห็น transaction trail ในแง่ข้อดีก็ตามท่านว่า แต่ในแง่หนึ่ง การใช้จ่ายอย่างสุจริตของคนทั่วไป มันควรมี privacy นะ มันไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นจะต้องมารู้ว่าเราใช้เงินยังไง จ่ายให้ใครมั่ง

อ้ออีกเรื่อง พวก stable coin พวกนี้เถื่อนไม่น้อย ระวังมันหลอกนะ regulator ไม่มาดูแลท่านนะ
[Edited 2 times Sukoy - Last Edit 2023-02-15 21:35:48]

Wed 15 Feb 2023 : 10:37PM

Burm
member

Since 15/3/2006
(17830 post)
อันนี้ขอเถียงหน่อย เรื่อง regulator ปล่อย ของบ้านเรานี่ค่อนข้างระเบียบเยอะ ถึงสุดท้ายจะพึ่ง “การรายงานจากผู้ประกอบการ” ก็เหอะ ซึ่งถ้าโกหกก็ได้แหละ แต่ก็เห็นจับได้ค่อนข้างบ่อย ขนาดทำ volume เทียมยังจับได้เลย
แล้วเขามีระเบียบให้คงสินทรัพย์ใน cold wallet/custody ค่อนข้างเยอะ คือ cold/hot ที่ 90/10 เลย แถมให้คงตามสัดส่วนของเหรียญด้วย เช่น btc ตามสัดส่วน btc ของลูกค้า ไม่ใช่เอา usdt มานับรวม
ไม่นับว่าคุมกระทั่งโฆษณา จะโฆษณาอะไรสักอย่างก็ต้องส่งกลต พิจารณาล่วงหน้า 10 วัน แถมยังพูดเรื่องเชียร์เหรียญนั่นนี่ก็ไม่ได้ถ้าไม่ใช่ช่องทางตัวเอง

ไอ้พวกที่จะกลตไม่ค่อยยุ่ง ก็พวก utility token ที่ไม่ list อันนั้นปล่อยเลย

Hardware wallet มันไม่ใช่การเก็บเหรียญใน wallet นะครับ เพราะ wallet มันอยู่บน blockchain
Hardware wallet คือการเอา private key เก็บไว้ใน hardware แบบ offline มีถึงขั้นที่บางคนทำตัวหนังสือ engrave กันเลยก็มี
ผมมองว่าจริงๆมันก็คือการรักษา password ครับ ไม่ได้หมายถึงเอา เหรียญมาใส่ ในถุงหรือตุ่ม แต่เป็นการเอารหัสออกมาใส่ซองใส่ safe มากกว่า

ส่วนเรื่องจ่ายเงินให้ใคร มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะในโลก blockchain มันก็ไม่ได้มีการระบุตัวตนกัน รู้แต่เลขกระเป๋า เว้นแต่เราจะรู้ว่ากระเป๋านี้ของใคร (กรณีพวก exchange เราจะรู้อยู่แล้ว)
[Edited 2 times Burm - Last Edit 2023-02-15 22:44:53]

Thu 16 Feb 2023 : 6:50AM

Sukoy
member

Since 24/6/2005
(15516 post)
regulator ปล่อยนี่พูดรวมๆ ไม่เจาะประเทศไหน

ที่ปล่อยๆ ก็เยอะนะ บางแห่งปล่อยเจ๊ง แค่เตือนๆ นักลงทุน ถ้าไม่เชื่อก็แล่วแต่บุญแต่กรรม

ส่วนเรื่อง wallet ข้าใจครับว่าว่าเก็บ private keys ซึ่งถ้าคนอื่นรู้เท่ากับเงินคุณไม่ใช่ของคุณแล้ว ผมว่าผมเข้าใจ blockchain และ cryptography มากกว่าวัยรุ่นคริปโตส่วนใหญ่นะ

เรื่องความเป็นส่วนตัว มันเหมือนคุณใช้ internet 10 ปีแต่ไม่เปลี่ยน ip address เลยนั่นแหละ สุดท้ายมันจะโยงได้คร่าวๆ ว่าใครเป็นใคร นี่ผมพูดกรณี crypto มันถูกใช้งานเป็น currency อย่างที่กองเชียร์พูดกัน (ซึ่งเอาจริงไม่มีใครใช้ ยกเว้นโจร)
[Edited 2 times Sukoy - Last Edit 2023-02-16 15:40:04]


Reply
Vote




2 online users
Logged In :