Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
บทสรุป เมโทร 2033 (METRO 2033: 2010)

Reply
Vote
# Thu 11 Mar 2021 : 9:44PM

"MnemoniC"
member

Since 2015-12-08 01:43:55
(5828 post)
บทสรุป เมโทร 2033 (METRO 2033: 2010)

โดย: "MnemoniC"



สตูดิโอพัฒนา- 4เอ เกมส์
ดูแลการผลิตโดย- แอนดริว โพรกโฮรอฟ
ประเภทเกมส์- แอ็คชั่นชู้ตเตอร์ ระทึกขวัญ
จัดจำหน่ายโดย- ทีเอชคิว และ ดีป ซิลเวอร์
แพลตฟอร์ม- เอ็กซ์ บ็อกซ์ 360, เอ็กซ์ บ็อกซ์ วัน, เพลย์สเตชั่น 3, เพลย์สเตชั่น 4, วินโดว์ส, ลินุกซ์, โอเอส เอ็กซ์, สวิตช์ และ สตาเดีย

เฉลยเกม
ในปี ค.ศ.2013 โลกได้เกิดมหาสงครามนิวเคลียร์ที่ได้กำจัดมนุษยชาติหลายพันล้านคน และที่ประเทศรัสเซียผู้รอดชีวิตต้องหลบชั้นบรรยากาศกัมมันตภาพรังสีของสงคราม ลงไปใช้ชีวิตในอุโมงค์สถานีรถไฟใต้ตินทั่วใจกลางกรุงมอสโกว์ เพื่อให้รอดพ้นจากฝุ่นพิษกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์และสัตว์กลายพันธ์บนพื้นผิวโลก แม้มนุษย์ที่เหลือเพียงหยิบมือใต้พื้นโลกจะน้อยเพียงใด แต่สันดานมนุษย์ผู้รักความขัดแย้งก็ยังสร้างกลุ่มก๊กต่างๆ ภายในสังคมอุโมงค์ใต้ดินอีกมากมายเพื่อแก่งแย่งชิงทรัพยากรและอำนาจต่างๆ

หน่วยเรนเจอร์ส(Rangers)เป็นทหารราบฝ่ายกลางของความขัดแย้งในเมโทร ทำหน้าที่คล้ายๆผู้พิทักษ์สันติราชฎร์ในเมโทร อยู่ใต้คำสั่งของหน่วยสปาร์ตันจากกลุ่มโพลิส
กลุ่มทหารแดงเรด ไลน์(Red Line)เป็นฝ่ายคอมมิวนิสต์เก่า เป็นกลุ่มที่อยากรวบรวมทุกฝ่ายให้รัสเซียกลับมาให้ผงาดยิ่งใหญ่อีกครั้ง  
ลัทธิฟาสซิสต์(Fourth Reich)เป็นกลุ่มนาซีอาชญากรหัวรุนแรงภายในเมโทร ตั้งตนเองเป็นผู้ครอบครองอำนาจโลกในลำดับที่ 4 แบบเบ็ดเสร็จ
กลุ่มโพลิส(Polis) ชื่อคล้ายๆตำรวจเเต่จริงๆแล้ว เป็นกลุ่มซึ่งมีอำนาจทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมโทร หน่วยทหารสปาร์ตันและเรนเจอร์สอยู่ในฝ่ายนี้
และกลุ่มหลักใหญ่ๆสุดท้ายคือฮานซ่า(Hanza)ซึ่งคอยควบคุมกลไกลหลักของสถานีรถไฟใต้ดินด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจ นอกจากข้างต้นแล้วสังคมชนชั้นในเมโทรยังมีแก๊งและฝ่ายยิบย่อยอีกมากมาย
ในสถานการณ์ตอนนี้คู่ขัดเเย้งระหว่างกลุ่มทหารแดงเรด ไลน์และกลุ่มทหารนาซีโฟร์ธ ไรช์ได้เปิดสงครามในโลกอุโมงค์ใต้ดินเมโทรอย่างเป็นทางการแล้ว

...20 ปีผ่านไป ค.ศ.2033 ‘อาร์เทียม’ (Artyom) ชายหนุ่มวัยรุ่นเขาเกิดมาอยู่บนผิวโลกได้ไม่นานก่อนสงครามนิวเคลียร์จะปะทุขึ้น ครอบครัวจริงอาร์เทียมสูญเสียไปทั้งหมดแล้ว เขาเติบโตในชุมชนอุโมงค์สถานีรถไฟเล็กๆกับพ่อบุญธรรมของเขาอเล็กซ์หรือซักฮอย (Alex&Sukhoi) อาร์เทียมและพ่อของเขาอาศัยในชุมชนอิสระวีดีเอ็นคาเอ็กซ์ไฮบิชั่น ที่ไม่ขึ้นตรงกับกลุ่มขั้วอำนาจใดๆ

โปรล๊อก(Prologue)
อาร์เทียมกำลังปฏิบัติหน้าที่กับหน่วยสปาร์ต้าของกลุ่มเรนเจอร์ คนที่อยู่กับอาร์เทียมในตอนนี้คือผู้พันมิลเลอร์ ให้เดินตามมิลเลอร์ไปและเปิดประตูเหล็กมุดที่กั้น เมื่อขึ้นไปด้านบนกดไอเท็มใส่หน้ากากป้องกันกัมมันตภาพรังสี ซักพักหนูกลายพันธ์วอทเชอร์จะออกมาโจมตีเรา ให้ยิงสกัดวอทเชอร์ไปเรื่อยๆประมาณ 5-6 ตัว แล้วไปงัดประตูเหล็กกับมิลเลอร์เพื่อออกไปนอกอาคาร

เมื่ออาร์เทียมและมิลเลอร์ออกมาจากนอกอาคารจะพบกับทีมสมทบและรถหุ้มเกราะ แต่รอบๆจะเต็มไปด้วยวอทเชอร์และค้างคาวยักษ์เดม่อน ให้เราเตรียมตัวตัวรับมือพวกวอทเชอร์ที่เข้ามาทำร้ายกลุ่มสปาร์ต้า เมื่อต่อสู้พวกวอทเชอร์ไปเรื่อยๆรถหุ้มเกราะสปาร์ต้าจะโดนโจมตีและอาร์เทียมจะล้มลงก่อนเกมจะตัดจบบทโปรล๊อก

เอธ เดย์ส เออร์ลิเออร์(8 Days earlier)
8 วันก่อนเหตุการณ์ในบทโปรลอก อาร์เทียมที่อยู่ในที่พักชุมชนเล็กๆวีดีเอ็นคาภายในเมโทร ตื่นขึ้นมาเจออเล็กซ์พ่อบุญธรรมของเขา อเล็กซ์จะพาอาร์เทียมไปพบกับเพื่อนเก่าของอเล็กซ์ที่เป็นทหารสปาร์ต้าชื่อฮันเตอร์ ในขณะที่เราเดินไปกับอเล็กซ์เราจะได้ยินข่าวจากชาวบ้านและผู้ป่วยที่เสียชีวิต จากการโจมตีของสปีชี่ส์สายพันธ์ใหม่ที่เรียกว่า"เดอะ ดาร์ค วันส์"

อาร์เทียมและอเล็กซ์จะพบฮันเตอร์ที่ประตูป้องกันชุมชน พร้อมกับข่าวจากฮันเตอร์ว่าตอนนี้ดาร์ควันส์เป็นภัยอันตรายต่อชาวบ้านในเมโทร ฮันเตอร์และอเล็กซ์คุยกันได้ไม่นานก็ถูกสัตว์กลายพันธ์โนซาไลส์โจมตี ให้เก็บปืนสั้นข้างๆมิลเลอร์มาสู้กับโนซาไลส์ เมื่อกำจัดโนซาไลส์ได้ฮันเตอร์และอาร์เทียมจะวิ่งไปยังอีกประตูหนึ่ง ก่อนที่ฮันเตอร์จะพบศพชาวบ้านมากมายจากการโจมตีของสิ่งมีชีวิตปริศนาดาร์ควันส์ ฮันเตอร์บอกให้อาร์เทียมเดินทางไปหาผู้พันมิลเลอร์ของหน่วยสปาร์ต้าที่โพลิส พร้อมให้อาร์เทียมเล่าเรื่องความเลวร้ายดาร์ควันที่นี่ให้มิลเลอร์ฟัง แล้วขอความช่วยเหลือจากมิลเลอร์ และฮันเตอร์ได้มอบสร้อยด็อกแท็กให้กับอาร์เทียมหากมีคนถามว่าใครส่งอาร์เทียมมา

แชปเตอร์ 1 เลท เดอะ เจอร์นีย์ บีกิน(Chapter 1 let the journey begin)
เราจะอยู่ในที่พักในชุมชนวีดีเอ็นคาให้เปิดแผนที่แล้วเดินไปตามเข็มทิศสีเขียวที่ชี้พิกัด เราจะพบกับคนดูแลคลังอาวุธของชุมชน ให้เรารับอาวุธเครื่องมืออุปการณ์ยังชีพต่างๆ และเปิดแผนที่เดินไปพบกับคนดูแลชุมชนเขาจะรออยู่ที่รถรางโยกบนทางรถไฟ จากนั้นเตรียมตัวเดินทางไปโพลิสเพื่อพบกับผู้พันมิลเลอร์

เชส(Chase)
เริ่มฉากมาเรากำลังเดินทางอยู่บนรถรางโยกบนทางรถไฟกับชุดป้องกันร่วมสำรวจทาง ทั้งสี่คนได้สนทนาถึงกลุ่มอำนาจต่างๆทั้งกลุ่มทหารแดง, กลุ่มทหารนาซี และกลุ่มอำนาจฮานซ่า เมื่อเดินทางไปซักพักทุกคนจะมีอาการเห็นภาพหลอนจนสลบหมดสติอยู่ในนิมิตอะไรบางอย่าง แต่อาร์เทียมเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่โดนภาพหลอนครอบงำ อาร์เทียมจึงรีบปลุกคนอื่นๆเพราะกำลังมีพวกสัตว์กลายพันธ์โนซาไลส์เข้ามาโจมตี

ให้เรายิงพวกโนซาไลส์ต้านเอาไว้แล้วเพื่อนเราจะเอาปืนลูกซองให้อีกกระบอก เมื่อยิงไปซักพักอาร์เทียมจะพลาดตกจากรถรางโยก ให้เราวิ่งตามรถรางไปเราจะพบกับสถานีริก้า

แชปเตอร์ 2 บูร์บอง(Bourbon)
เมื่อเข้ามาในสถานีริก้าชุดป้องกันทั้งสามคนได้ดื่มฉลองหลังจากที่รอดจากฝูงโนซาไลส์มาได้ ให้เราเปิดแผนที่เดินไปตามพิกัดลูกศรจะเห็นเด็กคนคนนึงเมื่อเรามอบกระสุนให้เด็ก เด็กจะพาไปพบบูร์บองและทำข้อตกลงช่วยเหลือกัน บูร์บองจะขอให้อาร์เทียมพาเขาไปส่งที่สถานีดราย ก่อนที่อาร์เทียมจะเดินทางไปที่โพลิสต่อ

ลอสต์ ทันเนลส์(Lost tunnels)
ให้เราเดินตามบูร์บองไปจะพบกลุ่มศัตรูติดอาวุธให้ฝ่าศัตรูเข้าไปด้านในจนสุด กระโดดลงไปในซากรางรถไฟเก่าสวมหน้ากากกันกัมมันตภาพรังสี ตอนนี้พวกฝูงโนซาไลส์จะเข้ามาโจมตีเรา ให้เราฝ่าสัตว์กลายพันธ์ไปให้จนสุดทางจะพบว่าเป็นอุโมงค์ทางตัน บูร์บองจะเห็นทางลงบันไดให้เราตามไปและจะพบห้องท่อระบายน้ำ

เดินไปช่วยบูร์บองเปิดประตูท่อระบายน้ำอาร์เทียมและบูร์บองจะพบนิมิตภาพหลอน บูร์บองจะเกิดอาการหลอนแต่อาร์เทียมจะพบมีมือบางอย่างดึงช่วยเขาจากภาพหลอน และพาทั้งคู่กลับมามีสติอีกครั้ง เดินตามบูร์บองไปจะพบทางเข้ามาร์เก็ต แต่จะมีฝูงโนซาไลส์ตามมาให้กำจัดโนซาไลส์ให้หมด แล้วจะมีเพื่อนบูร์บองเปิดประตูกั้นให้ทั้งคู่เข้ามาร์เก็ต

มาร์เก็ต(Market)
อาร์เทียมและบูร์บองจะเข้ามาอยู่ในสถานีมาร์เก็ตเตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะฟิลเตอร์ที่เปลี่ยนกรองอากาศควรมีติดไว้เยอะๆ จากนั้นไปพบบูร์บองเพื่อออกจากมาร์เก็ตและเดินทางต่อ

เดด ซิตี้(Dead city)
เราจะอยู่ในสถานีรถไฟบนพื้นผิวโลกสวมหน้ากากป้องกันรังสี หากขึ้นไปสำรวจชั้นบน ระวังกับระเบิดให้ย่อตัวต่ำๆกดตัดสลิงตามที่เกมบอกเป็นระยะ กลับมาหาบูร์บองเราจะออกนอกสถานีรถไฟ เมื่อออกมาด้านนอกอาร์เทียมจะพลัดกับบูร์บองตอนข้ามคลองเล็กๆ ให้ใช้แผนที่เดินตามเข็มทิศเข้าไปในอาคาร ในช่วงที่เราเล่นเกมแบบไม่มีพาร์ทเนอร์นำทางให้หมั่นใช้เข็มทิศแผนที่ตลอดเพราะจะได้ใช้ตลอดทั้งเกม เมื่ออยู่ในอาคารคอยระวังการโจมตีของฝูงวอทเชอร์ เราจะพบภาพหลอนนิมิตตามทางและอาร์เทียมสามารถสัมผัสจิตของดาร์ควันส์ได้ตัวนึง

พอออกมาอีกด้านหนึ่งของอาคารฝ่าฝูงวอทเชอร์และระวังค้างคาวกลายพันธ์เดม่อนที่บินโฉบไปโฉบมาด้วย หากเจอเดม่อนบินลงมาขวางทางเดินของเราให้ยิงจนมันบินหนีแล้วเราเดินได้ต่อพอ อย่ายิงจนมันตายเพราะเปลืองกระสุนมาก ตอนนี้เราพอจะหาไอเท็มฟิลเตอร์ที่เปลี่ยนกรองอากาศ ตามศพทหารหรือห้องอาคารเล็กๆได้ควรหามาเผื่อไว้ก่อน ให้เดินไปตามเข็มทิศเรื่อยๆเราจะกลับไปพบบูร์บองอีกครั้ง เดินตามบูร์บองไปซักระยะเราจะต้องสู้กับฝูงวอทเชอร์กลุ่มใหญ่ คอยยิงช่วยบูร์บองไปเรื่อยๆจนกำจัดวอทเชอร์หมด แล้วจะมีฝูงเดม่อนบินวนมามันจะโฉบเราจนเรากระเเทกไปที่รั้วจนรั้วเปิดออก ให้วิ่งหนีเดม่อนไปทางที่รั้วเปิดก็จะจบด่านนี้

แชปเตอร์ 3 ข่าน(Chapter 3 Khan)
อาร์เทียมและบูร์บองจะอยู่ในท่อระบายอากาศเล็กๆ และบูร์บองจะลงไปสำรวจก่อนถูกพวกกลุ่มขบถหัวรุนแรงจับตัวได้ เก็บปืนเอเคและสัมภาระของบูร์บองแล้วเลือกลงช่องระบายอากาศช่องไหนก็ได้ เพราะจุดหมายเราจะไปบรรจบในที่เดียวกันทั้งสองทาง เมื่อลงมาด้านล่างจะใช้วิธีซุ่มกำจัดศัตรูหรือบุกฝ่าไปเลยก็ตามสะดวก จะมีศัตรูบริเวณนี้ 7-8 คน เเล้วเข้าประตูสุดทางตามแผนที่

เมื่อผ่านประตูแรกมาให้กำจัดกองโจรในห้องนี้อีกชั้นหนึ่ง แต่ควรระวังศัตรูที่ลาดตระเวณบนชั้นลอยไม้ด้วย เคลียร์พื้นที่เรียบร้อยให้เข้าห้องหัวหน้ากองโจร จะพบบูร์บองกำลังต่อสู้กับหัวหน้ากองโจรจนทั้งคู่ต่างคนต่างแลกกระสุนใส่กันและตายทั้งคู่ ข่านทหารเรนเจอร์จะโผล่ลงมาจากเพดานและจะเป็นคนอาสาพาอาร์เทียมไปส่งที่สถานีโพลิสต่อ

โกสต์(Ghosts)
ข่านเป็นหนึ่งในหน่วยของทหารเรนเจอร์แต่ที่ข่านพิเศษกว่าเรนเจอร์คนอื่นข่านเป็นคนมีอาคมไสยศาสตร์ หรือประมาณหมอผีฝรั่ง ให้เดินตามข่านไปเรื่อยๆอย่าเดินนำข่าน เพราะพื้นที่นี้มีวิญญาณและความแค้นที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดมากมาย ที่รอเข้ามาสิงหรือดึงเราลงสู่มิติความโหดร้าย ถ้าโดนสิงเกมจะโอเวอร์ทันที

***เดอะ ดาร์ค วัน คือ สิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นมาหลังจากสงครามนิวเคลียร์ ตอนจบของเกมจะเฉลยว่าดาร์ควันส์เป็นสิ่งที่มีวิวัฒนาการชั้นสูงในโลกมนุษย์ แม้หน้าตาจะเป็นหรือคล้ายๆเอเลี่ยนต่างดาว

ส่วนวิญญาณและโลกความแค้นจะออกแนวคล้ายๆวิญญาณที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น มีมาก่อนดาร์ควันส์จะเกิด ถ้าเจอเนื้อเรื่องส่วนนี้ให้เราใช้เป็นตรรกะว่าเป็นโลกภูติผีปีศาจจะเข้าใจง่ายกว่า ซึ่งมิติความแค้นนี้อาร์เทียมก็พอจะสัมผัสได้แต่อาร์เทียมไม่ได้มีคาถาหรืออาคมขับไล่เหมือนข่าน

เดอะ ดาร์ค วันส์ และ มิติวิญญาณจะเป็นคนละส่วนของการดำเนินเรื่องเกม แม้ตอนจบเกมอาจมีการรวบยอดอยู่บ้าง***


ให้เราคอยกดเปิดไฟแช็คเผาอยากไย่เปิดทางให้ข่านเดินไปเรื่อยๆ เมื่อเข้ามาในอาคารระวังดอกไม้สีเขียวที่มีพิษรังสี สุดทางเมื่อเปิดประตูไปฝูงโนซาไลส์จะรอต้อนรับเรากำจัดให้หมดแล้วออกนอกอาคาร ตามข่านเหมือนเดิมเราจะพบตัวดูดไฟฟ้าฟีโนเมน่อม และนิมิตความแค้นต่างๆที่ยังวนเวียนอยู่ในอุโมงค์แถวๆนี้ ให้เดินติดๆข่านไว้

สุดอุโมงค์ข่านกับอาร์เทียมจะต้องรับมือฝูงโนซาไลส์อีกฝูงใหญ่ ให้ช่วยข่านยิงไปเรื่อยๆซักพักตัวฟีโนเมน่อมจะออกมาฆ่าฝูงโนซาไลส์ให้เอง ข้ามซากรถไฟมาอีกด้านนึงจะพบรถรางแบบปั่นไฟที่ข่านเตรียมเอาไว้ ขึ้นไปนั่งก็จะผ่านด่านนี้

เคิร์ส(Cursed)
เมื่อมาถึงอุโมงค์สถานีต้องคำสาปนี้ข่านจะไปรวมกับผู้รอดชีวิตอีกกลุ่มที่เหลือ เป้าหมายภาระกิจคือจัดการระเบิดปิดทางไม่ให้พวกโนซาไลส์เข้ามา จากตรงหน้าของข่านและผู้รอดชีวิตจะมีสี่เส้นทางคือ ทางรถไฟซ้าย รูโหว่กลางสถานี ทางรถไฟขวา ชั้นบนของสถานี โดยรูผนังตรงกลางจะมีภูติผีความแค้นขวางทางเรายังผ่านไปไม่ได้ตอนนี้ และพวกฝูงโนซาไลส์จะออกเรื่อยๆหากเราไม่รีบระเบิดปิดทางห้ามไม่ให้พวกมันเข้ามา

เริ่มจากขึ้นไปด้านบนบันไดสถานีรถไฟจะอยู่ฝั่งขวาเดินไปเรื่อยๆจะพบระเบิดติดเสาไม้ เป็นระเบิดของผู้รอดชีวิตได้ติดตั้งไว้แล้วให้กดระเบิดทำงานและรีบวิ่งหนี เราจะระเบิดปิดทางโนซาไลส์ได้ด้านหนึ่งแล้ว จากนั้นลงไปเก็บถังน้ำมันระเบิดจากคนเสียชีวิตทางรถไฟด้านขวาล่าง และย้อนกลับวิ่งไปทางรถไฟซ้ายจนสุดทางอาร์เทียมจะติดตั้งระเบิด ให้เรารีบวิ่งกลับไปหาข่านกับผู้รอดชีวิต ระเบิดจะทำงานและสามารถปิดทางเข้ามาของโนซาไลส์ครบทั้ง 2 จุด

เมื่อกลับไปหาข่านข่านจะใช้อาคมพาอาร์เทียมฝ่าภูติผีความแค้นเข้าไปตรงช่องรูโหว่กลางสถานี ด้านในช่องรูโหว่จะเป็นห้องคล้ายๆห้องทำพิธีไล่ภูติผีความแค้น ข่านจะเปิดทางลับลงใต้ดินให้อาร์เทียมไปสถานีต่อไป โดยที่ข่านจะขอช่วยคนในสถานีคำสาปนี้ก่อนและจะไปพบอาร์เทียมภายหลัง

อาร์โมรี่(Armory)
เมื่อลงมาข้างล่างให้อาร์เทียมมุดท่อจะพบทางไปถึงสถานีอาร์โมรี่ ในสถานีอาร์โมรี่ถึงจะเป็นเขตฟรีโซนแต่ก็ยังคงมีกลุ่มทหารแดงเรด ไลน์ควบคุมอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารนาซีโฟร์ธ ไรช์เข้ามาก่อความไม่สงบ อาร์เทียมจะโดนเจ้าหน้าที่สั่งให้เข้าไปในห้องสืบสวนก่อนเข้าไปภายในสถานี ในห้องสืบสวนนอกจากอาร์เทียมยังมีชายแปลกหน้าอีกคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นทหารนาซี ทันใดนั้นชายแปลกหน้าได้ขัดขืนและทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารแดง ความซวยของอาร์เทียมที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยจึงต้องวิ่งหนีตามชายแปลกหน้าไป

ให้เราวิ่งตามชายแปลกหน้าไปเรื่อยๆในสถานีก่อนที่ชายแปลกหน้าจะโดนยิงจนล้ม ให้เราวิ่งขึ้นบันไดต่อแล้วอ้อมขวาไปเราจะร่วงตกมาหน้าห้องช่างตีเหล็ก ช่างตีเหล็กจะช่วยอาร์เทียมซ่อนจากทหารแดงที่ไล่ตาม และช่างตีเหล็กคนนี้คือแอนดริวคนที่ข่านแนะนำอาร์เทียมให้มาพบในอาร์โมรี่ หลังจากเปลี่ยนชุดที่ช่างตีเหล็กให้ใช้อำพลางตัวแล้ว เราจะสามารถเดินซื้อไอเท็มในสถานีได้เตรียมตัวให้เรียบร้อย แอนดริวจะช่วยเหลือให้อาร์เทียมเดินทางไปสถานีโพลิสต่อ

เดินลงไปแอบที่ด้านใต้ช่องซ่อมรถรางบริเวณที่แอนดริวเตรียมพาอาร์เทียมไปส่งที่สถานีโพลิส ให้รอซักพักรถรางจะขยับมาด้านบนหัวอาร์เทียมที่หลบอยู่เป็นรถรางของกลุ่มทหารแดงที่ใช้เดินทางในเมโทร ให้เราขึ้นไปแอบด้านล่างของรถรางเราจะแอบโดยสารไปสถานีหน้าต่อกับกลุ่มทหารแดง



แชปเตอร์ 4 วอร์(Chapter 4 War)
อาร์เทียมจะเดินทางไปฐานที่มั่นของกองทัพทหารแดง ขณะแอบใต้รถรางเราจะได้ยินทหารแดงเรด ไลน์คุยเรื่องสงครามกับทหารนาซีโฟร์ธ ไรช์ เมื่ออาร์เทียมโดดลงจากรถรางให้เราย้อนกลับมากำจัดทหารแดง 2 คนที่ด้านหลังก่อน ข้างหน้าเราคือฐานที่มั่นทหารแดงที่กำลังสกัดทหารนาซีอีกฝากหนึ่งอยู่ ภาระกิจนี้ทั้งทหารเรด ไลน์และโฟร์ธ ไรช์จะเริ่มหุ้มเกราะเหล็กหนากันแล้ว หากเราสเตลท์ผ่านหรือลอบสังหารศัตรูโอกาสจะพบทหารเกราะหนักก็น้อยลง เส้นทางจากจุดจอดรถรางของอาร์เทียมที่แอบขึ้นมาจนไปถึงเป้าหมายค่อนข้างเป็นเส้นตรง ให้ค่อยๆลอบผ่านหรือฝ่าทหารแดงจนไปถึงหน้าฐานทหารนาซีให้ได้

พอผ่านมาถึงฐานทหารนาซีเราจะต้องลอบสังหารหรือฝ่าทหารนาซีไปตามเส้นทางตรงๆเรื่อยๆอีก และทหารนาซีก็มีหน่วยทหารเกราะหนักอีกเช่นกัน เมื่อมาถึงหน้าอุโมงค์จะมีรถรางทหารนาซีคอยลาดตระเวนอยู่ ให้ใช้ระเบิดมือถล่มรถรางนาซีไปเลยเราจะได้ไม่ต้องห่วงด้านหลังเพราะมันจะขับไปขับมาเรื่อยๆ ด้านล่างขวาปากอุโมงค์มีเชลยโดนทหารนาซีจับไว้อยู่ จะลงไปช่วยก่อนหรือไม่ช่วยแล้วไปตามแผนที่เลยก็ได้ และจะมีทหารนาซีกลุ่มปิดท้ายให้จัดการให้เรียบร้อย เดินเข้าไปภายในห้องอาคารสุดทาง เมื่อเปิดประตูออกไปอาร์เทียมจะพลาดเพราะไม่เห็นทหารนาซีก็เลยโดนจับเป็นเชลย

โทรลลีย์ คอมแบท(Trolley combat)
อาร์เทียมจะถูกทหารนาซีทรมาณเพื่อเค้นความจริงเรื่องกองทัพทหารแดง ก่อนที่กลุ่มทหารสปาร์ต้า 2 คนจะเข้ามาช่วยอาร์เทียมก่อนที่อาร์เทียมจะโดนสังหาร อาร์เทียมที่เจ็บหนักหลังโดนทรมาณจึงโชว์ป้ายด็อกแท็กของฮันเตอร์ให้ทหารสปาร์ต้าดู ทหารทั้ง 2 คนจึงตัดสินใจจะช่วยอาร์เทียมไปที่โพลิสเพื่อพบกับมิลเลอร์ เดินออกมาด้านนอกเราจะพบรถรางติดอาวุธของกลุ่มนาซี ภาระกิจเราจะต้องฝ่าทหารโฟร์ธ ไรช์และกลุ่มศัตรูต่างๆ เพื่อไปให้ถึงจุดนัดพบของพวกทหารสปาร์ต้าที่เหลือข้างนอก

เมื่อขึ้นรถรางนาซีมาเราจะอยู่แถวเขตของทหารนาซีโฟร์ธ ไรช์ พอรถรางผ่านประตูหน้าอุโมงค์ค่ายมาทหารนาซีจะสอบถามรถรางของอาร์เทียม ก่อนที่ทหารนาซีจะจับได้ว่าเราแอบลักลอบเข้าฐานโฟร์ธ ไรช์ ให้บังคับปืนบนรถรางยิงต่อสู้กับกลุ่มทหารนาซีตามเส้นทางที่เราหลบหนี การบังคับปืนกลบนรถรางจะไม่เหมือนกับการยืนเล็งปกติ อนาล็อกซ้ายจะใช้บังคับทิศทางซ้ายและขวา อนาล็อกขวาจะใช้บังคับทิศทางขึ้นและลง ให้เราฝ่ากลุ่มทหารนาซีไปจนสุดทางให้ได้ เราจะมาอยู่บริเวณที่รถรางนาซีไปต่อไม่ได้ให้เดินเข้าไปในอาคาร จนผ่านไปขึ้นรถรางอีกด้านหนึ่งของสถานี

ดีพอท(Depot)
อาร์เทียมและทหารสปาร์ต้าอีกนายจะออกเดินทางต่อเพื่อไปที่จุดนัดพบกับหน่วยสปาร์ต้าที่เหลือ รถรางช่วงนี้จะไม่ได้เป็นรถรางติดตั้งปืนกลการบังคับจะมาจากตัวอาร์เทียมเอง และกระสุนทรัพยากรต่างๆจะพอมีให้เก็บบนรถรางบ้างนิดหน่อย เส้าทางไปแบล็คสเตชั่นจะยังมีกลุ่มโจรอาชญากรคอยดักซุ่มมากมายให้ยิงสกัดคุ้มกันรถรางไปตลอดทาง และคอยหมอบหลบสิ่งกีดขวางตามทางรถไฟให้ดีๆ

พอเรามาถึงดีพอทจุดจอดพักของขบวนรถไฟใต้ดินมากมาย ฝูงโนซาไลส์จะเริ่มออกมาโจมตีอาร์เทียมและทหารสปาร์ต้า ให้ยิงฝูงโนซาไลส์เฉพาะพวกที่ขึ้นมาเกาะบนรถรางเราก็พอเพื่อประหยัดกระสุน แต่ทหารสปาร์ต้าที่มากับอาร์เทียมจะพลาดท่าโดนดึงตกรถราง และเราจะควบคุมรถรางไม่ได้จนรถรางวิ่งไปกระแทกสิ่งกีดขวางจนอาร์เทียมกระเด็นออกมา เมื่อบังคับตัวละครได้ให้สังเกตที่พื้นใกล้ๆที่เรากระเด็นออกมา จะมีร่องรอยท่อน้ำเสียแตกที่พื้นอยู่ให้มุดผ่านไปทางซ้ายก็จะจบตรงด่านนี้

ดีเฟนส์(Defense)
เดินตามท่อไปเรื่อยๆอาร์เทียมจะพบสถานีแห่งหนึ่งที่มีผู้รอดชีวิต อาร์เทียมจะต้องช่วยผู้รอดชีวิตกลุ่มนี้จากการจู่โจม อาร์เทียมและผู้รอดชีวิตจะโดนพลังงานภูติผีความแค้นจู่โจมและฝูงโนซาไลส์จะออกมา ให้ต้านฝูงโนซาไลส์เอาไว้และอาร์เทียมจะโดนพลังงานลึกลับอีกทีจนวูบล้มลง และพวกฝูงโนซาไลส์ก็จะหายไปเช่นกัน เดินเข้าสถานีอาร์เทียมจะได้รับข้อความจากผู้ที่รอดชีวิตให้ไปแจ้งคนที่เหลืออีกฟงชากนึงถึงการโจมตี

ภายในสถานีเหมือนเพิ่งโดนฝูงกลายพันธ์เข้ามาโจมตีได้ไม่นาน ให้เปิดแผนที่ออกไปยังอุโมงค์อีกฟากจะมีพวกกลายพันธ์ตัวเล็กๆคอยมุดขึ้นมาโจมตีเรา แนะนำว่าหนีเลยเพราะมันเร็วยิงยากและดาเมจไม่ได้แรงอะไร เข้าไปในอาคารอีกฟากหนึ่งจะพบเด็กที่เสียคุณอาจากการโจมตีครั้งนี้ เราจะต้องใที่หนึ่งด้านบน ให้ไปตามจุดหมายในแผนที่วิ่งผ่านพวกกลายพันธ์ตัวเล็กกระโดดขึ้นบันไดไม้ในท่อไป จะพบกลุ่มผู้รอดชีวิตจากสถานีข้างล่างและเเม่ของเด็ก

จุดพักที่นี่จะมีไอเท็มขายให้เตรียมตัวให้พร้อมทั้งหน้ากาก ฟิลเตอร์ กระสุน อัพเกรดปืน และออกจากที่นี่เพื่อไปสถานีแบล็คสเตชั่นต่อ

เอ้าท์พอสต์(Outpost)
เมื่อออกมาจากประตูอุโมงค์จุดผู้รอดชีวิตตามเส้นทางภาระกิจนี้จะมีทหารนาซีมากมาย ให้ขึ้นไปบนผิวโลกโดยฝ่ากองโจรนาซีที่มีมากมายขึ้นมา หมั่นเช็คฟิลเตอร์กรองอากาศบ่อยๆและคอยหาไอเท็มมาเปลี่ยนเรื่อยๆรวมทั้งกระสุน เข้าไปในซากอาคารตามแผนที่ในนี้จะมีทหารนาซีเป็นจุดๆ จะลอบฆ่าหรือบู๊เข้าไปเลยก็ได้ เส้นทางจะค่อนข้างซับซ้อนและมืดภายในอาคารพยายามใช้เข็มทิศแผนให้เคยชิน

เมื่อออกมาอีกด้านหนึ่งของซากอาคารบริเวณนี้จะเต็มไปด้วย ทั้งฝูงค้างคาวเดม่อนและทหารนาซีเกราะเหล็กมากมาย บวกกับความมืดและลมที่พัดแรงจนทำให้เป้าเล็งปืนเราบังคับยาก พยายามคลำเส้นทางไปจนให้ถึงจุดหมายตามแผนที่ให้ได้ อาจจะไม่ผ่านในครั้งเดียวแต่ให้จำตำแหน่งศัตรูไว้แล้วค่อยๆตัดสินใจว่าจะสเตลท์หรือฝ่าทหารนาซีเข้าไปในครั้งถัดๆไป พอผ่านมาได้แล้วให้เดินลงบันไดเล็กๆเราก็จะผ่านด่านนี้

แบล็ค สเตชั่น(Black station)
เมื่อเดินลงบันไดมาที่นี่คือสถานีแบล็คสเตชั่นอาร์เทียมจะพบทหารนาซี แต่ทหารสปาร์ต้าอีกคนที่เคยช่วยอาร์เทียมเมื่อตอนโดนจับก่อนหน้าจะเข้ามาช่วย และบอกให้อาร์เทียมไปเจอกับเขาที่รางรถไฟใต้ดินของสถานี

เราสามารถถอดหน้ากากได้แล้ว ให้เปิดเข็มทิศแผนที่ลอบหรือลุยฝ่าทหารนาซีลงไปในสถานีรถไฟใต้ดินเรื่อยๆ ระหว่างทางระวังพวกกับดักไม้และกับระเบิดเส้นลวดตามพื้นด้วย สุดทางจะพบทางลงท่อระบายน้ำใส่หน้ากากกันรังสี ผ่านทหารนาซีอีกนิดหน่อยผ่านไปจนถึงรถรางจะเจอทหารสปาร์ต้าที่รออาร์เทียมอยู่

พออาร์เทียมเดินทางมาซักพักอาเทียมจะเห็นนิมิตอยู่ในมิติของเดอะดาร์ค วันส์ พยายามเดินไปเดินมาจนมีสิ่งมีชีวิตแปลกๆเดินมาทางอาร์เทียม ให้รีบวิ่งหนีไปเลยนั่นคือดาร์ค วันส์ที่ทุกคนบอกเป็นสิ่งที่อันตรายต่อมนุษยชาติ มีบางสิ่งกระซิบบอกอาร์เทียมว่า "เรามาเพื่อช่วยอาร์เทียม และอย่าลองไปเปลี่ยนอนาคตเลย..."

แชปเตอร์ 5 โฮป(Chapter 5 โฮป)
อาร์เทียมได้เดินทางมาถึงสถานีของกลุ่มโพลิสและได้พบกับมิลเลอร์ เราสามารถซื้อไอเท็มอัพเกรดได้ใกล้ๆกับที่พบมิลเลอร์ อาร์เทียมจะเล่าความเลวร้ายของดาร์ค วันส์ที่เกิดขึ้นในสถานีของอาร์เทียมให้มิลเลอร์ฟัง ตามที่ฮันเตอร์เคยมอบภาระกิจนี้ให้อาร์เทียมที่เอ็กซ์ไฮบิชั่นก่อนมาโพลิส และมิลเลอร์จะเรียกทุกคนมาลงความเห็นในสภาถึงเรื่องที่อาร์เทียมเล่าถึงดาร์ค วันส์

บทสรุปของการไตร่สวนมูลเรื่องดาร์ค วันส์หลายคนไม่เห็นด้วยที่จะเข้าไปแทรกแซง แต่มีกลุ่มหนึ่งที่เห็นด้วยว่าควรใช้ขีปนาวุธที่เหลือกำจัดพวกดาร์ค วันส์ แต่ปัญหาคือเราไม่มีข้อมูลของขีปนาวุธที่อยู่ในพื้นที่ ดี-6 แต่ด้วยที่ฮันเตอร์เชื่อว่าอาร์เทียมมีสัมผัสพิเศษถึงพวกดาร์ค วันส์ มิลเลอร์จึงตัดสินใจให้อาร์เทียมเป็นทหารสปาร์ต้าชั่วคร่าว เพื่อช่วยกลุ่มที่เห็นด้วยในโพลิสให้กำจัดดาร์ค วันส์

แอลลี่ย์(Alley)
ภาระกิจเราคือไปที่ห้องสมุดแอลลี่ย์เพื่อค้นหาข้อมูล ดี-6 และสถานที่เก็บรักษาขีปนาวุธ เพื่อที่อาร์เทียม มิลเลอร์ และกลุ่มที่เห็นด้วยจะใช้ทำลายเหล่าดาร์ค วันส์ จากสถานีโพลิสให้ขึ้นไปด้านบนสถานี แล้วเดินทะลุออกมานอกอาคารไปตามแผนที่จะมีฝูงหนูยักษ์วอทเชอร์ดักอยู่มากมายฝ่ามันไป พอมาถึงหน้าสำนักงานห้องสมุดใหญ่ๆเราจะต้องต้านฝูงวอทเชอร์กลุ่มใหญ่รอจนกว่าทหารสปาร์ต้าจะมาสมทบเรา

เดินเข้ามาในอาคารค้างคาวเดม่อนจะพุ่งโจมตีใส่ทหารสปาร์ต้าพวกเขาจะรีบกั้นประตูหนีเดม่อน ให้เราวิ่งขึ้นไปที่ชั้น 2 เดินอ้อมมาอีกฝั่งคอยยิงเถาวัลย์กลายพันธุ์ให้พ้นทาง เข้าซอกเล็กๆจะเห็นรูโหว่ประตูในห้อง และนอกรูโหว่ประตูจะเห็นแผ่นไม้กีดขวางประตูหนีของเพื่อนเราอยู่ ให้ใช้ปืนยิงแผ่นไม้ที่ขวางประตูทหารสปาร์ต้าเพื่อนเราจะรีบวิ่งเข้ามาหลบเดม่อน และจะงัดประตูบานของห้องเราให้

ห้องโถงนี้เดม่อนจะโจมตีอีกครั้งหนึ่งแต่มันเข้ามาไม่ได้แล้ว สำรวจภายในโถงจะพบห้องเอกสารมีช่องโหว่ตรงผนังด้านบนให้เราข้ามไป เราจะอยู่บริเวณโถงบันไดที่ประตูฝั่งทหารสปาร์ต้าปิดตายอยู่ ให้สังเกตโคมไฟบนเพดานโถงบันไดจะมีสลิงขึง ยิงเชือกสลิงแล้วโคมไฟจะตกไปกระแทกประตูปิดตายให้เพื่อนเราผ่านเข้ามา ในห้องถัดมาทหารสปาร์ต้าเพื่อนเราจะโดนเดม่อนจู่โจมจนบาดเจ็บและจะกลับไปรักษาตัวก่อน ทำให้เราต้องเดินทางไปหาข้อมูลในห้องสมุดคนเดียวตอนนี้

เดพอสซิโทรี่(Depository)
เมื่อเริ่มด่านมาจะมีศัตรูใหม่ที่ทั้งอึดและรวดเร็วคล้ายลิงกลายพันธุ์ลิเบรเรี่ยน แม้มันจะฉลาดแต่สัญชาตญาณมันเหมือนลิง มันจะไม่เป็นศัตรูกับใครก็ตามที่ไม่ทำร้ายมัน หากมันเห็นเราแต่เราอยู่เฉยๆไม่โจมตีมัน หรือถ้ามันทุบเราทีสองทีแล้วเราไม่ตอบโต้และวิ่งห่างมันไปไกลๆ ลิเบรเรี่ยนมันจะเดินหนีเราไปเอง ให้ไปตามแผนที่รอจังหวะที่ลิเบรเรี่ยนเคลื่อนที่ค่อยไปตามจุดหมายอย่าบุ่มบ่ามค่อยๆเดิน มันจะชอบกระโดดหรือวิ่งทะลุไปทั่วอาคารแต่มันอยู่กับที่เฉยๆได้ไม่นาน

ขึ้นมาชั้นบนจะเห็นประตูลิฟต์ให้วิ่งเข้าไปลิเบรเรี่ยนจะเข้ามาทำร้ายเรา แต่มันจะหยุดไปสู้กับเดม่อนที่พุ่งเข้ามา ขณะที่เราอยู่ในลิฟต์ช่วงชุลมุนลิฟต์จะตกมาชั้นล่าง ด่านล่างออกไปนอกลิฟต์นิดนึงลิเบรเรี่ยนจะบุกเข้ามา ให้เราถอยหลังเข้าไปแอบในลิฟต์เหมือนเดิม ลิเบรเรี่ยนมันจะเดินมาทางเราแต่จะกระโดดหนีไป จากนั้นออกประตูสุดทางจะจบด่านนี้

อาร์ชีฟส์(Archives)
ในด่านนี้ให้เปิดแผนที่เดินเลี่ยงลิเบรเรี่ยนเหมือนด่านที่ผ่านมาจะสะดวกสุด แต่ถ้าต้องกำจัดพวกลิเบรเรี่ยนก็สามารถทำได้ เพราะด่านนี้สัตว์กลายพันธุ์จะไม่วิ่งข้ามห้องไปมา เต็มที่เราจะได้แลกกระสุนกับมันไม่เกิน 2-3 ตัว ตามทางมาถึงชั้นบันไดปูนจะถล่มและอาร์เทียมจะตกลงมา ให้เดินเข้าซอกอาคารเล็กๆไปตามทางเข็มทิศขึ้นบันไดเหล็กไป เข้าช่องอาคารตามท่อระบายอากาศ ตามเส้นทางหากเจอลิเบรเรี่ยนตัวที่นอนอยู่ให้เดินห่างๆก็จะผ่านไปได้

ขึ้นไปบนอาคารสำนักงานห้องสมุดเข้าประตูห้องเก็บเอกสาร อาร์เทียมจะพบข้อมูลไซโลขีปนาวุธจากเอกสาร ดี-6 และจะรีบหนีออกจากอาคารห้องสมุดนี้

ไดรวิ่ง ทู สปาร์ต้า(Driving to sparta)
เมื่อออกมาด้านนอกอาคารห้องสมุดอาร์เทียมกำลังจะโดนลิเบรเรี่ยนจู่โจม แต่มิลเลอร์กับทหารเรนเจอร์คนอื่นๆจะมาช่วยอาร์เทียมได้ทัน และเดินทางไปฐานหลบภัยของทหารเรนเจอร์ที่นี่เราจะอัพเกรดอาวุธซื้อไอเท็มเตรียมตัวได้ และอาร์เทียมจะได้พบข่านอีกครั้ง เมื่อเสร็จธุระเเล้วเดินไปหามิลเลอร์เพื่อสานปฏิบัติการเอาขีปนาวุธไปกำจัดเหล่าดาร์ค วันส์ต่อ

แชปเตอร์ 6 ดี6(Chapter 6 D6)
อาร์เทียมและกลุ่มทหารสปาร์ต้ากำลังจะไปที่ไซโลขีปนาวุธดี-6 ในขณะเดินทางอาร์เทียมจะเห็นนิมิตมิติดาร์ค วันส์กับเสียงตักเตือนบางอย่าง เมื่ออาร์เทียมฟื้นขึ้นมาทีมสปาร์ต้าจะต้องเปิดประตูอุโมงค์รถไฟเพื่อเดินทางต่อ ตอนนี้ฝูงโนซาไลส์เข้ามาต้อนรับเรามากมาย ต้านโนซาไลส์เอาไว้ซักพักจะมีตัวดูดไฟฟ้าฟีโนเมน่อมออกมาช่วยกำจัดโนซาไลส์ จากนั้นอาร์เทียมและทีมจะรีบหนีจากพื้นที่และเดินทางต่อทันที

ดันเจี้ยน(Dungeon)
เมื่อมาถึงสถานีถัดมาทางเข้าสู่สถานีไซโลเก็บขีปนาวุธดี-6 ให้อาร์เทียมตามทีมสปาร์ต้าเข้าไปด้านใน เปิดเครื่องปั่นไฟฟ้ากลางห้องประตูลูกกรงแล้วสับสวิตช์เปิดประตูบานใหญ่เข้าไปด้านใน ตามทางจะมีฝูงโนซาไลส์เป็นระยะให้เดินใกล้ๆทีมไปจนประตูสุดทางเราจะต้องสวมหน้ากากป้องกันกัมมันตภาพรังสี

เมื่อตามทีมสปาร์ต้าจนลงมาบริเวณคล้ายๆห้องบำบัดน้ำเสีย จะมีโนซาไลส์อีก 2 ชุดใหญ่ให้เคลียร์ให้หมด เมื่อผ่านเข้าไปในอาคารอาร์เทียมจะต้องมุดผ่านประตูบานใหญ่ที่เปิดขึ้นไม่กว้างมากพอ แล้วอาร์เทียมจะพลัดหลงจากทีมสปาร์ต้า เราจะต้องเปิดแผนที่ไปตามเข็มทิศฝ่าสัตว์กลายพันธุ์ตัวเล็กๆกลับไปหาทีมสปาร์ต้า พอกลับมาหาเพื่อนได้จะมีรถไฟฟ้าระบบอัตโนมัติของสถานีดี6เข้ามาเทียบชานชาลา ให้อาร์เทียมขึ้นไปบนรถไฟฟ้าจะผ่านด่านนี้

ดี6(D6)
เมื่อมาถึงสถานีดี6นี้ที่ไม่ได้ใช้งานมากว่า 20 ปี ข้างในจะเต็มไปด้วยฝุ่นกัมมันตภาพรังสี ใส่หน้ากากแล้วเดินตามมิลเลอร์ไปเปิดระบบของสถานี พอถึงห้องควบคุมให้สับสวิตช์ด้านหลังของมิลเลอร์กลไกประตูจะเปิดออกได้ แล้วขึ้นบันไดไปด้านบนในส่วนของการเปิดระบบพลังงาน จะมีช่องชาร์จพลังงานทั้งหมดสี่จุด ให้สับสวิตช์ตามคำสั่งเสียงจากมิลเลอร์(คำสั่งผมจะเรียงจากจุดที่ 4-3-2-1) และระบบระบายอากาศรวมถึงไฟฟ้าจะเริ่มกลับมาทำงาน ตามมิลเลอร์ลงลิฟต์ไปจนถึงห้องใส่รหัสบังคับขีปนาวุธ ปฏิบัติการทำลายล้างดาร์ค วันส์ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ทีมของมิลเลอร์ได้รับแจ้งว่าไฟฟ้าตกกำลังไฟฟ้าควบคุมไม่พอ

เดินตามมิลเลอร์ออกมาจากห้องสั่งการนิวเคลียร์เพื่อไปชาร์จพลังงานอีกจุดหนึ่ง ในขณะเดินออกมาเราจะพบลูกปรสิตสัตว์กลายพันธุ์ศัตรูตัวใหม่มันจะอาศัยอยู่ในรังไข่ วิธีกำจัดง่ายๆคือถ้ามันอยู่ที่พื้นยิงที่ตัวมันไม่กี่นัดก็ตาย แล้วเวลามันอยู่ในรังไข่เหมือนหนังเอเลี่ยนยิงไปที่รังมันหนึ่งนัดมันจะร่วงมาให้เรายิงตั้งแต่ไกลๆ ลงลิฟต์ไปห้องควบคุมกับมิลเลอร์อีกห้องเราจะต้องวางจุดเชื่อมพลังงานจากเครนยก ออกไปบังคับเครนยกโดยวิธีเชื่อมพลังงานให้ดูเรด้าร์ด้านซ้ายของเครน แล้วบังคับเคอร์เซอร์ให้พอดีกับจุดเชื่อมจะมีเสียงโอเปอเรเตอร์หากตำแหน่งถูกต้อง แล้วกดวางจุดเชื่อมพลังงานให้ครบทั้ง 3 จุด

จากนั้นกลับไปหามิลเลอร์และอาร์เทียมจะได้รับแจ้งจากทีมว่าตอนนี้ขีปนาวุธพร้อมใช้งานแล้ว เหลือเพียงแค่รอการชี้จุดเป้าหมายในการยิงถล่มฐานที่มั่นของดาร์ค วันส์เพียงเท่านั้น พอกลับขึ้นมาถึงชานชาลารถไฟฟ้าให้หยิบเครื่องระบุเป้าหมายแล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปกับมิลเลอร์ อาร์เทียมและมิลเลอร์จะขึ้นไปบนผิวโลกเพื่อสมทบกับสปาร์ต้าอีกหน่วยหนึ่ง

แชปเตอร์ 7 ทาวเวอร์(Chapter 7 Tower)
(เหตุการณ์จะตัดมาช่วง 8 วันที่ผ่านมาของการเริ่มเล่นเกม ภายหลังที่อาร์เทียมออกมาจากวีดีเอ็นคาเอ็กซ์ไฮบิชั่น) อาร์เทียมและมิลเลอร์จะขึ้นมาจากสถานีดี6และได้เข้าไปสมทบกับหน่วยสปาร์ต้าบนผิวโลก โดยเป้าหมายภาระกิจอาร์เทียมคือขึ้นไปบนตึกสูงของสถานีโทรทัศน์และวิทยุ เพื่อติดตั้งเครื่องชี้เป้าหมายขีปนาวุธแล้วถล่มพวกฐานที่มั่นของพวกดาร์ค วันส์สายพันธุ์ลึกลับ แต่อาร์เทียมและทีมสปาร์ต้าจะโดนฝูงกลายพันธ์ทั้งวอทเชอร์และเดม่อนรุมล้อมมากมาย ให้ฝ่าฝูงกลายพันธุ์เดินตามมิลเลอร์ไปเรื่อยๆจนถึงอาคารสถานีโทรทัศน์ มิลเลอร์และอาร์เทียมจะพบวิธีขึ้นไปบนตึกสูงด้วยช่องลิฟต์เก่า

ลิฟต์เก่าจะกระเเทกให้อาร์เทียมกระเด็นตกลงมาด้านล่างทำให้แยกทางกับมิลเลอร์ ให้เราบังคับอาร์เทียมขึ้นไปหามิลเลอร์ที่ชั้นบน แผนที่ขึ้นไปด้านบนจะเป็นเส้นตรงถึงแม้ต้องมุดหรือออกไปเดินบนขอบทางตึกสูง อาร์เทียมจะพบกับมิลเลอร์ที่กำลังโดนเดม่อนเข้าทำร้ายให้ยิงช่วยมิลเลอร์จนเดม่อนล้ม ตอนนี้มิลเลอร์บาดเจ็บสาหัสทำให้เหลืออาร์เทียมเพียงลำพัง ในการขึ้นไปดาดฟ้าตึกสูงเพื่อทำการชี้เป้าตำแหน่งรังดาร์ค วันส์ ให้ขึ้นไปด้านบนต่อปีนบันไดเก่าๆผุพังไปเรื่อยๆเข้าซอกอาคาร ไม่นานอาร์เทียมจะได้ยินเสียงเตือนของเหล่าดาร์ค วันส์ว่า "เขาจะฆ่าพวกเราอาร์เทียม คุณต้องหยุดพวกมัน!" อาร์เทียมจะหลงทางในนิมิตให้เดินไปที่ตู้กล่องไอเท็มทุกจุดดาร์ค วันส์จะปรากฏตัวออกมา และอาร์เทียมจะกลับไปที่ตึกอีดครั้ง

พออาร์เทียมขึ้นไปวางเครื่องชี้ระบุตำแหน่งบนดาดฟ้าของตึกสูง อาเทียมจะเข้ามิติดาร์ค วันส์ เส้นทางเหมือนจะซับซ้อนแต่หลักการผ่านง่ายนิดเดียว คือเดินไปเรื่อยๆเมื่อเจอดาร์ค วันส์ให้หันหลังกลับหรือเดินเลี่ยงไปทางอื่น ส่วนถ้าเราเดินวนกลับมาจุดเดิมก็หันกลับเดินไปด้านหลังก็จะผ่านได้เช่นกัน ตามทางเสียงดาร์ค วันส์จะคอยบอกอาร์เทียมเสมอว่า "ยอมเเพ้ซ่ะ พวกเรากำลังจะโดนกำจัด หยุดพวกเขา" สุดทางอาร์เทียมจะเห็นทหารสปาร์ต้าคนนึงยื่นปืนให้อาร์เทียมยิงตัวดาร์ค วันส์ ยิงไปเรื่อยๆแล้วจะพบกับฉากจบ
***ฉากจบจะมีด้วยกันอยู่ 2 แบบคือ1.ฉากจบแบดเอ็นดิ้ง 2.ฉากจบกู๊ดเอ็นดิ้งวิธีได้รับเล่นตามที่ผมเขียนเฉลยเกมเลยครับ เงื่อนไขการได้ฉากจบขึ้นอยู่กับเราตอนเล่นเกมก่อนถึงด่านสุดท้าย***



อาร์เทียมจะมองขีปนาวุธพุ่งไปทำลายฐานที่มั่นของเหล่าดาร์ค วันส์ เผ่าพันธุ์ปริศนาที่มีความสามารถเหนือธรรมชาติจนวิทยาศาสาตร์ก็อธิบายไม่ได้ อาร์เทียมจับจ้องอย่างภูมิใจที่ช่วยให้ชุมชนเล็กๆของเขาและผู้รอดชีวิตที่เหลือไม่ต้องได้รับอันตรายจากพวกดาร์ค วันส์ แต่อาร์เทียมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไม? พวกดาร์ค วันส์ถึงพยายามเป็นมิตรและสื่อสารกับตัวเขา...
ติดตามต่อใน"เมโทร: ลาสต์ ไลท์"

เมโทร 2033 (2010) ได้คะเเนนจากเมต้าคริติกที่ 81/100 และ ไอเอ็มดีบีที่ 8.1/10

ข้อมูลและอ้างอิงจาก: แบไต๋ดอทคอม, แฟนด้อมดอทคอม, วิกิพีเดีย และ เมทัล บริดจ์ส
[Edited 1 times "MnemoniC" - Last Edit 2021-04-30 08:31:33]

Reply
Vote




1 online users
Logged In :