นิตยสาร Famitsu ฉบับสัปดาห์ล่าสุด Tales of Berseria และ Tales of Zestiria ต่างอยู่ในโลกเดียวกัน แต่ต่างยุคกัน โดยเนื้อเรื่องใน Tales of Berseria นั้นเป็นยุคที่เกิดก่อน Tales of Zestiria เป็นเวลายาวนาน

บางพื้นที่ใน Tales of Berseria อย่าง “Wasteland” ซึ่งเป็นทวีปกลางโลกซึ่งจะถูกเรียกว่า “Glenwood” อย่างใน Tales of Zestiria ในเวลาต่อมา

ถึงแม้จะอยู่ในโลกเดียวกัน แต่ว่า Tales of Berseria ที่เป็นโลกในอดีตนั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับโลกในอนาคตอย่างใน Tales of Zesteria ชื่อสถานที่เช่นเมืองและพื้นที่ข้างนอกอื่นๆก็แตกต่างกันกับภาคก่อน แต่จะมีบางสถานที่ที่จะทำให้นึกถึงสิ่งที่จะเกิดต่อไปในอนาคต

รายละเอียดเกี่ยวกับระบบต่อสู้ใน Tales of Berseria จะยังใช้ระบบการเปลี่ยนเข้าฉากต่อสู้แบบราบรื่นอย่างใน Tales of Zestiria โดยปรับปรุงเพิ่มการควบคุมและพื้นที่ของมุมมอง และสามารถ Set ท่าโจมตีลงในปุ่ม วงกลม กากบาท สามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยม ซึ่งจะทำให้โจมตีต่อคอมโบได้หลากหลายขึ้นอยู่กับสไตล์และการลำดับการกดของผู้เล่นเอง

ทั้งนี้ ยังมีคีย์เวิร์ดสำคัญของภาคนี้มาบอกด้วย

-โรค Goma – โรคร้ายที่ทำให้มนุษย์เปลี่ยนร่างไปเป็นสัตว์ประหลาด ทำให้หลายคนที่ป่วยมีอาการชอบใช้ความรุนแรงและทำร้ายกัน แต่บางคนยังคงรักษาสติสัมปชัญญะไว้ได้อยู่
-Goma – ใช้เรียกมนุษย์ที่แปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดไปเพราะโรค Goma มีผู้รายงานพบว่าสัตว์ต่างๆก็อาจเป็นได้เช่นกัน
-Seirei – เผ่าพันธุ์ที่มีความสามารถใช้พลังของธรรมชาติได้ ส่วนมากจะไม่ค่อยเห็นแก่ตัวและกลายเป็นทาสของพวกมนุษย์ อย่าง Laphicet ก็เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์นี้ ผู้ซึ่งเหมือนเป็นดั่งแสงสว่างของ Velvet ผู้ถูกกลืนกินอยู่ในความแค้น
-คืนสีเลือด – ในค่ำคืนที่ดวงจันทร์กลายเป็นสีเลือด ซึ่งบอกเล่ากันว่ามีความเกี่ยวข้องกับโรค Goma

ทั้งนี้ มีไอเท็มหลักสามอย่างคือ เข็มทิศ หวี และแอปเปิ้ล ที่เกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งถึงเนื้อเรื่องและตัวละครใน Tales of Berseria แต่ยังไม่เผยรายละเอียดออกมา

สุดท้าย ผู้ออกแบบตัวละครในภาคนี้ยังคงใช้บริการ อ.Mutsumi Inomata และ อ.Kosuke Fujishima เจ้าเก่าและมี อ.Daigo Okumura และ อ.Minoru Iwamoto ด้วย

Tales of Berseria จะวางจำหน่ายสำหรับ PlayStation 4 และ PlayStation 3 ในปีหน้าสำหรับญี่ปุ่น ส่วนตะวันตกจะวางจำหน่ายสำหรับ PlayStation 4 และ PC โดยยังไม่ระบุวันวางจำหน่าย

ที่มา [Link], [Link]

ป.ล. ขอแก้ไขเพิ่มเติมการแปลที่ต้นข่าวอาจแปลภาษาญี่ปุ่นมาอย่างคลาดเคลื่อน