เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจพอสมควร เมื่ออยู่ดีๆก็มีข่าวคราวของภาพยนตร์แอ็คชั่นภาคต่ออย่าง Taken 3 โผล่ขึ้นมาตอนปลายปี 2014 ทั้งๆที่ตัวภาคที่แล้วใน Taken 2 ก็ได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างจะแย่ นอกจากนั้นแล้วทางค่ายยังตัดสินใจในการใช้ผู้กำกับท่านเดิมซึ่งก็คือ โอลิเวียร์ เมกาตัน อีกด้วย
ยังไม่รวมถึงการที่ทางค่ายตัดสินใจนำตัวภาพยนตร์เข้าฉายในเดือนมกราคมของปีก็เป็นลางที่ไม่ค่อยจะดีซักเท่าไรนักสำหรับภาพยนตร์ฮอลลีวูด เพราะภาพยนตร์ฮอลลีวูดส่วนใหญ่ในเดือนมกราคมมักจะเต็มไปด้วยภาพยนตร์ที่ไม่ค่อยมีคุณภาพมากนัก ซึ่งเราจะเห็นหลักฐานได้ชัดจากภาพยนตร์แนวสยองขวัญหลายปีที่ผ่านมาอย่างเช่น The Devil Inside , Texas Chainsaw 3D หรือ Paranormal Activity: The Marked Ones และอื่นๆอีกมากมาย
แต่ดูเหมือนตอนนี้มีภาพยนตร์อีกประเภทหนึ่งที่กำลังจะเข้าไปร่วมแชร์ประสบการณ์ความเลวร้ายแห่งเดือนมกราคมนี้ด้วย ซึ่งนั้นก็คือภาพยนตร์แอ็คชั่นจากตัวอย่างหายนะปีที่ผ่านมาอย่าง The Legend of Hercules และ I, Frankenstein ซึ่งลางร้ายทั้งหลายทั้งมวลที่ส่อแววท่าจะไม่รอดนี้ ก็ดูเหมือนจะได้เกิดขึ้นจริงกับภาพยนตร์ Taken 3 เสียแล้ว
สิ่งที่น่าตกใจอีกอย่างก็คือการออกแบบฉากแอ็คชั่นอันปราศจากซึ่งการใช้ความคิดแต่อย่างใดทั้งๆที่ Taken ภาคก่อนหน้าทั้งสองภาคมักจะมีฉากเหล่านี้ปรากฏให้เห็นอยู่ไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นฉากไล่ล่าหรือฉากการต่อสู้ที่เหมือนลอกมาจากตำราเรียน เปะๆไม่มีความสร้างสรรค์หรือใช้เทคนิคมาประยุกต์ใหม่แต่อย่างใดซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ฉากแอ็คชั่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างจะจืดชืด
ทำให้ในท้ายที่สุด Taken 3 ก็กลายเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ภาคต่อที่ยิ่งพาตัวภาพยนตร์ชุดนี้ดิ่งลงเหวลึกเข้าไปยิ่งกว่าเดิม ตั้งแต่บทภาพยนตร์อันซ้ำซาก การเล่าเรื่องและกำกับฉากแอ็คชั่นของผู้กำกับ โอลิเวียร์ เมกาตันที่ยังไร้ประสบการณ์ ที่หนักสุดก็คือความปราศจากซึ่งตรรกะและเหตุผลใดๆของตัวภาพยนตร์ที่ทำให้เราไม่สามารถที่จะจริงจังหรือไปถือสาอะไรกับมันได้เลย ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อว่าอาถรรพ์แห่งเดือนมกราคมฮอลลีวูดได้ลามมาถึงภาพยนตร์แอ็คชั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และภาพยนตร์อย่างเช่น The Legend of Hercules , I, Frankenstein หรือ Taken 3 ก็เป็นภาพยนตร์ที่จะคอยตอกย้ำเตือนเราถึงความจริงนี้อยู่เรื่อยไป
staff
Since 12/6/2011
(4906 post)