เศรษฐาหลุดพูดถึงตั๋วตำรวจเพื่อไทยแบบงงๆ

ป่านนี้ PR ภาพลักษณ์ส่วนตัวคงเอาตีนก่ายหน้าผาก

ฟังเรื่อง soft power อ ปวิน กับ ช่อ แล้วจบเลย
คนละเรื่องกับเพื่อไทย และผิดจากที่ผมเข้าใจนิดหน่อย

สรุปมันคือ power อีกรูปแบบที่ตรงข้ามกับ Hard Power (อาวุธ สงคราม) แต่เป็นพลังที่ทำให้ เรามีอำนาจต่อรองต่อชาติอื่นโดยไม่ใช้อาวุธ
ที่ยกตัวอย่าง oppenheimer ฉากทิ้งระเบิดที่บอกว่า “อย่าทิ้งที่โตเกียวนะ เพราะผมไปฮันนีมูนกับเมียมา”
สมมติว่าวันนึง ญี่ปุ่นไปรบกับใครก็แล้วแต่ ก็จะมีคนไทยที่เข้าข้างญี่ปุ่นด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ส่วนนึงก็จะมาจากเหตุผลด้าน soft power
เกาหลีส่งออกซีรี่ย์ นักร้อง นักร้องขายของ ขายวิถีชีวิตแบบเกาหลี พาประเทศที่คนแทบไม่สนใจ คนไปเที่ยวเพื่อซื้อเสื้อก๊อปแบรนด์เนม กลายเป็นปลายทางของนททจำนวนมาก

คำถาม หนังสัปเหร่อเรื่องเดียวจะกลายเป็น soft power ได้ไหม ไม่ได้แน่นอน แต่ถ้าหนังไทยหลายๆ เรื่อง ที่มี direction ไปในทางใกล้เคียงกันจนทำให้คนชอบและติดตามได้ และนำเสนอวัฒนธรรมไทยได้ จนเราอยู่ในเรดาห์ และคนอยากกินของไทย อยากมาเมืองไทย นั่นล่ะจะเป็น soft power
จริงๆ อาหารบ้านเราผมว่าผลักดัน ต่อยอดจากครัวไทยไปครัวโลก ผมว่าเป็น soft power ด้านอาหารได้ไม่ยากนะ (แต่มันต้องไปยกแผง อาจจะใช้ media อย่างหนังเป็นตัวพาไป) เพราะเท่าที่เห็น แม้ไม่ผลักดัน มันก็นิยมของมันเองได้เฉยๆ เลย
แต่ต้องดันให้ไปถึงจุดที่ว่าคนเห็นร้านอาหารไทย กับร้านเกาหลีอยู่ข้างๆ กัน แล้วเดินเข้าร้านไทยน่ะ เพราะเชื่อว่าเป็นของดีของอร่อย โดยยังไม่เคยกิน หรือเป็น common knowledge ว่า พอพูดถึงอาหารไทย ก็จะมีในหัวเลยว่าอร่อยแน่ ไม่งั้นก็ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็น soft power

ผมเฝ้ามองดูประเทศเรามาหลายสิบปี นึกย้อนไปจนปัจจุบัน รู้สึกว่า ประเทศเราไม่ได้ต้องการบริหารให้ประชากรอยู่ดีกินดีเท่าไหร่

เราพยายาม สร้างและสอนลูกหลาน ให้ไปเป็นแรงงานเจ้าสัว และ แรงงานต่างชาติ

ประเทศเราไม่อยากสร้างอะไรขึ้นมาใช้เลย

30 กว่าปีก่อนต่างชาติมาตั้งโรงงานผลิตนี่นั่นโน่นมากมายเราได้ค่าแรง ภาษี แต่เราไม่เคยได้ Knowhow มาใช้ประโยชน์จริงๆเลย

เกาหลีใต้ ให้มิตซูมาตั้งโรงงานผลิตรถ สุดท้ายได้ ฮุนได มาเลเซียได้โปรตอน

ไทยไม่มีอะไรเลย แล้วก้อพยายามขายทรัพยากรให้ต่างชาติ ให้เค้ามาตั้งโรงงานเพราะหวังมีคนมาจ่ายค่าแรงคนในประเทศ

เราคงมีสันดานทาสกันในตัวฝังใน dna เยอะ เลยยอม

คิดยังไงกับที่จตุพรบอกว่า มีเกมลับลวงพราง หลังจากที่ทอนยอมรับว่าบินไปเจอทักกี้ และในรายการสรยุทธที่ย้ำหลายรอบว่ากก.กับพท.เป็นมิตรกัน เหมือนเป็นการปักหมุดให้รู้ทั่วๆกัน

จตุพรมองว่าเป็นการแง้มไพ่ว่าอาจจะมีดีลกันหลังวันที่11พค. เกมอาจมีการเปลี่ยน สังเกตจากที่กก.ไม่เคยวิจารย์เรื่องทักกี้เลยตั้งแต่กลับไทย และเรื่องวอลเลตที่มีแค่ศิริกัญญาออกมาเล่นแค่คนเดียว

ถามว่าเป็นไปได้หรือ จตุพรมองว่ากับประยุทธ์ที่เล่นงานพท.มาสิบปี ยังดีกันได้ภายในไม่กี่วัน กก.กับพท.ที่ทะเลาะกันแค่ไม่กี่วันมันสิวๆมาก เรื่องจะคืนดีกันมันสบายๆ

ถ้าถึงเวลานั้นมีการดึงกก.เข้ามาแล้วดีดพรรคร่วมฝ่ายลุงออกหมด นี่มันพล๊อตหนังhollywoodชัดๆ

ถ้าเอา ซอร์ด เพาเวอร์ ที่ดูเป็นรูปธรรมที่สุด น่าจะคุยกันตอนเกาหลีก็/ด้ คือ รัฐบาลเขาพูดว่าจะนำประเทศเผ็นประเทศอุตสากกรรมใหม่ แล้วรุกด้วยวัฒนธรรม พร้อมสร้างภาพลักษณ์ ให้ คนทั่วไปคิดว่าสินค้าเกาหลีมีคุณภาดีขึ้น

มีหนัง ละคร ที่รัฐอุดหนุน ให้สร้างด้วยคุณภาพที่ดี พ่วงเลแหล่งท้องเที่ยว มีเพลง ที่ เน้นตลาดสากล ขายภาพลักษณ์ทันสมัย ใช้นักร้อง นักแสดงที่หน้าตา เข้าข่ายที่ สากลจะชอบ โปรโมท ด้วยเงินรัฐ เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมบันเทิง

ส่วนสินค้รที่เราเห็นว่าบุกตลาดได้ก็มียี่ห้อ LG Samsung ที่ยกระดับสินค้าให้มันทน พ่วงเทคโนโลยีใหม่ เข่น มือถือ มีอยู่ยุคนึง ที่ซัมซุง ได้จอ LCD ที่สีสด สวยสุดในตลาด มาใช้ เพราะ มันวิจัยเอง มีสถาบันออกแบบระดับชาติที่ จ่ายเงินอุดหนุน เน้นนออกแบบ สินค้ารุ่นใหม่ที่เอาใจตลาดโลก

ส้วนพวกที่ได้อานิสงค์ต่อมาคือ พวก สินค้าเสิรมสวย โรงพยาบาลศัลยกรรม สถานที่ท่องเที่ยว กับการที่นักร้องมีงานต่างประเทศ พ่วงการโฆษณา พรีเซนเตอร์ที่จ้างแพงๆ พวกสินค้าอาหารก็มีการส่งออก


คือถ้าจะดูก็จะรู้ว่า เขามีแผน ลงทุน สร้างภาพลักษณ์ ใหม่ ให้คนสากลโลกเข้าใจ ว่า คนเกาหลีทำสินค้าคุณภาพมากขึ้น แถมเขาก็ปรับตัวสินค้าไปทางสากล ออกแบบก็สากล มีเทคโนโลยีคชตัวเองที่ดีขึ้นอย่างตอน ซัมซุงมี LCDที่สวยสชที่สุดในตลาด มีการลงทุนโรงงาน สินค้าอิเลคโทรนิค ไปตั้งโรงงานในจีน สินค้าออกแบบใหม่ ส่วนพวกท่องเที่ยวสินค้า เสริมสวย,อาหารมันก็ได้อานิสงค์ทีหลัง


คือนอกจากต้องมีดีในตัว ต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าตัวเอง แล้ว เขาใช้ สินค้าทางวัฒนธรรม มานำให้ชาวโลกว่าเกาหลีมาแล้ว คราวนี้จะเอาของดีของทนมาขายด้วยน่ะ แต่บ้านเรามันมีแผนจะทำสินค้าอุตสาหกรรมแบบไหนไปขาย ก็ต้องคุยกันว่า จะขายอะไร จะเน้นสินค้าอะไรไปเป็นหัวหอก แล้วค่อยว่ากันที่เหลือ ถ้าจะเอาแค่ท่องเที่ยวหรืออาหาร มึงก็เน้นแค่นี้พอ ถ้าจะเอาศัลยกรรม ก็เอาดาราเบ้าหน้าที่ชาวโลกจะชอบไปแสดงนำซะ

เห็นราคาเน็ต3bb+aisที่ควบรวมกันแล้วเครียด
1g 899
500mb 699
ราคาอัพกันแบบหน้าด้านๆเลย
อีกสักปีโปรเก่าน่าจะโดนเพิ่มราคาไม่ก็ลดสปีดเหมือน โปรมือถือที่โดนกันอยู่ตอนนี้แน่ๆ
เฮ้อ

เรื่องสันดานทาส ผมว่า/ม่จริงนะ แต่ผมคิดไปทางที่คนในเขตร้อน ส่วนใหญ่มันจะง่ายๆ หากินง่ายๆ ไม่ซับซ้อน การมองการณ์ไกล กราวางแผนกับไอคิวมันจะน้อยกว่าพวก ทางเขตอบอุ่น ที่เขาต้องวางแผนล่วงหน้ารับมือ หน้าหนาว กับความเป็นทีมเวิร์ค ทางเขาจะมีมากกว่า


เอาง่ายๆ เลยถ้าแยกระหว่างไทยแท้กับเชื้อจีนยังมีคนคิดว่าพวกคนจีนมัน ไอคิวสูงกว่าเหลี่ยมกว่า ซับซ้อนกว่าเลย คนไทยน่ะ มันเด่นทาง งานฝีมือ ไม่ซับซ้อนไม่เน้นทีมเวิร์ค ถ้างานซับซ้อนมีขั้นตอน 200-300ขั้น จะทำได้ดี แต่ท่าจะไปซับซ้อน 2-3,000 ขั้นตอนขึ้นไป แบบ ประกอบเครื่องจักร สร้าง รถ รถไฟ เครื่องบิน ทำโรงไฟฟ้านิวเครียด์ แบบนี้มันจะเริ่มแสดงออกแล้วว่า มีคนเป็นส่วนน้อยที่จะทำได้ แล้วทีมเวิร์คห่วยมาก


ถ้าคิดว่าจะเอาประเทศ เจริญ แล้วเป็นโมเดล ว่าจะเอาอย่างญี่ปุ่น หรือเยอรมัน ก็เอาเถอะ ต้องเริ่มมลที่การศึกษา ก่อนให้มันมีความจริงจังกับงาน มองการณ์ไกล แล้วก็ทีมเวิร์คให้มันดีกว่าปัจจุบันก่อน ถ้าคนมันคิดแบบตัวใครตัวมันก็ไม่ต้องไปหวังสูงกว่านี้แล้ว อยากได้แต่/ม่ลงทุนมันจะเป็นไปได้ไง

จารย์ลอย แกบอกว่าฝรั่ง สมัย10-20 ปีก่อนพูดถึงคนไทย พวกแรงงานที่เจอว่า มีจุดอ่อนตรงที่คนไทย/ม่ชอบอ่านคู่มือ กับมันเน้นเลียเจ้านาย ทั้งๆที่ฝรั่งเขามองที่ผลงานเป็นหลัก แบบนี้ มันก็น่าจะรู้/ว้ว่าคนอื่นเขามองคนไทยยังไง แล้วก็จะได้ปรับปรุงตัวกันได้

คุณช่ออธิบายได้ดีกว่าไอ้พวกที่โผล่ๆออกมาอีก ไปเปรียบอะไรก็ไม่รู้ แถมตอนนี้ไม่ยอมดีเบทอะไรแล้วด้วยได้ข่าว

มันอยู่ที่ภาพลักษณ์ ด้วยว่า เราจะแสดงให้คนอื่นเห็นว่า เดี๋ยวนี้คนไทย เป็นคนมีคุณภาพ สร้างสินค้าดีดีขาย ประเทศเจริญ วิวสวย มาเที่ยวแล้วปลอดภัย แล้วแวะไปซื้อของใช้ ซื้อเครื่องสำอางไทยใช้อะไรแบบนี้นู้นเลย ถ้าหนังดัง ดาราดัง แล้วเขาถามว่าศัลยกรร ที่ไหน ถึงจะบอกซอร์พเพาเวอร์

ถ้าเป็นอะไรดังขึ้ยมาแล้ว ไปถ่ายรูปกับคนทำแล้วบอกนักข่าว Solfpower นี่แม่งมักง่าย

วันนี้ลิซ่า กินอะไร แบบนี้มันช่วยอะไรกูได้วะ

เอาจริง นายยก ก็ใช้superตั๋ว ไม่งั้นจะเป็นผู้นำได้ไง
ส่วนตั๋วที่นายยกว่า คิดอะไรหว่าถึงกล้าพูดทั้งๆที่สื่อเต็มห้อง
หรือจริงๆ กูอยากลงแล้ว ไม่อยากลงนามแจกตัง

ส่วนsoftpower พี่สคุยกับดรล
ฟังคร่าวๆ ประมาณว่าดรล ก็พูดไปเรื่อยๆมั้ง

ยังนึกไม่ออกsoftpowerแบบไทย
จะขายอะไร เมื่อหนังของต้องเต ยกขณะไปถ่ายรูปเสร็จ
แล้วก็แค่จะพาไปงานเทศกาลต่างประเทศ จบมั้ง

ส่วนเกาหลีใต้เขาสร้างstudioระดับHollywood ตั้งแต่ยุค2000
แล้วให้พวกที่ถ่ายทำมาใช้ในราคาทึ่แทบจะฟรีก็ว่าได้
มีงบสนับสนุนให้สร้างหนังละครแบบไม่ยัดความเป็นเกาหลีให้อีก

ส่วนไทย locationในการถ่ายยังต้องใช้บ้านคนรวยอยู่เลยมั้ง
บทก็เดิมๆวนวนไป
ถ้าจะสนับสนุนจริงต้องแนวseries y มั้ง
ยุคหลังๆที่พอเห็นในข่าวบันเทิง มีแต่คู่จิ้นผู้ชายทั้งนั้น
แต่ภาพลักษณ์แบบนี้กลุ่มอนุรักษ์นิยมในบ้านจะค้านไหมนะ

https://mgronline.com/entertainment/detail/9660000105116
บันเทิงบ้านเรา เป็นยุคกลุ่มyขึ้นมาครองแล้วมั้ง

รู้สึกเริ่มจะเอียนไอ้พลังแห่งความรักนี้จริงๆ

รัฐบาลพร่ำบอกทุกวันจะดันพลังแห่งความรักนี้เป็นแกนหลักในการพลิกเปลี่ยนประเทศแบบก้าวกระโดด

แต่ตกลงจะขายอะไร จะเอาอะไรเป็นแกนหลัก จะให้ต่างชาติมาสนใจอย่างไง
เพราะตอนนี้เหมือนดูแล้วอะไรมันดังก็จับมันมาใส่เป็นพลังแห่งความรักไปหมด

สภาพเพื่อไทยตอนนี้เหมือนเซลล์แมนมาหลอกขายของไปเรื่อย อันไหนมันดังคนเขาฮิตใช้กัน ก็จับมันมาขาย
เน้นปริมาณของมาขายเยอะๆ หว่านแหไปกว้างๆ อันไหนคนฮิตคนชอบก็จับเอาตรงนั้นมาขายต่อ ส่วนอันไหนคนเริ่มจะเลิกฮิตก็ปล่อยมันไปอย่างนั้น

แล้วคนในเพื่อไทยแต่ละคนที่ออกมาแก้ต่างให้พลังแห่งความรักนี้ ก็ตอบไม่ตรงกันเลยสักคน
บ้างคนวันนี้พูดความหมายหนึ่ง แต่อีกวันหนึ่งก็พูดไปอีกคนละความหมายกับที่พูดเมื่อวาน
แล้วคนที่ออกมาปกป้องพลังแห่งความรักนี้ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่คนที่ทำนโยบายนี้ หรืออยู่ในคณะทำงานเกี่ยวกับนโยบายพลังแห่งความรักนี้เลย

มันจะช่วยได้มากถ้าคนที่ทำหรือคนที่อยู่ในคณะทำงานนโยบายนี้โดยตรง มาออกสื่อให้พิธีกรถามแบบไม่มีสคิป หรือเอามาดีเบตให้ฝั่งตรงข้ามอย่างพรรคก้าวไกลหรือคณะก้าวหน้าถาม

แต่ในความเป็นจริงแทนที่ประชาชนจะได้คำตอบที่เข้าใจถึงตัวนโยบายนี้ แต่สิ่งที่ได้มาส่วนใหญ่นั้นคือบรรดาเหล่าคนในพรรคเพื่อไทย&เหล่านาย,นางแบก ที่หัวร้อนและออกมาด่ากราดกับคนที่ถามถึงเกี่ยวกับนโยบายพลังแห่งความรักนี้

ถ้าเอาตามอุ๊งอิงค์ว่า เสื้อครอปทอปนี่ก็ Softpower มั้ยอ่ะ

ซีรีย์วายกับLadyboy นี่แหละ softpower ของไทย พูดสองเรื่องนี้ยังไงไทยก็Number1 ขนาดผู้หญิงฝรั่งยังคิดเลยว่าLadyboyไทยนี่สวยกว่าผู้หญิงอีก

แต่พวกผู้ใหญ่ในประเทศคงรับไม่ได้อยู่ดี 55

วันนี้จอมขวัญ X สุทธิชัย

ข่าวตามจับแป้ง กลายเป็นนิยายชุดเพชรพระอุมา ท่องเที่ยว unseen ไปแล้ว

แจกตัง เริ่มเชื่อจริงๆแล้วว่านะจะผ่าน แม้มันอาจจะผิดกฎหมาย

เจ้าสัวออกมาสนับสนุนก่อนเลย

ล่าสุดรายการเรื่องเล่าลุงลิ้ม โจมตีที่พี่ทอนพูดในรายการพี่ส
ด่าพวกนักวิชาการบนหอคอย.....
น่าจะสนับสนุนแจกตังอีกคน

สรุปว่า ทักกี้ ลุงลิ้ม ลุง... เจ้าสัว ผู้มีอำนาจ
มัดรวมกันแล้ว
........แล้วแต่ก่อนพวกท่านๆตีกันแย่งอำนาจเพื่ออะไรหว่า

แต่ในอีกมุม แสดงว่าคนเหล่านี้กลัวกลุ่มคนรุ่นใหม่ขึ้นมามีอำนาจกันจริงๆ