Review : Mortal Kombat
.
ขอแจ้งก่อนว่า ผมไม่ใช่แฟนเกมซีรีส์นี้ เคยเล่นเพียงภาคต้น ๆ และก็พอเห็นภาพฟุตเทจเท่านั้น ฉะนั้นรีวิวนี้จะขอมองในมุมมองคนดูหนังทั่วไป ไม่ใช่แฟนเกมนะครับผม ซึ่งการเข้าไปดูก็ต้องบอกว่า ตัวอย่าง มีผลอย่างมาก และตั้งความหสังว่ามันจะเป็นหนังจากเกมที่ "ดี" ซึ่งหลาย ๆ คนก็คาดหวังไว้เช่นนั้น
.
หลังจากจบภาพรวมของหนังก็ถือเป็นหนังที่สนุก ไม่เสียดายตังค์ แต่ทุกอย่างมันอยู่แค่ในระดับสอบผ่านเท่านั้น ซึ่งความคาดหวังของผมอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษและดีกว่านั้น พอมันได้แค่ระดับมาตรฐานมันก็ช่วยไม่ได้ที่รู้สึกผิดหวังพอสมควร
.
เริ่มด้วยสิ่งที่ควรเป็นข้อดีที่สุดของหนัง (และทางผู้สร้างเคลมมาเยอะมา) นั่นคือฉากแอ็คชั่น มันก็ไม่แย่ เพียงแต่ส่วนใหญ่มันไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรมากกว่าหนังแอ็คชั่นเรื่องอื่น ๆ ทั้งการออกแบบฉากต่อสู้ มุมกล้อง มันไม่ได้น่าตื่นตาอะไร ซึ่งน่าเสียดายเพราะว่าวัตถุดิบจากเกม มันทำฉากแอ็คชั่นที่สร้างสรรค์และน่าสนใจได้กว่านี้ กลับกลายเป็นว่าฉากแอ็คชั่นส่วนใหญ่เป็นแบบที่เราออกจากโรงก็ลืมไปได้ง่าย ๆ จะมีก็แค่เพียงฉากเปิดเรื่อง 10 นาที และฉากไคล์แมกซ์สุดท้ายที่พอจะสนุกและน่าจดจำได้มากกว่าฉากอื่น ๆ นอกจากนี้ความโหดที่ทีมสร้างพยายามโฆษณามานาน มาดูจริง ๆ รู้สึกว่ามันไม่ได้โหดขนาดนั้น (สำหรับผมนะ)
.
ในขณะที่ส่วนของบทกับตัวละครที่ต้องยอมรับว่าเป็นข้อด้อยที่สุดของหนังอย่างที่คาดไว้ ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าหนังสามารถนำเรื่องราวของเกมมาใส่ได้ OK รวมถึงบิวด์เรื่องราวได้น่าสนใจ รวมถึงการสร้างตัวละครใหม่ที่เป็นออริจินอลอย่างโคล ก็น่าสนใจและน่าเอาใจช่วยในเรื่อง อย่างไรก็ตามเมื่อหนังทำมาจากเกมต่อสู้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใส่ตัวละครจำนวนมากเข้าไป และนั่นคือข้อเสีย เพราะหนังแทบจะไม่ให้ความสำคัญกับตัวละครหลายคน จนทำให้บทหลายส่วนดูไร้เหตุผล และก็ไม่น่าจดจำ และมันส่งผลให้หลาย ๆ ไฟท์ในหนังที่เราควรมีอารมณ์ร่วม มันจืดชืดยิ่งขึ้นไปอีก
.
ส่วน Easter Egg เกม สำหรับผมที่รู้เรื่องของเกมแบบไม่ลึกมากก็พอจับได้บ้าง บางอย่างต้องยอมรับว่าใส่มาดี แต่บางอย่างก็ดูดยัดเยียดจนตลกแบบ ถ้าจะฝืนขนาดนี้ไม่ต้องใส่มาก็ได้
.
สรุป ถ้าคุณเป็นแฟนเกมผมคิดว่าควรไปชมกันเพราะน่าจะชอบ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ผูกพันอะไรกับแฟรนไชส์เกม Mortal Kombat นี่เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ระดับสอบผ่าน ดูพอสนุกได้ไม่เสียดายตังค์ แต่ออกจากโรงก็ไม่มีอะไรให้น่าจดจำอาจลืมไปได้ง่าย ๆ ไม่ถึงขั้นต้องห้ามพลาดในโรงภาพยนตร์แต่อย่างใด ส่วนตัวผมคิดว่านี่ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ทำให้คนดูหนังเปลี่ยนมุมมองว่า ภาพยนตร์จากเกมก็เทพได้
.
เกรด B- (7/10)

WB พลาดอีกเเล้ว ผมว่า ไตเติล นี้มีศักยภาพในการทำเป็นไตรภาค เเละ ทำเป็นจักรวาลได้ หรือ wb อาจจะคิดทำก็ได้ เเต่เริ่มเเบบนี้ เสียของ คือ เเทนที่จะทำ สเกลให้เล็กๆลงหน่อย ตัวละคร 4-5 ตัวพอ สำหรับ ภาค 1 เขียนบทดี งานสร้างดีๆ ตัดต่อดีๆ ให้คนได้เข้าใจตรีม โลก Mortal Kombat ใส่ไปเลย 150-180 นาที ก็ต้องทำ น่าติดตาม เเละมีเเรงผลัดดันให้มันเป็น ภาคต่อได้ สร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ

เเต่นี้โคตรพลาด หนังยาว 90 นาที ยัดตัวละเยอะเเยะมากมายใส่มาเเบบนี้ คนที่ไม่ได้เล่นเกมส์ หรือ ติดตาม เค้าไม่ดูกันหรอกครับ ขนาดคนเคยเล่นเกมส์ยังผม ผมว่าเเย่นะตัวหนัง ผมให้ 6/10

เข้าไปดู Sub zero ก็พอแล้ว

หนังเฉพาะ กลุ่มครับ แต่ไม่ได้ถึงขนาด Db คนแสดง ขวนการ 5 สี

เอาว่าใครเคยผ่านตา mortal combat ถึงแม้ไม่เคยเล่น แล้วหวัง fatality win หนังเรื่องนี้มีให้ครับ

สรุป ไม่แย่ ไม่ปัง 7.5 ล่ะกัน

ผมไปดูมาวันที่ 2 ที่หนังเข้าฉาย
เรียกได้ว่า จดไว้ในริสที่รอคอยเพื่อจะไปดู
หลังดูเสร็จตอนแรกตั้งใจว่าจะมาโพสแต่ก็ไม่ได้โพส

เห็นท่านโซมะเปิดมา
ผมขอร่วมแบ่งปันความรู้สึกส่วนตัวหน่อยละกัน
เป็นข้อความที่โพสไว้บน FB ตัวเอง

----------

Mortal Kombat (2021)

ถ้า คุณไม่เคยรู้จักชื่อนี้มาก่อนเลย
มันคือหนัง action ที่คิวบู้ ok ครับ

disign ฉากสู้ได้ดีอยู่
และแน่นอน เด็กเล็กห้ามดู
เด็กโต ผู้ใหญ่ควรแนะนำ
เพราะมีฉากสังหารรุนแรง

ในหนังมีสิ่งที่เรียกว่า "fan service"
สำหรับเอาใจแฟนๆซีรีย์นี้
อย่างวลีบังคับ "flawless victory"
หรือฉาก "fatality"

แต่.....ถ้า...
คุณเป็นแฟนซีรีย์นี้อยู่แล้ว...

คุณควรต้องรู้ไว้ซะก่อน
จะได้ไม่พลาดแบบผมว่า

มันคือหนังที่ reboot และ reset ทุกอย่าง
เป็นคนละสิ่งอย่าง ไม่ใช่อย่างเดียวกัน
กับสิ่งที่เรียกว่า "Mortal Kombat"
ที่อยู่ในหัวคุณ...

สิ่งที่เหมือนเดิมมีเพียงแค่
ชื่อตัวละคร ลักษณะท่าทางของพวกเขา
พลอตสำคัญเรื่องการประลองต่างมิติ
และบางสิ่งที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

แต่...บทของเรื่อง
ลำดับเรื่อง บทของตัวละคร
ทุกสิ่งอย่างเปลี่ยนไปแทบจะทั้งหมด

ตัวละครที่ควรมี กลับไม่มี
ตัวละครที่ไม่ควรสำคัญ กลับสำคัญ
ตัวละครที่ควรมา กลับยังไม่มา
ตัวละครที่ยังไม่ควรมา กลับมี

ถ้าคุณอยากพิสูจน์เอง
ก็ขอให้คุณชอบมันละกัน

สำหรับผมก็......
........."อวัยวะเพศชาย"

จบการรีวิว
คะแนน: โมโห/10

บางทีหนังก็ไม่มีปีมีขลุ่ย ไอ้บทอยากมาก็มามีเยอะมาก เยอะจนแบบWAT

อยากให้มีภาคต่อแต่ดูแล้วน่าจะยาก

ภาคนี้ถูกใจเอเชียนหัวดำอย่างผมยิ่งนัก แบบกระบวนท่าอะไรมาเต็มมาก 555555555555

ยิ่งตัวหลักเป็นซับซีโร่กับสกอเปี้ยนก็ถูกใจอีก แบบวู้ว้าวซ่า

ส่วนโคลยัง ก็ดูมีอนาคตไกลนะนักแสดงคนนี้ พอมีมิติอยู่บ้าง เข้าใจว่าหนังมันถั่วเยอะเลยเล่าน้อย

ภาคนี้ชอบตรงมันเอเชียนดี เพลินแบบหาหนังกินป็อปคอร์นเพลินก่อนนอน

ข้อเสียอย่างที่บอกคือถั่วมันเยอะ ไม่มีเนื้อ ทำอะไรไม่ค่อยสุดเหมือนกัน

เป็นหนังที่เกือบดี

คนแสดง sub zero มีสัญญาแสดง อีก4 ภาค
น่าจะหนัง กับซีรี่ย์

เพราะงั้นถ้าโปรเจคไม่ล่ม เราจะได้เห็น sub zero ยาวๆ