'ดาวโจนส์'ทะยาน 271 จุด



ดัชนี‘ดาวโจนส์’ ปิดวันพฤหัสบดี(5ส.ค.)ทะยาน 271 จุด เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลผู้เข้ารับสวัสดิการคนว่างงานที่ดีขึ้น ก่อนที่สหรัฐจะเผยแพร่รายงานการจ้างงานรายเดือนในวันศุกร์(6ส.ค.) ตามเวลาสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 271.58 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 35,064.25 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 26.44 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 4,429.10 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 114.58 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 14,895.12 จุด

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 385,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 4% ในการซื้อขายวันนี้ หลังบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายวัคซีนต้านโควิด-19

โมเดอร์นาเปิดเผยว่า บริษัทมียอดขายวัคซีนต้านโควิด-19 สูงถึง 4,200 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 3 เดือนระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย. หรือราว 140,000 ล้านบาท
โมเดอร์นา ระบุว่า บริษัทจะผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 800-1,000 ล้านโดสในปีนี้ และขณะนี้บริษัทได้ลงนามในสัญญาส่งมอบวัคซีนวงเงิน 20,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ และ 12,000 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า

ทั้งนี้ โมเดอร์นามีกำไร 6.46 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.96 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้ 4,350 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4,200 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ยอดขายวัคซีนต้านโควิด-19 ในไตรมาส 2 ของโมเดอร์นายังคงต่ำกว่ายอดขายของไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมียอดขายวัคซีนต้านโควิด-19 สูงถึง 7,800 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 หรือราว 260,000 ล้านบาท และบริษัทได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ยอดขายวัคซีนในปีนี้สู่ระดับ 33,500 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 26,000 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นตัวเลขจ้างงานตัวสุดท้าย ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 926,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่เพิ่มขึ้น 850,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
หากตัวเลขการจ้างงานออกมาแข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี)

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล

ข้อมูลจาก: กรุงเทพธุรกิจ [Link]

แบงก์รัฐการันตีคุ้มครองเงินฝาก100%



แบงก์รัฐให้ความมุั่นใจผู้ฝากเงินการันตีคุ้มครอง 100% ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากที่การคุ้มครองเหลือ 1 ล้านบาท ในวันนี้

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ว่า สถาบันการคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ประกาศลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝากเงินใน 35 สถาบันการเงินจาก 5 ล้านบาทต่อบัญชีต่อสถาบันการเงิน เหลือ 1 ล้านบาทเริ่มตั้งแต่ 11 ส.ค.เป็นต้นไป ไม่กส่งผลระทบกับผู้ฝากเงินของธนาคารรัฐ 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เพราะรัฐบาลเป็นเจ้าของยังคุ้มครองเงินฝากทั้ง 100% เหมือนเดิมและยังให้การคุ้มครองเงินฝากเหมือนเดิม เนื่องจากทุกธนาคารเป็นธนาคารของรัฐ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. และประธานสมาคมแบงก์รัฐ กล่าวว่า แบงก์รัฐทั้ง 6 แห่ง รวมถึง ธอส. ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก จึงยังคุ้มครองเงินฝาก 100% เหมือนเดิม ไม่ได้ลดการคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาท เหมือนสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก โดย ธอส. เป็นแบงก์รัฐมีความมั่นคงสูง มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า มีลูกค้าเงินฝากธนาคารออมสินจำนวนมาก สอบถามถึงกรณีที่สถาบันคุ้มครองเงินฝากไม่ได้ส่งผลต่อการคุ้มครองเงินฝากของลูกค้าธนาคารออมสินแต่อย่างใด

ข้อมูลจาก: โพสต์ ทูเดย์ [Link]

เผยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียประกาศลาออกจากตำแหน่ง เตรียมเข้าเฝ้าฯ พรุ่งนี้

เอเอฟพีรายงานว่า นายมูฮัมหมัด เรดซวน ยูโซฟ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมนี้ว่า นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน เตรียมลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ หลังจากไม่ประสบผลสำเร็จในการดึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคฝ่ายค้านให้เข้ามาหนุนหลัง ค้ำบัลลังก์นายกรัฐมนตรีต่อไป

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายมูห์ยิดดิน ได้แจ้งการตัดสินใจลาออกให้กับบรรดาส.ส.ภายในพรรคของตนเองเรียบร้อยแล้ว ในการประชุมกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม โดย เตรียมประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 16 สิงหาคม แล้วจะเดินทางเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย เพื่อถวายหนังสือลาออกจากตำแหน่งในทันที

ทั้งนี้นายมูห์ยิดดินกล่าวกับนายมูฮัมหมัดว่า การพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของตนขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของ สุลต่าน อับดุลเลาะห์ อาหมัด ชาห์ พระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย ว่าจะทรงรับหนังสือลาออกจากตำแหน่งของตนหรือไม่

มีรายงานข่าวสะพัดในมาเลเซียว่า หากนายมูห์ยิดดิน ตัดสินใจลาออก จะมีการฟอร์มรัฐบาลใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่แทน โดยไม่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีใครอยู่ในสถานะเด่นชัด จนได้รับเสียงสนับสนุนมากพอ คาดว่าอาจต้องใช้เวลาอีกนานหลายวันสำหรับการวิ่งเต้นและต่อรองทางการเมือง เพื่อดึงเอาส.ส.เข้ามาสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลผสมใหม่ขึ้น

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ยังต้องได้รับการแต่งตั้งจากพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย ภายใต้เงื่อนไขต้องได้รับเสียงข้างมากของส.ส.ในสภาฯให้การสนับสนุนอีกด้วย

ที่มา: มติชน [Link]

The situation in Afghanistan makes America look so bad, Texas has already banned schools from teaching it

[Link]