ผมเตือนแล้วอย่าโกรธกันนะครับ

คือทากะอย่าฟุ้งซ่านครับ อย่าไป What if เรื่อยๆ ให้คนอื่นตอบน่ะ


ผมจะเทียบให้ฟังนะ มีนักวิชาการ ปวศ. ท่านหนึ่ง ท่านเขียนว่าตอนไปเรียนที่เมืองนอกมันชอบมี นักศึกษา ปัญญาอ่อนในห้องเรียนมาทำเสียเวลาด้วยการยกมือถามอาจารย์ว่า อาจารย์ ว่าถ้า นโปเลียนชนะในศึก วอเตอร์ ลู จะเป็นไงครับ (ประมาณติ่ง นโปเลียน ) หรือใน ทราฟัลลก้า พลแม่นปืนยิง เนลสันตายคาที่ทันที แล้วทัพเรือ ฝรั่งเศสจะชนะไหม?

อาจารย์ ฝรั่งแก รำคาณ แกเลยตอบว่า "เราเรียนวิชาการ ตั้งอยู่บนหลักฐาน และความเป็นจริงที่ปรากฏ ถ้าคุณ มาถามแบบ What if ? เนี้ย คุณ ต้องไปคุยในกลุ่ม สติเฟื่อง พวกเขียน Novel หรือหนังล้อเลียนเรียนนู้น เพราะ What if? ของคุณมันจะมี If 1,2,3,4 ไปเรื่อยๆ แต่ไร้สาระ


เหมือนถามว่าถ้าลิโป้ ไม่ฆ่า ตั๋งโต๊ะ มันจะเป็นไง ก็ไม่ต้องไปคุยในห้องปวศ.หรอก ไปคุยในห้อง Dydasty Warrior What if นู้น

ฮิตเลอร์ ไม่แพ้ทำไงเงี้ย ถามทำไม? เยอรมันมีนุ๊ค ก่อน อเมริกาทำไง? ญี่ปุ่นมีอาวุธเชื้อโรคร้ายแรง คนจะตายเยอะไหม?

เกิดวันนึงผมถาม ว่าถ้า นิน,MS,Sony เห็นตรงกันว่าชิปขาดงั้นอย่าสร้างเครื่องแข่งกันเลยมาลงเครื่องเดียวกันซัดกันตรงงๆแล้วดูยอดขาย ผมถามใครชนะ มีสาระควรถามไหม?