ตอนแรกกะว่าจะเขียนแบ่งเป็นสองตอน ตอนแรกไม่สปอยล์ตอนที่สองสปอยล์บ้าง เพราะดูเหมือนว่าภาคนี้นี่เนื้อเรื่องจะพลิกไปพลิกมาซะเยอะรู้ก่อนจะไม่ตื่นเต้น แต่ว่าไม่ชอบเขียนอะไรยาว ๆ ก็จะพยายามสปอยล์แบบอ้อม ๆ เอาละกัน ยังไงคนรอเล่นภาคภาษาอังกฤษ (หรืออะไรสักอย่างราคาแพง ๆ ที่เรียกว่า Switch) กว่าจะได้เล่นป่านนั้นคงลืมแล้ว

MC "EXP เท่าไรคะเนี่ย?"

คิงสไลม์ "......มากกว่าค่าจ้างพิธีกรค่ะ"

เอาล่ะ... 5 ปีจาก Dragon Quest X คือส่วนตัวแล้วเล่น DQ10 มันแทบทุกวันแล้ว DQ11 นี่ก็ทีมเดียวกันก็เลยไม่รู้เลยว่าควรจะรู้สึกอย่างไร

สำหรับของ PS4 "มันก็อีหรอบเดียวกับ DQ10 ล่ะว้า~" ก็ถือเป็นเรื่องดี

สำหรับของ 3DS "มันก็อีหรอบเดียวกับ DQ1-9 ละว้า" ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดี

คือคนนอกไม่รู้นะว่าจะรู้สึกยังไงกัน แต่สำหรับแฟน DQ มองไปทั้งทางซ้ายและขวาก็ win win แบบนี้ชีวิตลำบากมาก คนที่ไม่ได้เล่น 10 นี่คงเหมือนได้ปลดปล่อยจะเล่นมันเละเทะทุกเวอร์ชั่นเลย ทางนี้ลึก ๆ ในจิตใจแล้วบ้ากราฟิกเลยไปทาง PS4 ก่อน จากนั้นก็ 3DS แบบ 3D แล้วก็ทำอีกเซฟเล่นแบบ 2D แล้วยังมีเวอร์ชั่นลับอีกคือ Remote play เล่นบน PSVita ด้วย ก็เวลาผ่านไปจากเกมออกมาประมาณ 1 สัปดาห์กว่า ๆ ก็สามารถตะเกียดตะกายออกจากนรก (?) DQ มาเขียนรีวิวได้เสียที

ปัญหาอีกประการที่นอกจากจะมีหลายเวอร์ชั่นหลายรูปแบบให้เลือกเล่นยิ่งกว่าน้ำซุปชาบูแล้ว ช่วงฮันนี่มูนข้าวใหม่ปลามันนี่มองไปทางไหนก็มีแต่คนชมว่าภาคนี้เทพที่สุดไร้เทียมทาน ขนาดที่ว่าโหดสุดอย่าง amazon ที่ประมาณเล่นอยู่แล้วจามเล่นอยู่แล้วยุงบินมาเกาะแขน อะไรนิดหน่อยไม่พอใจก็เข้ามาเขียนด่า ปัจจุบันอยู่ที่ 4/5 ดาวค่ะ... คลิติค่ง critical thinking หรือ critical mind เอาไปซุกรูหมดทั้งคนไทยคนตะวันตกอิมพอร์ตหรือคนญี่ปุ่น อะไรจะเพอร์เฟ็คโต้เกมขนาดนี้ ที่พูดนี่ไม่ใช่เพราะว่ากำลังจะสวนกระแส เกมมันมีข้อเสียมั้ยก็มีแหละ เดี๋ยวเข้าเนื้อหารีวิวแล้วจะบอก แต่ข้อดีมันก็มีมากมายล้นเหลือตามที่บอกไว้ย่อหน้าที่แล้วว่า นี่เล่นมา 4-5 เซฟแล้วยังสนุกอยู่เลยฟร่ะ...แอบไปเล่น DQ10 (หรือเล่นแม่มพร้อมกันนั่นล่ะ) บ้างแล้วกลับมาก็ยังสนุก...เพราะฉะนั้นเรื่องหลงซะจนให้คะแนนเต็มหรือเกือบเต็มคิดว่าคงไม่หมดโปรง่าย ๆ

รีวิวของหมดทุกเวอร์ชั่นยกเว้น Switch ............ก็มันยังไม่ออก...

ภาพสวยมาก่อนเลยเล่นของ PS4 เป็นอันดับแรก

พูดว่าสวย ๆ นี่เอาเข้าจริงทางเทคนิคก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ PS4 ปกติก็ทำได้แค่ 900p เรื่อง draw distance ก็หญ้าค่อย ๆ โผล่หินค่อย ๆ โหลด NPC ค่อย ๆ เสนอหน้าเวลาเดินเข้าใกล้ เฟรมตกก็มีบ้างนิดหน่อยแต่ 99% ของเกมคือ 30 นิ่ง ๆ จุดนี้ทำได้ดีขอชม เครื่องเกมเจนนี้มัน 4 ปีละเราไม่ควรจะไปดีมานด์มาก (น่าห่วง Switch หน่อย ๆ นะ ถ้าพอร์ตของ PS4 ไปนี่เล่น ๆ อยู่เครื่องจะลุกเป็นไฟย้า~คามือมั้ย)

เรื่องทั่วไปก็คงจะพูดถึงแค่นั้น ต่อไปคือความประทับใจ ตามปกติแล้วเวลาเล่นเกมผมไม่ค่อยชอบถ่ายภาพเท่าไรยกเว้นว่าเจออะไรที่มันตลก ๆ หรือว้าวจริง ๆ (เคยว้าวแบบแทบทั้งเกมคือ Uncharted 4 แคปแชร์ ๆๆๆๆ จนเจอเฟซบุคแบนข้อหาสแปม เลิกแชร์ตลอดชีพนับแต่นั้นมา) แต่สำหรับ DQ11 นี่มีจุดที่ชอบแคปอยู่ 2 อย่างคือโมเดลตัวละครกับฉาก ฉากแผนที่อะไรพวกนี้ไม่เท่าไร ทุ่ง เขา ป่า หญ้า ปกติ แต่ที่ประทับใจจริงคือพวกเมืองต่าง ๆ ในเกมที่แต่ละเมืองออกแบบมาให้เหมือนหนึ่งเมืองเท่ากับหนึ่งประเทศแถมมีการมั่วยุคสมัยกันแบบไม่แคร์สื่อ เช่น กรีกโบราณกับโมเดิร์นอิตาลีกับญี่ปุ่นสมัยไหนก็ไม่รู้ ฯลฯ มั่วนิ่มมาอยู่ในทวีปเดียวกันไปเลย เริดค่ะเริด

โมเดลตัวละครพวกนี้ใครว่าไงไม่รู้นะ แต่ส่วนตัวผมว่าน่ารักดี นี่นับทั้งมอนสเตอร์กับตัวละครที่เป็นคนทั้งตัวสำคัญและตัวประกอบไปด้วยเลย ใจนึงก็คิดว่ามันเด่นตัดกับฉากยังไงพิกล ส่วนอีกใจก็คิดว่าแบบนี้ก็เหมาะสมดีแล้วมั้ง พวกโมชั่นหรือสีหน้าท่าทางกับหน้าตานี่คือยกจาก DQ10 มาดื้อ ๆ แล้วอัพเกรดให้ขึ้นมาให้สมกับที่ใช้เอนจิ้นใหม่ ปรับนั่นปรับนี่อะไรก็ว่าไป พื้นฐานโมเดลตัวละครกับงานดีไซน์ของภาค 10 คือมันทั้งละเอียดทั้งมีให้เลือกใช้เยอะอยู่แล้วอะนะ แล้วก็พวกการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์ตามฉากนี่ถ้าเข้าใจไม่ผิดก็คล้าย ๆ ไปเอามาจากภาค Heroes ด้วยเหมือนกัน

ซึ่งทั้ง 10 และ 11 จุดกระชากใจมันไม่ใช่แค่ยืนนิ่งหันหน้าคุยกันแล้วตัวหนังสือขึ้นในกรอบสี่เหลี่ยม แต่งานกำกับคัตซีน (cut scene) ฉากเนื้อเรื่องต่าง ๆ นี่ก็ทำให้ว้าวได้เหมือนกัน เมื่อก่อนหน้าที่นี้มันเป็นของซีรีส์ Final Fantasy นะ ทว่าหลังจาก 5-6 ปีที่ผ่านมานี่ดูเหมือนว่า FF จะชอบยืนหันหน้าคุยกันหรือขี้เกียจจัดเล่าเรื่องผ่านทาง text ไปเลยในขณะที่ DQ ชักจะเริ่มตีลังกาเตะต่อยปล่อยอะบู๊เก็ตระเบิดทั่วฉากหรือดราม่าบีบน้ำตามากขึ้นเข้าไปทุกที ๆ อย่าสลับหน้าที่กันงี้เด้ ปรับตัวไม่ทันเว้ย!

คือภาค 11 นี่ยังถือว่าซอฟท์ ๆ นะ ถึงจะมีท่าคู่เวอร์ ๆ เยอะเป็นสิบท่าก็เถอะ (ประมาณไม้ตายฮิโอกิของซีรีส์ Tales แต่ทำโดย SQEN เพราะงั้นเงินอัดฉีดบานเลยยิ่งเวอร์อลัง) ภาค 10 นี่มีไคจูถล่มเมืองกับปล่อยท่าสว่าน (ดาบ) ทะลวงสวรรค์มาแล้ว คือพี่เกรงใจ FF กับ RPG ค่ายอื่นบ้างสิ...

แล้วทีนี้ก็มาเล่นของ 3DS

สำหรับคนนิยมพกพานี่ได้กราฟิกอีกสองรูปแบบเลยคือแบบ 3D ซึ่งไม่ใช่การใช้ฟังก์ชั่นสามมิติของเครื่อง 3DS นะครับ (ไม่มี ไม่มี๊ ไม่มี ไม่ใส่) แต่ก็คือตัวละคร SD น่ารัก ๆ แบบภาค 9 กับ 7 remake นั่นเอง และงานก็เนี๊ยบเหมือนของ PS4 ท่าคู่ท่าไม้ตายก็ใช้แล้วงดงามเหมือนกัน งานคัตซีนก็กำกับออกมาได้ดีเหมือนกัน ที่แตกต่างกันก็คือขนาดแผนที่ขนาดเมืองและดันเจี้ยนที่ 3DS จะออกแบบมาเล็กกว่าพอสมควร ทางส่วนนี้เดี๋ยวจะยกเอาไปพูดอีกทีในส่วนของเกมเพลย์

เซอร์วิสชาวพกพายังไม่จบแค่นั้น DQ11 ให้ตัวเลือกกราฟิกอีกรูปแบบหนึ่งมาให้เลือกเล่นด้วย นั่นคือแบบ 2D pixels เป็นเม็ด ๆ มาเลย อันนี้ก็ไม่ได้ไปเผาเอามาจากภาคก่อน ๆ สมัยดึกดำบรรพ์ แต่วาดใหม่หมดเลย ทั้งขนาด สี และลายละเอียดไม่เชื่อเปิดเทียบดูได้ถ้าใครยังเก็บพวกภาคบนเครื่อง SFC หรือ DS หรือที่ลงมือถือเอาไว้

ส่วนอีกจุดหนึ่งที่อยากเก็บตกและยกขึ้นมาชมหน่อยก็คือ remote play เวอร์ชั่น PS4 เล่นผ่าน PSVita ลื่นมากครับ ภาพก็นิ้ง (จอ OLED ( *´艸｀)) การปรับปุ่มบังคับให้เหมาะสมกับ Vita ที่ไม่มี L2 R2 L3 R3 ก็ออกมาสมบูรณ์แบบ...นี่มันคือหลอกล่อให้คนเขียนเล่นเวอร์ชั่น PS4 อีกรอบสินะ........รู้สึกเหมือนโดนย่ำยี

ซ้าย 3D ขวา 2D

ซ้าย น่ารักซะไม่มีอะ ขวา ................แก่...

มีเสียงพากย์มั้ย?

มี!

ของ PS4 นะเธอ มีเสียงหมาเห่าโฮ่ง ๆ แมวร้องแง้ว ๆ ม้าร้องฮี้ ๆ เสียงพวกตัวประกอบเชียร์ "เฮ! วีดวิิ้ว~" ท่าเซ็กซี่บีมมีเสียงอะเฮ่ออะฮ่าที่ไม่รู้ไปเอาใครมาพากย์สงสัยค่าตัวแพงเลยได้แค่ 1 พยางค์จบงานรับเช็ค ฯลฯ แล้วก็อีมินิเกมเมจิคสล็อตที่เป็นสไลม์ออกผจญภัยขอบอกครับ full voice ครับไม่ได้โม้ พวกที่บอกว่า DQ ญี่ปุ่นไม่พากย์นี่โกหกครับ ต้องหยิกคนละสองที

เสียงพากย์ตอนเนื้อเรื่อง? ไม่มีอะ

3DS ล่ะพากย์มั้ย? เนื่องจากสเปคต่ำกว่า PS4 ก็ได้แค่ ตัวประกอบเชียร์ "เฮ! วีดวิิ้ว~" แค่นั้นแหละ

อ้าว! แล้วแบบนี้เมื่อไรจะมีเสียงพากย์?!

...นี่เห็นคนรีวิวเป็นคนออกเงินสร้างเกม?

ทุกคนมัวแต่ใส่ใจแต่เสียงอิตะ ๆ อ๊ากกกกก! เอื้อ ๆๆ เวลาโดนโจมตี โดยมองข้ามสิ่งสำคัญไปอย่างหนึ่งคือ...

เพลงประกอบมันใช้ synthesizers แทนที่จะใช้เครื่องดนตรีจริง ๆ เล่นให้เราฟัง ตอนดูตัวอย่างเกมบน youtube ดูเกมเพลย์อะไรพวกนี้สังเกตกันบ้างมั้ย? ไม่? ก็มัวแต่หมกมุ่นกับเสียงพากย์ไง มันล่อให้เราไปสนใจเรื่องไร้สาระอย่างเสียงฮะเดื้อ ๆ แทนที่จะ...เฮ่อ~...คืองี้นะ เพลง DQ11 หรือไม่ว่า DQ ภาคไหนก็ตามล้วนดีงามหมดอะ 11 นี่ก็เพราะเยอะ อลังแยะ รีไซเคิลเพียบ (มี 100 กว่าเพลง พี่ล่อจากภาคเก่าซะ 80 *อ้างอิงจากที่ rip ออกมาจาก 3DS*) แถวบ้านเขาเรียกว่ามีของดีแต่หวงลิขสิทธิ์ไม่เข้าท่าหรือด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่ทราบล่ะ DQ ภาคที่ใส่ orchestra เข้ามาให้ในเกมเลยคือ ภาค VIII PS2 (เฉพาะ ENG) ภาค X (แพทช์ใส่เข้ามาหลัง Wii U ออกปี 2013) VII 3DS (เฉพาะ JP) VIII 3DS (เฉพาะ JP) ที่เหลือก็ตามบุญตามกรรมซื้อ CD มา rip เอาเอง

ภาค 12 นี่อาจจะได้เสียงพากย์ (11 ก็อาจจะได้ในภาคภาษาอังกฤษ) แต่ได้ไฟล์เพลงดี ๆ มั้ย อันนี้อยู่ที่ความเมตตาของคนถือ music rights

ปล. ส่วนตัวเห็นด้วยนะว่าควรใส่เสียงพากย์ได้แล้ว ดูฉากกระชากอารมณ์แต่เงียบ ๆ ตรู๊ด ๆ แล้วมันก็จั๊กกะจี้พิลึก

แต่คนสร้างว่าไงว่ากัน 20-30 ปีที่แล้วฉากน้ำตาซึมทั้งหลายของเกมของหนังสือมันก็อยู่ที่จินตนาการเราได้ด้วย ที่พูดนี่คือยืนอยู่บนจุดของแฟน DQ รุ่นเดอะอะนะ ส่วนแฟนอีกรุ่นหรือคนที่อยากจะได้เสียงอะฮ้าง ๆ นี่เราคงไปคิดแทนกันไม่ได้ ทางนี้ยอมแลกทุกอย่าง ขอคุณภาพเกมระดับนี้แล้วก็อย่าทำนานนักก็พอ

เกมเพลย์ แน่นอน PS4 ก่อน

ก็ไม่หลุดโผครับ Dragon Quest X แบบ offline แบบ lite แบบ mini รุ่นประหยัด ที่แตกต่างคือไม่ต้องต่อเน็ตเล่น แล้วก็สร้างตัวละครหญิงแรด ๆ ไม่ได้ ต้องอยู่กับนายผู้กล้าหนุ่มผมยาวคนนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยที่พื้นฐานแล้วทั้ง 10 และ 11 มันก็เป็น RPG แบบเรียบง่ายทั้งคู่ คือเล่นตามสเตปไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวมันก็ไปต่อได้เองเดี๋ยวก็จบเอง แล้วก็ทำตามตำราตามแบบฉบับ RPG สมัยใหม่ที่ดีด้วยคือไม่ต้องนั่งจับจดเดินวนไปเวียนมาเก็บเลเวลหรือหาของแรร์อัตราดร็อปต่ำ ไปแบบชิลล์ ๆ ถ้าสำรวจครบหมดก็ดีไป ไม่ครบเกมก็ไม่ลงโทษอะไรเรา ซึ่งจุดที่แตกต่างกันอย่างที่เห็นได้ชัดระหว่างสองภาคนี้คือ 10 นั้นจะต้องหลอกล่อให้เราเติมเงินเล่นอย่างน้อยเป็นปีเพราะฉะนั้นจำนวน contents หรืออะไรต่อมิอะไรให้ทำจะเยอะกว่า ขนาดแผนที่ก็มีหลายทวีปหลายโลกให้ท่องเที่ยวไปเรื่อย ในขณะที 11 นี่จะยังอยู่ในขนาดที่ 40-80 ชั่วโมงจบได้โดยที่ไม่ตกงานหรือขาดเรียนตายเสียก่อน ในเรื่องความยากนั้นถ้าเป็นศัตรูปกติก็ไม่ต่างกัน ตั้งอัตโนมัติตอนสู้ก็ชนะได้แทบทั้งหมดถ้าเลเวลดีอาวุธชุดเกราะถึง ในขณะที่บอส 11 จะยังใช้สูตรสำเร็จของ DQ ทุกภาคคือเลือดเต็ม บัฟดี โชคไม่ซวยหนักซ้ำซ้อน เกมก็ถือว่าไม่ยากอะไร ส่วนตัวเล่นตั้งแต่ต้นจนจบบอสลับบอสใหญ่บอสใย้ใหญ่เคลียร์มาหมดแล้วไม่เคยเกมโอเวอร์เลย (ทั้งนี้ทั้งนั้นมาตรฐานความยากแต่ละคนไม่เหมือนกัน) ส่วนบอสส่วนใหญ่ของ DQ10 นี่อย่าให้เซด ตีเราทีถ้าไม่เกือบหมดหลอดก็คือตายเลย ไม่ตายก็ติดสเตตัสอะไรสักอย่างที่จะทำให้ตายอีกวินาทีถัดไปอยู่ดี หลบ ๆ กัน ๆ ให้วุ่นไปหมด เพราะฉะนั้นจาก 10 มา 11 นี่ถือว่าเล่นเกมเดียวกันแต่ easy mode ได้

ระบบสู้ของภาค 11 ยังมีข้อปลีกย่อยอื่น ๆ ที่ทำให้ต่างจาก 10 หลายประการ อย่างเช่นการใช้ท่าคู่ท่าไม้ตายกับพรรคพวกที่มีอยู่หลายสิบท่าให้เลือกใช้ตามสถานการณ์ มีกระทั่งท่าแปลก ๆ ที่ใช้แล้วได้ของแรร์กับเรียกศัตรูแรร์มาด้วยเป็นต้น การปรับมุมกล้องแบบอัตโนมัติที่ทำให้การต่อสู้รวดเร็วขึ้นและดูเป็น DQ แบบคลาสสิคยืนเรียงแถวหน้ากระดานกันตีศัตรูอย่างเป็นระเบียบไม่ใช่เดินกันเพ่นพ่านรอบแอเรียสู้ ซึ่งไอ้การเดินวนเวียนเพ่นพ่านนี่ใส่มาเพื่อเซอร์วิสเฉย ๆ ไม่ได้มีผลอะไรต่อการแพ้ชนะแบบ 10 เพราะงั้นก็สามารถเลือกเล่นตามชอบใจเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแก้เบื่อได้ทุกเมื่อ ส่วนการต่อสู้แบบเทิร์นเบสนั้นถ้าเป็น DQ ภาคเก่า ๆ 2-9 จะเป็นการ ใส่คำสั่งทีเดียว 4 คนแล้วออกเทิร์นกันตามความเร็วตัวละคร + ดวง แต่สำหรับ DQ11 จะเปลี่ยนไปใช้ระบบเทิร์นใครเทิร์นมันซึ่งขึ้นอยู่กับความเร็วของตัวละครทั้งฝั่งเราและฝั่งศัตรู (ประมาณระบบเทิร์นใน Final Fantasy X) ด้วยเหตุนี้เองการเล่นของเวอร์ชั่น PS4 จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากภาคเก่าอื่น ๆ และแตกต่างจากของ 3DS ที่ยังใช้ระบบเก่า

อย่างที่บอกไปว่าถ้าสำรวจครบซะอย่างหรือปราบศัตรูอย่างน้อยชนิดละหนึ่งตัวสองตัว ชีวิตใน DQ11 ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรต่อคนเล่น ตอนแรกก็คิดอยู่นะว่าตัวเกมมีโหมดพิเรนทร์อย่าง "ห้ามหนี" โอเคอันนี้เราไม่หนีได้ทั้งเกม (เล่นรอบแรกก็ลองของเลย...รอด) "ห้ามซื้อของ" ก็โอเคนะระบบตีของหรือสมบัติที่หาได้ตามทางก็ทำให้พออยู่ได้แล้ว "ห้ามใส่ชุดป้องกัน" ...เฮ้ยเริ่มโหด รู้ล่ะสิว่าเกมตัวเองง่าย...อันนี้ยังไม่กล้าลอง "คำสาปหน้าอับอาย" เช่นสู้อยู่กางเกงหลุดตูด มีของตกใส่หัวติดสตัน.................................ยอม ๆ คือต้องรีบจบจะได้อวดชาวโลกได้ สุดท้ายก็เอาแค่ห้ามหนี

มาพูดถึงเรื่องสำรวจกันต่อ ตอนแรกก็คิดนะว่า DQ11 นี่มันต้องมีหลายแผนที่โลกตามประสา DQ แน่ ๆ แต่พอมาเล่นจริง...เฮ้อ~...โอเคล่ะแผนที่ใหญ่ดี เดินกันเมื่อยดี แต่ความหลากหลายนี่น้อยกว่าที่คาดไว้เยอะเลย เกมไปเน้นที่การเล่าเรื่องเนื้อเรื่องอะไรทำนองนั้นมากกว่าแก้ปริศนาดันเจี้ยนหรือโชว์ความซับซ้อนของแผนที่ต่าง ๆ ทั้งกลางแจ้งและในรโหฐาน มองโลกในแง่ดีคือพัซเซิ่ลดันเจี้ยนหลัง ๆ ใน 10 นี่เล่นทีแทบร้องไห้เป็นชั่วโมงกว่าจะผ่าน 11 นี่ทางแยกไม่เยอะ ทางลับวิธีผ่านไม่บ้าคลั่งเท่า แต่ละที่แป๊บเดียวก็เคลียร์แล้ว ก็ถือว่าคนละภาคคนละแนวคนละอารมณ์เนาะ ส่วนคนส่วนใหญ่ที่ไม่เล่น 10 นึกไม่ออกให้ไปเทียบกับ Persona 5 เอาละกัน อันนั้นก็แต่ละดันเจี้ยนก็จะยาวไปไหน เพราะฉะนั้นผมขอสรุปว่าที่ DQ11 ออกแบบแผนที่ออกแบบฉากไม่ทรมานคนเล่นมากถือเป็นข้อดีนะ

ที่เหลือไม่มีอะไรเป็นพิเศษครับ ทุกอย่างในเกมเข้าใจง่าย ขาประจำขาจรเล่นได้หมด

เกมเพลย์ 3DS (ทั้ง 2D และ 3D)

สำหรับที่ลงเครื่อง 3DS นี่ตัวเกมเพลย์จะอนุรักษ์นิยมมากกว่าของ PS4 ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง อย่างที่บอกไปเกี่ยวกับระบบสู้ที่ยังใช้การออกเทิร์นแบบ DQ2-9 ข้อได้เปรียบของเวอร์ชั่นนี้คือสู้ไวกว่ามาก แถมยังสามารถปรับระดับความไวของการต่อสู้ให้ไวขึ้นกว่าเดิมได้ด้วย ซึ่ง PS4 ไม่มีให้ปรับ การใช้ท่าคู่/ไม้ตายก็นับได้ว่าสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องรอเทิร์นของคนที่จะใช้มาถึง เริ่มสู้ปุ๊บจัดได้เลย ส่วนในด้านความยากนั้นขอให้ระดับพอ ๆ กัน แต่เนื่องด้วยความไวของการต่อสู้ที่มากกว่า ถ้าผู้เล่นชอบวนเวียนเก็บเลเวลจะทำเวลาได้ดีและมีความสะดวกสบายกว่าในเวอร์ชั่น 3DS

ด้านการสำรวจ เนื่องจากใน 3DS ทั้ง 3D และ 2D นี่ขนาดแผนที่เล็กกว่าของ PS4 แบบเท่าตัว ทั้งแผนที่พื้นหญ้าป่าเขา เมือง ดันเจี้ยน วิ่งแป๊บเดียวก็จากสุดไปสุดละ นอกจากจะลดเวลาเล่นครึ่งหนึ่งแล้วยังไม่มีเวลาโหลดด้วย (ของ PS4 ถ้า HDD ยังปกติอยู่ก็ประมาณแอเรียละ 5-10 วินาที) อันนี้ใครรีบเล่นก็เล่นบนเครื่องพกพาจะดีกว่า คือของมันใหญ่กว่ายาวกว่านี่ไม่ใช่เรื่องความซับซ้อนหรือสับสนอะไรทำนองนั้น มันคือสเกลระยะทางจาก ก ไป ข ล้วน ๆ เพราะบนเครื่อง HD มันก็ต้องทำให้ดูสมจริงหน่อย นอกจากนี้แผนที่ของเกมทั้ง 3 เวอร์ชั่นจะออกแบบมาไม่หมือนกันเลย คนสร้างขยันจริง ๆ ยอมรับ

อีกอย่างที่อยากคอมเมนท์คือระบบตีอาวุธนี่ของ PS4 ติด +3 (เต็ม) ง่ายกว่าโดยไม่ต้องพึ่งเลเวลกับสกิลมาก อันนี้คนโปรแกรมคงใจดีกว่า (หัวเราะ)

มีจุดหนึ่งที่สามารถฟันธงได้ว่า 3DS ทำได้ดีกว่า PS4 คือมินิเกมครับ สำหรับบนเครื่องระดับ HD ของเรา Square Enix ภูมิใจนำเสนอ เกมยิงเป้าที่ซ่อนอยู่ตามแผนที่ต่าง ๆ ................THE END......................

ในขณะที่ 3DS จัดเต็ม street pass (หรือตามหาแต่ในเกมก็ได้) หาไอ้ตัวยจจิมาลงดันเจี้ยนสู้ศัตรูแบบมินิเกมตั้งใจทำสุด ๆ เข้าไปหาไอเท็มมาทำของ หาแผนที่ DQ ภาคเก่า ๆ ไปทำเควส ใช่แล้วครับซาร่า คุณฟังไม่ผิด! แผนที่ DQ ภาคเก่า!!! โอ้พระเจ้าจอร์จนั่นคือเพิ่มเควสและวาไรตี้ให้เล่นขำ ๆ ได้อีกเพียบเลยนะเคอะ

ช้าก่อน! เท่านั้นยังไม่พอ แผนที่เก่า DQ ไม่ได้มีมาแค่ภาคละแมพเดียว แต่เป็นภาคละ 3 แมพ 3 เควส!!! คูณเข้าไปสิ 3 x 10 = 30 เควส exclusive เฉพาะเครื่อง 3DS เท่านั้น นั้น นั้น นั้น นั้น นั้น

ซาร่าเป็นลมค่ะ มินิเกมยิงเป้าโง่ ๆ ปะทะ ข้ามโลกข้ามเวลาไปเดินเล่นภาคเก่าทำเควส...

...

แต่มินิเกมแข่งม้าบน PS4 สนุกกว่า ม้าของ 3DS ดริฟท์ไม่ได้ โธ๊ะ!

เนื้อเรื่อง

DQ11 นี่เป็นหนึ่งในเกมที่ทีมสร้างกลัวสปอยล์หลุดมาก ล็อบบี้ทุกทาง ไม่มีส่งแผ่นรีวิวออกก่อน ไม่มีอาตี๋อาบังหน้าไหนได้จากฟลายอิ้งมาร์เก็ต (แผ่นหลุด) สรุปแล้วมันจะออกมาเป็นยังไงน้า~ จะหักมุมกันหลังหัก หรือจะใช้ศัพท์วัยรุ่นว่าตับพังหรืออะไรยังไง?

สรุปแล้วก็มาตรฐาน DQ ครับ ดีปะทะชั่ว แต่จุดเด่นมันไม่ได้อยู่แค่ตรงนั้นตรงเดียว อย่างที่บอกไปว่าเดี๋ยวนี้ DQ ยุคใหม่เสนอตัวรับหน้าที่แทน FF พวกคัตซีนหรือ CG อะไรนี่อย่างจัดเต็ม ทุ่มเงินมันเข้าไป DQ10 DQstar หาเงินมาให้ได้เท่าไรยัดมันเข้าไป ฉากซึ้งมาเอ้า! ซึ้งน้ำหูน้ำตาไหล ฉากบู๊มาเอ้า! ใจมันสะสะสะสั่น แฟน DQ อกอีแป้นจะแตกไม่เคยพบเคยเจอ เล่นมาครึ่งร้อยชั่วโมงถ้าไม่มัวตีไพ่ในบ่อนหรือปั่นสล็อต เกมทั้งเกมฉากเนื้อเรื่องจัดเต็มทุกย่างก้าว ส่วนจะตับแหกหรืออะไรแยกอันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัวครับ

ถ้าถามว่าคิดว่าทำได้ดีที่สุดตรงไหน ผมให้ภาคนี้เรื่องตัวละคร ตัวร้ายนี่ยังไม่เท่าไร แต่กลุ่มตัวเอกของเราแต่ละคนนี่คาแร็คเตอร์แรงมาก ซึ่งเราจะไม่ค่อยเจออะไรแบบนี้ใน DQ เท่าไรนัก ซีรีส์นี้มีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือจะเว้นช่องว่างให้จินตนาการเอาเองไว้เยอะมาก ซึ่งตรงกันข้ามกับ 11 คือจะพยายามไม่สปอยล์ สายพี่สาวคงถูกในภาคนี้ 3 คนสามแบบ พี่สาวที่บอกว่าคอยปกป้องตลอดเวลา พี่สาวจอมซ่า และสุดยอดพี่สาวไร้เทียมทาน เล่นแล้วรู้สึกเมาพี่สาวอย่างแรง คนอินง่ายก็อาจจะรู้สึกผูกพันกับพี่สา....เอ้ย ตัวละครภาคนี้ทุกตัว ส่วนตัวแล้วก็ประทับใจพี่ส....เนื้อเรื่องภาคนี้พอสมควรครับ

ขออีกรอบ ไม่คิดว่า DQ จะเอาจริงกับ CG มากกว่า FF (นับรวมทั้ง pre-rendered กับ real-time)

ไม่คิดว่า DQ จะเอาจริงกับ CG มากกว่า FF 

ไม่คิดว่า DQ จะเอาจริงกับ CG มากกว่า FF 

ไม่คิดว่า DQ จะเอาจริงกับ CG มากกว่า FF 

...พระเจ้า...ถ้ามีเสียงพากย์นะเมิ้งงงง

เนื้อเรื่อง 3DS

เหมือนกัน!!! 

สุดท้ายนี้ก็ขอยืนยันว่าคุ้มครับ เป็นเกมที่หาเรื่องให้โดนด่ายากดี ถ้าออกของ Switch แล้วของแถมดีพอร์ตไม่เน่ามากก็เดี๋ยวมีอีกรอบ

Dragon Quest XI

ดีงาม

+ แทบทุกอย่าง

ไม่ค่อยปลื้ม

- งกไฟล์เพลง

- แผนที่เกมแคบไปหน่อย แล้วตามเนื้อเรื่องนี่คือให้วนที่เดิมบางที่ 3 รอบขั้นต่ำ

คะแนน 9.9/10

ไว้ค่อยให้เต็มถ้าภาค 12 ทำออกมาดีกว่านี้ เขาว่ากันว่ารอบที่ 3 นี่คือดีสุด (10 > 11 > 12)

ตั้งแคมป์ทั้งที ไหนอะหมี่นิ_ชิน? แล้วไอ้แว่นคนทำอาหารไปไหน? ...ผิดเกม? ...

12 ออกช้าก็ยังมี 10 ให้เล่น