งานนี้มันต้องเผา พนักงาน Activision Blizzard ลงชื่อถอดถอน CEO เกิน 1000 คนแล้ว
นับเป็นสถานการณ์ที่สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่ววงการเกม กับเรื่องราวของ Activision Blizzard ที่ถูกฟ้องร้องในข้อหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัฒนธรรมองค์กรล้มเหลว ส่งผลให้มีการเหยียดเพศและคุกคามพนักงานหญิงอย่างแพร่หลายในบริษัทมาเป็นระยะเวลานาน โดยแม้กระทั่งผู้บริหารใหญ่ของบริษัทเกมอื่นๆ ยังอดออกความเห็นไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นประธานของ PlayStation ที่รู้สึก 'เป็นกังวล' ต่อสถานการณ์นี้เป็นอย่างมาก ไปจนถึงประธานของ Xbox ที่ถึงขนาดออกมาบอกว่าจะ 'ทบทวนความสัมพันธ์กับ Activision Blizzard ในทุกด้าน' เลยทีเดียว
สถานการณ์ภายใน Activision Blizzard เองก็ยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทางกลุ่ม ABK Workers Alliance ซึ่งเป็นกลุ่มตัวแทนของพนักงาน Activision Blizzard ทั้งหมด ได้เปิดเผยว่าพนักงานภายในบริษัทได้เริ่มทำการล่ารายชื่อจากค่ายพัฒนาต่างๆ ในเครือของ Activision Blizzard เพื่อเรียกร้องให้ CEO ของบริษัทคุณ Bobby Kotick ลาออกจากตำแหน่ง ในฐานที่ปล่อยปละละเลยให้ปัญหาฝังรากลึกมาตลอด โดยในขณะที่เขียนข่าวอยู่นี้ ได้มีผู้เข้าไปลงชื่อมากกว่า 1,000 รายชื่อแล้ว!
[Link]
นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังจัดทำแคมเปญล่ารายชื่อในเว็บไซต์ change.org เพื่อให้บุคคลทั่วไปแสดงความสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้ โดยจนถึงบัดนี้มีคนลงชื่อไปนับหมื่นคนแล้ว!
[Link]
ก่อนหน้านี้ ทางกลุ่ม ABK Workers Alliance ได้เคยจัดกิจกรรมแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อผู้บริหารของบริษัทมาแล้ว ด้วยการจัดกิจกรรม Walk Out (หยุดงานประท้วง) เพื่อกดดันให้คณะกรรมการบริหารบริษัทตัดสินใจปลดคุณ Bobby Kotick ออก แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่เป็นผล โดยทางคณะกรรมการยืนยันว่าจะสนับสนุนคุณ Kotick ในการฟื้นฟูภาพลักษณ์ขององค์กรต่อไป
ในขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะคลี่คลายไปอย่างไรได้บ้าง และ Activision Blizzard จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรในอนาคต คงได้แต่ติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ ว่าจะมีผลกระทบมาถึงเกมเมอร์อย่างเราๆ อย่างไรบ้าง
ที่มา : [Link]
Popular News
แสดงความคิดเห็น
ตอนนี้พวกบอร์ดบริหารอาจจะสนอย่างเดียวคือให้ Bobby ออกไปซะหวังว่าจะได้หยุด stock ร่วง หยุด bad press กับ bad rep ที่สะสมอยู่ตอนนี้ได้
อย่างใน blizzard ที่มีปัญหาเรื่องการกดเพศหญิง ก็มีการตั้ง ประธาน blizzard คู่กันเป็น ชาย 1 หญิง 1
ตอนหลัง ผู้หญิงลาออก แล้วมีการเผยด้วยว่า ขนาดตั้งมาเพื่อแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียม แต่ดันให้เงินเดือน ประธานผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
หลายๆ อย่างมันแสดงให้เห็นความไม่ใส่ใจที่จะแก้ปัญหา เขาจะเรียกให้ ceo ลาออกเพื่อให้คนที่อยากแก้ไขมาทำแทน ก็ไม่แปลก
อย่างใน blizzard ที่มีปัญหาเรื่องการกดเพศหญิง ก็มีการตั้ง ประธาน blizzard คู่กันเป็น ชาย 1 หญิง 1
ตอนหลัง ผู้หญิงลาออก แล้วมีการเผยด้วยว่า ขนาดตั้งมาเพื่อแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียม แต่ดันให้เงินเดือน ประธานผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
หลายๆ อย่างมันแสดงให้เห็นความไม่ใส่ใจที่จะแก้ปัญหา เขาจะเรียกให้ ceo ลาออกเพื่อให้คนที่อยากแก้ไขมาทำแทน ก็ไม่แปลก
เขาคุกคามยังไงบ้างครับ
จริงๆเรื่องคุกคามส่วนหนึ่งมันเป็นเรื่องการกระทำของพนักงานหรือเปล่า ก็เลิกทำซะสิ
หรือถ้างั้นมันก็ต้องจัดการตั้งแต่หัวหน้าแผนกต่างๆด้วย
แล้วยังมีเรื่องการแฉว่า พนักงาน blizzard ไปเปิดห้องสวีตหมู่(ทำอะไรคิดเอง) มีรูปแฉออกมาด้วยนะ แล้วก็มีกินเหล้าในที่ทำงาน นั่งเล่นเกมในที่ทำงานขณะที่พนักงานหญิงต้องทำงาน ไม่เป็นทำเรื่องการโปรโมทให้ตำแหน่ง มีการดูถูกผู้หญิง คือเยอะมาก ลองไปหาอ่านดูครับ
พอเรื่องแดง คนแรกไปก่อนเลย CEO Blizzard ครับ ต่อมาก็หัวหน้าแผนก HR
แล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมันลามไปที่ CEO Activision ไง เพราะ นอกจากการมีการแฉว่าเคยขู่ฆ่าลูกน้องผู้หญิงแล้ว เรียกกว่าเคยได้รับการร้องเรียนเรื่อง ล่วงละเมิด ทางเพศต่อพนักงานหญิงมาเยอะมาก แต่เจ้าตัวกลับเข้าข้างพนักงานชายบางคนที่เป็นคู่กรณีด้วยนะ อันนี้เอกสารเพิ่งออกหลายหน้าหน่อย
คือสรุปว่าเค้ามองว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องบุคคลแล้ว มันเป็นเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรต่างหากที่ต้องแก้ไข เพราะ พอเรื่องแดงมีการแฉกันหลายร้อยกรณีเลย
อันนี้ paper ของ แคลิฟอร์เนีย [Link]
ส่วนของ WSJ ผมหาลิ้งให้ไม่ได้นะ เหมือนจะอ่านต้องเป็นสมาชิก แต่ด้านล่างนี่ cap วีรกรรม bobby มาให้ดู
เอ้าไหนๆ ละ meme มา
เขาคุกคามยังไงบ้างครับ
จริงๆเรื่องคุกคามส่วนหนึ่งมันเป็นเรื่องการกระทำของพนักงานหรือเปล่า ก็เลิกทำซะสิ
หรือถ้างั้นมันก็ต้องจัดการตั้งแต่หัวหน้าแผนกต่างๆด้วย
คือถ้ามันเป็น คน หรือ 2 คน ผมว่ามันเป็นที่ตัวบุคคลแหละครับ
แต่ถ้ามันเป็นทั้งองค์กร และไม่มีการพยายามแก้ปัญหา หรือรู้แล้วนิ่งเฉย ร้ายกว่านั้นก็แถ มันก็เป็นที่วัฒนธรรมองค์กรเลยแหละครับ
เขาคุกคามยังไงบ้างครับ
จริงๆเรื่องคุกคามส่วนหนึ่งมันเป็นเรื่องการกระทำของพนักงานหรือเปล่า ก็เลิกทำซะสิ
หรือถ้างั้นมันก็ต้องจัดการตั้งแต่หัวหน้าแผนกต่างๆด้วย
คือถ้ามันเป็น คน หรือ 2 คน ผมว่ามันเป็นที่ตัวบุคคลแหละครับ
แต่ถ้ามันเป็นทั้งองค์กร และไม่มีการพยายามแก้ปัญหา หรือรู้แล้วนิ่งเฉย ร้ายกว่านั้นก็แถ มันก็เป็นที่วัฒนธรรมองค์กรเลยแหละครับ
แล้วยังมีเรื่องการแฉว่า พนักงาน blizzard ไปเปิดห้องสวีตหมู่(ทำอะไรคิดเอง) มีรูปแฉออกมาด้วยนะ
ไปหามาล่ะ ขยายความให้
คือ ระหว่างงาน BlizzCon พวกเปิดห้อง Suit ในโรงแรม และเรียกมันว่า Cosby's Suit ซึ่งตั้งชื่อตาม Bill Cosby อดีตดาราดัง ซึ่งตอนนั้นกำลังถูกพูดถึงเรื่องของการจู่โจมทางเพศ (เขาใช้ว่า Sexual assault นะ ไม่ใช่ harass) แล้วจุดประสงค์ของห้องนี้คือ ไว้เป็นห้องเชือด (ดูจาก chat ของคนที่อยู่ในห้อง)
ก็คิดดูว่า คนเปิดห้องเชือด ตั้งชื่อเป็นมุข ตามอดีตดาราที่มีเรื่องอื้อฉาว หมายความว่ามุมมองต่อเรื่องการจู่โจมทางเพศ ของทีมงานเป็นยังไง?
He left a threatening voicemail on an assistant's phone in which he threatened to have her killed.
ถ้าจริงนี่คือใส่ voicemail ด้วยนะ หลักฐานแน่นเลย แต่ก็ไม่เห็นว่าจะออกมาแย้งเรื่องนี้เลยนะ สงสัยจะจริง
เสียดาย ซีรี่ย์อย่าง Warcraft ซึ่งผมโคตรรักจริงๆ ขอให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปโดยไม่กระทบตัวผลงานมากนักนะครับ ><
ปล. อิดิทแก้ fanboy เฉพาะ Blizzard
จะกลายเป็นเกมที่ดีสุดของบลิสในช่วงใกล้นี้ละ หรือเพราะให้ netease ทำก็ไม่รู้
ยากครับทำแค่ COD เกมเดียวก็เหมือนเครื่องปั๊มเงินให้บริษัทแล้วครับ แค่เอา asset มารียูสก็ขายได้ภาคละ 10-30 ล้านอัพ จะให้เจ๊งนี่เป็นไปไม่ได้ ผมเห็นมันโดนด่ามาทุกภาคแต่ก็ขายโคตรดีมาทุกภาค แค่ทีม COD ไม่แตก เปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรใหม่เดี๋ยวก็จบ
รอดูหลักฐานกันก่อนดีกว่า
[Link]
โฆษณา Shopee ข้างๆ => Distracting