ครอบดาวได้ mana ซึ่งผมยังงงอยู่ว่ามันเอาไปทำอะไร

ส่วนตอบคำถาม ถ้าวงครอบ slot จะนับเป็น 1 resonance นั่นคือ ถ้าครอบ 3 slots จะได้ 3 resonances

resonance เอาไปอัพ effect จะเห็นด้านล่างว่ามันจะมี 2 บรรทัด คือ resonance กับ mana ตรงบรรทัด resonance ยิ่งทำให้ได้เยอะๆ ถึงจะปลดล็อก effect lv คือจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายคือ ปลดให้หมดจนมันขึ้นว่าไม่มีอะไรเหลือแล้ว นั่นคือ ปลด resonance max ของ core นั้นไปแล้วครับ พวก slot ที่ให้ใส่ 20 ชิ้นก็ใส่ไปเยอะๆ ให้มันคลุมทุก slot ไปเลยครับจะได้เยอะก็ตอนนั้น

แต่ slot 20 ชิ้น effect ของ นับชิ้นเดียวนะครับ เช่น ingot + 5atk ใส่ 20 ชิ้น ก็บวกแค่ 5atk นะครับ มันนับเป็นชนิดไม่ใช่จำนวน ไม่ต้องใส่เกินความจำเป็น

เริ่มเข้าใจมากขึ้นบะครับ ตอนนี้สงสัยอีกอย่างคือqualityมันเอาไว้ทำอะไรครับ

Resonance จะนับจากวงนอกไปครอบวงใน นะครับ เช่น ใส่วงนอกไปกระทบโหนดใน 3 โหนด =3 resonance

ส่วนใหญ่ resonance คือ effect หลักๆ ของ อาวุธ ชุดเกราะ ไอเทม ที่จะทำนั่นแหละครับ เช่น fire dmg lv 3 ต้องการ 15 reaonance ไรงี้ เบื้องต้นก็คราฟ น้ำยา 4 สีไว้ก่อนครับ ทำ resonance ง่ายๆ

ส่วนอีระบบ มานา นี่ แรกๆเหมือนยากที่จะเก็บให้หมด แต่บอกเลย เล่นๆไปเถอะครับ ยิ่งปลดของคราฟใหม่ๆ ยสกิลคราฟใหม่ๆ ิ่งวงกว้าง ยิ่งทำง่าย แอบเสียดายเวลาต้นเกมที่มัวแต่ง่วนคืดเป็นพัซเซิ่ล เพราะสกิลช่วยทำหลังๆ มันโคตรง่าย แต่ดันล็อคไว้หลังมิชชั่นหลัก เหมือนอณุญาติให้เราลัด ข้าม อะไรหลายๆอย่างเลยครับ

quality ภาคนี้มันเต็มง่ายจนไม่รู้มันทำอะไรได้รึเปล่า แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน quality มันเหมือนเป็น stat ลับๆ หน่ะครับ ยิ่งสูง ของก็ยิ่งดีแบบลับๆ คือมันจะไม่โชว์ แต่เห็นความต่าง เช่น พวกระเบิดถ้า quality 999 ก็จะแรงกว่าระเบิด effect + trait เดียวกันที่ quality ไม่ถึง หรือ พวกเกียร์ก็เหมือนกัน แล้วสุดท้ายมันคือ ego ของคนทำด้วยครับ

คือเมื่อก่อนมันยากมากที่จะให้ quality 999 เพราะถ้าไม่วนของจริงไม่มีทางถึง วนของคือทำของ วนไป จาก A -> B -> C แล้ววนกลับมา A แล้วทุกครั้งที่วัน quality ของ A ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็วนไปจน A มัน max 999 นั่นแหละ แล้วถึงเอา A ไปกระจายทำของที่ใช้เป็นวัตถุดิบของหลายๆ อย่าง มันก็ขึ้นอยู่ว่าจะหา A เจอไหมว่าอันไหนวนง่ายสุดอะไรประมาณนั้น เพราะเวลาทำ quality มันคือค่าเฉลี่ยของที่เราใส่ เราจะเอา 999 เราต้องพร้อมพอสมควรแบบ 700 ทุกชิ้นไรงี้

แล้ว Trait มันก็ไม่ใช่แบบนี้ด้วย เมื่อก่อน Trait มันติดมากับของที่ไปเก็บ คือ ยกตัวอย่าง red flower เก็บมา 10000 ดอก ก็จะเป็น 10000 ช่อง เพราะ Trait มันไม่เหมือนกันเลย มันสุ่ม ตอนนี้พอเอา Trait ออก เก็บมา 10000 ใช้ช่องเก็บช่องเดียวพอ แล้วมันก็จะมีผสม Trait เช่น damage+ เอามาผสม damage++ กลายเป็น ultimate damage เป็น final damage อะไรก็ว่าไป คือมันมากกว่านี้เยอะ เพราะว่ามันต้องหา Trait ที่ต้องการ ต้องเอา Trait จากวัตถุดิบที่ได้มาหาว่าจะทำยังไงจะไปจบที่ของที่เราใช้ เช่น Trait ติดดอกไม้มา แต่อยากให้ไปจบที่ ingot นี่ก็วนหากันมัน บางอันวน 3-4 ชิ้นกว่าจะถึง แล้วมันมีคราฟเปลี่ยนของด้วย เช่น ประเภทน้ำ มันมี effect turn to gas อย่างนี้เป็นต้น นึกภาพความวุ่นวาย

ตอนนี้ถ้ารีวิว ทำของนี่ก็เรียกว่า ง่อย ง่อยจริงๆ นะ

สมัยก่อนนู้นหนักกว่าอีกมีระบบ PP คือ Trait มีค่า PP ที่ต้องใช้เวลาใส่ เราก็ต้องไปหา Trait ที่เพิ่ม PP ตอนทำ เช่น ultimate damage ใช้ 120 PP ถ้าตอนทำใส่ของเพิ่ม PP ได้ไม่ถึง 120 ต่อให้มี Trait นี้ในวัตถุดิบ ก็เอามาใส่ไม่ได้


สุดท้ายมันไม่ได้แยก core แบบภาคนี้ด้วยนะ ทุกอย่างที่พูดนี่ทำอยู่ในอันเดียว คือ นอกจากจะเยอะ จะวุ่นวายแล้ว วัตถุดิบที่ใช้ได้ก็จำกัดอีก ผมเชือว่าเกินครึ่งไม่ได้เล่น atelier เพราะสาวๆ หรอก เล่นเพราะทำของเนี่ยแหละ

หลายท่านในนี้เล่นภาคหลังๆ แล้วไปหาภาคต้นๆ เล่นก็มีเยอะไปนะครับ ยิ่งตั้งแต่ arland เป็นต้นมามี remaster บน ps5 หรือ pc ด้วยแล้วถ้าสนใจ (นี่มีแอบขายของ)

ขอบคุณครับ เดี้ยวไว้สงสัยตรงไหนค่อยมาถามเพิ่มอีก

ส่วนภาคเก่าๆนี่ขอผ่านก่อนครับ จริงๆผมเริ่มเล่นภาคนี้ก็เพราะคอมแบตนี่แหล่ะครับ แต่ไหนๆก็เล่นแล้วก็อยากเข้าใจระบบปรุงยามันด้วยอ่ะครับ

ภาคก่อน ถ้าไม่ได้ ศิลานักปราชญ์ ไม่ได้เครื่อง dupe ผมยังไม่เริ่มคราฟมืออะไรทั้งนั้น เล่นไปเรื่อยๆแบบออโต้ จนกว่าจะเริ่มคราฟศิลา กับมีเครื่องdupe 555 แล้วหลังจากนั้นหละเอ็งเอ้ยยยย คราฟกันทั้งวัน ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดที่คราฟศิลาได้คือ โคตรวน โคตรงง ปวดหัวเลย แต่พอได้มันเหมือนปลดล็อค last boss จริงๆ