Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
คุยเฟื่องเรื่องผลบอลได้ที่นี่ ภาค 3

Reply
Vote
# Mon 17 Jun 2024 : 12:56PM

Saintthai
member

Since 2015-11-17 13:53:20
(3666 post)
Spain เล่นกันไวมาก ขนาดcroยังต้านไม่อยู่

อ่านจาก วิเคราะห์บอลจริงจัง
...

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับทีมชาติสเปน ในรอบสิบปีที่ผ่านมา คือ "การยึดติดกับการต่อบอลสั้น และครองบอลให้เยอะกว่าคู่แข่ง"

เราปฏิเสธไม่ได้ว่า กลยุทธ์ติกี้-ตาก้า เป็นวิธีการเล่นที่ทำให้สเปนครองโลก ในช่วงปี 2008 ถึง 2012 พวกเขาได้แชมป์ยูโร 2 สมัย และ แชมป์ฟุตบอลโลก 1 สมัย

ในยุคนั้น จุดแข็งที่สุดของสเปนคือกองกลาง พวกเขามีชาบี เอร์นันเดซ, อันเดรียส อิเนียสต้า และเซร์คิโอ บุสเกตต์ ยืนเป็นแกนหลัก นอกจากนั้นยังมีตัวเลือกสอดแทรกอีกเพียบ ทั้งชาบี อลอนโซ่, เชส ฟาเบรกาส, ซานติ กาซอร์ล่า, ดาบิด ซิลบา ฯลฯ คือแผงมิดฟิลด์ของสเปน ณ ช่วงนั้น คือระดับโลก ทำให้พวกเขาเล่นเกมชิ่งสั้นๆ แล้วครองเกมนานๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

ปัญหาคือหลังจบยูโร 2012 แม้นักเตะจะเปลี่ยนแปลงไปหลายชุด แต่สเปนยังพยายามเล่นฟุตบอลแบบเดิม คือ "ครองบอลเยอะ - ต่อบอลสั้น" เพราะมันคือแผน ที่ทำให้พวกเขาขึ้นไปครองโลกได้ สเปนเข้าใจว่ามันคือตัวตนของฟุตบอลประเทศตัวเอง

ความพยายามที่จะยึดมั่นกับเกมติกี้-ตาก้า ทั้งๆ ที่คุณภาพมิดฟิลด์ยุคใหม่ เทียบกับ ชาบี-อิเนียสต้าไม่ได้ ทำให้สเปนไม่ประสบความสำเร็จเลย ทั้งฟุตบอลโลก และ ยูโร ในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยเข้าชิงอะไรอีกเลยแม้แต่หนเดียว

ดังนั้นสหพันธ์ฟุตบอลสเปน จึงต้องตั้งคำถามว่า ประเทศของเรา ยังจำเป็นต้องยึดติดกับติกี้-ตาก้าอีกต่อไปไหม? ควรยึดมั่นอัตลักษณ์นั้นไว้ หรือได้เวลามูฟออน หาวิธีการเล่นแบบใหม่ๆ ที่จะทำให้ชนะคู่แข่งได้

หลังจบฟุตบอลโลก 2022 สเปนตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการแพ้โมร็อกโก หลุยส์ เอ็นริเก้ อำลาทีมไป สหพันธ์ฯ ตัดสินใจแต่งตั้ง หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ มาเป็นเฮดโค้ชทีมชาติคนใหม่ ทั้งๆ ที่มีเกียรติประวัติไม่มากนัก

เด ลา ฟูเอนเต้ แทบไม่มีประสบการณ์ในระดับสโมสร (เคยคุมอลาเบสสั้นๆ อยู่ 4 เดือน) แต่เขาคลุกคลีกับทีมชาติมาตลอด เป็นโค้ช u-19, u-21 และ u-23 ผลงานเด่นคือพาสเปน ได้เหรียญเงินโอลิมปิกที่โตเกียวในปี 2020

ในวันที่ประกาศแต่งตั้ง แม้แต่ตัว เด ลา ฟูเอนเต้ ยังยอมรับว่า "ประหลาดใจ" ที่ได้คุมทีมชาติชุดใหญ่ ทั้งๆ ที่เขาไม่ใช่ผู้จัดการทีมระดับบิ๊กเนม

สาเหตุที่ สหพันธ์ฯ เลือก เด ลา ฟูเอนเต้ ข้อแรกคือ การคลุกคลีกับบอลเยาวชนมาโดยตลอด ดังนั้น เขาน่าจะรู้ดี ว่าควรดันดาวรุ่งคนไหนขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่

ข้อสอง คือ เด ลา ฟูเอนเต้ แสดงออกเสมอว่ารักชาติยิ่งชีพ ภูมิใจในความเป็นสแปนิช เขาเป็นที่รักของสื่อมวลชนสเปน และ กลุ่มแฟนบอลฮาร์ดคอร์ คือไม่มีประเด็นว่ารักคาตาลันมากกว่าหรือเปล่า แบบที่หลุยส์ เอ็นริเก้เคยโดน ดังนั้นก็น่าจะมีแรงกดดันจากสังคมน้อยกว่า

และข้อสามคือ ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของสเปน ก็ต้องเลือกโค้ชที่โลว์โพรไฟล์สักหน่อย เป็นคนที่กล้าทดลองอะไรใหม่ๆ โดยไม่มีอะไรจะเสีย

เมื่อเด ลา ฟูเอนเต้ เข้ามาคุมทีม สิ่งที่เขาตั้งใจ คือการเปลี่ยนวิธีการเล่นของสเปน ทุกคนต้องยอมรับความจริงก่อนว่า กองกลางของสเปนในปัจจุบัน ไม่ได้มีตัวเลือกระดับโลกมากมาย เหมือนยุคทอง

โรดรี้, กาบี, เปดรี เป็นนักเตะที่ดี แต่คุณเอาไปเทียบคลาสกับ ชาบี อิเนียสต้า อลอนโซ่ ยังไม่ได้

จุดแข็งจริงๆ ของสเปน ณ เวลานี้ เป็นผู้เล่นกองหน้ากึ่งปีกต่างหาก ที่ผลิตมาได้เรื่อยๆ เช่น เฟร์รัน ตอร์เรส, ดานี่ โอลโม่, มิเกล โอยาร์ซาบัล รวมถึง นิโก้ วิลเลียมส์, ไบรอัน ซาราโกซ่า กับ ลามีน ยามาล ในชุดเยาวชนด้วย

เด ลา ฟูเอนเต้ ให้สัมภาษณ์ว่า "เราต้องเปลี่ยนทีมชาติของเรา ให้เล่นได้หลากหลายรูปแบบ ใช่ เราสามารถเล่นเกมครองบอลได้ แต่เราก็ต้องเล่นเกมโต้กลับเร็วให้ได้เหมือนกัน ถ้าเราขึ้นเกมได้หลายวิธีจะเป็นเรื่องที่น่าพอใจมาก"

ความหมายคือ เขาไม่อยากให้สเปนเล่น ติกี้-ตาก้า เน้นการครองบอลเยอะๆ อีกแล้ว จะตั้งรับแล้วรอโต้ก็ได้ ไม่เห็นเป็นไรเลย ก็อุตส่าห์มีปีกเร็วๆ เก่งๆ ตั้งเยอะ ก็ควรใช้ผู้เล่นเหล่านี้ สร้างประโยชน์ให้ทีมสิ

รวมถึงไอเดียเรื่องกองหน้าตัวเป้า ที่ในยุคก่อน สเปนชอบเล่น False 9 แต่ เด ลา ฟูเอนเต้ ก็มองว่า การมีกองหน้าตัวใหญ่คอยค้ำ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทีมชาติสเปนก็เปิดโหม่งได้เหมือนกัน ความสามารถของพวก อัลบาโร่ โมราต้า (190 ซม.) หรือ โฆเซลู (191 ซม.) สามารถใช้ประโยชน์ได้เยอะ

ใน 10 เกมแรกของ เด ลา ฟูเอนเต้ กับทีมชาติสเปน เขาสร้างความตื่นตะลึง ด้วยการเรียกใช้งานนักเตะมากถึง "47 คน" ทดลองผู้เล่นทุกคนที่มี อย่างตำแหน่งแบ็กซ้าย ใช้หมุนเวียนถึง 6 คน

เขาต้องการรู้ว่านักเตะคนไหนเล่นอย่างไร ทำตามแผนใหม่ๆ ที่เขาคิดได้ไหม

ช่วงแรกๆ เส้นทางของเด ลา ฟูเอนเต้ ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นัดที่ 2 ที่เขาคุมทีม สเปนแพ้สกอตแลนด์ 2-0 ที่กลาสโกว์ ในยูโรรอบคัดเลือก จนโดนวิจารณ์หนักว่ามือไม่ถึง แต่จากนั้น เขาก็แก้ตัวได้สำเร็จ ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ตามด้วยคว้าชัย 6 เกมรวดในยูโรรอบคัดเลือก เข้ามาเล่นในยูโรรอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม

ในรอบคัดเลือกของโซนยุโรปทั้งหมด สเปน เป็นทีมที่ยิงได้เยอะที่สุดอันดับ 3 (25 ลูก) เป็นรองแค่โปรตุเกส กับ ฝรั่งเศสเท่านั้น

รูปแบบเกมของสเปนในยุคใหม่ มีความหลากหลายมากขึ้น เกมรุกสนุกขึ้น และฉีกออกจากความเป็นติกี้-ตาก้า ที่ถูกคนภายนอกตีตราเอาไว้

โกลเด้นเจเนเรชั่น ชุดที่ได้แชมป์โลกตอนนั้น มันจบไปแล้ว สิ่งที่สเปนต้องทำคือสร้างทีมใหม่ขึ้นมา ให้ดีพอ และเก่งพอ ที่จะท้าชนกับทีมใหญ่ๆ ทีมอื่นในยุโรปได้

ผู้เล่นสเปนในชุดปัจจุบัน นำโดย อูไน ซิมง นายทวารจากบิลเบา เจ้าของรางวัลซาโมร่าโทรฟี่ในปีนี้, โรบิน เลอ นอร์มังด์ เซ็นเตอร์แบ็กเชื้อสายฝรั่งเศส จากเรอัล โซเซียดัด, โรดรี้ คีย์แมนจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้, กัปตันทีมโมราต้า จากแอตเลติโก้ มาดริด และเจ้าหนูลามีน ยามาล เด็กอัจฉริยะวัย 16 ปี จากบาร์เซโลน่า

ประเด็นของยามาลนั้น หลักคิดของเด ลา ฟูเอนเต้ คือ ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ ยามาลได้ลงเล่นทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก ในวัย 16 ปีกับอีก 57 วัน ในเกมชนะจอร์เจีย 7-1 โดยนัดนั้นยามาลยิงประตูได้ด้วย ทำให้เขาเป็นนักเตะสเปนที่อายุน้อยที่สุดตลอดกาล ที่ทำประตูได้ให้ทีมชาติ

การที่ยามาลถูกเรียกตัวติดทีมชุดใหญ่เร็วขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นการบล็อกโมร็อกโก ไม่ให้แย่งตัวยามาลไปได้ (ยามาล เลือกเล่นได้ 3 ชาติ คือโมร็อกโก, อีควาตอเรียล กินี และ สเปน) แต่เหตุผลหลักจริงๆ คือเรื่องฝีเท้ามากกว่า เพราะเมื่อเด็กมันเก่งแล้ว จะอายุ 16 แล้วไง จะรออะไรก็ดันขึ้นเล่นชุดใหญ่ไปเลยสิ

เข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ยูโร 2024 สเปนคือเต็ง 5 ที่จะคว้าแชมป์ อยู่ตามหลัง ฝรั่งเศส, อังกฤษ, เยอรมนี และ โปรตุเกส แต่เด ลา ฟูเอนเต้ ให้สัมภาษณ์ว่า "เรามีคุณภาพมากพอ ที่จะสู้เพื่อคว้าแชมป์ยูโร"

ในกลุ่มบีของสเปน ถือว่าแข็งโป๊ก เพราะมี สเปน, โครเอเชีย, อิตาลี และ อัลแบเนีย ถ้าสเปนไม่เล่นให้ดีตั้งแต่เกมแรก เผลอๆ ร่วงรอบแรกเลยก็ได้ใครจะรู้

นัดแรกของสเปน เจอกับโครเอเชีย ในวันที่ 15 มิถุนายน ผลลัพธ์คือสเปนชนะ 3-0 ถล่มกันขาดลอยตั้งแต่ครึ่งแรก

โครเอเชียไม่ได้เล่นแย่ สร้างโอกาสได้เหมือนกัน แต่สเปนเล่นดีกว่ามาก ความเร็วของนิโก้ วิลเลียมส์ และ ลามีน ยามาล สร้างความปั่นป่วนให้เกมริมเส้น จนโครเอเชียตั้งตัวไม่ติด แล้วพอพลั้งเผลอเมื่อไหร่ ก็โจมตีตรงกลาง

ความน่าสนใจคือ เกมนี้สเปนมีเปอร์เซ็นต์ครองบอล 46.7% ส่วนโครเอเชีย 53.3% นอกจากนั้นสเปนจ่ายบอลเข้าเป้าน้อยกว่าโครเอเชีย (383 ครั้ง ต่อ 456 ครั้ง)

ในเกมทางการ 136 นัดหลังสุด นี่เป็น "ครั้งแรก" ที่สเปน มีเปอร์เซ็นต์ครองบอลต่ำกว่าคู่แข่ง หนสุดท้ายที่สเปนมีเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่า ต้องย้อนกลับไปในปี 2008 ยุคของหลุยส์ อราโกเนสโน่นเลย

พอจบเกมนี้ สื่อมวลชนทั่วโลก พร้อมใจใช้คำว่า Tiki-taka no more (ไม่เอาอีกแล้วกับติกี้-ตาก้า)

เว็บไซต์ยาฮู เขียนว่า "สเปนไม่ปรารถนาที่จะครองบอลเยอะกว่าคู่แข่งอีกแล้ว สเปนเอาชนะได้โดยเล่นไม่เหมือนสเปน"

ความหมายคือ สเปนเลือกเล่นฟุตบอลด้วยความเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาครองบอลเยอะ แต่เข้าทำโป้งเดียวปิดไปเลย

ประตูนำ 1-0 ของสเปน เกิดขึ้นจากการเล่นแค่ 4 เพลย์เท่านั้น คูคูเรย่า > โรดรี้ > ฟาเบียน รุยซ์ > โมราต้า ใช้เวลาเข้าทำทั้งหมดแค่ 8 วินาที ไม่ต้องเคาะบอลรอจังหวะอะไรกันอีกแล้ว แต่บุกทะลวงให้ยิงได้ให้เร็วที่สุด

การเข้าทำเร็วแบบนี้ ถ้าเป็นยุคของบิเซนเต้ เดล บอสเก้ เราคงนึกไม่ออก แต่มันก็เกิดขึ้นให้เราเห็นในปัจจุบัน

ฟุตบอลของสเปนในเกมกับโครเอเชีย ต้องยอมรับว่า "เล่นสนุก" หลายคนชมว่าทีมชุดนี้ กลมกล่อม คืออาจจะมีนักเตะเกรดเอในทีมไม่เยอะ แต่พอเอามารวมกันแล้วดูไหลลื่น และมีประสิทธิภาพ

โฟกัสส่วนใหญ่หลังจบเกมชนะ 3-0 จะอยู่ที่เจ้าหนูลามาล ที่ลงเล่น และ แอสซิสต์ได้ ด้วยวัย 16 ปีกับอีก 338 วัน เป็นสถิติอายุที่น้อยที่สุดตลอดกาลในยูโร แต่ในความจริงแล้ว สเปนเล่นดีกันทั้งทีม แม้แต่นายทวารยังเซฟจุดโทษได้

โครเอเชีย ไม่ใช่ทีมที่อ่อนหัดเลย พวกเขาคือรองแชมป์โลก (2018) และ อันดับ 3 ในเวิลด์คัพ (2022) แถมยังเป็นรองแชมป์เนชั่นส์ลีกครั้งล่าสุด ดังนั้นการที่สเปนถล่มโครเอเชียด้วยผลงานระดับนี้ ก็ควรได้รับเครดิตเต็มๆ

แน่นอน เรายังไม่รู้ว่าสเปนจะไปได้ไกลขนาดไหน แม้จะชนะโครเอเชีย 3-0 ในนัดเปิดสนาม แต่สื่อมวลชนก็ยังวางพวกเขาอยู่ใน "เต็ง 5" เหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม มันก็พอทำให้เห็นว่า สเปน ณ เวลานี้ ก้าวข้ามจากยุคโกลเด้นเจเนเรชั่นแล้ว และเข้าสู่ยุคสมัยใหม่เต็มตัว ที่เล่นฟุตบอลได้รวดเร็ว วูบวาบ สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ โดยไม่ต้องยึดติดกับ Possession Game อีกต่อ
[Edited 1 times Saintthai - Last Edit 2024-06-17 12:57:26]

Reply
Vote




11 online users
Logged In :