0
following
0
followers
psn-id: jumpmanx99
ลูกกระจ๊อกฝ่ายค้าน ณ กระทู้การเมือง, ขอให้รัฐบาลแสดงผลงานให้เต็มที่ และทำเลวไม่สำเร็จนะจ๊ะ
บทเริ่มต้นของสภาโจ๊ก
side story สภาโจ๊ก
วิธีตอบแบบชาวแดง ๖ รูปแบบ
๑. "แยกประเด็น" - จับสิ่งที่เกี่ยวข้องกันแยกออกจากกัน
ตัวอย่าง
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: ก่อนอื่นต้องแยกรัฐบาล กับอดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกรัฐมนตรีออกมาก่อน (จากนั้นก็พูดแต่เรื่องนโยบาย)
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: ก่อนอื่นต้องแยกข้อดี และข้อเสียออกมาก่อน จากนั้นพรรณนาแต่ข้อดี ... (ไม่พูดถึงข้อบกพร่องและวิธีแก้ไข)
๒. "ก้าวข้าม" - ไม่ขอพูดถึง ไม่ขออธิบายสิ่งที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่าง
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: จะไม่พูดถึงพี่ชายท่านนายก,อดีตนายกรัฐมนตรี จากนั้นก็ตัดบทสนทนา
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: จะคุยถึงข้อดีของนโยบาย ส่วนถ้าจะพูดถึงข้อเสียไม่ขอตอบ
๓. "มีอคตินะ" โยนว่าเป็นความเชื่อ, อคติของอีกฝ่าย
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: นี่คุณมีความเชื่อว่าพี่ชายท่านนายกมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลแบบนี้คงคุยไม่ได้แล้วนะ
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: นี่คุณมีอคติกับนโยบายของรัฐบาลแบบนี้คงคุยไม่ได้แล้วนะ
๔. "รู้ แต่ไม่บอก" ตอบกวนเหมือนเด็กๆ
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: มี แต่บอกไม่ได้หรอกนะว่ามีอะไรบ้าง (ป้องกันได้ทั้งพี่ชายนายกและท่านนายกรัฐมนตรีในคราวเดียว)
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: รู้, เข้าใจ แต่มันเป็นนโยบายของรัฐบาล
๕ "ไม่เกี่ยวข้อง, ไม่รู้เรื่องรู้ราว" ตอบแบบเด็กเอ๋อ ไม่รู้เรื่องรู้ราว
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: พี่ชายท่านนายกรัฐมนตรีไม่เกี่ยวข้อง, รัฐบาลไม่รู้เรื่องรู้ราวกับพี่ชายท่านนายกรัฐมนตรี
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: รัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับช่องโหว่ต่างๆนี้, รัฐบาลไม่รู้เรื่องรู้ราวว่ามีคนอาศัยช่องโหว่นี้อยู่
๖ "ยอมรับว่าตัวเองเข้าใจแบบโง่ๆ" ตอบไม่ทราบ, คิดว่าไม่, คิดว่าต่อไปจะแก้ได้ (ก็บอกให้ทราบอยู่นี่ไง, แล้วจะไม่ฟังใช่ไหม, แล้วจะแก้ได้เมื่อไหร่ล่ะจ๊ะ)
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: ไม่ทราบ, คิดว่าไม่, คิดว่าต่อไปจะแก้ได้
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: ไม่ทราบ, คิดว่าไม่, คิดว่าต่อไปจะแก้ได้
ลูกกระจ๊อกฝ่ายค้าน ณ กระทู้การเมือง, ขอให้รัฐบาลแสดงผลงานให้เต็มที่ และทำเลวไม่สำเร็จนะจ๊ะ
บทเริ่มต้นของสภาโจ๊ก
นายเสนาะ เทียนทอง เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกล่าว "ประเทศเขมร ไม่ได้อยู่ในเอเชีย"
เดลินิวส์: สังคมข่าว วันที่ 20 สิงหาคม 2554
กระทรวงการต่างประเทศ: คราวนี้ รมว.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม ระหว่างแถลงข่าวเรื่องวีซ่าของอดีต นายกฯทักษิณ ชินวัตร
เมื่อนักข่าวถามถึงการ เดินทาง เพื่อเยี่ยมเยียนประเทศต่าง ๆ ว่าจะไป เขมร ประเทศแรกในเอเชียหรือไม่
รมว.สุรพงษ์ สวนฉาดฉานว่า เขมร ไม่ได้อยู่ในเอเชีย ทำเอานักข่าวงงเป็น ไก่ตาแตก
ยิ่งกว่านั้นยังสร้าง ความประหลาดใจ เพิ่มขึ้น เมื่อนักข่าวจากต่างประเทศสอบถามรายละเอียดเป็น ภาษาอังกฤษ แต่ รมว.สุรพงษ์ ต้องเลิ่กลั่กหาล่ามแปล เพิ่งมารู้กันตอนหลังว่า รมว.สุรพงษ์ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้
แล้วถ้าต้องไปเจรจาในต่างประเทศ จะทำกันอย่างไร ไม่รู้ว่าจบ ดอกเตอร์ มาจากเมืองนอกได้อย่างไร หรือฝรั่งที่โน่น สอนเป็นภาษาไทย ...
รองนายกรัฐมนตรี เฉลิม อยู่บำรุง: ชี้โพรงให้กระรอก "จัดให้หน่อย" ไม่ใช่คำข่มขู่ (1 กันยายน 2554)
คณะรัฐบาลเข้ามาบริหาร 4 ปีแรก ขอใช้งบเบื้องต้น 15.2 ล้านล้านบาท มากกว่ารายได้ที่จะหาเกือบ 2 เท่า
กะให้รัฐบาลชุดอื่นเป็นหนี้ 4 ปีเลยใช่ไหม ถ้าชุดอื่นไม่กล้ารับ ตัวเองก็เสนอหน้ามารับต่อ
และจะบริหารประเทศต่อไปก็ต้องใช้เงินทอง คงไม่พ้นสร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นอีก เป็นภาระของคนไทยทั่วประเทศเพิ่มขึ้น
ท่าไหว้มะเส็ง ฮวยเซง แบบมาตรฐาน, พร้อมท่าโอบกอด
"ยิ่งลักษณ์" ปล่อยเอ๋อ "ปลูกหญ้าแพรก" ตามแนวพระราชดำริฯ ทั้งที่ความจริงแล้วต้องเป็น "หญ้าแฝก" ถึงจะถูกต้อง
คณะรัฐบาล "เรือดันน้ำ" ที่น่าจะใช้เรือมากที่สุดในโลก (1,149 ลำ) แต่ได้ผลเพียงเล็กน้อย
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. เวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังบริเวณใต้สะพานพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี
เพื่อเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนเรือ 1,149 ลำ ที่ร่วมโครงการประชาอาสา ที่จัดโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ประกอบด้วย 1.แม่น้ำเจ้าพระยา 926 ลำ ใน 50 จุด 2.แม่น้ำบางปะกง 121 ลำใน 13 จุด และ 3.แม่น้ำท่าจีน 102 ลำใน 15 จุด
นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า โครงการเรือผลักดันน้ำลงสู่ทะเลเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่สุด ที่ช่วยระบายน้ำให้ลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น
รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยรังสิต
ยันการใช้เรือดันน้ำ มีประโยชน์เฉพาะแม่น้ำแคบๆ อย่างแม่น้ำท่าจีน ในแม่น้ำใหญ่ๆ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา อาจไม่ได้ผล
นายกรัฐมนตรี เตือนภัยสถานการณ์น้ำท่วม (25 ตุลาคม 2554) เมื่อแถลงการณ์น่ามึนงง ประชาชนจึงขอช่วยทำแฟนซับ
ต้นฉบับ
ขอให้ทุกๆท่านร่วมจับใจความด้วยครับ
ในขณะที่น้ำท่วม คณะรัฐมนตรีก็มีมติเห็นชอบ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ โดยมีสาระไม่ต่างจากกฎหมายสื่อในยุคเผด็จการ
ในขณะที่น้ำท่วม คณะรัฐมนตรีลักไก่อนุมัติ พ.ร.บ.การพนัน 2 ฉบับ ให้อำนาจเจ้าพนักงานครอบจักรวาล
น้ำกำลังท่วม รัฐบาลไร้ปัญญาแก้ คิดออกเพียงถลุงงบประมาณ 7-9 แสนล้านหลังน้ำท่วม
เตรียมอ้างเพื่อประชาชน คิดแก้กฎหมาย "ให้แบงค์ชาติซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้"
เมื่อต้องอภิปรายถึงเรื่องมิบังควรที่คณะรัฐบาลทำขึ้น เสียงผีบอกโพยก็ลอดตามสายกลางสภา
ปรับลดไฟฟ้าฟรีเหลือเพียง 50 หน่วย เหลือคนได้ประโยชน์แค่ 4.37 ล้านคน จากเดิม 8 ล้านคน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกล่าว "ประเทศเขมร ไม่ได้อยู่ในเอเชีย"
เดลินิวส์: สังคมข่าว วันที่ 20 สิงหาคม 2554
กระทรวงการต่างประเทศ: คราวนี้ รมว.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม ระหว่างแถลงข่าวเรื่องวีซ่าของอดีต นายกฯทักษิณ ชินวัตร
เมื่อนักข่าวถามถึงการ เดินทาง เพื่อเยี่ยมเยียนประเทศต่าง ๆ ว่าจะไป เขมร ประเทศแรกในเอเชียหรือไม่
รมว.สุรพงษ์ สวนฉาดฉานว่า เขมร ไม่ได้อยู่ในเอเชีย ทำเอานักข่าวงงเป็น ไก่ตาแตก
ยิ่งกว่านั้นยังสร้าง ความประหลาดใจ เพิ่มขึ้น เมื่อนักข่าวจากต่างประเทศสอบถามรายละเอียดเป็น ภาษาอังกฤษ แต่ รมว.สุรพงษ์ ต้องเลิ่กลั่กหาล่ามแปล เพิ่งมารู้กันตอนหลังว่า รมว.สุรพงษ์ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้
แล้วถ้าต้องไปเจรจาในต่างประเทศ จะทำกันอย่างไร ไม่รู้ว่าจบ ดอกเตอร์ มาจากเมืองนอกได้อย่างไร หรือฝรั่งที่โน่น สอนเป็นภาษาไทย ...
รองนายกรัฐมนตรี เฉลิม อยู่บำรุง: ชี้โพรงให้กระรอก "จัดให้หน่อย" ไม่ใช่คำข่มขู่ (1 กันยายน 2554)
คณะรัฐบาลเข้ามาบริหาร 4 ปีแรก ขอใช้งบเบื้องต้น 15.2 ล้านล้านบาท มากกว่ารายได้ที่จะหาเกือบ 2 เท่า
ไทยโพสต์ ข่าวหน้า 1 - วันที่ 7 กันยายน 2554
ผ่านแผนบริหารชาติ 15 ล้านล้าน
ครม.บาร์บี้ปูเคาะแผนบริหารราชการ 4 ปี ถลุงงบเบื้องต้น 15.2 ล้านล้านบาท มากกว่ารายได้ที่จะหาเกือบ 2 เท่า
ยิ่งลักษณ์-กิตติรัตน์ เบรกกองทุนมั่งคั่งหัวทิ่ม เผยไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน รมว.พาณิชย์ ยันเปิดจำนำข้าว 7 ต.ค.นี้ โวจะโม้ไปทำไปให้ชาวนารวยขึ้น
"เกียรติ" ชี้มีสิทธิ์เจ๊งถึง 4-5 แสนล้าน หึ่ง! เหลือบโผล่แล้วโทรหาผู้ส่งออกอ้างมีสต็อกรัฐบาลพร้อมเจรจา
เมื่อวันอังคาร คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2555-2558
และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐนำแผนดังกล่าวไปจัดทำแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน หลังจากแผนประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา
รวมทั้งให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณรับไปพิจารณาแหล่งเงินที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงข้อจำกัดด้านงบประมาณและรักษาวินัยการคลัง
สำหรับงบประมาณของแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2555-2558 นั้น ได้ประมาณการการลงทุน วงเงินงบประมาณสนับสนุนตามนโยบายเบื้องต้น
ซึ่งเป็นข้อเสนอของส่วนราชการเพื่อดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล 4 ปี เท่ากับ 11.299 ล้านล้านบาท และค่าใช้จ่ายดำเนินการภาครัฐ 4 ปี รวม 3.878 ล้านล้านบาท
รวมเป็นประมาณการความต้องการใช้เงินเบื้องต้นทั้งสิ้น 15.178 ล้านล้านบาท ในขณะที่ประมาณการรายได้สุทธิรัฐบาลเท่ากับ 8.901 ล้านล้านบาท
โดยมีแหล่งเงินในการดำเนินโครงการตามนโยบาย ประกอบด้วย เงินในงบประมาณ 10.440 ล้านล้านบาท และเงินนอกงบประมาณ 0.859 ล้านล้านบาท
เนื้อข่าวที่เหลือ ...
ประมาณการความต้องการใช้เงินช่วงปี 2555-2558 ดังกล่าวอาจมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและขีดความสามารถในการก่อหนี้ภาครัฐภายใต้กรอบการรักษาวินัยการคลัง
จึงต้องพิจารณารายละเอียดความเหมาะสมทางเศรษฐกิจของโครงการลงทุนต่างๆ รวมทั้งพิจารณาทางเลือกของแหล่งเงินและรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อลดภาระงบประมาณและรักษาวินัยการคลัง มติ ครม.ระบุ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ว่า จะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
ซึ่งคาดว่าการจัดเก็บรายได้จะอยู่ที่ 1.96 ล้านล้านบาท และการขาดดุลน่าจะอยู่ในช่วง 3.5 แสนล้านบาท ไม่เกิน 4 แสนล้านบาท
ส่วนเรื่องการจัดตั้งกองทุนมั่งคั่งนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยังไม่ได้หารือถึงรายละเอียด เพราะเป็นแค่แนวทางศึกษาเท่านั้น ยังไม่มีนโยบาย ควรรอให้หารือทั้งหมดจะดีกว่า
ซึ่งเราคงต้องไปศึกษาในข้อกฎหมายและรายละเอียดอีกครั้งเสียก่อน
หากจะทำต้องทำให้ถูกระเบียบในทุกๆ เรื่อง เปิดเผยและถูกหลักเกณฑ์ของข้อกฎหมายด้วย และนโยบายนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน วันนี้เรื่องด่วนคือน้ำท่วม และภาวะราคาสินค้าต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้คงอีกนาน
ขอหารือและศึกษาก่อนในเงื่อนไขของกองทุนทั้งหมด และขนาดของโครงการจะดีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวตอบว่าต้องมีการแก้ไขพระราชบัญญัติเงินตราหรือไม่ และเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือเปล่า
นายกิตติรัตน์กล่าวเช่นกันว่า ยังไม่จำเป็นต้องตั้งกองทุนมั่งคั่ง และจะไม่มีวันใช้แนวทางออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) และจะไม่มีการแก้ไข พ.ร.บ.เงินตราด้วย ขอให้สบายใจได้เลย
ซึ่งจากการหารือร่วมกันกับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.การคลัง ก็เห็นตรงกันว่า การตั้งกองทุนไม่ได้สำคัญเร่งด่วนอะไร จึงไม่ปรากฏอยู่ในหัวข้อ 16 นโยบายเร่งด่วน
ขนาดของเงินกองทุนก็น่าจะเล็กกว่าวงเงินในการรับจำนำข้าวเสียอีกหากจะทำ แต่ผมยืนยันในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจว่า ประเด็นนี้ไม่มีความสำคัญเร่งด่วนอะไร
หรือถ้าหากจะมีต้องเกิดจากการสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกิดจากการร่วมมือกันเป็นอย่างดี รวมถึงปรึกษาหารือให้ครบถ้วนทุกกระบวนการ
นั่นหมายถึงต้องปรึกษาฝ่ายนิติบัญญัติด้วย นายกิตติรัตน์กล่าว และว่า การจัดตั้งไม่ได้ใช้เงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เท่านั้น ถ้าเขาไม่พร้อมหรือไม่อยากทำก็อย่าบังคับ
มีอีกหลายรูปแบบ ทั้งกองทุนในลักษณะการระดมเงินจากภาครัฐ ภาคเอกชน เหมือนกองทุนวายุภักษ์ก็ยังเป็นไปได้
นายกิตติรัตน์ยังกล่าวถึงมติ ครม. ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ชุดใหม่ โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธาน และจะประชุมนัดแรกภายในสัปดาห์นี้
เพื่อหารือรายละเอียดเกี่ยวกับการรับจำนำข้าว และเมื่อได้ข้อสรุปจาก กขช.แล้วจะนำเรื่องจำนำข้าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันที่ 13 ก.ย. และคาดว่าจะเปิดรับจำนำข้าวได้ในวันที่ 7 ต.ค.
โดยต้องทำแข่งกับเวลา และราคายังคงเป็นไปตามที่ประกาศไว้คือ ข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% ที่ราคา 15,000 บาทต่อตัน และข้าวหอมมะลิ ความชื้น 15% ที่ราคา 20,000 บาทต่อตัน ซึ่งจะรับจำนำทุกเมล็ด
การป้องกันการทุจริตในโครงการ เป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกันสอดส่อง โดยนายกฯ ได้มีคำสั่งไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยกันสอดส่อง
หากเกิดการทุจริตรั่วไหลก็ถือเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยด้วย นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานอื่นๆ อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นต้น
รัฐบาลกำชับทุกเรื่องให้ซื่อตรง โปร่งใสให้ดีที่สุด สัญญาว่าจะโม้ไปทำไปจะทำให้เกษตรกรมีรายได้ดีขึ้น เป็นภาระงบประมาณน้อยที่สุด นายกิตติรัตน์กล่าว
แหล่งข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทยเผยว่า มีความพยายามจากกระทรวงพาณิชย์ให้โรงสีแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวปี 2554/55 ทั้งที่ยังไม่มีเงื่อนไขและกติกาที่ชัดเจน
ทำให้โรงสีไม่กล้ายื่นเข้าร่วมโครงการ เพราะเกรงว่าหากเงื่อนไขที่ กขช.กำหนดออกมา โรงสีไม่สามารถดำเนินการตามได้ก็จะทำให้โรงสีผิดสัญญาและมีคดีความเหมือนหลายกรณีที่ผ่านมา
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ในวันที่ 7 ก.ย. นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ได้เรียกประชุมสมาคมโรงสีข้าวไทยเพื่อกำหนดกรอบ เงื่อนไข กติกาการเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว
ซึ่งเบื้องต้นจะมอบหมายให้สมาคมเป็นผู้พิจารณาโรงสีที่จะเข้าร่วมมีประวัติย้อนหลังเป็นอย่างไร มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของรัฐบาลหรือไม่
ส่วนเงื่อนไขการวางเงินค้ำประกันคาดว่าจะมีสัดส่วนไม่เกิน 40% ของมูลค่าข้าวที่รับจำนำ ส่วนระยะเวลาสีแปร จะกำหนดภายใน 10 วัน ก่อนส่งมอบข้าวเข้าคลังกลางของรัฐบาล
เพื่อให้โรงสีมีพื้นที่ว่างรับซื้อข้าวใหม่ต่อไป
แหล่งข่าวจากผู้ส่งออกข้าวกล่าวว่า ขณะนี้มีบุคคลอ้างว่าเป็นทีมงานของรัฐมนตรีโทรศัพท์ไปยังผู้ส่งออกบางรายเพื่อแจ้งว่ามีโควตาข้าวในสต็อกของรัฐบาลจะจัดสรรให้
หากผู้ส่งออกต้องการสต็อกสามารถเจรจาเงื่อนไขกันได้ ซึ่งสต็อกที่อ้างถึงไม่ได้ระบุว่าเป็นสต็อกเก่าที่มีอยู่ประมาณ 1 ล้านตัน หรือสต็อกข้าวใหม่ที่จะได้จากโครงการรับจำนำปี 2554/55
นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นห่วงนโยบายการรับจำนำข้าว ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมาก โดยในอดีตสต็อกพุ่ง แต่ราคาตลาดโลกกลับไม่ได้สูงขึ้นตาม
ซึ่งในปี 2548-2549 ใช้เงินไปกว่าแสนล้านบาท และเสียหายรวม 1.9 หมื่นล้านบาท รวมทั้งยังขัดกับระเบียบขององค์การการค้าโลกด้วย
โครงการนี้อาจสร้างความเสียหาย 4-5 แสนล้านบาท แม้จะไม่ใช่เสียหายกับรัฐบาลโดยตรง แต่ความเสียหายอาจไปตกที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นายเกียรติกล่าว
สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และได้สรุปการแต่งตั้ง ครม.เงา อาทิ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีเงา ควบ รมว.กลาโหม รองนายกฯ ได้แก่ นายกรณ์ จาติกวณิช นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายเกียรติ สิทธีอมร
และนายกษิต ภิรมย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก เป็น รมว.คลัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เป็น รมว.มหาดไทย
นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี เป็น รมว.คมนาคม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็น รมว.การต่างประเทศ
นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา เป็น รมว.ยุติธรรม นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็น รมว.พาณิชย์ และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. เป็นโฆษกฯ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ครม.เงาไม่ใช่ตรวจสอบ ติติง และวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างเดียว
แต่จะเสนอแนะเรื่องที่เป็นประโยชน์และนโยบายที่ถูกต้องให้รัฐบาลด้วย
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เป็น ครม.ที่ดีที่สุดในมุมมืด จนไม่ควรออกมาข้างนอก
เพราะเมื่อประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล ประชาธิปัตย์มาเป็นฝ่ายค้าน ถือเป็นฝ่ายค้านที่ดีที่สุดตั้งแต่เป็นสยามประเทศ
ดังนั้นเมื่อเป็นฝ่ายค้านแล้วควรทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีอย่างนี้ตลอดไป
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ดูรายชื่อ ครม.เงาแล้วเหมาแบบกินรวบ ไม่ให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเข้ามาเป็นเลย
เอานายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ ไปอยู่ที่ไหน
ทำการเมืองแบบไม่เลี้ยงกาแฟใคร การเมืองต้องทำแบบบูรณาการ ที่สำคัญแปลกใจนายอภิสิทธิ์เกิดที่อังกฤษที่เป็นแม่แบบประชาธิปไตย แต่วันนี้อังกฤษไม่มีแม่แบบ ครม.เงาเลย
แค่ชื่อ ครม.เงาก็เพี้ยนแล้ว ขอให้ตรวจสอบแบบเพี้ยนๆ ต่อไป.
ผ่านแผนบริหารชาติ 15 ล้านล้าน
ครม.บาร์บี้ปูเคาะแผนบริหารราชการ 4 ปี ถลุงงบเบื้องต้น 15.2 ล้านล้านบาท มากกว่ารายได้ที่จะหาเกือบ 2 เท่า
ยิ่งลักษณ์-กิตติรัตน์ เบรกกองทุนมั่งคั่งหัวทิ่ม เผยไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน รมว.พาณิชย์ ยันเปิดจำนำข้าว 7 ต.ค.นี้ โวจะโม้ไปทำไปให้ชาวนารวยขึ้น
"เกียรติ" ชี้มีสิทธิ์เจ๊งถึง 4-5 แสนล้าน หึ่ง! เหลือบโผล่แล้วโทรหาผู้ส่งออกอ้างมีสต็อกรัฐบาลพร้อมเจรจา
เมื่อวันอังคาร คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2555-2558
และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐนำแผนดังกล่าวไปจัดทำแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน หลังจากแผนประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา
รวมทั้งให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณรับไปพิจารณาแหล่งเงินที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงข้อจำกัดด้านงบประมาณและรักษาวินัยการคลัง
สำหรับงบประมาณของแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2555-2558 นั้น ได้ประมาณการการลงทุน วงเงินงบประมาณสนับสนุนตามนโยบายเบื้องต้น
ซึ่งเป็นข้อเสนอของส่วนราชการเพื่อดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล 4 ปี เท่ากับ 11.299 ล้านล้านบาท และค่าใช้จ่ายดำเนินการภาครัฐ 4 ปี รวม 3.878 ล้านล้านบาท
รวมเป็นประมาณการความต้องการใช้เงินเบื้องต้นทั้งสิ้น 15.178 ล้านล้านบาท ในขณะที่ประมาณการรายได้สุทธิรัฐบาลเท่ากับ 8.901 ล้านล้านบาท
โดยมีแหล่งเงินในการดำเนินโครงการตามนโยบาย ประกอบด้วย เงินในงบประมาณ 10.440 ล้านล้านบาท และเงินนอกงบประมาณ 0.859 ล้านล้านบาท
เนื้อข่าวที่เหลือ ...
ประมาณการความต้องการใช้เงินช่วงปี 2555-2558 ดังกล่าวอาจมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและขีดความสามารถในการก่อหนี้ภาครัฐภายใต้กรอบการรักษาวินัยการคลัง
จึงต้องพิจารณารายละเอียดความเหมาะสมทางเศรษฐกิจของโครงการลงทุนต่างๆ รวมทั้งพิจารณาทางเลือกของแหล่งเงินและรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อลดภาระงบประมาณและรักษาวินัยการคลัง มติ ครม.ระบุ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ว่า จะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
ซึ่งคาดว่าการจัดเก็บรายได้จะอยู่ที่ 1.96 ล้านล้านบาท และการขาดดุลน่าจะอยู่ในช่วง 3.5 แสนล้านบาท ไม่เกิน 4 แสนล้านบาท
ส่วนเรื่องการจัดตั้งกองทุนมั่งคั่งนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยังไม่ได้หารือถึงรายละเอียด เพราะเป็นแค่แนวทางศึกษาเท่านั้น ยังไม่มีนโยบาย ควรรอให้หารือทั้งหมดจะดีกว่า
ซึ่งเราคงต้องไปศึกษาในข้อกฎหมายและรายละเอียดอีกครั้งเสียก่อน
หากจะทำต้องทำให้ถูกระเบียบในทุกๆ เรื่อง เปิดเผยและถูกหลักเกณฑ์ของข้อกฎหมายด้วย และนโยบายนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน วันนี้เรื่องด่วนคือน้ำท่วม และภาวะราคาสินค้าต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้คงอีกนาน
ขอหารือและศึกษาก่อนในเงื่อนไขของกองทุนทั้งหมด และขนาดของโครงการจะดีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวตอบว่าต้องมีการแก้ไขพระราชบัญญัติเงินตราหรือไม่ และเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือเปล่า
นายกิตติรัตน์กล่าวเช่นกันว่า ยังไม่จำเป็นต้องตั้งกองทุนมั่งคั่ง และจะไม่มีวันใช้แนวทางออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) และจะไม่มีการแก้ไข พ.ร.บ.เงินตราด้วย ขอให้สบายใจได้เลย
ซึ่งจากการหารือร่วมกันกับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.การคลัง ก็เห็นตรงกันว่า การตั้งกองทุนไม่ได้สำคัญเร่งด่วนอะไร จึงไม่ปรากฏอยู่ในหัวข้อ 16 นโยบายเร่งด่วน
ขนาดของเงินกองทุนก็น่าจะเล็กกว่าวงเงินในการรับจำนำข้าวเสียอีกหากจะทำ แต่ผมยืนยันในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจว่า ประเด็นนี้ไม่มีความสำคัญเร่งด่วนอะไร
หรือถ้าหากจะมีต้องเกิดจากการสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกิดจากการร่วมมือกันเป็นอย่างดี รวมถึงปรึกษาหารือให้ครบถ้วนทุกกระบวนการ
นั่นหมายถึงต้องปรึกษาฝ่ายนิติบัญญัติด้วย นายกิตติรัตน์กล่าว และว่า การจัดตั้งไม่ได้ใช้เงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เท่านั้น ถ้าเขาไม่พร้อมหรือไม่อยากทำก็อย่าบังคับ
มีอีกหลายรูปแบบ ทั้งกองทุนในลักษณะการระดมเงินจากภาครัฐ ภาคเอกชน เหมือนกองทุนวายุภักษ์ก็ยังเป็นไปได้
นายกิตติรัตน์ยังกล่าวถึงมติ ครม. ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ชุดใหม่ โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธาน และจะประชุมนัดแรกภายในสัปดาห์นี้
เพื่อหารือรายละเอียดเกี่ยวกับการรับจำนำข้าว และเมื่อได้ข้อสรุปจาก กขช.แล้วจะนำเรื่องจำนำข้าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันที่ 13 ก.ย. และคาดว่าจะเปิดรับจำนำข้าวได้ในวันที่ 7 ต.ค.
โดยต้องทำแข่งกับเวลา และราคายังคงเป็นไปตามที่ประกาศไว้คือ ข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% ที่ราคา 15,000 บาทต่อตัน และข้าวหอมมะลิ ความชื้น 15% ที่ราคา 20,000 บาทต่อตัน ซึ่งจะรับจำนำทุกเมล็ด
การป้องกันการทุจริตในโครงการ เป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกันสอดส่อง โดยนายกฯ ได้มีคำสั่งไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยกันสอดส่อง
หากเกิดการทุจริตรั่วไหลก็ถือเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยด้วย นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานอื่นๆ อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นต้น
รัฐบาลกำชับทุกเรื่องให้ซื่อตรง โปร่งใสให้ดีที่สุด สัญญาว่าจะโม้ไปทำไปจะทำให้เกษตรกรมีรายได้ดีขึ้น เป็นภาระงบประมาณน้อยที่สุด นายกิตติรัตน์กล่าว
แหล่งข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทยเผยว่า มีความพยายามจากกระทรวงพาณิชย์ให้โรงสีแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวปี 2554/55 ทั้งที่ยังไม่มีเงื่อนไขและกติกาที่ชัดเจน
ทำให้โรงสีไม่กล้ายื่นเข้าร่วมโครงการ เพราะเกรงว่าหากเงื่อนไขที่ กขช.กำหนดออกมา โรงสีไม่สามารถดำเนินการตามได้ก็จะทำให้โรงสีผิดสัญญาและมีคดีความเหมือนหลายกรณีที่ผ่านมา
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ในวันที่ 7 ก.ย. นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ได้เรียกประชุมสมาคมโรงสีข้าวไทยเพื่อกำหนดกรอบ เงื่อนไข กติกาการเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว
ซึ่งเบื้องต้นจะมอบหมายให้สมาคมเป็นผู้พิจารณาโรงสีที่จะเข้าร่วมมีประวัติย้อนหลังเป็นอย่างไร มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของรัฐบาลหรือไม่
ส่วนเงื่อนไขการวางเงินค้ำประกันคาดว่าจะมีสัดส่วนไม่เกิน 40% ของมูลค่าข้าวที่รับจำนำ ส่วนระยะเวลาสีแปร จะกำหนดภายใน 10 วัน ก่อนส่งมอบข้าวเข้าคลังกลางของรัฐบาล
เพื่อให้โรงสีมีพื้นที่ว่างรับซื้อข้าวใหม่ต่อไป
แหล่งข่าวจากผู้ส่งออกข้าวกล่าวว่า ขณะนี้มีบุคคลอ้างว่าเป็นทีมงานของรัฐมนตรีโทรศัพท์ไปยังผู้ส่งออกบางรายเพื่อแจ้งว่ามีโควตาข้าวในสต็อกของรัฐบาลจะจัดสรรให้
หากผู้ส่งออกต้องการสต็อกสามารถเจรจาเงื่อนไขกันได้ ซึ่งสต็อกที่อ้างถึงไม่ได้ระบุว่าเป็นสต็อกเก่าที่มีอยู่ประมาณ 1 ล้านตัน หรือสต็อกข้าวใหม่ที่จะได้จากโครงการรับจำนำปี 2554/55
นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นห่วงนโยบายการรับจำนำข้าว ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมาก โดยในอดีตสต็อกพุ่ง แต่ราคาตลาดโลกกลับไม่ได้สูงขึ้นตาม
ซึ่งในปี 2548-2549 ใช้เงินไปกว่าแสนล้านบาท และเสียหายรวม 1.9 หมื่นล้านบาท รวมทั้งยังขัดกับระเบียบขององค์การการค้าโลกด้วย
โครงการนี้อาจสร้างความเสียหาย 4-5 แสนล้านบาท แม้จะไม่ใช่เสียหายกับรัฐบาลโดยตรง แต่ความเสียหายอาจไปตกที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นายเกียรติกล่าว
สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และได้สรุปการแต่งตั้ง ครม.เงา อาทิ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีเงา ควบ รมว.กลาโหม รองนายกฯ ได้แก่ นายกรณ์ จาติกวณิช นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายเกียรติ สิทธีอมร
และนายกษิต ภิรมย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก เป็น รมว.คลัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เป็น รมว.มหาดไทย
นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี เป็น รมว.คมนาคม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็น รมว.การต่างประเทศ
นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา เป็น รมว.ยุติธรรม นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็น รมว.พาณิชย์ และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. เป็นโฆษกฯ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ครม.เงาไม่ใช่ตรวจสอบ ติติง และวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างเดียว
แต่จะเสนอแนะเรื่องที่เป็นประโยชน์และนโยบายที่ถูกต้องให้รัฐบาลด้วย
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เป็น ครม.ที่ดีที่สุดในมุมมืด จนไม่ควรออกมาข้างนอก
เพราะเมื่อประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล ประชาธิปัตย์มาเป็นฝ่ายค้าน ถือเป็นฝ่ายค้านที่ดีที่สุดตั้งแต่เป็นสยามประเทศ
ดังนั้นเมื่อเป็นฝ่ายค้านแล้วควรทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีอย่างนี้ตลอดไป
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ดูรายชื่อ ครม.เงาแล้วเหมาแบบกินรวบ ไม่ให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเข้ามาเป็นเลย
เอานายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ ไปอยู่ที่ไหน
ทำการเมืองแบบไม่เลี้ยงกาแฟใคร การเมืองต้องทำแบบบูรณาการ ที่สำคัญแปลกใจนายอภิสิทธิ์เกิดที่อังกฤษที่เป็นแม่แบบประชาธิปไตย แต่วันนี้อังกฤษไม่มีแม่แบบ ครม.เงาเลย
แค่ชื่อ ครม.เงาก็เพี้ยนแล้ว ขอให้ตรวจสอบแบบเพี้ยนๆ ต่อไป.
กะให้รัฐบาลชุดอื่นเป็นหนี้ 4 ปีเลยใช่ไหม ถ้าชุดอื่นไม่กล้ารับ ตัวเองก็เสนอหน้ามารับต่อ
และจะบริหารประเทศต่อไปก็ต้องใช้เงินทอง คงไม่พ้นสร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นอีก เป็นภาระของคนไทยทั่วประเทศเพิ่มขึ้น
ท่าไหว้มะเส็ง ฮวยเซง แบบมาตรฐาน, พร้อมท่าโอบกอด
"ยิ่งลักษณ์" ปล่อยเอ๋อ "ปลูกหญ้าแพรก" ตามแนวพระราชดำริฯ ทั้งที่ความจริงแล้วต้องเป็น "หญ้าแฝก" ถึงจะถูกต้อง
คณะรัฐบาล "เรือดันน้ำ" ที่น่าจะใช้เรือมากที่สุดในโลก (1,149 ลำ) แต่ได้ผลเพียงเล็กน้อย
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. เวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังบริเวณใต้สะพานพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี
เพื่อเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนเรือ 1,149 ลำ ที่ร่วมโครงการประชาอาสา ที่จัดโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ประกอบด้วย 1.แม่น้ำเจ้าพระยา 926 ลำ ใน 50 จุด 2.แม่น้ำบางปะกง 121 ลำใน 13 จุด และ 3.แม่น้ำท่าจีน 102 ลำใน 15 จุด
นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า โครงการเรือผลักดันน้ำลงสู่ทะเลเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่สุด ที่ช่วยระบายน้ำให้ลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น
รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยรังสิต
ยันการใช้เรือดันน้ำ มีประโยชน์เฉพาะแม่น้ำแคบๆ อย่างแม่น้ำท่าจีน ในแม่น้ำใหญ่ๆ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา อาจไม่ได้ผล
นายกรัฐมนตรี เตือนภัยสถานการณ์น้ำท่วม (25 ตุลาคม 2554) เมื่อแถลงการณ์น่ามึนงง ประชาชนจึงขอช่วยทำแฟนซับ
ต้นฉบับ
ขอให้ทุกๆท่านร่วมจับใจความด้วยครับ
ในขณะที่น้ำท่วม คณะรัฐมนตรีก็มีมติเห็นชอบ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ โดยมีสาระไม่ต่างจากกฎหมายสื่อในยุคเผด็จการ
ในขณะที่น้ำท่วม คณะรัฐมนตรีลักไก่อนุมัติ พ.ร.บ.การพนัน 2 ฉบับ ให้อำนาจเจ้าพนักงานครอบจักรวาล
น้ำกำลังท่วม รัฐบาลไร้ปัญญาแก้ คิดออกเพียงถลุงงบประมาณ 7-9 แสนล้านหลังน้ำท่วม
มติชน: นายกฯ เสนอโครงการนิวไทยแลนด์ ตั้งงบ 9 แสนล้าน ฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี
ได้เชิญ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมมาประชุม โดยได้หยิบยกโครงการนิวไทยแลนด์ ขึ้นมาหารือ
โครงการดังกล่าวจะเป็นการฟื้นฟูภาพรวมของประเทศทั้งหมด หลังเกิดปัญหาอุทกภัย ซึ่งแผนนี้จะมีการนำข้อมูลต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนข้อเสนอของต่างประเทศมาหารือกันว่าจะฟื้นฟูประเทศอย่างไร ซึ่งในส่วนของนิคมอุตสาหกรรม
คาดว่างบประมาณที่ใช้ในการฟื้นฟูระยะสั้นอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท
ส่วนระยะยาวประมาณ 6-8 แสนล้านบาท โดยในส่วนที่กระทรวงพลังงาน รับผิดชอบจะนำนักเรียนอาชีวศึกษามาช่วยในการตรวจสอบ
อุปกรณ์เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงรถยนต์ที่จมน้ำ โดยทางกระทรวงจะช่วยเหลือในการลดราคาน้ำมันเครื่องลงร้อยละ 50 รวมถึงอาจจะพิจารณา
ลดค่าไฟฟ้าในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ขณะเดียวกันจะจ้างแรงงานเข้าไปฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนเรื่องของเงินทุนในการฟื้นฟู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า ไม่ใช่ปัญหา เพราะไทยมีเงินทุนสำรองค่อนข้างมาก
ขณะเดียวกันต่างประเทศก็เสนอตัวพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือในเรื่องของเงินทุน ดังนั้นคงต้องนำข้อเสนอทั้งหมดมาพูดคุยกัน
ว่าจะใช้แหล่งเงินทุนใด
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี
ได้เชิญ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมมาประชุม โดยได้หยิบยกโครงการนิวไทยแลนด์ ขึ้นมาหารือ
โครงการดังกล่าวจะเป็นการฟื้นฟูภาพรวมของประเทศทั้งหมด หลังเกิดปัญหาอุทกภัย ซึ่งแผนนี้จะมีการนำข้อมูลต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนข้อเสนอของต่างประเทศมาหารือกันว่าจะฟื้นฟูประเทศอย่างไร ซึ่งในส่วนของนิคมอุตสาหกรรม
คาดว่างบประมาณที่ใช้ในการฟื้นฟูระยะสั้นอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท
ส่วนระยะยาวประมาณ 6-8 แสนล้านบาท โดยในส่วนที่กระทรวงพลังงาน รับผิดชอบจะนำนักเรียนอาชีวศึกษามาช่วยในการตรวจสอบ
อุปกรณ์เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงรถยนต์ที่จมน้ำ โดยทางกระทรวงจะช่วยเหลือในการลดราคาน้ำมันเครื่องลงร้อยละ 50 รวมถึงอาจจะพิจารณา
ลดค่าไฟฟ้าในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ขณะเดียวกันจะจ้างแรงงานเข้าไปฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนเรื่องของเงินทุนในการฟื้นฟู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า ไม่ใช่ปัญหา เพราะไทยมีเงินทุนสำรองค่อนข้างมาก
ขณะเดียวกันต่างประเทศก็เสนอตัวพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือในเรื่องของเงินทุน ดังนั้นคงต้องนำข้อเสนอทั้งหมดมาพูดคุยกัน
ว่าจะใช้แหล่งเงินทุนใด
เตรียมอ้างเพื่อประชาชน คิดแก้กฎหมาย "ให้แบงค์ชาติซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้"
กรุงเทพธุรกิจ: รัฐระดมทุนนิวไทยแลนด์ เล็งขายบอนด์ให้แบงก์ชาติ
นายกฯ วางนิวไทยแลนด์ฟื้นฟู 3 ระยะ ปรึกษาโมเดลตัวอย่างจากต่างประเทศ ภายใต้งบ 8 แสนล้าน เล็งแนวทางหาเงินเตรียมแผนแก้กฎหมาย
ธปท. เปิดทางซื้อพันธบัตร
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวถึงโครงการนิวไทยแลนด์ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูประเทศไทยใหม่ ที่จะดำเนินการ
ภายหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมจบลง โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดให้แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ระยะ
คือ ระยะที่หนึ่งให้ทำหน้าที่ต่อสู้กับน้ำ ระยะที่สองเป็นระยะฟื้นฟูประเทศไทยระยะสั้น 1 ปี และระยะที่สามเป็นระยะการปรับปรุงประเทศระยะยาว
ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาเพื่อให้ละเอียดรอบคอบ ประกอบกับต้องมีการว่าจ้างที่ปรึกษาจากต่างประเทศมาช่วยเสนอแนวคิด
และโมเดลต่างๆ ที่เหมาะสมกับการพัฒนาประเทศไทยด้วย เขากล่าวว่า วงเงินที่จะนำมาใช้ในระยะสั้น 130,000 ล้านบาท
โดย 50,000 ล้านบาท มาจากการงบประมาณขาดดุลปี 2555 เพิ่มเติม และอีก 80,000 บาท มาจากกระทรวงทบวงกรม
ตัดงบประมาณมาให้กระทรวงละ 10% ...
ยังไม่ได้สรุปแหล่งเงินแผนระยะยาว
เขากล่าวว่า แผนฟื้นฟูระยะยาวที่ว่าจะใช้เงิน 600,000-800,000 ล้านบาทนั้น ยังไม่ได้กำหนดและสรุปว่าจะนำเงินมาจากไหน
ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการเสนอหลายแนวคิด รวมทั้งมีการตั้งสมมติฐานว่าประเทศไทยมีเงินในประเทศ อาจใช้วิธีการออกพันธบัตร
และให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้ซื้อ เพียงแต่ติดเงื่อนไขข้อกฎหมายว่า ธปท.จะซื้อพันธบัตรในประเทศไม่ได้
แต่ซื้อได้แต่พันธบัตรประเทศอื่น ซึ่งอาจต้องเปลี่ยนแนวคิดเพราะประเทศไทยมีฐานะมั่นคงกว่าหลายประเทศแล้ว
จึงน่าจะซื้อพันธบัตรในประเทศได้ ...
นายกฯ วางนิวไทยแลนด์ฟื้นฟู 3 ระยะ ปรึกษาโมเดลตัวอย่างจากต่างประเทศ ภายใต้งบ 8 แสนล้าน เล็งแนวทางหาเงินเตรียมแผนแก้กฎหมาย
ธปท. เปิดทางซื้อพันธบัตร
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวถึงโครงการนิวไทยแลนด์ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูประเทศไทยใหม่ ที่จะดำเนินการ
ภายหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมจบลง โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดให้แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ระยะ
คือ ระยะที่หนึ่งให้ทำหน้าที่ต่อสู้กับน้ำ ระยะที่สองเป็นระยะฟื้นฟูประเทศไทยระยะสั้น 1 ปี และระยะที่สามเป็นระยะการปรับปรุงประเทศระยะยาว
ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาเพื่อให้ละเอียดรอบคอบ ประกอบกับต้องมีการว่าจ้างที่ปรึกษาจากต่างประเทศมาช่วยเสนอแนวคิด
และโมเดลต่างๆ ที่เหมาะสมกับการพัฒนาประเทศไทยด้วย เขากล่าวว่า วงเงินที่จะนำมาใช้ในระยะสั้น 130,000 ล้านบาท
โดย 50,000 ล้านบาท มาจากการงบประมาณขาดดุลปี 2555 เพิ่มเติม และอีก 80,000 บาท มาจากกระทรวงทบวงกรม
ตัดงบประมาณมาให้กระทรวงละ 10% ...
ยังไม่ได้สรุปแหล่งเงินแผนระยะยาว
เขากล่าวว่า แผนฟื้นฟูระยะยาวที่ว่าจะใช้เงิน 600,000-800,000 ล้านบาทนั้น ยังไม่ได้กำหนดและสรุปว่าจะนำเงินมาจากไหน
ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการเสนอหลายแนวคิด รวมทั้งมีการตั้งสมมติฐานว่าประเทศไทยมีเงินในประเทศ อาจใช้วิธีการออกพันธบัตร
และให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้ซื้อ เพียงแต่ติดเงื่อนไขข้อกฎหมายว่า ธปท.จะซื้อพันธบัตรในประเทศไม่ได้
แต่ซื้อได้แต่พันธบัตรประเทศอื่น ซึ่งอาจต้องเปลี่ยนแนวคิดเพราะประเทศไทยมีฐานะมั่นคงกว่าหลายประเทศแล้ว
จึงน่าจะซื้อพันธบัตรในประเทศได้ ...
เมื่อต้องอภิปรายถึงเรื่องมิบังควรที่คณะรัฐบาลทำขึ้น เสียงผีบอกโพยก็ลอดตามสายกลางสภา
ปรับลดไฟฟ้าฟรีเหลือเพียง 50 หน่วย เหลือคนได้ประโยชน์แค่ 4.37 ล้านคน จากเดิม 8 ล้านคน
รัฐลดไฟฟรีให้ 50 หน่วยแก้ฟุ่มเฟือย
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 30 พ.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุม
คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์
เป็นประธานแทนนายกรัฐมนตรี ว่าที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับลดหน่วยการใช้ไฟฟ้าฟรีของครัวเรือนจากเดิมที่ 90 หน่วยต่อเดือนเป็น 50 หน่วยต่อเดือน
โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้ที่ได้รับประโยชน์ 4.37 ล้านรายต่อเดือน จากเดิมที่เคยได้รับประโยชน์อยู่ประมาณ 8 ล้านคน
เนื่องจากพบว่าที่ผ่านมาผู้ได้รับประโยชน์กลับไม่ได้ประหยัดกันอย่างเต็มที่โดยผู้ที่เคยใช้ไฟเพียง 30-40 หน่วย ก็หันมาใช้ 90 หน่วย เป็นต้น
แต่การปรับเปลี่ยนเป็น 50 หน่วยในครั้งนี้จะช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม
ที่ต้องแบกรับภาระให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าฟรีจำนวน 0.12 บาทต่อหน่วย เหลือเพียง 0.03 บาทต่อหน่วย
โดยขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานจะรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณา
ก่อนจัดทำรายละเอียดเสนอต่อที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติ ในเร็ว ๆ นี้
มาตรการนี้ควรจะทำ เพราะจากการตรวจสอบในช่วงที่ใช้ไฟฟรี 90 หน่วย พบผู้ที่เคยใช้ไฟฟรีแค่ 30-40 หน่วย ก็กลับมาใช้เต็มที่ที่ 90 หน่วย
ดังนั้นจึงถือว่าไม่เป็นการประหยัด ซึ่งจำนวนที่ลดลงเหลือ 50 หน่วยนี้ ก็คิดว่าเพียงพอแล้ว ส่วนเงินที่รัฐจะต้องชดเชยนั้น จะเหลือเพียง 3,517 ล้านบาท
จากเดิมที่ต้องใช้เงินกว่า 13,306 ล้านบาท
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบข้อมูลการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันแล้ว พบว่า ในกรณีที่ลดหน่วยการใช้ไฟฟ้าฟรีเหลือ 50 หน่วย
ผู้ใช้ไฟฟ้าจะสามารถใช้หลอดไฟฟ้าขนาด 40 วัตต์ ได้จำนวน 3 ดวง ใช้ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมงต่อวัน, โทรทัศน์สีขนาด 100 วัตต์ 1 เครื่อง
ไม่เกิน 3 ชั่วโมง, พัดลมตั้งโต๊ะขนาด 45 วัตต์ 1 เครื่อง ไม่เกิน 6 ชั่วโมง และใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าขนาด 600 วัตต์ 1 เครื่อง ใช้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง
ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะได้ตัวเลขการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 1.59 หน่วยต่อวัน หรือ 47.7 หน่วยต่อเดือน จึงจะเข้าข่ายผู้ใช้ไฟฟ้าฟรีได้
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 30 พ.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุม
คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์
เป็นประธานแทนนายกรัฐมนตรี ว่าที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับลดหน่วยการใช้ไฟฟ้าฟรีของครัวเรือนจากเดิมที่ 90 หน่วยต่อเดือนเป็น 50 หน่วยต่อเดือน
โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้ที่ได้รับประโยชน์ 4.37 ล้านรายต่อเดือน จากเดิมที่เคยได้รับประโยชน์อยู่ประมาณ 8 ล้านคน
เนื่องจากพบว่าที่ผ่านมาผู้ได้รับประโยชน์กลับไม่ได้ประหยัดกันอย่างเต็มที่โดยผู้ที่เคยใช้ไฟเพียง 30-40 หน่วย ก็หันมาใช้ 90 หน่วย เป็นต้น
แต่การปรับเปลี่ยนเป็น 50 หน่วยในครั้งนี้จะช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม
ที่ต้องแบกรับภาระให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าฟรีจำนวน 0.12 บาทต่อหน่วย เหลือเพียง 0.03 บาทต่อหน่วย
โดยขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานจะรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณา
ก่อนจัดทำรายละเอียดเสนอต่อที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติ ในเร็ว ๆ นี้
มาตรการนี้ควรจะทำ เพราะจากการตรวจสอบในช่วงที่ใช้ไฟฟรี 90 หน่วย พบผู้ที่เคยใช้ไฟฟรีแค่ 30-40 หน่วย ก็กลับมาใช้เต็มที่ที่ 90 หน่วย
ดังนั้นจึงถือว่าไม่เป็นการประหยัด ซึ่งจำนวนที่ลดลงเหลือ 50 หน่วยนี้ ก็คิดว่าเพียงพอแล้ว ส่วนเงินที่รัฐจะต้องชดเชยนั้น จะเหลือเพียง 3,517 ล้านบาท
จากเดิมที่ต้องใช้เงินกว่า 13,306 ล้านบาท
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบข้อมูลการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันแล้ว พบว่า ในกรณีที่ลดหน่วยการใช้ไฟฟ้าฟรีเหลือ 50 หน่วย
ผู้ใช้ไฟฟ้าจะสามารถใช้หลอดไฟฟ้าขนาด 40 วัตต์ ได้จำนวน 3 ดวง ใช้ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมงต่อวัน, โทรทัศน์สีขนาด 100 วัตต์ 1 เครื่อง
ไม่เกิน 3 ชั่วโมง, พัดลมตั้งโต๊ะขนาด 45 วัตต์ 1 เครื่อง ไม่เกิน 6 ชั่วโมง และใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าขนาด 600 วัตต์ 1 เครื่อง ใช้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง
ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะได้ตัวเลขการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 1.59 หน่วยต่อวัน หรือ 47.7 หน่วยต่อเดือน จึงจะเข้าข่ายผู้ใช้ไฟฟ้าฟรีได้
side story สภาโจ๊ก
ยิ่งลักษณ์ ปล่อยไก่ ลั่นอนุมัติเรือดำน้ำ ด้านโฆษกช่วยแก้ต่าง อ้าง นายกฯ คิดว่าเป็นเรือดันน้ำช่วยน้ำท่วม ไม่ใช่เรือดำน้ำ
สำนักข่าวกระปุก
วานนี้ (27 กันยายน) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธขนาดเบา
AS-500 /C3 (FENNEC) จาก Eurocopter ประเทศฝรั่งเศส จำนวน 8 ลำ เป็นเงินกว่า 1,500 ล้านบาท ส่วนโครงการอื่น ๆ ไม่ได้อนุมัติ
ไม่ว่าจะเป็นโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ แบล็กฮอว์ก รุ่นเอ็ม (UH-60-M/Black Hawk) ของกองทัพบก
เพื่อใช้ในภารกิจด้านยุทธการและยุทธวิธี เพิ่มเติมอีก 2 เครื่อง วงเงินประมาณ 2,850 ล้านบาท (94 ล้านเหรียญสหรัฐ)
จากเดิมที่ได้ตั้งงบประมาณในการจัดหาไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท (3 เครื่อง) ออกไป
หรือว่า โครงการเรือดำน้ำ ตามที่ทหารเรือได้เสนอขอไว้
แต่ทว่า ภายหลังการประชุม ครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับให้สัมภาษณ์ว่า โครงการจัดหาเรือดำน้ำผ่าน ครม. แล้ว
ทำให้บรรดาทหารเรือต่างดีอกดีใจกันยกใหญ่ "ในส่วนของเรือดำน้ำผ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนของแบล็กฮอว์กนั้นยังติดเรื่องของเทคนิค
เรื่องของรายละเอียดราคาเท่านั้น ก็ให้ไปหารือกับทางด้านของสำนักงบฯ ใหม่ค่ะ" นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์เสร็จแล้วนั้น บรรดาผู้ร่วมประชุม ครม. ถึงกับออกอาการตกใจ และออกมาแก้ตัวแทนว่า นายกฯพูดผิด
ซึ่งทำให้สื่อมวลชนและประชาชนต้องสับสนไปตาม ๆ กัน ว่า สรุปแล้ว ทางครม. ได้อนุมัติ โครงการใดบ้าง จึงไปสอบถามยังทีมโฆษกรัฐบาลทันที
ทางด้าน น.ส.ฐิติมา ฉายแสง โฆษกรัฐบาล ได้เรียกทีมโฆษกรัฐบาลหารือกัน เกี่ยวกับคำถามดังกล่าว และได้ออกมาแก้ตัวแทนนายกฯว่า
นายกรัฐมนตรีอาจจะเข้าใจผิด หรืออาจจะเผลอพูดถึงเรื่อง "เรือดันน้ำ" ที่เอาใช้ช่วยน้ำท่วมมากกว่า "เรือดำน้ำ" ก็ได้ อย่างไรก็ตาม
เรื่องดังกล่าวก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ถ้าหากนายกฯ พูดถึงเรื่องเรือดันน้ำจริง คงไม่ต้องทำเรื่องเข้าเสนอ ครม. แต่อย่างใด เพราะทางกระทรวงกลาโหม
จะเป็นผู้ประสานงานโดยตรงอยู่แล้ว
ขณะที่ช่วงค่ำของวานนี้ (27 กันยายน) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยกล่าวถึงกรณีที่ให้ข่าวผิดพลาดดังกล่าวว่า
"ขอโทษจริง ๆ ตนจำผิดเพราะเรื่องเข้า ครม.ตั้ง 37 หัวข้อ"
ไทยโพสต์ , คมชัดลึก
ลาดกระบังอาจไม่ใช่เขตในกรุงเทพฯ ท่านนายกฯจึงอ่านเป็นเขตลาดพร้าวแทน
ภาษาไทยวันนี้ 53,918 ล้านบาท อ่านว่า "ห้าหมื่นสามแสนเก้าร้อยสิบแปดล้านบาท" ???
การอ่านที่ถูกต้อง 53,918 ล้านบาท อ่านว่า ห้าหมื่นสามพันเก้าร้อยสิบแปดล้านบาท
ท่านนายกยิ่งลักษณ์ 53,918 ล้านบาท อ่านเป็น "ห้าหมื่นสามแสนเก้าร้อยสิบแปดล้านบาท"
ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เยี่ยมสิงห์บุรี แต่เข้าใจผิดนึกว่าเป็นสระบุรี
ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พร่ำเพ้อ ภาษาอังกฤษไม่เก่งเหมือนคนบางคน เพราะคุณแม่ไม่ได้เป็นเมียฝรั่ง
สำนักข่าวกระปุก
วานนี้ (27 กันยายน) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธขนาดเบา
AS-500 /C3 (FENNEC) จาก Eurocopter ประเทศฝรั่งเศส จำนวน 8 ลำ เป็นเงินกว่า 1,500 ล้านบาท ส่วนโครงการอื่น ๆ ไม่ได้อนุมัติ
ไม่ว่าจะเป็นโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ แบล็กฮอว์ก รุ่นเอ็ม (UH-60-M/Black Hawk) ของกองทัพบก
เพื่อใช้ในภารกิจด้านยุทธการและยุทธวิธี เพิ่มเติมอีก 2 เครื่อง วงเงินประมาณ 2,850 ล้านบาท (94 ล้านเหรียญสหรัฐ)
จากเดิมที่ได้ตั้งงบประมาณในการจัดหาไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท (3 เครื่อง) ออกไป
หรือว่า โครงการเรือดำน้ำ ตามที่ทหารเรือได้เสนอขอไว้
แต่ทว่า ภายหลังการประชุม ครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับให้สัมภาษณ์ว่า โครงการจัดหาเรือดำน้ำผ่าน ครม. แล้ว
ทำให้บรรดาทหารเรือต่างดีอกดีใจกันยกใหญ่ "ในส่วนของเรือดำน้ำผ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนของแบล็กฮอว์กนั้นยังติดเรื่องของเทคนิค
เรื่องของรายละเอียดราคาเท่านั้น ก็ให้ไปหารือกับทางด้านของสำนักงบฯ ใหม่ค่ะ" นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์เสร็จแล้วนั้น บรรดาผู้ร่วมประชุม ครม. ถึงกับออกอาการตกใจ และออกมาแก้ตัวแทนว่า นายกฯพูดผิด
ซึ่งทำให้สื่อมวลชนและประชาชนต้องสับสนไปตาม ๆ กัน ว่า สรุปแล้ว ทางครม. ได้อนุมัติ โครงการใดบ้าง จึงไปสอบถามยังทีมโฆษกรัฐบาลทันที
ทางด้าน น.ส.ฐิติมา ฉายแสง โฆษกรัฐบาล ได้เรียกทีมโฆษกรัฐบาลหารือกัน เกี่ยวกับคำถามดังกล่าว และได้ออกมาแก้ตัวแทนนายกฯว่า
นายกรัฐมนตรีอาจจะเข้าใจผิด หรืออาจจะเผลอพูดถึงเรื่อง "เรือดันน้ำ" ที่เอาใช้ช่วยน้ำท่วมมากกว่า "เรือดำน้ำ" ก็ได้ อย่างไรก็ตาม
เรื่องดังกล่าวก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ถ้าหากนายกฯ พูดถึงเรื่องเรือดันน้ำจริง คงไม่ต้องทำเรื่องเข้าเสนอ ครม. แต่อย่างใด เพราะทางกระทรวงกลาโหม
จะเป็นผู้ประสานงานโดยตรงอยู่แล้ว
ขณะที่ช่วงค่ำของวานนี้ (27 กันยายน) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยกล่าวถึงกรณีที่ให้ข่าวผิดพลาดดังกล่าวว่า
"ขอโทษจริง ๆ ตนจำผิดเพราะเรื่องเข้า ครม.ตั้ง 37 หัวข้อ"
ไทยโพสต์ , คมชัดลึก
ลาดกระบังอาจไม่ใช่เขตในกรุงเทพฯ ท่านนายกฯจึงอ่านเป็นเขตลาดพร้าวแทน
ภาษาไทยวันนี้ 53,918 ล้านบาท อ่านว่า "ห้าหมื่นสามแสนเก้าร้อยสิบแปดล้านบาท" ???
การอ่านที่ถูกต้อง 53,918 ล้านบาท อ่านว่า ห้าหมื่นสามพันเก้าร้อยสิบแปดล้านบาท
ท่านนายกยิ่งลักษณ์ 53,918 ล้านบาท อ่านเป็น "ห้าหมื่นสามแสนเก้าร้อยสิบแปดล้านบาท"
ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เยี่ยมสิงห์บุรี แต่เข้าใจผิดนึกว่าเป็นสระบุรี
ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พร่ำเพ้อ ภาษาอังกฤษไม่เก่งเหมือนคนบางคน เพราะคุณแม่ไม่ได้เป็นเมียฝรั่ง
วิธีตอบแบบชาวแดง ๖ รูปแบบ
๑. "แยกประเด็น" - จับสิ่งที่เกี่ยวข้องกันแยกออกจากกัน
ตัวอย่าง
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: ก่อนอื่นต้องแยกรัฐบาล กับอดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกรัฐมนตรีออกมาก่อน (จากนั้นก็พูดแต่เรื่องนโยบาย)
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: ก่อนอื่นต้องแยกข้อดี และข้อเสียออกมาก่อน จากนั้นพรรณนาแต่ข้อดี ... (ไม่พูดถึงข้อบกพร่องและวิธีแก้ไข)
๒. "ก้าวข้าม" - ไม่ขอพูดถึง ไม่ขออธิบายสิ่งที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่าง
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: จะไม่พูดถึงพี่ชายท่านนายก,อดีตนายกรัฐมนตรี จากนั้นก็ตัดบทสนทนา
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: จะคุยถึงข้อดีของนโยบาย ส่วนถ้าจะพูดถึงข้อเสียไม่ขอตอบ
๓. "มีอคตินะ" โยนว่าเป็นความเชื่อ, อคติของอีกฝ่าย
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: นี่คุณมีความเชื่อว่าพี่ชายท่านนายกมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลแบบนี้คงคุยไม่ได้แล้วนะ
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: นี่คุณมีอคติกับนโยบายของรัฐบาลแบบนี้คงคุยไม่ได้แล้วนะ
๔. "รู้ แต่ไม่บอก" ตอบกวนเหมือนเด็กๆ
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: มี แต่บอกไม่ได้หรอกนะว่ามีอะไรบ้าง (ป้องกันได้ทั้งพี่ชายนายกและท่านนายกรัฐมนตรีในคราวเดียว)
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: รู้, เข้าใจ แต่มันเป็นนโยบายของรัฐบาล
๕ "ไม่เกี่ยวข้อง, ไม่รู้เรื่องรู้ราว" ตอบแบบเด็กเอ๋อ ไม่รู้เรื่องรู้ราว
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: พี่ชายท่านนายกรัฐมนตรีไม่เกี่ยวข้อง, รัฐบาลไม่รู้เรื่องรู้ราวกับพี่ชายท่านนายกรัฐมนตรี
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: รัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับช่องโหว่ต่างๆนี้, รัฐบาลไม่รู้เรื่องรู้ราวว่ามีคนอาศัยช่องโหว่นี้อยู่
๖ "ยอมรับว่าตัวเองเข้าใจแบบโง่ๆ" ตอบไม่ทราบ, คิดว่าไม่, คิดว่าต่อไปจะแก้ได้ (ก็บอกให้ทราบอยู่นี่ไง, แล้วจะไม่ฟังใช่ไหม, แล้วจะแก้ได้เมื่อไหร่ล่ะจ๊ะ)
นโยบายและวิธีของของรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี, พี่ชายท่านนายกฯมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ? อย่างไร
ตอบ: ไม่ทราบ, คิดว่าไม่, คิดว่าต่อไปจะแก้ได้
นโยบายของรัฐบาลที่ออกมานั้นมีข้อบกพร่องอยู่ ดังนี้ ... (เนื้อหาข้อบกพร่อง)
ตอบ: ไม่ทราบ, คิดว่าไม่, คิดว่าต่อไปจะแก้ได้