เยอะอะคุล บางคนซื้อมาแทบไม่เคยเล่นแฮนด์เฮลด้วยซ้ำ ไม่เชื่อก็ลองเข้าไปคุยในกลุ่มสวิดูได้แล้วจะแปลกใจ ว่าคนนิยมต่อ dock มากกว่าแฮนเฮลอีก

เอาเป็นว่าแค่เล่นเกมส์ อย่างสแมช สปลาทูน ก็แทบไม่มีคนเล่นบนแฮนเฮลละ มีเล่นก็ส่วนน้อย

มันคือ แฮนเฮล+คอนโซลอ่ะ เหมือนนินมันรวม 2 เครื่องไว้ในเครื่องเดียวเลย

ผมต่อทีวีตลอด แล้วถ้าใช่หรือไม่ใช่มันจะทำไมในเมื่อมันเป็นคอลดซลและแฮนเฮลได้ในตัว จะอะไรก็ช่างเถอะ

ตัวเครื่องจะเป็น Handheld หรือ Console ขึ้นอยู่กับคนใช้
แต่ตัวเกมที่ออกมา มันเกมคอนโซลชัดๆ

ถ้านินไม่นับมันเป็นคอนโซล อีก3ปี 5ปี นินจะกลับมาทำคอนโซล จะพาลไม่มีที่ยืนเอาครับ ตลาดนี้ใครไปแล้วไปเลย กลับมาใหม่ไม่มีใครกล้าซื้อ

แยกประเด็น ตัวเครื่องมันเป็นได้ทั้ง console และ handheld จริง
ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนเลย

ถามว่าคุณรู้ได้ยังไงว่าคนใช้ส่วนมากใช้เป็น แฮนเฮล
ใช่คุณอาจจะบอกว่าก็เห็นแต่คนเอาไปเล่นนอกบ้าน
ซึ่งก็ใช่เพราะคุณคงไม่ได้เห็นคนที่เขาต่อทีวีเล่นในบ้านในพื้นที่ส่วนตัว

โดยส่วนตัวผมก็ใช้ทั้งต่อทีวี และ แฮนเฮล ถ้าอยู่ในบ้านก็อยากจะต่อทีวีมากกว่าเพราะจอใหญ่กว่าเล่นสะใจกว่า เห็นชัดกว่า
สำหรับผมมันก็เป็นเครื่องไฮบริด 2 ระบบจริงๆ (โดยวัดจากการใช้งานจริง )

ส่วนประเด็นว่า ปู่ พยายามเครมว่าเครื่องนี้เป็นคอนโซลมั้ย
ผมว่าเพราะตอนนั้น 3DS ยังทำตลาดอยู่ เพื่อลดความซ้ำซ้อน คนซื้ออาจจะรู้สึกว่าฉันมีเครื่องพกพาอยู่แล้ว
อาจจะลังเลใจว่าจะซื้อแฮนแฮลเพิ่มอีกเครื่องจะดีรึเปล่า

หรือถ้าปู่ประกาศว่ามันไม่ใช่คอนโซล แฟนนินเทนโด้ก็คงบ่นแน่ถ้าปู่บอกเลิกทำคอนโซลแล้วต่อไปนี้จะเน้นไปทางพกพาอย่างเดียว
การทำให้ NS ต่อ Dock ได้จึงเหมือนเป็นการรักษาแฟนคอนโซลของปู่ไว้ด้วยอีกทางไม่ได้ทิ้ง

และด้วยความที่ถ้า ปู่ หรือ โซนี่ ต้องทำเครื่องแยก เหมือน PS4 Vita หรือ WiiU 3DS
ปัญหาที่ตามมาคือมันยากที่ค่ายตนเองจะผลักดันเกมป้อนให้ทั้้ง 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน
สุดท้ายเมื่อปั้นฐานคนซื้อไม่ขึ้น ค่าย3rd ก็จะเมินหน้าหนี ทำให้ประคองเครื่องทั้ง 2 รุ่นไม่รอด

จะเห็นเลยว่าปีแรกปู่จัดเกมของ NS รัวๆออกทุกเดือน ด้วยความที่ 3rd ก็ยังไม่มั่นใจว่ายอดขายจะดี
ปู่ก็เลยต้องปูทางยอดเครื่องด้วยตัวเอง จึงต้องยุบให้เหลือเครื่องเพียงเครื่องเดียวไม่ใช่จับปลา2มือ

แต่ตอนนี้ในเมื่อ NS ติดตลาดแล้ว ค่าย 3rd ก็คงจะทยอยๆจัดเกมมาลงให้เรื่อยๆ
ก็ไม่แน่นะถ้า NS ตัวเครื่องมันไปได้ดีด้วยตัวมันเองแล้ว
ก็อาจจะไม่แปลกถ้าปู่จะทำเครื่องคอนโซลเพียวๆ(ใส่ลูกเล่นให้ไม่เหมือนค่ายอื่น)ออกมาอีกตัวในอนาคต
แล้วดัน NS ให้เป็นเครื่องแฮนแฮลเพียวๆ

ส่วนราคา ผมจำได้ว่าตอน psvita เปิดตัวก็ราคา เกือบหมื่นบาทเหมือนกัน
ส่วน 3DS จำได้ว่าเปิดตัวประมาณ 7-8พัน
ในขณะที่ NS ราคาเปิดตัวประมาณ 9 พัน

ไม่เยอะหรอก ก็แค่วิเคราะห์ไปตามความจริง ถ้าจะพูดให้ตรงกว่านั้น จากเดิมที่นินแยกตลาดคอนโซลกับ handheld ออกจากกันอย่างชัดเจน โดยมี 3ds กับ wiiu เป็นตัวแทน ทีนี้ฟากคอนโซล wiiu อาการร่อแร่ และดูทิศทางลมแล้วก็ยากจะไปต่อสู้ตรง ๆ กับ ps4 ก็เลยจัดการรวมตลาดตัวเองทั้งคอนโซลและ handheld ให้เป็นอันเดียวกันซะเลย (ตลาด handheld นินชนะมาตลอด และชนะขาดลอยด้วย และถ้านับแค่ยอดขายก็เยอะกว่า ps4 ด้วย) ....พูดให้ง่ายกว่านี้ NS มันก็คือรุ่นถัดไปของ 3ds นั่นเอง แต่นินเลือกที่จะไม่บอกแบบนี้เพราะเดี๋ยวจะกระทบยอดขาย 3ds ซึ่งก็ยังไปได้ดีอยู่ในขณะนั้น นินเลือกที่จะบอกว่ามันเป็น console มากกว่า เพราะนอกจากจะไม่ไปดึงตลาด 3ds ตัวเองแล้ว ก็ยังได้เก็บฐานลูกค้าคอนโซลตัวเองไปด้วย แถมราคาอ้างอิงคอนโซลมันก็สูงกว่าแฮนเฮลด้วย ......

ถ้าผมคิดถูก... มันจะยืนยันโดยการที่เราจะไม่เห็น handheld รุ่นถัดไปจาก 3ds อีกแล้ว(ถ้ายังจะนิยามว่า NS เป็นคอนโซลนะ) เพราะว่า NS มันแทนที่ 3ds ไปด้วยตัวมันเองหมดแล้ว แต่ถ้าผมคิดผิดนินก็ควรจะออก handheld เจนใหม่มาแทน 3ds สักที

ปล... และอย่างที่คุณ Meva บอก"หรือถ้าปู่ประกาศว่ามันไม่ใช่คอนโซล แฟนนินเทนโด้ก็คงบ่นแน่ถ้าปู่บอกเลิกทำคอนโซลแล้วต่อไปนี้จะเน้นไปทางพกพาอย่างเดียว การทำให้ NS ต่อ Dock ได้จึงเหมือนเป็นการรักษาแฟนคอนโซลของปู่ไว้ด้วยอีกทางไม่ได้ทิ้ง" >>>>> อันนี้เห็นด้วยครับ และจริง ๆ จะบอกว่านินเลิกทำคอนโซลไปแล้วก็ได้ นินเลือกที่จะทำตลาด handheld ที่ตัวเองได้เปรียบเท่านั้น ส่วน dock เป็นแค่การใส่มาเพื่อให้ยังพอมีข้ออ้างว่าฉันยังมีความเป็นคอนโซลอยู่นะ ซึ่ง dock ที่ว่าไม่ได้ต่างอะไรกับ psvita tv เลย(ถ้าแบบนั้นเราควรจะเรียก vita ว่าเป็นคอนโซลด้วยได้หรือไม่) ดังนั้นการมี dock มันก็เป็นเหมือนมีไว้กันโดนแฟน ๆ ด่า หรือมีไว้เพื่อไม่ให้เสียหน้าว่าถอนตัวออกจากตลาดคอนโซลนั่นเอง

เกมส์ที่ออกมาถ้าเป็นคอนโซลจริงมันต้องเทียบกับ ps4 หรือ xb1 สิครับ แต่ความเป็นจริงคือเวอชัน NS จะดรอปตลอด มันไม่ต่างอะไรกับเกมส์ที่มีเวอชัน ps4 แล้วก็มีเวอชัน psvita

วิเคราะห์ไปตามจริงนี่จากอะไรครับ คืออย่างที่บอก จากที่เข้าสังคมนินสวิชสัดส่วนคนเล่นแฮนเฮล์กะต่อด้อคนี่ก็ไม่ได้ต่างกันเลย ส่วนไอ้เรื่องที่ว่าภาพมันดรอปลงละตัดสินว่ามันเป็นแฮนเฮลนี่ก็ไม่ใช่ละ แถมเกมส์ระดับบ Aaa มันก็มีลง ถึงจะเป็นเกมส์ของปู่กะเกมส์พอรทซะเยอะก็เถอะ กรณีเกมส์ aaa จากค่ายอื่นเขาก็อยากทำลงขายด้วยนั่นล่ะ ติดตรงสเป็คมันไม่ไหวก็เลยลงไม่ได้แค่นั้นล่ะ

คอนเซป dockต่อจอ นั้นเป็นทั้งการเล่นต่อบนทีวีเมื่อแบทหมด และเล่นเกมในครอบครัวครับ
แบทความจุต่ำจนเกมขาดช่วงก็แก้ด้วยการต่อdockเล่นต่อ และ
ยังไงโหมดพกพาก็เล่น2คน4คนไม่รุ่งครับ
กิมมิค ด๊อก และ โมชั่น และ แยกเป็น2จอย มีไว้รักษาตลาดเกมปาร์ตี้ ที่นินครองมาตลอดหลายสิปปีไม่ให้หายไป
คอนเซปnswมีมาตั้งแต่ sega nomad และ pspgoครับ
พวกเขาเสนอนวตกรรมเดียวกัน แต่เอาชนะจริตลูกค้าไม่ได้ nswทำได้ก็เพราะนำเสนอเป็นธรรมชาติกว่า มีเกมแม่เหล็ก และความภัคดีต่อแบรนสูงกว่า

ขอแย้งนะครับ
ถ้าคอนโซลวัดจากสเป็คทุกยุคคอนโซล ก็มีเครื่องที่สเป็คต่ำสุด
มันจะมีเครื่องที่เกมเดียวกันแต่ภาพแย่สุดในแต่ละเจน
แต่ประเด็นคือมันเป็นเกมตัวเดียวกัน (ต่างกันที่สเป็คแต่ละเครื่องทำได้ไม่เท่ากัน)

แนวคิดปู่ไม่ได้เน้นไม่ได้แข่งเรื่องสเป็คอยู่แล้ว
พวกเขาไม่ได้ออกแบบเครื่องที่ภาพสวยสุด
เขาขายไอเดียในการเล่น ในการใช้งาน
ที่จริงมันก็เป็นเครื่องที่มีไอเดียใหม่ๆ มีความสร้างสรรใหม่ๆในบางแง่ที่เหนือกว่าอีก2ยี่ห้อเหมือนกัน
(ก็คิดคนละคอนเซปอ่ะนะ)

อาจจะไม่ใช่ newhardware แต่ก็มี newidea ใหม่ๆอยู่ในตัวมันเอง

Vita ต่อทีวีได้แต่ตัวคอนเซปเครื่องมันไม่ได้มีความเป็น โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์

แต่กับNS คงด้วยเพราะแนวเกมส์ของปู่ คอนเซปของเครื่อง
การต่อออกทีวีเล่นกันเป็นกลุ่มได้
มันมีความเป็นโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์
มันไม่ใช่ความรู้สึกของเกมส์กดที่เล่นคนเดียว
อย่างที่บอกมันมีความผสมผสานหลายๆอย่างจนเหมือนกับว่ามันเข้ากับคนได้หลายกลุ่ม

เลยไม่แปลกใจที่เรามานั่งเถียงกันว่าตกลงNS เป็นเครื่องแนวไหนกันแน่
เพราะเราต่างก็ใช้ NS ในแบบฉบับของเราเอง
บางคนเล่นในบ้าน บางคนเล่นนอกบ้าน
บางคนใช้เล่นคนเดียว บางคนใช้เล่นกันเป็นหมู่คณะ
บางทีคำตอบอาจไม่มีถูกไม่มีผิด เหมือนกับที่ปู่อยากให้ NS ตอบโจทย์คนได้หลายๆกลุ่ม

อันนี้ก็เห็นด้วยนะครับ
เกมแนวปาร์ตี้ของปู่ถ้าไม่สามารถต่อเล่นบนทีวีได้คงเสียความเฮฮาปาร์ตี้ไปพอสมควร

กับกิมมิคของจอยคอนที่ต้องถอดออกจากเครื่อง
เพื่อที่จะใช้ฟังค์ชั่นของมัน

ชอบแบบนั้นรึครับ เป็นผู้ตามไม่คิดนวัตกรรมใหม่ๆให้คนเล่นบ้าง

คือจะบอกว่านินเทนโดเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเรอะ ?

คู่แข่งนินคือ สมาทโฟนครับ

นินไม่ได้แข่งกะใคร นินทำเกมลงสมาร์ทโฟน เกมนินใช้แอ๊ปแชทสุดเงอะงะ
ในการคุยในเกม ถ้าถามว่าใครเป็นมิตรกับมือถือมากสุดน่าจะเป็นนิน
ถ้าถือว่าสมาร์ทโฟนเป็นคู่แข่งของเกมคอลโซล นั่นอย่างงั้นน่าจะเป็นกันทั้งตลาด

นินไม่ได้ผูกขาด ผูกขาดคือถือสิทธิหาประโยชน์หรือครอบครองไว้แต่ผู้เดียว
นินไม่ได้ห้ามหรือมีสิทธไม่ให้ใครผลิตเกมมือถือ หรือเครื่องไฮบริจแต่อย่างใด

ผมต่อให้นินเทนโด+ โซนี่+ ไมโครซอฟ
ยังเเพ้ตลาดเกมมือถืออยู่เลย เเต่ปู่นินกับโซนี่ อยู่ร่วมกับเกมมือถือเป็น
ทั้งสองค่ายก็มีส่วนในการทำเกมมือถือด้วย

คู่แข่งนินคือ ตวามคิดว่า เล่นเกมนอกบ้านแค่มือถือก็พอแล้ว นั่นละครับ
ความคืดนี้ทำลายตลาดnew3ds vita เละ
นินไม่ได้แข่งกะมือถือเพราะทุกคนมีมือถือเรียบร่อยแล้ว
ส่วนที่นินลงเกมบนมือถือ ก็เพื่อหาเงินจากกลุ่มทีี่ี่ไม่มีทางดึงกลับมาได้แล้ว

ขอตัวอย่างนโยบายแปลกๆหน่อยอ่ะคับ???

เก็บค่าต๋งคนทำ video youtube ไง
เพิ่งมาเลิกตอน Smash เนี่ยแหละ คิดถูกมาก
Clip montage ฮาๆ smash โคตรเยอะ
Free promotional ชัดๆ

ผมชอบพวก xxx is OP, is Broken พวกนี้ฮาดี

นโยบายนี้ออกตอนปู่เป็นที่1? แล้วแค่เก็บตังยูทูปเบอร์มันมีผลกับคนเล่ยเกมส่วนใหญ่?

โซนี่เป็นที่ 1 ก็จัดเซ็นเซอร์ เซอร์วิส มาเต็มๆ อิอิ
ยังดีหลังๆ มายอมคอสแพลทฟอร์มกับคนอื่น(บางเกม)
ต้องให้นินแยกตลาดนมให้หมด

นโยบายนี้ มันจำกัดเฉพาะเกมninนะครับ ไม่ได้เกี่ยวกับเทริดปาร์ตี้เลย
มันก็มาจากเกมของปู่ขายกลุ่มเด็ก
ไม่ได้ขายฉากCGอลังการ แต่ขายการดีไซด์ฉากดีไซด์เกม
ปู่อยากให้เด็กอยากเล่นจนไปร้องงองแงให้พ่อแม่ซื้อให้
แต่ถ้าเด็กไปเปิดyoutuberดังๆเล่นเกมโชว์ให้ดู มันก็กลบความอยากได้
เพราะ เด็ก ไม่มีกำลังซื้ออยู่ที่พลังอ้อนเท่านั้น
แต่ตอนนี้ปู่ยกเลิกนโยบายนี้แล้ว ส่วนนึงผมมองว่าเพราะปู่ไม่เน้นกลุ่มเป้าหมายเด็กบนเครื่องNSWแล้ว

ผมมองว่า youtube มัน เป็นดาบ 2 คมครับ ถ้าเป็นเกมเน้นเนื้อเรื่อง คนเห็นฉากจบก็คงลดความอยากได้ แต่เกมอีกแนวที่มันไม่เน้นเนื้อเรื่อง แต่เน้นการเล่นซ้ำ หรือการแข่งขันกัน อย่าง arm splatoon โอ้คาร์ท หรือเกมที่มีอะไรให้ทำเยอะๆ อย่าง zelda หรือโอ้ดิสซี่ พวกนี้ผมว่าการมีวิดีโอมันเป็นผลบวกมากกว่า ผมดูวิดีโอสแมชแล้วบางทีก็หยิบเกมมาเล่นต่อเลย

ส่วนนโยบาย ตอนเป็นที่ 1 จริงๆย้อนไปดูตอนยุคปู่ยามาอุจิก็ได้นะครับ แต่เอาจริงๆ เรียกนโยบายคงไม่ได้ แต่น่าจะเป็นความเป็นตัวตนของปู่ยามาอุจิมากกว่า (นึกภาพนักธุรกิจญี่ปุ่นแก่ๆ โหดๆ น่ะครับ) แล้วแกไม่เล่นเกมเลย แต่มีกึ๋นที่จะเชื่อคนเก่งๆ อย่างลุงมิยาโมโต้