ผมว่าสนุกกว่า 6-7 นะ

ตอนดู 7 ที่บอกนักเลงตีกันตอนท้ายนี่รู้สึกเพ้อเจ้อมาก

จริงๆองก์สามก็เพ้อเจ้อนะ แต่รวมๆสนุกกว่า 6-7

ถ้าภาค 9 ออกอวกาศจริง ภาค 10 ก็คงไปตีกับ ID4 หรือไม่ก็ไปขับทรานส์ฟอเมอร์กันแล้วล่ะ

ผมก็เป็นแฟนเรื่องนี้นะ ชอบมากอยู่ ยิ่งถ้าเอาภาค 1-7 มาเปิดเรียงกันนั่งดูทั้งวัน จะยิ่งรู้สึกได้ถึงความเว่อร์วังที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอ่ะ 555

ตกลงภาคนี้ไม่มีจาพนมใช่ใหมครับ?

- เปิดตัววันแรกในสหรัฐ 45 ล้านดอลลาร์
- เปิดตัววันแรกใน "จีน" 65 ล้านดอลลาร์

ภาค 9 อาจไปซิ่งที่ปักกิ่งก็ได้นะ

4-6 ของจัสติน ลิน คืนชีพให้ซีรี่ส์ และปรับเปลี่ยนให้หนังเป็น"แอ็คชั่นอาชญากรรม" มีความดิบแบบหนังยุค 70 ผสมอยู่ 4-5 นี่ดิบเถื่อน นำเสนอความรุนแรง ไล่ตั้งแต่ต้นเรื่องภาค 4 จนถึงฉากลากตู้เซฟท้ายภาค 5

พอขึ้นภาค 7 ผู้สร้างกับผกก.เจมส์ วาน สร้างแนวทางให้หนังใหม่ เป็นหนังแนวพยัคฆ์ร้ายสายลับ ทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้แบบซีรี่ส์ MI ทำโครงสร้างของบทหนังใหม่ มีองค์กรลับ มีผู้ร้ายประจำภาค มีพวกพระเอก และก็มีศัตรูคู่ปรับของพระเอก

แต่ 8 ก็มีการปรับโครงสร้างอีก คือรวมทีมกันให้มันเหลือแค่ฝ่ายพระเอกกับผู้ร้าย ผู้สร้างคงอยากให้หนังดูง่าย ไม่ซับซ้อนมากเกินไป ไหนจะมีเรื่องของดอม ไหนจะตัวละครใหม่ แต่ข้อเสียคือภาค 8 นี่บท"เลื่อนเปื้อน"มาก แย่สุดในซีรี่ส์

ข้อดีของ 8 คือการจัดเรียงไคล์แมกซ์ คือความมันส์ในท้ายเรื่องเป็นไคล์แมกซ์ที่สุดของหนัง ซึ่ง 7 เหมือนเจมส์ วานจะคุมช่วงท้ายไม่อยู่ ช่วงท้ายแผ่ว แต่โดยรวม 7 ดีกว่า 8 ต้นเรื่อง กลางเรื่อง ฉากโดดร่ม, ขับรถข้ามตึกที่น่าจะเป็นฉากคลาสสิคของซีรี่ย์นี้, คิวบู๊สไตล์ Martial art ของ7 ก็โดดเด่นสุดในซีรี่ส์, ไหนจะปิดท้ายกับ "See you again"

9-10 ? รอดู

ขอถามเกี่ยวกับชอว์นิดเดียวครับ มีช่วงที่นั่งดูละเหม่อลอยไปหน่อย เลยตามไม่ทัน



ละก็คนนี้น่ารักสุดครับสําหรับผม

ชอบแรมซีย์ฉากสุดท้าย(จริงๆน้องก็น่ารักหลายฉากแต่ตอนท้ายนี่ประกายวิ้งมาก ทรงนี้ทำนางดูดีขึ้นเยอะจากที่ไปค้นรูปน้องในกูเกิ้ล)

หนังบันเทิงดีเสียก็แค่ฉากที่เราน่าจะตื่นตาตื่นใจดันยัดใส่ตัวอย่างไปแล้ว

แต่ยังไงภาคที่ชอบก็ยังเป็นภาคสาม ไม่ชอบมีสองกับสี่

ไปไล่ดูอีกรอบมาทั้งหมด 8 ภาค หนังสนุกทุกภาคครับ
ขอจัดอันดับความชอบส่วนตัวจากมากไปน้อย พร้อมเหตผลสั้นๆอย่างงี้

1 ภาค1 มันไม่่ได้สนุกกว่าแต่มันคือจุดเริ่มต้น มันสำคัญ และมีความหมายมาก เลยทำให้สนุกกว่า

2 ภาค8 หนังบันเทิงดี ดูสนุกตลอดเรื่อง

3 ภาค5 เป็นภาคที่ยกระดับการโจรกรรม ความสนุก อลังการเพิ่มขึ้นด้วย

4 ภาค2 ไบรอัน จับคู่กับ โรมัน ทั้งฮาทั้งมันส์ดี แต่ตอนนัันคาแรคเตอร์โรมันยังไม่ฮาเท่าปัจจุบัน

5 ภาค7 ภาคนี้สนุกดีนะ ทั้งเจสันปรากฏตัว ทั้งแย่งกันหาตาเทพ
แต่ดอมมันจะอึดไปไหม อย่างกะโรโบคอบ ขับรถดิ่งเหวเป็นว่าเล่น ทำยังกะหนังแอ็คชั่นอินเดีย เว่อร์เกินจะรับไหว แฮ่

6 ภาค4 จุดที่ไบรอันได้เลือกเส้นทางเต็มตัว

7 ภาค6

8 ภาค3 ภาคนี้ไม่อยากจะนับ ทำมาดีนะ ฉากขับรถ ฉากดริฟ แต่บทพระเอก ตัวร้าย ฮาน มันเด็กเกรียนชัดๆ
เลยดรอปความสนุกของหนังไปมากโขเลย

ใครชอบแรมซี่ไปหา GoT ดูได้เลยครับ

ตามลำดับความชอบ

- Fast & Furious (2009) เป็นภาคที่ชอบที่สุด ถ้าเริ่มดูตั้งแต่ภาค The Fast and the Furious (2001) > The Turbo Charged Prelude for 2 Fast 2 Furious (2003) > 2 Fast 2 Furious (2003) > Fast & Furious (2009) จะเห็นพัฒนาการของ Brian O'Conner (Paul Walker) ชัดเจนมาก การแต่งรถเปลี่ยนจากติดไฟนีออน ตัวรถสีจี๊ดๆบวกสติ๊กเกอร์ลายพ้อยกับเครื่องเสียงเทพๆมาเป็นรถภายนอกเดิมๆแต่เน้นที่เครื่องแทน การแบ่งฝั่งรสนิยมความชอบของ Dominic Toretto (Chevrolet Chevelle SS 1970 ภาคแรกแกขับ Mazda RX-7) กับ Brian O'Conner (Nissan Skyline GT-R R34) ชัดเจนดี ฉากแข่งรถดูสนุกบทสนทนาเจ๋งดี(ถ้าไล่ดูตามที่บอก555)
- The Fast and the Furious (2001) จุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ฉากเปิดตัวด้วย Honda Civic Coupé เท่มาก....ถ้าอยากได้เวลาก็ไปซื้อ TIME 555
- 2 Fast 2 Furious (2003) เปิดตัว Nissan Skyline GT-R R34 แบบเต็มตัว ฉากแข่งรถเปลี่ยนจาก Drag มาเป็น Street Racing แล้วเฟ้ย(ร่วมถึงการแต่งตัวแบบ Street Style เท่ๆของ Paul Walker พร้อมกับมุกฝีดๆของ Roman Pearce)
- The Fast and the Furious: Tokyo Drift (2006) การแข่งเป็น Drift ตามสมัยนิยม Han Lue กับ Mazda RX-7 Veilside เท่มาก แต่รับไม่ได้กับ Sean Boswell และฉากที่ Ford Mustang 1967 วางเครื่อง RB26DETT แข่งชนะ Nissan 350Z ในฉากสุดท้าย

ต่อไปก็ภาคแอคชั่น Fast Five (2011) > Furious 6 (2013) > The Fate of the Furious (2017) > Furious 7 (2015) ตามลำดับ