มาแล้ว!! 5 อันดับ��าพยนตร์ที่แป้กและปังเหนือความคาดหมายมากที่สุดประจำปี 2016
อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปี 2016 หรือ 2559 กันแล้ว ทาง Variety จึงได้โอกาสในการรวมรายชื่อ 5 อันดับของภาพยนตร์ประจำปีนี้ ที่โดดเด่นในด้านแป้กที่สุดหรือปังมากที่สุดอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งแน่นอนว่าภาพยนตร์ที่เชื่อว่าจะปังอยู่แล้วอย่าง Finding Dory, Captain America: Civil War, Suicide Squad หรือ Batman v Superman: Dawn of Justice ก็จะไม่ติดรายชื่อเหล่านี้ เอาล่ะ ทำใจพร้อมกันแล้วก็ไปลุยกันได้เลย!!
เหล่าภาพยนตร์แสนแป้กในปีนี้
- Billy Lynn’s Long Halftime Walk (TriStar) -
แม้ชื่อภาพยนตร์อาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตาใครหลายคนเท่าไรนัก แต่เชื่อว่าชื่อผู้กำกับอย่าง อัง ลี เจ้าของผลงานโด่งดังอย่าง Crouching Hidden Tiger Dragon (2000) หรือ Life of Pi (2012) จะต้องเคยผ่านตา ผ่านหูกันมาบ้าง แต่ดูเหมือนว่าชื่อของตัว อัง ลี ก็ยังไม่มากพอที่จะช่วยตัวภาพยนตร์ออกมาจากบัญชีติดลบได้ ตัวภาพยนตร์ใช้ทุนสร้างไป 40 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ BoxOffice ทั่วโลกตอนนี้กลับทำตัวเลขไปเพียง 30.93 ล้านเหรียญเท่านั้น
- The BFG (Disney) -
แม้ค่ายเจ้าหนูดิสนีย์จะมีภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากมายในปีนี้ แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่าแม้แต่ดิสนีย์เองก็ติดโผภาพยนตร์สุดแป้กในปีนี้ถึง 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกเป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหญิงและยักษ์ผู้ใจดี The BFG ซึ่งยิ่งกว่า Billy Lynn's คือตัวภาพยนตร์ได้ผู้กำกับที่เชื่อว่าไม่มีใครที่จะไม่รู้จักอย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก มากำกับภาพยนตร์ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามตัวภาพยนตร์กลับไม่ค่อยทำเงินเท่าไรนัก
ดิสนีย์ใช้ทุนสร้างกับ BFG ไป 140 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ BoxOffice ทั่วโลกกลับทำไปเพียง 178.08 ล้านเหรียญ งานนี้ถ้ารวมค่าโฆษณาหรือด้านอื่นๆก็อาจจะมีติดลบกันบ้างล่ะครับ
- The Divergent Series: Allegiant (Lionsgate) -
อุส่าห์ลากสังขารมาได้ถึงภาคที่สามสำหรับแฟรนไชส์ดิสโทเปียซึ่งสร้างมาจากวรรณกรรมชื่อดังอย่าง The Divergent Series ตัวภาพยนตร์ใช้ทุนสร้างไป 110 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ตัวเลข BoxOffice ดันไปหยุดที่ 179.2 ล้านเหรียญเท่านั้น น้อยกว่าภาคที่แล้วอย่าง Insurgent มากกว่า 100 ล้านเหรียญ (Insurgent ทั่วโลก 297.27 ล้านเหรียญ) ส่งผลทำให้ Lionsgate ย้ายภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ไปเป็นภาพยนตร์ฉายทางช่องโทรทัศน์ แต่ตอนนี้ข่าวคราวก็เงียบมากจนแม้กระทั่งโอกาสที่เราจะได้เห็นบทสรุปของตัวละครเอกอย่างทริซก็ดูจะยิ่งริบหรี่ลงทุกทีแล้วละครับ
- Ben-Hur (MGM) -
ณ ตอนนี้แม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็ไม่อาจเข้าใจได้ว่าทาง MGM คิดอะไรอยู่ถึงได้ตัดสินใจลงทุนไปสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ กับการรีเมคหนึ่งในภาพยนตร์ที่กลายเป็นตำนานตลอดกาลในโลกภาพยนตร์อย่าง Ben-Hur ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตัวภาพยนตร์ฉบับนี้นอกจากจะโดนติโดยนักวิจารณ์แล้ว ยังทำเงินบน BoxOffice ทั่วโลกเพียง 94.06 ล้านเหรียญ ส่งภาครีเมคเข้ามาอยู่ในรายชื่อหนึ่งในผลงานที่แป้กที่สุดของปีนี้
- Alice Through the Looking Glass (Disney) -
แม้เอาเข้าจริง Alice Through the Looking Glass ก็ไม่น่าจะขาดทุนอะไรมากมายด้วยตัวเลขทั่วโลกบน BoxOffice ที่ 299.45 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 170 ล้านเหรียญ แต่เมื่อเทียบกับภาคแรกซึ่งกวาดเงินจากทั่วโลกไปสูงถึง 1,025 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว ก็เป็นสาเหตุที่ส่งภาคต่อนี้เข้ามาอยู่ในรายชื่อนี้อย่างง่ายดาย
เหล่าภาพยนตร์ที่ปังแสนปังในปีนี้
- Deadpool (Fox) -
ในที่สุดความพยายามของนักแสดง ไรอัน เรย์โนลด์ หลังจากประสบความล้มเหลวกับภาพยนตร์หลากหลายเรื่องและพยายามดันโปรเจค Deadpool ขึ้นมาใหม่ก็ได้รับการตอบแทนเนื่องจากภาพยนตร์ Deadpool กลายเป็นหนึ่งในผลงานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปีนี้
Fox ลงทุนลงแรงกับ Deadpool ไปเพียง 58 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ซุปเปอร์ฮีโร่โคตรเกรียนเรื่องนี้กลับกวาดเงินจาก BoxOffice ทั่วโลกสูงถึง 783.11 ล้านเหรียญ ครองตำแหน่งอันดับสองของภาพยนตร์เรท R ที่ทำเงินในอเมริกาสูงที่สุดเป็นรองเพียง The Passion of the Christ (2004) แถมยังครองตำแหน่งภาพยนตร์เรท R ที่เปิดตัวในอเมริกาสูงที่สุดตลอดกาลอีกด้วย ส่งผลทำให้ภาพยนตร์หลากหลายเรื่องที่กำลังเตรียมสร้างในขณะนี้เริ่มมีความมั่นใจในการทำภาพยนตร์ของตนให้เป็นเรท R มากขึ้น และแน่นอนว่าด้วยความสำเร็จเช่นนี้ทาง Fox ก็พยายามรีบดันภาคต่อออกมาให้เราได้ชมกันเร็วที่สุดอีกด้วย
- Rogue One: A Star Wars Story (Disney) -
แม้จะมีชื่อ Star Wars แปะอยู่ในชื่อเรื่องเหมือนกัน แต่ Rogue One ก็เป็นผลงานภาพยนตร์ภาคแยก (Spin-Off) ครั้งแรกของแฟรนไชส์สงครามดวงดาว ซึ่งไม่ได้แค่ปังธรรมดา แต่โคตรปัง ดิสนีย์ลงทุนไปกับ Rogue One ค่อนข้างมากที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ตัวภาพยนตร์เองก็เปิดตัวบน BoxOffice แรงไม่แพ้กันที่ 388.12 ล้านเหรียญ และยังคงเดินหน้าทำเงินต่อไป งานนี้ตัวเลขจะไปจบที่เท่าไรก็ต้องมาลุ้นกันละครับ
- The Secret Life of Pets (Universal) -
เหล่าทีมงานจากสตูดิโอ illumination เจ้าของผลงานอย่าง Despicable Me และ Minions ยังคงประสบความสำเร็จต่อไป โดยเฉพาะ The Secret Life of Pets ในปีนี้ที่กวาดเงินไปทั่วโลกแล้วกว่า 875.33 ล้านเหรียญสหรับ ทั้งๆที่ใช้ทุนสร้างเพียง 75 ล้านเหรียญ ซึ่งถ้าหากท่านใดที่คิดถึงผลงานของพวกเขา บ้านเราภาพยนตร์แอนิเมชั่นอย่าง Sing จากสตูดิโอเดียวกันก็เข้าฉายแล้วในขณะนี้ครับ
- Sully (Warnor Bros.) -
ทอม แฮงส์ และคลินต์ อีสต์วูด แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์อันแสนเหนือชั้นอีกครั้งในผลงานอย่าง Sully ในปีนี้ ซึ่งทำเงินจากทั่วโลกไป 228.35 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยทุนสร้าง 60 ล้านเหรียญ
- Don’t Breathe (Sony/Screen Gems) -
รู้สึกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์สยองขวัญ/ระทึกขวัญลงทุนต่ำจะประสบความสำเร็จยิ่งกว่าภาพยนตร์ที่ลงทุนหลักร้อยล้านเสียอีก ซึ่งตัวอย่างที่มีให้เห็นล่าสุดเลยก็คือ Don't Breathe ของผู้กำกับ Evil Dead ฉบับรีเมค ตัวภาพยนตร์ลงทุนไปเพียง 9.9 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ BoxOffice ทั่วโลกกลับปังสุดๆ กวาดเงินไปสูงถึง 153.21 ล้านเหรียญ งานนี้ก็ต้องมารอดูกันละครับว่าภาคต่อจะระทึกและจะประสบความสำเร็จเท่ากับภาคแรกหรือไม่
ท่านคิดว่ามีภาพยนตร์เรื่องใดอีกในปีนี้ที่ตัวเลขบน BoxOffice เซอร์ไพรซ์ท่านมากที่สุด ? แสดงความคิดเห็นได้ด้านล่างเลยจ้า
ref: [Link]
เหล่าภาพยนตร์แสนแป้กในปีนี้
- Billy Lynn’s Long Halftime Walk (TriStar) -
แม้ชื่อภาพยนตร์อาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตาใครหลายคนเท่าไรนัก แต่เชื่อว่าชื่อผู้กำกับอย่าง อัง ลี เจ้าของผลงานโด่งดังอย่าง Crouching Hidden Tiger Dragon (2000) หรือ Life of Pi (2012) จะต้องเคยผ่านตา ผ่านหูกันมาบ้าง แต่ดูเหมือนว่าชื่อของตัว อัง ลี ก็ยังไม่มากพอที่จะช่วยตัวภาพยนตร์ออกมาจากบัญชีติดลบได้ ตัวภาพยนตร์ใช้ทุนสร้างไป 40 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ BoxOffice ทั่วโลกตอนนี้กลับทำตัวเลขไปเพียง 30.93 ล้านเหรียญเท่านั้น
- The BFG (Disney) -
แม้ค่ายเจ้าหนูดิสนีย์จะมีภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากมายในปีนี้ แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่าแม้แต่ดิสนีย์เองก็ติดโผภาพยนตร์สุดแป้กในปีนี้ถึง 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกเป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหญิงและยักษ์ผู้ใจดี The BFG ซึ่งยิ่งกว่า Billy Lynn's คือตัวภาพยนตร์ได้ผู้กำกับที่เชื่อว่าไม่มีใครที่จะไม่รู้จักอย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก มากำกับภาพยนตร์ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามตัวภาพยนตร์กลับไม่ค่อยทำเงินเท่าไรนัก
ดิสนีย์ใช้ทุนสร้างกับ BFG ไป 140 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ BoxOffice ทั่วโลกกลับทำไปเพียง 178.08 ล้านเหรียญ งานนี้ถ้ารวมค่าโฆษณาหรือด้านอื่นๆก็อาจจะมีติดลบกันบ้างล่ะครับ
- The Divergent Series: Allegiant (Lionsgate) -
อุส่าห์ลากสังขารมาได้ถึงภาคที่สามสำหรับแฟรนไชส์ดิสโทเปียซึ่งสร้างมาจากวรรณกรรมชื่อดังอย่าง The Divergent Series ตัวภาพยนตร์ใช้ทุนสร้างไป 110 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ตัวเลข BoxOffice ดันไปหยุดที่ 179.2 ล้านเหรียญเท่านั้น น้อยกว่าภาคที่แล้วอย่าง Insurgent มากกว่า 100 ล้านเหรียญ (Insurgent ทั่วโลก 297.27 ล้านเหรียญ) ส่งผลทำให้ Lionsgate ย้ายภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ไปเป็นภาพยนตร์ฉายทางช่องโทรทัศน์ แต่ตอนนี้ข่าวคราวก็เงียบมากจนแม้กระทั่งโอกาสที่เราจะได้เห็นบทสรุปของตัวละครเอกอย่างทริซก็ดูจะยิ่งริบหรี่ลงทุกทีแล้วละครับ
- Ben-Hur (MGM) -
ณ ตอนนี้แม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็ไม่อาจเข้าใจได้ว่าทาง MGM คิดอะไรอยู่ถึงได้ตัดสินใจลงทุนไปสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ กับการรีเมคหนึ่งในภาพยนตร์ที่กลายเป็นตำนานตลอดกาลในโลกภาพยนตร์อย่าง Ben-Hur ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตัวภาพยนตร์ฉบับนี้นอกจากจะโดนติโดยนักวิจารณ์แล้ว ยังทำเงินบน BoxOffice ทั่วโลกเพียง 94.06 ล้านเหรียญ ส่งภาครีเมคเข้ามาอยู่ในรายชื่อหนึ่งในผลงานที่แป้กที่สุดของปีนี้
- Alice Through the Looking Glass (Disney) -
แม้เอาเข้าจริง Alice Through the Looking Glass ก็ไม่น่าจะขาดทุนอะไรมากมายด้วยตัวเลขทั่วโลกบน BoxOffice ที่ 299.45 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 170 ล้านเหรียญ แต่เมื่อเทียบกับภาคแรกซึ่งกวาดเงินจากทั่วโลกไปสูงถึง 1,025 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว ก็เป็นสาเหตุที่ส่งภาคต่อนี้เข้ามาอยู่ในรายชื่อนี้อย่างง่ายดาย
เหล่าภาพยนตร์ที่ปังแสนปังในปีนี้
- Deadpool (Fox) -
ในที่สุดความพยายามของนักแสดง ไรอัน เรย์โนลด์ หลังจากประสบความล้มเหลวกับภาพยนตร์หลากหลายเรื่องและพยายามดันโปรเจค Deadpool ขึ้นมาใหม่ก็ได้รับการตอบแทนเนื่องจากภาพยนตร์ Deadpool กลายเป็นหนึ่งในผลงานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปีนี้
Fox ลงทุนลงแรงกับ Deadpool ไปเพียง 58 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ซุปเปอร์ฮีโร่โคตรเกรียนเรื่องนี้กลับกวาดเงินจาก BoxOffice ทั่วโลกสูงถึง 783.11 ล้านเหรียญ ครองตำแหน่งอันดับสองของภาพยนตร์เรท R ที่ทำเงินในอเมริกาสูงที่สุดเป็นรองเพียง The Passion of the Christ (2004) แถมยังครองตำแหน่งภาพยนตร์เรท R ที่เปิดตัวในอเมริกาสูงที่สุดตลอดกาลอีกด้วย ส่งผลทำให้ภาพยนตร์หลากหลายเรื่องที่กำลังเตรียมสร้างในขณะนี้เริ่มมีความมั่นใจในการทำภาพยนตร์ของตนให้เป็นเรท R มากขึ้น และแน่นอนว่าด้วยความสำเร็จเช่นนี้ทาง Fox ก็พยายามรีบดันภาคต่อออกมาให้เราได้ชมกันเร็วที่สุดอีกด้วย
- Rogue One: A Star Wars Story (Disney) -
แม้จะมีชื่อ Star Wars แปะอยู่ในชื่อเรื่องเหมือนกัน แต่ Rogue One ก็เป็นผลงานภาพยนตร์ภาคแยก (Spin-Off) ครั้งแรกของแฟรนไชส์สงครามดวงดาว ซึ่งไม่ได้แค่ปังธรรมดา แต่โคตรปัง ดิสนีย์ลงทุนไปกับ Rogue One ค่อนข้างมากที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ตัวภาพยนตร์เองก็เปิดตัวบน BoxOffice แรงไม่แพ้กันที่ 388.12 ล้านเหรียญ และยังคงเดินหน้าทำเงินต่อไป งานนี้ตัวเลขจะไปจบที่เท่าไรก็ต้องมาลุ้นกันละครับ
- The Secret Life of Pets (Universal) -
เหล่าทีมงานจากสตูดิโอ illumination เจ้าของผลงานอย่าง Despicable Me และ Minions ยังคงประสบความสำเร็จต่อไป โดยเฉพาะ The Secret Life of Pets ในปีนี้ที่กวาดเงินไปทั่วโลกแล้วกว่า 875.33 ล้านเหรียญสหรับ ทั้งๆที่ใช้ทุนสร้างเพียง 75 ล้านเหรียญ ซึ่งถ้าหากท่านใดที่คิดถึงผลงานของพวกเขา บ้านเราภาพยนตร์แอนิเมชั่นอย่าง Sing จากสตูดิโอเดียวกันก็เข้าฉายแล้วในขณะนี้ครับ
- Sully (Warnor Bros.) -
ทอม แฮงส์ และคลินต์ อีสต์วูด แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์อันแสนเหนือชั้นอีกครั้งในผลงานอย่าง Sully ในปีนี้ ซึ่งทำเงินจากทั่วโลกไป 228.35 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยทุนสร้าง 60 ล้านเหรียญ
- Don’t Breathe (Sony/Screen Gems) -
รู้สึกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์สยองขวัญ/ระทึกขวัญลงทุนต่ำจะประสบความสำเร็จยิ่งกว่าภาพยนตร์ที่ลงทุนหลักร้อยล้านเสียอีก ซึ่งตัวอย่างที่มีให้เห็นล่าสุดเลยก็คือ Don't Breathe ของผู้กำกับ Evil Dead ฉบับรีเมค ตัวภาพยนตร์ลงทุนไปเพียง 9.9 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ BoxOffice ทั่วโลกกลับปังสุดๆ กวาดเงินไปสูงถึง 153.21 ล้านเหรียญ งานนี้ก็ต้องมารอดูกันละครับว่าภาคต่อจะระทึกและจะประสบความสำเร็จเท่ากับภาคแรกหรือไม่
ท่านคิดว่ามีภาพยนตร์เรื่องใดอีกในปีนี้ที่ตัวเลขบน BoxOffice เซอร์ไพรซ์ท่านมากที่สุด ? แสดงความคิดเห็นได้ด้านล่างเลยจ้า
ref: [Link]
Popular News
แสดงความคิดเห็น
ส่วน Rouge one ผมกลับชอบมากนะ ชอบอันดับต้นๆของซีรี่ส์ด้วยซ้ำ
ขนาดโหลดมา ยังดูไม่จบ อาจจะเพราะเราไม่ได้เลี้ยงสัตว์ เลยเข้าไม่ถึงก้ได้ฃ
Deadpool - ความเท่ปนกวนตรีนมันโดนใจผู้คน ทั้งเรื่องเรท R ฉากและบทพูด ชอบวะ
The Secret Life of Pets - คนรักสัตว์ต้องชอบมากแน่นอน ความน่ารักของสัตว์ต่างๆมุกตลก สนุกดี
Don’t Breathe - เป็นหนังระทึกขวัญไล่ล่าที่แหวกแนวและมีเรื่องหักมุม มุมภาพในเรื่องการกำกับ เป็นอะไรที่ลุ้นได้ทั้งเรื่อง มันส์มากๆไม่ได้ดูหนังตื่นเต้นแบบนี้นานแล้ว
ส่วนหนังปัง
DP - ไม่ต้องบรรยายอะไรอีกแล้ว และหวังภาคหน้าจะปังต่อไป
Rouge One - ถึงแม้จะเอาชื่อมาล่อเรียกแขก แต่ตัวหนังเองก็ทำมาได้ดีมากๆทำเอาคนที่ว่า "No Jedi No Party" ยังต้องชม ถึงนักแสดงส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีชื่อแต่ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้อย่างดี(ปกติก็เลือกดาราโนเนมมาแสดงกันอยู่แล้วอ่ะนะ) ส่งต่อไตรภาคเก่าได้ดีงาม ขึ้นแท่นความสนุกต้นๆของเฟรนไชส์ Star Wars ได้สบายๆ
The Secret Life of Pets - คือหนังปังที่แป้กที่สุดสำหรับผม สนุกแค่ช่วงแรกๆที่สัตว์ยังอยู่ในฐานะสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ พอออกผจญภัยก็ออกทะเล หลุดโลกและน่าเบื่อจนจบในบัดดล เรื่องใกล้ๆตัวไม่เล่นพาออกท่องดาวอังคารซะงั้น ขนาดผมเลี้ยงหมาเองด้วยยังไม่ชอบ ภาคต่อมาก็ไม่ดูแน่นอน
สองเรื่องหลังยังไม่ได้ดู แต่จะหาดูในอนาคตต่อไป
เพิ่มหนังปังปีนี้ของผมอีก 2 เรื่องคือ Your Name และ Koe no Katachi เรื่องหลังถึงยังไม่ได้ดูก็รู้ว่าปังแน่นอน 555