Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Hitman: Agent 47 (2015) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
FallsDowns at 2015-08-23 19:26:42 , Reads (16705), Comments (7) , Source :


Hitman: Agent 47 (2015) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz



" God Mode Activated "



ถือได้ว่าเป็นการกลับมาพบกันอีกครั้ง กับภาพยนตร์ที่มีต้นแบบมาจากวิดีโอเกม ซึ่งอย่างที่น่าจะทราบกันดี ประวัติศาสตร์ของวงการนี้นั้นค่อนข้างจะมืดมนพอสมควร จากภาพยนตร์ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าหลายต่อหลายเรื่อง ส่วนเรื่องที่อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้แฟนๆเกมก็ตั้งคำถามถึงคุณภาพมันอยู่ทุกวัน (Reside....)


แน่ล่ะ สุดท้ายแล้วพอมีภาพยนตร์ใหม่ๆเหล่านี้ประกาศออกมาหรือมีตัวอย่างภาพยนตร์ออกมา เราก็อดที่จะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ แถมยังมีภาพยนตร์อย่าง Warcraft หรือ Assassin's Creed ในปีหน้าที่หลายๆคนคาดหวังไว้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ทำลายคำสาปนี้ให้สิ้นไป แต่สำหรับ Hitman: Agent 47 (ซึ่งจริงๆเคยเป็นภาพยนตร์มาก่อนแล้วครั้งหนึ่งในปี 2007) อนาคตนั้นดูจะลำบากเหลือเกิน



Hitman: Agent 47 ว่าด้วยเรื่องราวของเอเจนท์หมายเลข 47 ซึ่งต้องร่วมมือกับผู้หญิงปริศนาคนหนึ่งเพื่อตามหาบุคคลสำคัญที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่เขาต้องการ


บอกตามตรงเลย ว่าถ้าหากเปลี่ยนชื่อภาพยนตร์ไปเป็นชื่ออะไรก็ได้อื่นๆ ต่อให้ชมภาพยนตร์จนจบก็แทบจะไม่รู้เลยว่านี้เป็นภาพยนตร์ที่มีต้นแบบมาจากวิดีโอเกมชื่อดังอย่าง Hitman ยิ่งโดยเฉพาะผู้ชมบางท่านที่ไม่เคยเล่นเกมมาก่อน ยิ่งแล้วใหญ่


ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะสภาพของตัวภาพยนตร์เอง ช่างจืดชืด ธรรมดา ปราศจากความสดใหม่ หรือความโดดเด่นเลยแม้แต่น้อย เสมือนเป็นแค่อีกหนึ่งภาพยนตร์แอ็คชั่นธรรมดาๆทั่วไปที่โผล่ขึ้นมาในโรงภาพยนตร์ให้ชมไม่กี่อาทิตย์แล้วเราก็ลืมๆมันไปอย่างรวดเร็ว



ตั้งแต่ บทภาพยนตร์ ซึ่งดาษดื่น และพูดถึงเรื่องเดิมๆที่ภาพยนตร์แนวเดียวกันเรื่องอื่นพูดมาแล้วไม่รู้กี่ล้านรอบ ไม่ว่าจะเป็น องค์กรลับอยู่เบื้องหลัง , โครงการสร้างสิ่งที่เหนือมนุษย์ สร้างกองทัพ , การท้าทายพระเจ้า , ตัวละครสูญเสียความทรงจำและต้องออกตามหาความทรงจำ บลาๆอื่นอีกมากมาย


หรือกระทั่งเหล่าฉากแอ็คชั่นเอง ก็ยังทำได้ค่อนข้างธรรมดา ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับภาพยนตร์ที่น่าจะได้อิทธิพลมาจากเกมอย่าง Hitman โดยรวมฉากแอ็คชั่นยังถือว่าพอดูได้ สนุกได้ แต่ก็ไม่มีฉากใดน่าจดจำหรือทำให้เราร้องว้าวเลยแม้แต่ฉากเดียว


แต่ปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดของตัวภาพยนตร์จริงๆ ดูเหมือนจะเป็นตัวละครเสียมากกว่า ในขณะที่ตัวละครร้ายก็ช่างแสนจะแบนราบ ข้าร้าย ข้าอยากครองโลก ก็เพราะข้าเป็นตัวร้าย และยิงวืดมันได้ทุกนัด พระเอกของเรา เอเจนท์ 47 ก็ช่างมหาเทพเสมือนใส่สูตร เปิดโหมดพระเจ้า ปืนเล็งอัตโนมัติไม่มีวันพลาด กระสุนไม่มีจำกัด อย่างงั้นเลยทีเดียว ถ้าหากลุง เลียม นีสัน ใน Taken เปิดโหมดพระเจ้า , เอเจนท์ 47 ก็เหมือนเปิดโหมดพระเจ้าเวอร์ชั่นอัพเกรด 2.0 ซึ่งผลของตัวละครที่เป็นเช่นนี้ ก็คือภาพยนตร์ที่ปราศจากความตื่นเต้น หรือความน่าสนใจ เพราะตัวละครเอกของเราไม่เคยตกอยู่ในสภาวะลำบาก หรือสภาพที่กำลังเสี่ยงต่อชีวิตเลยแม้แต่ครั้งเดียว



ทำให้สุดท้ายแล้วภาพยนตร์ที่มีต้นแบบมาจากวิดีโอเกมชื่อดังเรื่องล่าสุด Hitman: Agent 47 นี้กลายเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ปราศจากความน่าจดจำ นี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งความล้มเหลวของฮอลลีวูดในการพยายามสร้างภาพยนตร์เหล่านี้ แต่อย่างน้อยนี้ก็ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่รู้สึกทรมาณหรือรู้สึกอยากเดินออกจากโรงระหว่างชม นี้ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่สามารถชมได้อย่างเพลินๆ เพียงแต่ว่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังสำหรับสภาพของภาพยนตร์ประเภทนี้ ที่เริ่มจะสิ้นหวังเข้าไปทุกวันทุกวัน


Final Score : [ 5 / 10 ]


(Click to expand)


แสดงความคิดเห็น
ยังไม่ได้ชม แต่ผมก็ร้อง เฮ้ออ ตั้งแต่ดูตัวอย่างล่ะ... คำว่าหนังจะเกมสร้างมาแล้วจะแป้ก ไม่ได้ผิดที่ตัวเกมเลยจริงๆ แต่มันผิดที่ผู้สร้างเองต่างหากที่มองมันต่างกัน จะสร้างหนังจากเกมสักเกมก็ให้ ผกก ไปเล่นกันดูก่อนจะดีกว่าไหม ทำมาให้ดีก่อนถ้าจะตีความใหม่อย่างไรก็ทำหลังจากที่มันดีแล้วเถิด... สาธุ
มีเ้ต่คนด่ากายเป็นอันที่เเล้วอาจดีกว่าด้วย. ผมหวังไว้จะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ซะอีกตัวอย่างทำซะน่าดู
ดูมาแล้ว ก็ธรรมดาๆแค่ดูมีเนื้อเรื่อง มีน้ำหนักขึ้นมาหน่อยนึง เริ่มเรื่องมาผมก็เดาได้เลยอะว่าใครร้าย ใครดี เดาง่ายเกิน ส่วนเรื่องพระเอกมันเทพ ผมว่าภาคแรกมันก็แบบนี้แหละนะ ถ้าภาคต่อไปอาจจะมีสูสีกับตัวร้ายบ้าง (ถ้าเกิดมันจะมีภาคต่ออะนะ เพราะมีท้ายเครดิตนิดนึง)
ขออนุญาตถาม พอดีไม่เคยเล่นเกมซักภาค แต่ดูหนังมาแล้วทั้ง 2 เวอร์ชั่น ดังนี้
(ขอคำตอบอิงตามเกมเพื่อที่ผมจะได้เทียบว่าหนังดัดแปลงแค่ไหน)

1.พระเอกเป็นคนที่ถูกฝึกพิเศษจนเก่ง หรือถูกตัดต่อพันธุกรรมมาด้วย

2.ในเกมมีตัวเอกหญิงอื่นที่กลายพันธุหรือเก่งแบบพระเอกไหม(เอเจ้นหญิง)

3.เอเจ้นแต่ละคนนี่เป็นโคลนต่างเวอร์ชั่นหรือไม่ หรือ ต่างพ่อต่างแม่แล้วจับมาฝึก

4.องค์กรเอเจ้นมีจุดหมายอะไร รับภาระกิจฆ่าคนไปเรื่อย หรือมีเป้าหมายชัดเจน

5.ทำไมต้องเอเจ้น 47 เขามีอะไรต่างจากคนอื่นๆ

ขอบคุณครับ
ถ้าดูมันๆไม่คิดมากก็สนุกดี

แต่สิ่งที่รู้สึกว่าแตกต่างจากเกมส์คือ แม่มบู๋เป็นแรมโบ้ เดินเจอยิงๆ

ในขณะที่ตัวเกมส์เน้นการฆ่าอย่างเป็นธรรมชาติ เน้นฆ่าเฉพาะเป้าหมายจริงๆ
เข้าใจว่าพอเป็นหนังโรงมันต้องใส่ ฉากแอ็คชั่นมันๆ แต่บางทีมันก็เกินเลยกว่า เอเจนย์47 เพราะในเกมบู๊ แบบนั้น ไม่เคยผ่านเลย แต่ผมชอบที่ใส่รายละเอียดในเกมลงไปอย่างฉากก้มหน้า เปลียนชุด รึหลบกล้อง และปืนไรเฟิล แต่สิ่งที่ทำให้หนังความสนุกลดลงไปคือคัวร้ายที่แบบไม่ทัดเทียมพระเอก คือพระเอกเก่งเกินไป ในหนังพูดว่าไม่มีใครฆ่าได้แต่มึงเข้าไปแบบง่ายๆเลยนะ รึคนที่สู้กับพระเอกเก่งหนังเหนียวอย่างเดียวสมงสมองไปไหน เอาไป 7.5/10 พอ
อ่อ ฉากอาบน้ำ มันต้องมีตามใช่ไหมตามต้นแบบ 555

ในหนังน่าจะเน้นลอบเร้นให้มากกว่านี้ (เปลียนชุดให้เยอะๆไปเลย อันนี้จุดขายเลยนะในเกมก็มีให้สะสมชุดด้วย)
รึเอาแบบลอบเร้นแบบ no kill รึแบบลอบเร้นใส่ชุดดำไม่เปลียนชุด