Review: ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส

ตอนแรกที่ดูตัวอย่างคิดว่านางเอกคงเดินทางไปหลายพหุจักรวาล รวมทีมตัวเองมาสู้ผู้ร้ายด้วยกังฟูฮา ๆ แนวเฉินหลงประมาณนั้น ซึ่งถูกครึ่งเดียว

แกนหลักของหนังพยายามให้เราเห็นว่า "คนที่ทะลุไปจักรวาลอื่น ๆ ได้เห็นความเป็นไปของตัวเองและผู้อื่นที่หลากหลาย แล้วจะเป็นบ้าได้ยังไง"

- ถ้าเราไปอีกจักรวาลที่ชีวิตเราดีกว่านี้ คนรอบข้างเราดีกว่านี้เพราะในอดีตเราตัดสินใจเลือกอีกทาง เราจะยังมีความสุขกับผลลัพธ์ที่เราเลือกในจักรวาลนี้ไหม จะยังใส่ใจคนอื่น ๆ ไหมถ้าเรารู้ว่าเราทำแย่กับเขายังไงก็ได้แล้วก็ทิ้งเขาไปจักรวาลอื่น

- ถ้าเราย้ายไปอีกจักรวาลไปแย่งชีวิตดีกว่านี้ของตัวเราอีกคนได้แต่ต้องทิ้งคนรอบข้างในชีวิต เราจะทำไหม แล้วถ้าย้ายไปเราจะไม่รู้จักคนในจักรวาลใหม่เลย

- ไม่ช้าคุณจะมองคนรอบข้างไม่ต่างจาก NPC ในเกม มีบทพูดแล้วทำโน่นนี่วนไป

- แล้วเราจะอดใจไม่ส่องหาจักรวาลอื่นที่ดีกว่าไปเรื่อย ๆ ไหม ชีวิตไม่ได้จบแค่แต่งงานแล้วขึ้นหน้าจอว่าจบบริบูรณ์ ซึ่งในหนังเล่นมุกนี้ถึง 2 ครั้ง เหมือนจะจบแต่ไม่จบ บางคนรู้สึกหนักสมองเกินไปในช่วงหลังเพราะนึกว่าหนังจบแล้ว ที่ไหนได้หนักกว่าครึ่งแรก

ประเด็นทั้งหมดของเรื่องคือการเห็นสัจธรรมในยามที่วุฒิภาวะยังไม่พร้อม มีพลังในยามที่สติและปัญญายังไม่สุกงอมจนกลายเป็นดาบสองคม



น่าเสียดายที่เวลาแค่ 2 ชั่วโมงไม่สามารถขบประเด็นพาผู้ชมไปถึงปรัชญามโนธรรมขนาดนี้ได้ บวกกับเหตุผลทางการตลาดที่ต้องใส่ฉากบู๊ฉากฮามาชูโรงชูรส ทำให้ช่วงครึ่งหลังดูแบบมึน ๆ กำลังจะอินหลักธรรมก็เจอฉากบู๊ กำลังสู้สนุกก็เจอฉากซึ้ง

ให้ 8/10 อยากดูฉากบู๊สุดกว่านี้และสื่อประเด็นชัดกว่านี้อีกหน่อย

ตั้งใจจะทำคลิปรีวิวลงในช่องยูทิวป์แต่พอช่วงพูดเรื่องซึ้ง ๆ ทีไรจะเสียงสั่นเครือทุกที (เป็นคนอ่อนไหวอ่ะ) เลยเขียนรีวิวแทน
ขอฝากช่องดื้อ ๆ เลยละกัน [Link]

เป็นหนังที่ช่วงแรกๆ จะดูอืดๆ และอึดอัดเพราะหนังไม่ได้แนะนำอะไรมากมาย แต่พาเราดูการใช้ชีวิตของเอเวอลินไปเรื่อยๆ แต่พอเข้าช่วงพหุจักรวาลแล้ว หนังกลับเคลื่อนไปข้างหน้าแบบรวดเร็ว จนบางทีคิดตามไม่ทันเหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วผมค่อนข้างโอเคกับเรื่องราวและข้อคิดที่หนังนำเสนอ โดยเฉพาะเรื่องของครอบครัวและการยอมรับความเป็นปัจเจกบุคคลของแต่ละคน บางทีการคาดหวังและการตีกรอบโดยสิ่งที่เราคิดว่าดี ก็อาจทำร้ายอีกคนหนึ่งโดยที่เราไม่รู้ตัว

ดูมาแล้ว อีกนานแค่ไหนจะมีหนังแบบนี้มาอีก ช่างสรรหาผสมความบ้าบอกับความซึ้งออกมาได้ ฉากเอาตีนปาดน้ำตานี่โคตรฮา

ดาราแต่ละคนก็เล่นดี คนที่เล่นเป็นเวมอนด์เห็นว่าเพิ่งกลับมาเล่นหนังใหญ่ในรอบหลายสิบปี แต่ฝีมือการแสดงโคตรดีเลย ตอนอยู่ในจักรวาลหว่องกาไวเท่มาก

- ผมชอบเรื่องนี้มาก เป็นหนังในดวงใจของปีเลยล่ะ คือหนังทั้งบ้า ทั้งซึ้ง ทั้งระทึกและบ้าบอคอแตกในเวลาเดียวกันโดยเฉพาะซีนที่ต้องทำอะไรบ้าๆเพื่อให้ device พาจิตตัวเอง jump ไปยังพหุจักรวาลอื่นได้ ซีนนั้นฮาแตกกันทั้งโรง

- เวย์มอนด์เป็นตัวละครที่ชอบเช่นกันครับ และนักแสดงที่ได้รับบทบาทเรื่องนี้แสดงดีด้วย คือในแต่ละพหูจักรวาล เวย์มอนด์นี่แทบเป็นคนละคนไปเลย บางจักรวาลดูซื่อๆน่ารักๆ บางจักรวาลมาดเท่

- ผมชอบที่หนังมันให้อารมณ์คล้าย The Matrix ไอเดียของหนังเวลาที่เราใส่ device นั้นแล้วสามารถหยิบความสามารถตัวเองในพหุจักรวาลอื่นมาใช้ได้

- ประเด็นดราม่า เห็นด้วยที่มันไม่ได้ลึกไปถึงต้องมาขบปรัชญากัน แต่ในจังหวะซึ้งและการเห็นความสำคัญของครอบครัว การเห็นความสำคัญของชีวิตและคนรอบข้างตัวเอง และยินดีให้กับเวลาและสิ่งที่ตัวเองมี ผมว่าหนังทำได้ถึงและซึ้งกินใจดี

- ผมว่าคนทำหนังเคารพความเป็นหนังเอเชียพอสมควรนะ ทั้งองค์ประกอบศิลปะการต่อสู้ที่ดุเดือด และบางฉากอย่างฉากนี้ดูแล้วนึกถึงหนังคนเหงาสไตล์หนังหว่องกาไว

ดูแล้วมันปั่นป่วน วุ่นวาย เรื่องราวดำเนินไปไม่มีหยุดหย่อนดีแท้

ให้ 7.5/10 ครับ บอกไม่ถูก ชอบแต่ไม่สุด

ดูนานแล้ว แต่พึ่งมาว่างพิมพ์

หนังโคตรดี แต่ข้อเสียของหนังที่ต้องแลกมากับการเล่าเรื่องแบบนี้คือหนังมันSlow burnช่วงต้นๆ

พอหมดการปูเรื่องแล้ว หนังมันดีมากๆ รู้สึกว่าผู้กำกับใส่สัญลักษณ์ในหนังเยอะ ถ้าลงสตรีมมิ่งคงดูเก็บอีกรอบ

ดูหนังเป็นหนังป็อบคอร์นฉาบหน้า แต่แผงดราม่าไว้โคตรเยอะพอสมควร ไอ้ที่ตลกๆในหนังสัญลักษณ์ทั้งนั้น

แต่ต้องตีความเยอะเหมือนกัน เอาจริงๆสมกับชื่อmutiverse of madness มากกว่าหนังของด็อคเตอร์สเตร็งอีก

8/10 ไม่สุดขนาด9 แต่ควรจะดูเพราะหนังโคตรดี

ส้มป่อย

เนื้อหามัลติเวิร์สทำมาได้ดีกว่า ดร.แปลก มาก

แต่ฉากสู้ยังทำได้ไม่ดีเท่าไร แถมใส่มามากเกินไป ทำให้เสียเวลา แทนที่จะไปลงเนื้อหาให้พาอินไปมากกว่านี้

บางเหตุการณ์ควรขยายความให้ซาบซึ้งกว่านี้ก็ไปซะไว บางเหตุการณ์ควรมานิดๆเป็นแค่มุขก็พอ ดันลากยาวซะเนือยจนพากร่อย

รวมๆรู้สึกว่าเรื่องมันมีแง่คิดใช้ได้ แต่ดันยัดฉากอะไรที่ไม่จำเป็นมากเกินไป

เหมือนอาหารที่มีวัตถุดิบดี ไอเดียน่าสนใจ เห็นความพิถีพิถันในการปรุง แต่พอเข้าปากกลับรู้สึกแค่พอถูไถ ไม่ได้อร่อย จัดจ้านอย่างที่คิด ไม่ได้รู้สึกถึงขนาดต้องแวะมากินอีกรอบ

ปล.หัวกระทู้น่าจะใส่ spoiler alert หน่อยนะ รีวิวซะ เล่นยกเหตุการณ์ในเรื่องมาทั้งดุ้นเลย

ดูจบต้องบอกว่าหนังดีทีเดียวให้ 8.8 คะแนน ช่วงแรกๆไม่สนุก แต่ยิ่งดูยิ่งสนุกไปเรื่อยๆ จริงๆเนื้อหาสำคัญที่เสนอคือปัญหาครอบครัว มัลติเวิร์สเป้นเนือ้หาที่เสริมให้เนื้อเรื่องสนุกน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งมัลติเวิร์สของเค้าที่นำเสนอนี่เล่นทำเอาของหมอแปลก 2 ดูกากไปเลย

เป็นหนังที่บ้าบอมาก และสนุกมาก
ผมเห็นด้วยที่เวลา 2 ชม. ดูจะน้อยเกินไปที่จะขยี้ประเด็นในเรื่อง
ถ้าทำเป็นซีรี่ส์ยาว 1 ชม. ซัก 4-5 ตอนน่าจะกำลังดี