ผมตื่นเต้นมากนะครับ แต่กลัวมันจะเป๊กเหมือนตอน Vr มาใหม่ๆ คือคนขี้เกียจใส่แว่น นอนปัดเฟสเหมือนเดิมง่ายกว่า

คิดว่าจะมา 2 แบบ แบบแรกคือ Augmented reality คือภาพเสมือนซ้อนทับกับภาพในชีวิตจริงเลย อย่างแว่นในหนังเรื่อง Free Guy แบบนี้ใส่เล่นข้างนอกได้และอาจกลายเป็นมาตรฐานของชีวิตไปเลยเช่นเดียวกับมือถือตอนนี้

อีกแบบคือ Fantasy 100% หลุดเข้าไปอีกโลกแบบ Ready Player One ต่อไปจะมีอุปกรณ์ให้รู้สึกสัมผัสเสมือนจริง

มายาครับ ผมแค่เปิดทีวี แล้วมีข่าวดารา ผมยังเบื่อเลย ผมขี้้กียจมีโลกซ้อนโลก
มีร่างเดียว โรลเดียว โลกเดียว พอแล้ว มีหลายตัวตน จะเป็นทุกข์มากขึ้นเปล่าๆ

แต่ถ้ามันจะเวิร์ค ก็เพราะ มีงานให้ทำ มีรายได้ที่แน่นอน กับมีการปั่นอย่างต่อเนื่อง

พอมาคิดก็คือ โลกแบบนี้มันใช้ ผลประโยชน์ มาล่อให้เราคิดจะเข้าร่วมกับมันครับ ถ้าเราหาผลประโยชน์กับมันได้ ก็จะอยู่กับเรานานหน่อย

หลายอาชีพ อาจจะมีงานในนั้นได้เช่น พวกบันเทิงศิลปะ ดีไขน์เนอร์ แฟชั่น แต่พวกที่มันบอกว่าจะใช้ได้เช่นประชุมกัน (VR chat upgrade) มันก็มีโปรแกรมใช้กันอยู่แล้วไม่ต้องพึ่งทรัพยากร, เนต ขนาดนี้ด้วย ต่อไปอาจะได้ดู คอนเสิร์ต, บอล, งานละคร ออนไลน์กันมากขึ้น

อีกเรื่องพวกงานงานง่ายๆแบบ ให้คำปรึกษากับ(ผู้เชี่ยวชาญ วิศวะ, ออกแบบก่อสร้าง,ตกแต่งภายใน, ปรึกษาวิชาการ ฯลฯ ) พบหมอ เภสัช จิตแพทย์ เพื่อรับใบสั่งยา อาจจะใช้ช่องทางนี้ เพื่อลดชั้นตอนการทำงานได้ครับ

เอาจริงๆ ในยูทูป เคยลงว่ามีคนขายดาวออนไลน์ ที่เขาออกแบบให้เป็น ผับ อวกาศ แล้วมีคนไปทำกิจกรรม เป้นหมื่น/วัน เป็นราคา ยี่สิบล้าน ก็มีมาแล้ว พวกออกแบบ คอนเทนต์ เก่งๆ อาจจะหาเงินกับเรื่องพวกนี้ได้มากครับ (แต่ส่วนตัวผมว่าข่าวมันปั่นชอบกล ตรงที่ มันบอกมีการขื้อขายXXX แต่หลักฐานการเปลี่ยนมือหรือ คนซื้อเป็นใครก็ไม่มีบ้อมูลแนวลึกเลย)

ส่วนไอ้มาร์ค มันโลถ มากสร้างโลกซ้อนโลกแล้วหวังว่า โลกใหม่ จะมีแต่ป้ายโฆษณา ที่มันเก็บค่าป้ายคนเดียว เรื่องโลภมากคุณก็เคยเจอแล้วกับ ยูทูป ที่มีสองโฆษณา แถมมีตัดกลางคลิป แฝงอีกโฆษณาก็มี

ผมว่ามันจะมีประโยชน์และดีงามมากในเรื่องการประชุม หรือการเรียน อย่างเรื่องเรียนอาจารย์อาจจะอย่างมากเปิด clip video ให้ดูใน class แต่ถ้าเหมือนเราเข้าไปยืนดูจริง ๆ มองเห็นระบบการทำงานจริง ๆ ได้ผมว่ามันน่าสนใจกว่ามานั่งฟังเฉย ๆ

อย่างน้อยใน 5-10 ปี คิดว่ายังไม่น่าสนเลย เพราะเทคโนโลยีที่จำเป็น มันยังมาไม่ถึง แถม use case ที่ทำให้เกิดประโยชน์จริงๆได้เนี่ยก็ยังไม่เห็นเลย ขนาดดูที่พี่มาร์คมาขายนี่ก็ยังไม่รู้สึกว่าพอเกิดอย่างงั้นจริงๆขึ้นมาแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรได้ (ถ้าไม่นับด้าน entertainment ซึ่งเอาจริงๆมันก็ยังเฉพาะกิจมากๆ ไม่ใช่ว่าจะได้กว้างไกล จำลอง experience ของโลกจริงได้ขนาดนั้น)

ตอนนี้แค่เอาโจทย์ว่าทำยังไงถึงจะเอาโลก metaverse มายัดใส่โลกจริงได้โดยไม่ต้องสวมหัวนี่ก็ยากละ คือใกล้เคียงสุดที่เคยมีมาก็แค่ Google Glass ซึ่งก็ยังเจ๊งเลย

(ไม่รวมเรื่องเทคต้องไปถึงขั้นไหน ถึงจะสามารถจำลองโลกได้แบบในตัวอย่างอีก อีก 20-30 ปีจะไปถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ breakthrough มันยังไม่เกิด)

ยังมองไม่ออกเลยว่าอะไรคือความจำเป็นที่ต้องเข้าไปในเมต้าเวิร์ส ถ้ามันไม่ได้แนบกับโลกจริงแบบไม่ต้องมีอะไรเพิ่มเติม สุดท้ายก็คงเป็นแต่กิมมิคในการเอนเตอร์เทน

แต่ทุกวันนี้ ยังจะอยากออกจากโลก FB เลย

ตอนแรกที่ได้ข่าว ผมนึกถึง การเข้าไปในโลกแบบ สมมุติชงกาแฟกินเองที่บ้าน แต่ใส่แว่นแล้วเหมือนไปกินอยู่ในสตาบัค หรือกินเนื้อย่าง แต่ใส่แว่นแล้ววาปไปอยู่ญี่ปุ่น

แต่พอได้เข้าไปลองเล่น Decentraland ก็รู้ได้ทันทีว่า มันน่าจะอีกยาวไกลเลยแหละ

แว่น VR ยังกองให้ฝุ่นจับอยู่เลย เฉยสนิทมากๆ คิดว่าสร้างกระแสไปงั้นแหละ

คือถ้ามันไม่ถึงขนาดทำให้เรารู้สึกว่ากำลังฝันอยู่ ก็ยังไม่ว้าวครับ เพราะมันยังไม่เข้าสภาวะหลุดไปอีกโลกจริงๆ

พวก VR น่าจะไปทางการศึกษาน่าจะดีที่สุด

ผมฝากไว้ให้คิดนะ สมมุติ ถ้ามีคนธรรมดา ทำเงินได้ซัก แสน-ล้าน ในหนึ่งเดือน ในเมต้า นักข่าวมันตีข่าวซะเป็นเรื่องใหญ่โต จนคนที่ไม่รู้เรื่อง จะคิดว่าเมต้า มันทำเงินง่ายแล้วก็แห่กันเข้าไปเป็น ร้อยเท่าตัว

เรื่องที่ มาร์คมันจะทำแน่ๆก็คือ เงินคริปโต Libra ด้วยคนที่ถือตัวนี้ ก็จะกำไรกันทั่วหน้า เพราะอยุ่ดีดี คนก็แห่กันเข้ามาใช้กันเป็นร้อยเท่าตัว

ส่วนตัวผมว่าถ้ามันจะ ดังมากคนแห่ เห่อกันมากด้วยเวลารวดเร็ว มันจะก็จะจบในเวลาที่รวดเร็วพอๆกัน

ปัญหาที่ทำให้ vr ไม่เกิดมันง่ายมาก
คือ
1. อุปกรณ์ “ยัง” ไม่สะดวกพอ การใส่แว่นหนักๆ มันไม่สามารถทำได้ตลอดเวลา มันไม่ได้ “สะดวก” เหมือนเดินเข้าออกห้อง หรือไม่สะดวกเท่าการเปิน notebook หรือหยิบ ipad มาทำอะไรสักอย่าง แม้ว่าจะดีกว่าเมื่อก่อนมากแล้วก็ตาม
2. ไม่มี content ดีๆ ที่จะดึงคนเข้าไป คือพอมันไม่สะดวกมากพอ แถม content ไม่ได้ดึงดูดให้เข้าไป แถมยังเล่นนานๆ ไม่ได้อีก คนทั่วไปก็ไม่อยากจะลำบาก เพื่ออะไรที่ไม่น่าสนใจ

อุปกรณ์ในอนาคต อาจจะเป็นแว่นเบาๆ สวมได้ทันทีแบบที่เริ่มมี prototype กันแล้ว ถึงตรงนั้น vr ก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายหน่อย

ส่วน metaverse ส่วนตอนนี้ผมว่า concept มันยังสับสน จริงๆมันควรจะเป็นคล้ายๆ second life สมัยก่อน (ใช่ครับ concept เดียวกับ metaverse มันเคยมีแล้ว) คือเป็นโลกเสมือนที่มี concept ต่างๆ เหมือนโลกจริงๆ มีระบบเศรษฐกิจ มีการถือครอง แบบคนสามารถใช้ชีวิตในนั้นได้ (ยกเว้นการกินการขับถ่าย)
แต่ไอ้ concept โลกจริงๆบางอย่าง มันไม่ควรเอามาใช้ เช่น มานั่งซื้อที่กัน ในเมื่อ metaverse มันเป็นโลกเสมือน location มันไม่เป็นสาระ เป็นประเด็น คุณจะอยู่ตรงไหน ก็แค่ search หาแล้ว warp ไปได้ (พวกระบบบ้านใน เกม online นั่นอย่าไปเทียบ เพราะนั่นเป็นการออกแบบให้คนใช้เงินเพื่อไม่ให้เงินในเกมเฟ้อ เลยออกแบบมีให้มีจำกัด ต้องแย่งกันซื้อ)

ที่ facebook หันมาลง metaverse เป็นการมองอนาคตไกลมากๆ เพราะมีคนมองว่า สุดท้าย metaverse จะมีแค่ platform เดียว (ซึ่งเมคเซ้นส์) จึงต้องรีบเริ่มก่อน
แต่ผมกลับคิดอีกอย่าง ผมมองว่า metaverse สามารถมีหลาย platform ได้ ถ้ามีการตกลงมาตรฐานกัน เช่นสามารถเดินทางข้ามกันได้ สามารถเอาของจากอีกที่ไปใช้ในอีกที่ได้ ฯลฯ

Yuval Noah Harari ผู้เขียน Sapiens และ Homo Deus ทำนายไว้ว่าในอนาคต AI จะมาทำงานแทนมนุษย์ได้ถึงจุดที่จะมีคนจำนวนมากที่ไม่มีงานทำ เป็น Useless class

ทางหนึ่งที่จะทำให้คนที่ไม่มีอะไรทำ มันไม่ว่างมากนัก ก็ให้มันเล่นเกมแนว metaverse

ถ้าเลือกได้ คนเลือกสัมผัสประสบการณ์จริง ไม่ใช่ VR AR XR

แต่คนส่วนหนึ่งจะไม่มีโอกาสนั้น สุดท้ายแล้ว reality is the new luxury

ถ้าจะให้เปลี่ยนโลกมันต้องระดับ the matrix เท่านั้นแหละ เสียบปลั๊กแล้วเข้าไปอีกโลกนึงเลย

โซล เปิดแผนสร้างเมือง Metaverse ท่องเที่ยว-ทำกิจกรรม-รับบริการสาธารณะ ได้บนโลกเสมือน
.
ถ้าพูดถึง Metaverse นี่คือเทรนด์แห่งอนาคตที่หลายๆ บริษัท เช่น Meta (Facebook) Microsoft Nike ให้กำลังให้ความสนใจ แต่รู้หรือไม่ว่าเมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้อย่าง “กรุงโซล” ก็กำลังจะเข้ามาลงเล่นในสนาม Metaverse เหมือนกัน
.
(1)
.
รัฐบาลมหานครโซล (Seoul Metropolitan Government) ประกาศแผนพัฒนา Metaverse ระยะ 5 ปี ทุ่มทุนกว่า 3.9 พันล้านวอน (108 ล้านบาท)
.
โดยตั้งเป้าว่าภายในปลายปี 2022 จะสามารถพัฒนา Metaverse Seoul แพลตฟอร์ม Metaverse ของตัวเองเพื่อให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนได้บนโลกเสมือน และมีเป้าว่าจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2026
.
ด้วยนโยบายนี้ กรุงโซล จะกลายเป็นเมือง Metaverse เมืองแรกของโลก ที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งอนาคตและมีศักยภาพในการแข่งขันระดับโลก
.
(2)
.
Metaverse Seoul จะเป็นแพลตฟอร์มศักยภาพสูงที่มี Ecosystem สำหรับการให้บริการด้านต่างๆ
.
เช่น บริการด้านธุรกิจ การศึกษา พื้นที่สำหรับกิจกรรมด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว การสื่อสาร การพัฒนาเมือง และบริการสาธารณะ
.
หลังจากนี้ ประชาชนในกรุงโซลจะเข้าถึงบริการต่างๆ ของหน่วยปกครองส่วนท้องถิ่นได้บนโลก Metaverse โดยเข้าไปยัง Seoul City Hall และรับบริการตั้งแต่การปรึกษาเบื้องต้น ไปจนถึงเข้าถึงความช่วยเหลือด้านธุรกิจหรือการลงทุนจากพนักงานราชการอวาตาร์ด้วยการสวมแว่น VR แทนที่จะเดินทางไปยังศาลาว่าการเมืองจริงๆ
.
ไม่ใช่แค่นั้น ประชาชนยังสามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยว เช่น จัตุรัสควางฮวามุน พระราชวังถ็อกซูกุง ตลาดนัมแดมุน ไปจนถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สูญหายไปแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นใหม่บนโลกเสมือนอย่างประตูโดนึยมุน
.
และไม่ต้องกลัวว่าโลกเสมือนจะน่าเบื่อ เพราะตั้งแต่ปี 2023 เทศกาลดังๆ เช่น เทศกาลโคมไฟโซล ก็จะถูกจัดขึ้นบนโลกเสมือนบนแพลตฟอร์ม Metaverse Seoul และผู้คนจากทั่วโลกก็จะมีโอกาสได้เข้าร่วม
.
(3)
.
คำถามคือแล้วทำไมรัฐบาลมหานครโซลถึงต้องหันมาลุย Metaverse แค่พยายามเกาะกระแสหรือไม่?
.
คำตอบของเรื่องนี้คือ Metaverse จะช่วยเปิดมิติใหม่ของการบริการสาธารณะ
.
หลังจากนี้ การติดต่อสื่อสาร การมีปฏิสัมพันธ์กับประชาชน และการออกนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ (เช่น จัดเทศกาลกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือจัดอีเวนต์ต่างๆ) จะง่ายขึ้น รวดเร็ว และไร้ข้อจำกัดผ่านเทคโนโลยี XR
.
เห็นได้ชัดว่าถ้ารัฐบาลมีศักยภาพที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ความสามารถในการแก้ปัญหาและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนก็จะก้าวไปอีกขั้น
.
#Metaverse #XR #Seoul #Brandinside
https://brandinside.asia/seoul-is-the-first-metaverse-city

Hololive
Live concert
การดูหนังแบบใหม่
การเล่มเกมแบบใหม่
รอดูว่าจะทําได้ถึงระดับไหน

Brand สินค้าดังๆเตรียมขายใน meta
มันคงคล้ายๆ mmorpgมั้ง
จ่ายตังซื้อของในเกม
แต่meta จ่ายตังเพื่ออวดในโลกเสมือน

แต่ที่อยากได้
Live concert ญี่ปุ่น เหมือนอยู่ในconcert hallนั้นๆ
การไปเดินผจญภัยในโลกของ final fantasy
และที่อยากให้มีสุด การที่ได้ดูการถ่ายทําหนังแนว aกับv