วิจารณ์ภาพยนตร์ มอนสเตอร์ ฮันเตอร์ (สปอยล์)

มอนสเตอร์ ฮันเตอร์ เป็นภาพยนตร์ประเภทแอ็คชั่น แฟนตาซี อำนวยการสร้าง เขียนบทภาพยนตร์ และ กำกับภาพยนตร์โดยพอล ดับเบิ้ลยู.เอส. แอนเดอร์สัน ดัดแปลงมาจากวิดีโอเกมส์ซีรี่ย์ "แคปคอม มอนสเตอร์ ฮันเตอร์" สกรีน เจมส์, คอนสแตนติน ฟิล์ม, เท็นเซ็นต์ พิคเจอร์ส, อิมแพ็ค พิคเจอร์ส และ โตโฮ(ญี่ปุ่น) เป็นทีมงานโปรดักชั่นสร้างภาพยนตร์ จัดจำหน่ายโดย โซนี่ พิคเจอร์ส ภาพยนตร์ใช้ทุนสร้าง 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มิลล่า โจโววิช จาก เรสซิเด้นท์ อีวิล รับบท กัปตัน นาตาลี อาร์เทมิส
พนม ยีรัมย์ จาก องค์บาก รับบท เดอะ ฮันเตอร์
คลิฟฟอร์ด โจเซฟ แฮร์ริส จูเนียร์. จาก แอนท์-แมน รับบท ลินคอล์น
รอน เพิร์ลเเมน จาก เบลดII รับบท เดอะ แอดมิรัล
ฮิโรนะ ยามาซากิ จาก มาร์ส(ญี่ปุ่น) รับบท แฮนเดลอร์

เรื่องย่อ นาตาลี(โจโววิช)หัวหน้าทีมทหารชุดค้นหากำลังปฏิบัติหน้าที่ในทะเลทราย เพื่อค้นหาทีมบราโว่ทหารอีกชุดหนึ่ง ที่ทีมของนาตาลีออกตามหาหลังจากพบสัญญาณขอความช่วยเหลือจากทีมบราโว่ แต่ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ทำให้ทหารทีมค้นหาของนาตาลีต้องไปอยู่ในโลกอีกมิติโลกนึง
ในขณะที่ทีมของนาตาลีกำลังสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีอสูรกายมอนสเตอร์เข้าโจมตีทีมของนาตาลีจนทำให้ทีมของนาตาลีตายทุกคน เหลือเพียงแค่นาตาลีคนเดียว

นาตาลีได้พบกับฮันเตอร์(จา พนม)ฮันเตอร์คือกลุ่มมนุษย์คนที่อยู่ในมิติอสูรกายนี้ ฮันเตอร์ได้พลัดหลงจากกลุ่มของตัวเองหลังจากโดน"เดียอะโบล"เข้าจู่โจม นาตาลีและฮันเตอร์ทั้ง 2 คนต้องร่วมมือกันฝ่าฝูงมอนสเตอร์ด้วยกัน จากนั้นพรรคพวกของฮันเตอร์แอดมิรัล(เพิร์ลเเมน) และ แฮนเดลอ(ยามาซากิ) ได้กลับมาพบกับฮันเตอร์และนาตาลีอีกครั้ง ทำให้นาตาลีทราบเรื่องราวอารยธรรมชั้นสูงของมิตินี้ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์บิดเบือนมิติโลกคู่ขนาน และอสูรกายก็กำลังเป็นปัญหากับมนุษย์ในโลกมิตินี้อยู่ที่กำลังใช้วิวัฒนาการชั้นสูงเพื่อครอบครองโลก

กลุ่มของฮันเตอร์และนาตาลีจึงตัดสินใจที่จะเข้าไปใน"สกาย ทาวเวอร์" วิทยาการชั้นสูง ที่มีอสูรกาย"ราธาลอส"คอยปกป้องหอคอยวิทยาการชั้นสูงนี้อยู่ ทั้งนาตาลีและกลุ่มของฮันเตอร์ได้เข้าปะทะต่อสู้กับราธาลอสจนฝ่ายของนาตาลีและกลุ่มของฮันเตอร์สามารถปราบมังกรราธาลอสลงได้สำเร็จ
แต่หลังจากที่นาตาลีและฮันเตอร์สามารถตบราธาลอสคว่ำลงได้ ได้มีอสูรกายอีกตัวโผล่ออกมาปกป้องหอคอยอีกหนึ่งตัว จึงทำให้นาตาลีตัดสินใจไม่กลับโลกมิติตัวเองเพื่อช่วยพวกฮันเตอร์ในการปราบอสูรกายมิตินี้

จุดดี หนังเรื่องนี้ยังคงใช้สูตรความสำเร็จเป็นหนังแอ็คชั่นตามสไตล์พอล แอนเดอร์สันเช่นเคย เหมือนที่เคยหยิบมอร์ทัล คอมแบท และ เรสซิเด้นท์ อีวิลมาสร้างให้โลกวิบัติวอดวายและเก็บรายได้มากมายมาแล้ว มอนสเตอร์ ฮันเตอร์ยังคงความมันส์สำหรับหนังเกือบ 2 ชั่วโมงได้อย่างเต็มอรรถรส ดนตรีประกอบและเสียงซาวด์ต่างๆก็ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นลุ้นระทึกของซีนต่างๆได้อย่างลงตัว รวมถึงเสียงของมอนสเตอร์อสูรกายต่างๆก็ทำได้อย่างน่าเกรงขามมาก และงานซีจีไอหรือคอมพิวเตอร์กราฟฟิกหนังของแอนเดอร์สันเรื่องนี้กระโดดขึ้นจากซีจีดาดๆในเรสซิเด้นท์ อีวิลเยอะพอสมควร บางฉากในมอนสเตอร์ ฮันเตอร์อาจเทียบได้กับซีจีของหนังมาร์เวล ดีซีได้อย่างสบายๆ

จุดเสีย พล็อตเนื้อเรื่องค่อนข้างมีจุดด้อยและหลวมอยู่ในหลายๆประเด็น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเกมส์ซีรี่ย์มอนสเตอร์ ฮันเตอร์อาจไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนและเข้มข้น แต่ก็ถือว่าฝีมือของแอนเดอร์สันดาวน์ลงต่ำไปเยอะในการดัดแปลง เมื่อเทียบกับตอนที่เอาเรสซิเด้นท์ อีวิลไปออกทะเล ที่พล็อตเรื่องนั้นไปไกลจนแฟนเกมส์ยังงงว่ากูดูหนังอลิสอยู่หรือเปล่าว่ะ? จึงถือว่าพล็อตมอนสเตอร์ ฮันเตอร์หากไม่ใช่หนังแอ็คชั่นก็ไม่มีอะไรสดใหม่เลย ส่วนบทภาพยนตร์สามีของมิลล่าก็ยังเขียนบทให้เมียสุดที่เลิฟเป็นเดอะเบสต์เหมือนอลิสเช่นเคย ซึ่งถ้าถามว่าคาแรคเตอร์บทนาตาลีบุคลิกดีมั้ย ก็ดีกว่าอลิสแน่นอน! แต่บทนำคนเดียวแบบนี้กระจายบทให้นักแสดงสมทบแบบจืดชืด มันก็เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้หนังขาดทัศนคติมุมมองด้านอื่นๆของหนังไปด้วย

สรุป มอนสเตอร์ ฮันเตอร์เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่เด็กๆและเกมเมอร์เฉพาะกลุ่มยังสามารถรับชมสนุก ซีจีสวยงาม มีทั้งฉากซีนความผูกพันธ์ของตัวละครและการผจญภัยกับการไล่ล่าของเหล่ามอนสเตอร์ที่ตื่นเต้น ถ้าใครเป็นแฟนพี่จา พนมอาจเซ็งบทพี่แกที่ให้มาน้อยไปหน่อย 30 นาทีแรกพี่จาแกพูดแค่"เดียอะโบลส์"อยู่ 2 ครั้ง แต่สำหรับคอภาพยนตร์แอ็คชั่นและแฟนเกมส์นักล่าแย้ไม่ควรพลาด ยิ่งวันปีใหม่ที่ไทยแทบจะปิดทุกกิจกรรมกันทั้งประเทศ(ถ้าทำตามระเบียบ...) มอนสเตอร์ ฮันเตอร์เป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวที่เหมาะกับวันหยุดปีใหม่ 2564 นี้ครับ
คะแนน 6/10

ถ้าเป็นแฟน Mh ให้ 10 คนทั่วไป ราวๆ 7.5

บทมันก็Ok แหล่ะ มันข้ามโลกไปมา มอนต่างๆ ดูทรงพลังดีทั้ง เดียอาบอส กับ ราทอส หลุดมาจากเกมเลยล่ะ

ถ้าเทียบกับมอน ใน Re ใน Mh นี้ดีกว่าเยอะ
ได้โชว์ ดูน่ากลัว ให้ความรู้สึกตอนที่เราเจอ พวกมันครั้งแรก

สรุป ใครที่เคยเล่น Mh ซักภาคนึง ก็สมควรดูล่ะ

ชาวล่าแย้ยังไงก็ไม่พลาด

ครึ่งแรกหนังแมร่งโคตรดี โคตรโหดโคตรเรียล กลายเป็นแนวเอาชีวิตรอด ดูแล้วสมจริง ลุ้นมาก มีทั้งเทคนิคสู้ วางแผน คราฟอาวุธ

ส่วนครึ่งหลัง โคตรฟอร์มทีมออกลุย อารมณ์อนิเมจ๋ามาก 555 ดูไม่เรียลเหมือนช่วงแรก แต่ก็มันส์จริง บู้รัวๆยิ่งกว่า Resident evil

มีการผู้ถึงคนยุคเก่า ยุคก่อนที่จะโดนแฟทาริสล้างบาง อันนี้ชอบ ไหนๆในเกมก็ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องส่วนนี้ละ ท่าเอามาใส่ในหนังก็ไม่เลว

สนุกดีชอบ สายมอนฮันยังไงก็ดูคุ้ม
เรื่องนี้พระเอกมิล่า ส่วนพี่จาพระรอง แต่พี่จาเล่นดีมาก รู้สึกเฮียแกเป็นฮันเตอสมจริง

ดูเรื่องนี้โยนเนื้อเรื่องทิ้งไปเลยเพราะแทบไม่มี ซื้อตั๋วดูเอามันส์ล้วน ๆ

มันส์ดีคับ ชอบ

แต่น่าจะให้ความสำคัญกับบทอีกหน่อย
อย่างเล็กๆน้อยๆแต่ขัดใจมาก เช่น อย่างนางเอก รถพลิกคว่ำสิบตลบไม่เป็นไร แต่โดนแย้ปซ้ายทีเดียวสลบ😅😅 น่าจะละเอียดกว่านี้นิด

อยากให้พังรังแมงมุม เอาแบบระเบิดมันวอดวายตายแบบซาดิสยกรังคงจะเพิ่มอรรถรสอย่างมาก หมั่นไส้แมงมุมคับ😅😅😁😁

แมงมุมแมร่งโคตรสยองอ่ะครับ ภาพฟักไข่มันฝังตา

โรงหนังจะปิดหรือเปล่าน่าคิด

สนุกมากให้ 9 คะแนน ชอบอย่างแรกเลยคืออาวุธปืนทำอะไรไม่ได้ ชอบอย่างที่สองคือการแบ่งบทแบ่งได้ดี ตอนแรกนึกว่าจะอวดเมียเหมือน Re ที่ไหนได้ เรื่องนี้ไม่มีมาโชว์เดี่ยว พี่จา พนมบทเยอะกว่าที่คิดไว้มากแถมบทดีด้วยได้โชว์หลายอาวุธ ได้ปราบบอสด้วย คือสองตัวเอกมีส่วนร่วมในการปราบไม่ใช่คนไดคนหนึ่งปราบ อีกอย่างที่ชอบคือเรื่องความโหดร้ายในโลก MH ตอนอ่านนิยายได้อารมณ์แบบนี้เลย อาชีพนี้ตายกันก็เยอะแถมตายกันง่ายๆเลย ไม่ได้แพ้แล้วมีแมวช่วยแบกกลับแบบในเกม

ในฐานะที่ชอบ MH ผมให้ 7.5

เนื้อเรื่องตัดไปได้ บทอ่อนๆ ไม่ว่ากัน (แต่เอาจริงๆ บางส่วนก็ปัญญาอ่อนเกิ๊นที่จะรับได้)

ที่ไม่ชอบในฐานะแฟน MH คือ น่าจะใส่ใจ เอาเพลงประกอบธีม ของ MH จากในเกมมาใช้ให้มันชื่นใจหน่อย อย่างเพลง quest clear, หรือเพลงตอนปิ้งย่าง ใส่เป็นเพลงประกอบก็ยังดี แต่ผู้กำกับท่าจะไม่สน ไม่ใส่ใจส่วนนี้เลยแม้แต่น้อย สนแต่เมีย เพลงที่ตัวเองเอามาใช้ก็ไม่น่าจดจำซักเพลง จืดไปหมด

ฉากตบตีราทารอสถือว่าโหดสะใจดี (อย่างที่บ่นตะกี๊ ถ้ามีเพลง quest clear ขึ้นนิ จะฟินมาก)