เห็นหลายคนคิดว่าเกมถ้าดีจริงลงอะไรก็ได้ไม่เกี่ยงเนี่ย สำหรับผมคิดอีกแบบนะ คือยุคนี้นี่บริการหลังการขายนี่มันมีผลกับการตัดสินใจซื้อพอๆกับตัวสินค้าเลย

เทียบง่ายๆก็เหมือนเราซื้อแผ่นเกมร้านประจำร้านนึง ร้านเปิดมานานบริการหลังการขายก็โอเค อยู่ๆมีร้านใหม่มาเปิดบริการอะไรยังไม่พร้อมซักอย่าง ซื้อเกมมาถ้าแผ่นเสียก็เปลี่ยนไม่ได้ ,แผ่นซื้อมาถ้าเล่นหลายเครื่อง พอใส่เครื่องอื่นเซฟไม่ตามมาต้องมาเล่นใหม่หมด ,หรือเอาแอบข้อมูลที่เราลงตอนส่ังเกมไปใช้ไม่บอก พอเรื่องแดงก็บอกเราเอาไปใช้จริงแต่ไม่มีเจตนาร้าย ,พนง ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเกมที่เรากำลังจะซื้อเลยว่าเป็นยังไง มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง(ระบบรีวิว) ฯลฯ คิดง่ายๆแบบนี้เราจะซื้อร้านเดิมหรือร้านใหม่อ่ะครับ

แต่ที่น่าเกลียดกว่านั้นคือ แทนที่่ร้านใหม่จะสั่งแผ่นมาขายแข่งกับร้านเดิมโดยจัดโปรโมชั่นถูกกว่า เพิ่มอะไรที่มันดึงดูดลูกค้าให้คนสนใจซื้อร้านตัวเองแทน กลายเป็นว่าร้านใหม่ไปดีลกับตัวแทนว่า เออ แผ่นเกมที่กำลังจะขายให้ร้านแรกที่ประกาศไปเรียบร้อยแล้วเนี่ยให้มาขายร้านใหม่แทนไปเลยนะ ใครอยากอุดหนุนร้านเดิมก็รอปีหน้าไปค่อยซื้อได้ คนที่พรีร้านเดิมไปแล้วก็ต้องไปเอาเกมที่ร้านใหม่แทน แถมพูดโจมตีร้านแรกรัวๆ คิดออกรึยังอ่ะครับว่าทำไมลูกค้าร้านแรกเค้าถึงบ่นกัน

คือบางทีก็ต้องมองกว้างๆบ้าง หลายอย่างคนที่บ่นเค้าก็มีเหตุผลจริงๆ ไม่ใช่ว่าเค้าอคติ เรื่องมาก แฟนบอยอะไรกันหรอก ก่อนนี้เวลาผมอ่านพวกความเห็นแซะคนที่บ่นๆกันนี่ก็แอบหงุดหงิดนะ คือเราเป็นลูกค้า โดนผู้ผลิตเอาเปรียบนี่เราไม่มีสิทธิบ่น หรือแสดงความไม่พอใจอะไรเลยใช่มั้ย คือแรกๆผมก็มองว่าดีนะมีร้านค้าใหม่มาจะได้เกิดการแข่งขัน แต่ไปๆมาๆกรณี epic หลายเรื่องที่ไล่ๆทำมาแต่ละอย่างนี่มันก็น่าเกลียดจริงอ่ะครับ

ส่วนตัวผมก็ว่ามันเป็นสิทธิของผู้ผลิตมันต้องแสวงหาผลกำไรสูงสุดข้อเสนอดีๆอยู่ละ ถ้าเรารับไม่ได้เราก็ไม่สนับสนุนมันก็แค่นั้น ยิ่งมันมีคู่แข่งกันเยอะๆ ผู้บริโภคก็น่าจะได้ประโยชน์นะ

แต่ปัญหาคือลันเชอร์มันกากมั้ง แถมความปลอดภัยต่ำ ถ้ามันแก้ตรงนี้ได้ มันคงก็โอเคมั้ง แต่ถ้ามันทะลึ่งกลายเป็นแบบ baidu ในอนาคตอันนี้ก็อีกเรื่อง

เกมส์ ex ps4 xbox1 อะไรพวกนี้ หลังจากออก 3 ปีมันก็ไม่ค่อยมีคนตามหาเท่าไหร่เเล้ว เพราะหน้าที่ของมันหมดเเล้ว สร้างยอดขายเครื่อง ยอดขายเกมส์ 3 ปีก็คงเหลือเกมส์ละไม่ถึง 10 เหรียญ คนที่มี ps4 xbox1 ก็คงได้เล่นหมดเเล้ว สู้ไปให้ os อื่นได้เล่นเกมส์เงินอีกที่ดีกว่า sony ก็คงคิดได้เเล้ว

เรื่องนี้ผมไม่ได้ตามข่าวละเอียดนะครับ แต่มีข้อสงสัยอยู่ว่า
ทางสตีมมีมาตรการเรื่องนี้กับลูกค้าที่พรียังไงเหรอครับ เพราะว่าพรีผ่านร้านแต่ยังไม่ได้เกมในวันที่ออก
ถึงจะให้รีฟันด์แต่มันก็ต้องส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของร้านในอนาคต เพราะมันอาจจะมีเหตุการณ์แบบนี้อีก

เดี๋ยวๆมันใช่ผลประโยชน์แน่รึ Epic store มันไม่มี Regional price นะทำให้เมโทรที่ขายใน epic store แพงกว่ากดจากสตรีมอีก ไม่ต้องพูดถึงเกมในอนาคตลงราคาดอลล่าเต็มๆอย่างเดียวไม่มีแบ่งราคาตามโซนเหมือนสตรีม จากหลายๆเกมแทนที่จะได้ซื้อถูกกลับต้องจ่ายเท่ากะพวกอยู่เมกา ดีไม่ดีบางเกมไปเงินปอนด์ของอังกฤษเลยแพงเข้าไปอีก

ยกตัวอย่างนะ Fate/Extella Link ที่พึ่งออกไม่นานมานี้ในสตรีมราคาเต็ม = 49.99$ x 35 = 1749

พอมาเป็นราคาในไทย = 579 บาทถูกกว่ากันสามเท่า แล้วถ้าเกมนี้ไปลงใน epic store exclusive อย่างเดียวแทนที่คนไทยจะได้ราคา 579 คือจะเจอราคา 49.99$ อย่างเดียว

มันรับประโยชน์ตรงไหนครับ

หรือเอาตัวอย่างเกมก่อนหน้านี้เมโทรตอนที่ยังไม่ถอดออกจากสตรีมราคาในไทย 1049 บาทพอเข้า epic store โดดไปราคาเดียว 59.99$ นี่สองพันอัพนะครับแพงกว่าแผ่น ps4 อีกนะ

DMC 5 ที่พึ่งออกก็เหมือนกัน 59.99$ ราคา us ถ้าขึ้น epic ก็สองพันอัพครับ ราคาในไทยที่สตรีมแค่ 1339 บาท

อันนี้ก็คือไม่มายกันเลยเหมือนเดิมหรือเปล่าครับต้องโหลด launcher มาให้รกไม่พอจ่ายเพิ่มอีกทั้งๆที่จะได้ซื้อถูกลงนี่ไม่พูดถึงบริการหรือคุณสมบัติอื่นๆของ launcher เลยนะผมยกตัวอย่างแค่ราคาอย่างเดียวพอ

แล้ว Regional price นี่มันไม่ได้มีแต่แรกนะสตรีมพึ่งมาอัพเดททำมาปีไหนไม่รู้จำไม่ได้แต่ไม่ได้มีแต่เริ่มแน่ เพราะงั้นบอกสตรีมไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ถูกซะทีเดียวพอมีราคาตามโซนเข้ามาใครได้ประโยชน์มากสุด? คนซื้อไง

Epic เอา Exclusive ไปมีแต่จะทำให้แย่ลงอยู่ดีๆต้องมาจ่ายค่าเกมสองเท่างี้มันใช้ได้เหรอ?