ตามหัวข้อเลยครับ ปรกติผมเองเป็นคนใช้หูฟังกับมือถือเป็นหลัก (ตอนนี้ใช้ XS Maxอยู่) ไม่เน้นเรื่องเสียงเทพมากขอแค่ไม่แย่จนเกินไป อยากได้แบบไม่มีสายเชื่อมสองข้าง อยากให้มีไมค์ในตัวมีกล่องเก็บชาร์จ เน้นใส่สบายไม่หลุดง่าย ทุกอย่างผมว่า Airpod ลงตัวสุดแล้วครับ เรื่องราคาผมก็ไม่ติดแต่ติดที่ดีไซด์ตัดสายขาดนี่แหละครับที่ยังทำใจไม่ค่อยได้เลยพยายามหาตัวเลือกอื่นๆอยู่แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ค่อยได้ครับ

หากใครมีตัวเลือกแนะนำอื่นๆก็รบกวนแนะนำผมทีนะครับ ไม่อยากได้หูฟังสายขาดจริงๆ จะแพงกว่า Airpod ก็ได้ครับ ขอบคุณมากครับผม

มีเยอะมากมายมหาศาล

ถ้าจะเอาดีๆ ยอมรับราคาแพงๆ ได้ (ถ้ารับราคา airpods ได้ก็ควรจ่ายราคานั้นแต่ได้ของดีกว่า) ลองดู jabra 65t elite

Jaybird run

Sennheiser Momentum True Wireless

หาอยู่ทเหมือนกัน ยี่ห้อที่ว่ามาเปิดฝาแล้วแพร์ได้เลยปะฮะ แบบไม่ต้องไปกดเลือกในมือถืออีกที

ก่อนหน้าใช้จาบร้าไร้สายแบบมีสาย เบื่อการมานั่งแพร์ติดบ้างไม่ติดบ้างมาก

พวก True wireless ผมว่ามีให้เลือกเยอะพอสมควรนะ ให้แนะนำหูฟังผมว่าลองดูเองจะดีกว่า

true wirelessมีแบบearbudบ้างมั้ยครับที่ไม่ใช่airpod พอดีไม่ถูกกับinearเลย

B&O beoplay e8 ครับ

แนะนำ Jabra Elite 65T ไม่ก็ Jabra Elite Active 65T อีกเสียงครับ ที่ราคา 6,290 บาท กับ 6,990 บาท ใน shopee กับ lazada เอามาลดราคาบ่อยเหมือนกัน ผมได้ตัว active มาตอน 6,290 บาท (ได้ coin คืนมาอีก 200 บาท)

ผมจัดมาอย่างละตัว ไม่ผิดหวังครับ ตัว active แพงกว่า 700 บาท แต่จะกันน้ำกันเหงื่อมาอีกระดับนึง ระหว่าง ip55 กับ ip56

แล้วตัว active ก็มีเพิ่มฟังชั่น Motion sensor ส่วนการใส่อาจจะต้องปรับตัวนิดนึง ใส่ไปไม่นานก็ชิน ข้อดีข้อเสียจะมีตามนี้ครับ


ข้อดี

1. สำหรับดูหนัง เสียงใกล้เคียงกับภาพเวลาดูหนังจะไม่ดีเลย์ (ถึงมีก็น้อยไม่หงุดหงิด)

2. สำหรับฟังเพลง เสียงโอเคและธรรมดาไม่โดดเด่นแต่ไม่แย่ มี EQ ให้ปรับแก้เซ็งผ่านแอป Sound+ ของ Jabra

3. สำหรับออกกำลังกาย ใช้ได้ดีแน่นติดหูสะบัดไม่หลุด แต่ถ้าวิ่งนานๆบางทีเหงื่ออาจจะซึมเข้าไปบ้าง ถอดออกมาเช็ดใส่กลับเข้าไปก็โอเค

4. ชั่วโมงการใช้งาน สามารถฟังได้ติดต่อกันประมาณ 5 ชม.แบตถึงจะหมด ผมเคยใช้มากสุด 3.5 ชม.พอมาดูระดับแบตก็จะเหลือประมาณ 30% กว่าๆ ถือว่าทำได้ตามที่โฆษณา

5. เคสที่เก็บหูฟัง ชาร์จได้ทั้งหมด 2 รอบ (ประมาณ 10 ชม.) ถ้าไม่ได้ใช้บ่อยและไม่ได้ใช้ออกกำลังกาย น่าจะใช้ได้ประมาณ 4-7 วัน โดยที่ไม่ต้องชาร์จตัวเคสเลย แต่ถ้าใช้ออกกำลังกายด้วย อาจจะต้องทำการชาร์ท 2 วันครั้ง โดยที่ตัวเคสใช้เวลาชาร์จประมาณ 2 ชม.กว่าๆ

6. การเชื่อมต่อ BT5.0 สามารถเชื่อมต่อ 2 เครื่องได้ในคราวเดียวกัน โดยผมใช้ต่อกับทั้งมือถือ andriod (version 9.0) และ iPad สามารถสลับฟังได้ไม่มีปัญหา

ึ7. การตามหาหูฟัง ตัวแอป Sound+ จะมี Find my Jabra ให้เราสามารถบอกตำแหน่งสุดท้ายของหูฟังได้ เผื่อเอาไว้เวลาลืมว่าเอาไปไว้ที่ไหนสามารถใช้แอปหาแทนสำหรับคนที่ขี้ลืม (แต่ส่งเสียงไม่ได้นะ บอกได้แต่ตำแหน่งบนแผนที่เฉยๆ)

8. ฟังชั่นขณะใช้งาน เวลาถอด earbud ข้างใดข้างนึงออกเสียงเพลงจะหยุดโดยอัตโนมัติ และถ้าใส่กลับเข้ามาเพลงจะเล่นได้ตามเดิม ถือว่าสะดวกสำหรับคนชอบถอดๆใส่ๆ

9. สามารถใช้งานหูฟังข้างเดียวได้ด้วย โดยเอาแค่ earbud ด้านขวาออกมาจากเคส (เผื่ออยากจจะใช้แค่ข้างเดียว)


ข้อเสีย

1. ตัว earbud ไม่มีแม่เหล็กยึดติดกับเคส เวลาเปิดเคสเพื่อจะหยิบหูฟังต้องระวังหล่นนิดนึง

2. ตัวเคส เป็นรอยง่ายต้องหาถุงเล็กๆมาใส่อีกชั้นถึงจะปลอดภัย

3. ปุ่มกดที่ตัว earbud เวลาปรับโวลุ่มหรือเปลี่ยนเพลงต้องกดที่ปุ่มนี้ บางทีเวลากดหูฟังจะทำให้มันเข้าลึกเข้าไปในรูหู ทำให้เจ็บในบางครั้ง

โดยรวมมีประมาณนี้สำหรับหูฟังที่ราคาไม่ห่างกับของ apple แต่ได้ฟังชั่นเพิ่มเติมขึ้นมา

ไปซื้อ Senn. Momentum True Wireless มา เสียงดีจริง ได้ซัก 80-90% ของพวก sony 1000x เลยทีเดียว

ข้อเสียคือแบ็ตหมดเร็วไปหน่อย แถมไม่มีปุ่มปิดหูฟัง ต้องเก็บลงเคสอย่างเดียว และอีกอย่างตอนดึงออกจากหูไปเก็บ ด้วยรูปทรงมันจับไม่ถนัดเท่าไหร่ และลื่นด้วย เกือบร่วงไปหลายที