Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
ขอความร่วมมือช่วยส่ง Light Novel ไปญี่ปุ่นหน่อยครับ

<<
<
1
Reply
Vote
# Fri 15 Dec 2017 : 5:17PM

Azurelreito
member

Since 2017-12-15 17:11:40
(1 post)
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมกำลังเขียนหนังสือ light novel เพื่อออกตีพิมพ์ที่ญี่ปุ่นแต่มีปัญหาอยู่ว่าทางนั้นดูไม่ค่อยต้อนรับคนต่างชาติเท่าไหร่ เลยอยากขอความช่วยเหลืออยากให้ช่วยลง petition ให้เขาเห็นหน่อยครับว่าตลาดอนิเมของเมืองไทยมีค่าพอที่จะให้ความสนใจ

-พื้นหลังของปัญหา-
ที่ญี่ปุ่นนี่ปกติแล้วถ้าจะลงสมัครเป็นนักเขียน light novel แต่ละสำนักพิมพ์จะเปิดประกวดของตัวเองครับ สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่จะจัดประกวดงี้ปีละครั้ง โดยรับต้นฉบับจำกัดไว้ที่เรื่องละ 150 หน้า หรือบางที่อาจจะรับแค่ 130 หน้า ใครที่ชนะผ่านเข้ารอบไปถึง top 10 ได้จะได้รับตีพิมพ์ และ top 5 จะมีเงินรางวัลพิเศษให้
ฟังดูเป็นกฎที่แฟร์และดีอยู่ใช่ไหมครับ ปัญหาคือเขาจะดูเพียงแค่ 150 หน้าชิ้นเดี่ยวๆนี้เท่านั้น ถ้าใครเขียนเรื่องไม่จบตายตัวภายใน 150 หน้านี้ก็จะกลายเป็นหักคะแนนไป
ปัญหาตรงนี้เลยเป็นว่าผมเขียนมา 13 เรื่อง ส่งประกวดผ่านมา 10 เรื่อง แต่เน้นเนื้อ เน้นทั้งความลึกของทั้งตัวละคร ฉาก คอนเซป และมุมมอง นอกจากนั้นก็พยายามทำอะไรให้แตกต่างจากที่คนญี่ปุ่นทำกันซ้ำซากเยอะแยะแล้วเพื่อให้มีความเด่นของตัวเองครับ
ส่วนตัวเองผมก็ไม่ได้เขียนเพื่อเอาเงินรางวัล แต่ตั้งใจเพื่อเขียนเป็นซีรี่ย์เพื่อทำเป็นงานจริงๆจังๆครับ ทางตัวสำนักพิมพ์ของญี่ปุ่นเองจริงๆก็ทำเงินหลักๆจากซีรี่ย์อยู่แล้ว พวกที่ชนะผ่านๆมาส่วนมากสำนักพิมพ์เองก็จะดันให้เขียนต่อเป็นซีรี่ย์อยู่แล้วด้วยซ้ำ เลยนึกว่าถ้าส่งไปทางนั้นก็จะยอมเข้าใจ
แต่เอาเข้าจริงๆส่งมา 2 สำนักพิมพ์นี่แล้วกลับโดนปรับตกหมด 10 เรื่องครับ คอมเมนต์เขาคืนมาก็ชมอยู่บอกว่าแหวกแนว ลึกละเอียด น่าสนใจอยู่ แต่ที่โดนปรับตกคือเพราะไม่จบตายตัวในเล่มเดียว ตอนจบเล่มยังมีปัญหาที่ยังไม่แก้ค้างอยู่ มีตัวละครเยอะไป บางตัวมีบทน้อยไป หรือภาษาอาจจะยังดีไม่พอ พูดง่ายๆคือนอกจากเรื่องภาษาแล้วถ้าคนตรวจดูงานของเราเป็นซีรี่ย์แต่แรกก็จะไม่เป็นปัญหาเลยครับ
ดูอย่างแฮรี่พอตเตอร์หรือวันพีซเป็นตัวอย่าง งานพวกนี้เล่มแรกอย่างเดียวก็ลงตัวละครทีเป็นสิบๆ เรื่องก็ไม่ได้รวบจบตอนท้าย แต่เพราะคนอ่านรู้อยู่แล้วว่ามีเรื่องให้อ่านต่ออีกยาว และกรณีนั้นให้ค่อยๆสร้างขึ้นไป ตอนจบมันก็จะยิ่งพอใจ มันเลยไม่เป็นปัญหาใช่ไหมละครับ ส่วนตัวผมเลยคิดว่ายังไงสุดท้ายสำนักพิมพ์ก็อยากได้ของไปทำซีรี่ย์อยู่แล้ว ตรวจอย่างงี้คิดยังไงก็ไม่สมเหตสมผลครับ

สำหรับซีรี่ย์ 150 หน้าถือว่ายังเป็นแค่ตอนต้นเรื่อง แค่แนะนำตัวละคร แนะนำฉาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่ได้มีเนื้อที่สนุกในตัวของมันเอง ถ้าแปลเป็นอนิเมก็จะได้ประมาน 3-5 ตอนครับ
ตอนส่งสำนักพิมพ์ที่ 2 ก็ถามเค้าผ่านเมลก่อนแล้วว่ารับของซีรี่ย์รึเปล่าเค้าก็บอกโอเค ตอนส่งต้นฉบับไปให้ผมก็เขียนคำท้ายไปให้ด้วยว่าอยากให้ตรวจโดยดูว่าเรื่องนี้เขียนเพื่อเป็นซีรี่ย์ แต่สุดท้ายผลลัพธ์เหมือนเดิมครับ ตกหมด 10 เล่ม สาเหตุเดิมเป๊ะๆ คือสรุปกูบอกให้อ่านเป็นซี่รี่ย์ก็จะไม่ทำตามมันให้ได้
เรื่องภาษาญี่ปุ่นในต้นฉบับก็ไม่ได้แย่อะไรนะครับ ตัวผมเองก็เรียบภาษาญี่ปุ่นมาเป็น 10 ปีแล้ว คุยกับคนญี่ปุ่นได้ประมานเค้าไม่รู้สึกตัวว่าเราต่างชาติ สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นก็ได้ระดับ 1(ระดับสูงสุด) มาแล้ว ตัวต้นฉบับนี่ก็ออกเงินไปตั้ง 3 แสนเยน(1 แสนบาท)จ้างคนญี่ปุ่นมาตรวจให้แล้วว่าภาษาไม่ผิด ไม่แปลกเพี้ยนอะไร
เพราะงั้นตรงนี้ก็ต้องยอมรับครับว่าภาษาอาจจะไม่ได้ผิด ปัญหาคือมันแค่อาจจะไม่สละสลวย อ่านไม่สบายตาเท่าคนญี่ปุ่นเขียนจริงๆ เลยยอมรับว่าตรงนี้เป็นข้อเสียแพ้คนญี่ปุ่นอยู่ แต่ยังไงตรงนี้ถ้าเขารับเมื่อไหร่ มีบรรณาธิการเมื่อไหร่คือหมดปัญหาแน่นอน เลยคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ
ที่เขียนไปตั้ง 13 เล่มนี่ก็ไม่ใช่เพราะเขียนลวกๆส่งเดจนะครับ แต่เพราะอยากให้สำนักพิมพ์เห็นว่าเราสามารถเขียนได้ทีละหลายเรื่อง หลายหัวข้อ หลายสไตล์ แต่ทุกเรื่องสนุกหมด ไอเดียสดใหม่ และโชว์ด้วยว่าเราทำงานหนัก มุ่งมั่น ทุกวันนี้ก็นั่งเขียนถึงตี 2 ทุกคืนครับ แต่สุดท้ายส่งไปสำนักพิมพ์ก็ไม่รู้สึกตัวเหมือนเดิมครับ

ปัญหานอกจากนั้นคือประกวดพวกนี้เค้าทำกันแค่ปีละครั้ง ทำครั้งนึงก็ใช้เวลาตั้งครึ่งปีกว่าจะประกาศผล และสำนักพิมพ์เกือบทุกที่ก็เปิดประกวดเวลาไล่เลี่ยกันครับ เลยต่อให้อยากลองส่งหลายๆที่เผื่อจะมีที่ไหนรับก็ต้องรอมันถึงปีนึงกว่าจะได้ลองซักที่นึง
เพราะงั้นผมเลยคิดว่าวีธีงี้ไม่เวิร์ค ยิ่งคนตรวจพูดไม่รู้เรื่องงี้อีกส่งไปแต่ละที่เสียอีก 10 ปีก็ไม่ได้แน่นอน เลยพยายามติดต่อสำนักพิมพ์โดยตรงว่าขอคุยกับบรรณาธิการได้รึเปล่า เราจะได้พรีเซนต์งานของเราแบบชัดเจนว่าเราเขียนซีรี่ย์อยู่
นอกจากนั้นก็อยากจะโชว์ด้วยว่าในการที่เป็นชาวต่างชาติ เราสามารถนำไอเดียสดใหม่ที่คนญี่ปุ่นคิดไม่ถึงเข้ามาได้ และก็จะช่วยขยายตลาดต่างชาติ โดยเฉพาะในไทยได้มากขึ้น เพราะตลาดอนิเมในไทยก็ใหญ่ถือเป็นอันดับรองแค่จีน เกาหลี และญี่ปุ่นเองครับ เพราะงั้นก็คือเข้าใจว่าเราไปเสนอแบบนี้มันไม่ตรงกับกฎที่เขาวางไว้ แต่เราก็ลองตามกฎเขาแล้วและรู้ตัวแล้วว่ายิ่งตามกฎจะกลายเป็นว่าไม่แฟร์กับเราซะแทน เลยมีข้อเสนอขนาดนี้มาเพื่อแลกขอแค่โอกาสเปิดรับฟังเราหน่อยจะได้ไหม

แต่คุยกับตรงนี้ผ่านทั้งเมลกับทั้งโทรศัพท์ของตัวบริษัท คุยเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอมรับฟังครับ อธิบายแล้วอธิบายอีกว่าทำไมระบบประกวดของเขาไม่เวิร์คกับเรา ว่าเราสามารถยื่นทั้งไอเดียและโอกาสทางธุรกิจแบบที่คนญี่ปุ่นทำไม่ได้ และว่าเราก็ไม่ได้สั่งให้เขารับทันที ขอโอกาสคุยดีๆเพื่อที่เราจะได้อธิบายได้ชัดเจน แต่ไม่ว่าจะคุยยังไงเขาก็ไม่ยอมผ่านให้เราไปคุยกับบรรณาธิการ บอกว่าตามกฏๆอย่างเดียว ยอมรับฟังนิดหน่อยก็ไม่ได้เสียหาย และปฏิเสธเราท่าเดียวแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นประโยชน์อะไรให้เขาแท้ๆ
มีบางที่ตอบกลับมาตรงๆด้วยเลยว่าเขาไม่แคร์ตลาต่างชาติ เขาไม่แคร์ว่าเราจะเอาไอเดียอะไรใหม่มาให้ ประมานว่าเรื่องคนญี่ปุ่น คนนอกอย่ายุ่ง ประมานนั้นเลยครับ
พอพูดอย่างงี้ผมเลยอยากขอความช่วยเหลือเซ็น petition นี้หน่อยครับ เพื่อให้เขาเห็นและยอมเปิดรับฟังขึ้นมาหน่อย ตัว petition นี้เขียนส่งไปให้ Kyoto Animation อยู่ แต่จริงๆคือไม่จำกัดตายตัวครับว่าส่งไปที่ไหน เพราะทุกที่ๆผ่านมาหัวแข็งไม่ยอมฟังพอกัน

https://www.change.org/p/kyoto-animation-please-support-my-entry-into-the-japanese-light-novel-industry


<<
<
1
Reply
Vote




1 online users
Logged In :