หลากเหตุผลว่าทำไม Kamen Rider Build ถึงได้สนุก

หากคาเมนไรเดอร์เอ็กเซดดีงามในแง่ของการสร้างจุดเด่นให้กับตัวคาแรคเตอร์ แล้วให้พวกเค้าพามันดำเนินไปตามเรื่องราวจนกลายเป็นความสนุกน่าติดตาม

คาเมนไรเดอร์บิลด์กลับเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงเรื่องเป็นลำดับแรก และการโปรยปริศนาเอาไว้ให้ตัวละครทุกตัวมาเปิดเผยที่ละจุด หรือตามเก็บปมไปเรื่อย ๆ จนแทบไม่ต้องสร้างตัวละครให้แข็งแกร่งเลย

นี่อาจจะเป็นข้อดีของทีมโปรดิวเซอร์ที่ลากอดีตคนแต่งการ์ตูนโชเน็นชื่อดังอย่าง "เรียกข้าว่าอีกา" มานั่งแท่น Head Writer และมอบหมายให้เค้าเขียนคนเดียวจนถึงตอนล่าสุด (คาดว่าคงเหมือนเอ็กเซด ที่เขียนคนเดียวยันตอนจบ)

มันต่างจากเรื่องก่อนหน้าที่มี Head Writer หนึ่งคน แล้วก็ให้ผู้ช่วยมาแต่งต่อไปโดยมีการวางแนวทางให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่จุดด้อยก็ตือการขาดความ "ต่อเนื่อง" ของอารมณ์และเนื้อหาบางอย่างที่อาจจะแสดงออกมาได้ไม่เต็มที่นัก

และนี่คือหลากเหตุผลว่าทำไมคาเมนไรเดอร์บิลด์ ถึงกลายเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้

------------------------------------------

1. การดำเนินเรื่องอันรวดเร็ว
เป็นเรื่องปรกติที่การเปิดตัวด้วยปริศนาเกี่ยวกับตัวเอก มักจะมาเฉลยเอาช่วงกลางหรือค่อนไปทางท้าย ๆ เรื่อง แต่ทว่าการเปิดเผยประวัติของ "คิริว เซนโตะ" กลับเปิดตัวในตอนที่ 16 เท่านั้น ไม่นับการพัฒนาตัวละครที่เรียกได้ว่าก้าวไปแบบตอนต่อตอน หากไม่ได้ดูซักตอนนึงก็อาจจะงงไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

แม้การดำเนินเรื่องอันฉับไวจะทำให้ผู้ชมบางส่วนมองว่าอาจจะทำให้เนื้อหาขาดน้ำหนัก แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะทีมงานเอาเนื้อหาส่วนขยายดังกล่าวไปโปะ ๆ ตาม Episode พิเศษที่แถมมากับบลูเรย์ หรือออกฉายทาง Youtube Channel แทน

2. หักแล้วหักอีก
การหักมุมถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่หาไม่ค่อยได้ในคาเมนไรเดอร์ซีรี่ส์ แต่คาเมนไรเดอร์บิลด์กลับซ่อนมันเอาไว้อย่างแนบเนียน รวมไปถึงการทำให้คนดูมโนไปเองต่าง ๆ นานา จนไม่สามารถจับทางได้ว่าต่อไปจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีก

3. ความสำคัญของตัวละคร
ย้อนกลับไปในคาเมนไรเดอร์หลายเรื่องก่อนหน้า ตัวละครบางอย่างถูกสร้างขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แต่ระยะหลังการนำเอาตัวละครที่เราเคยเห็นผ่านตา และคิดว่าไม่น่าจะกลับมาอีกถูกนำมาเป็นตัวละครสำคัญในย้ำประเด็นบางอย่าง มันทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าการเขียนบทนั้นถูกเอาใจใส่มาเป็นอย่างดี

ตัวละครในซีรี่ส์นี้ก็เช่นกัน แม้จะดูเป็นตัวละครที่เหมือนจะไม่โดดเด่นอะไรมากมายนัก แต่ก็เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างไม่สะดุด

4. เพลงประกอบและเพลงเปิดโดนใจ
หากเอ่ยชื่อ "เคนจิ คาวาอิ" แล้ว แฟนสายอนิเมะและภาพยนตร์หลายคนน่าจะร้องอ๋อ เพราะเค้าคือหนึ่งใน Composer มือทองผู้ผ่านงานระดับโลกมาแล้วหลายอย่าง ไม่นับเพลง OP จาก PANDORA feat. Beverly ที่เรียกกระแสจากนักฟังเพลงได้แบบเป็นปรากฏการณ์

แม้ตอนนี้จะฉายไปได้ 30 ตอนแล้ว แต่ก็ไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกขาดตอนหรือสะดุดไปกับการเล่าเนื้อหาแต่อย่างใด ถ้าหากสามารถทำให้เรื่องราวดำเนินไปแบบพีคสัปดาห์ต่อสัปดาห์ได้แล้วล่ะก็ เสียงของผู้ชมอาจจะเทให้ว่านี่คือซีรี่ส์คาเมนไรเดอร์ที่น่าติดตามที่สุดในยุคเฮเซเฟสสองก็เป็นได้

อันนี้ เพจ J-hero.com เขียนอธิบายครับ ลองอ่านดูครับ

Credit : J-hero.com

ผมไม่ได้ดู Gaim กับ Ex aid นะครับ เนื่องจาก ดีไซน์ไม่ถูกใจเท่าไร

แต่ถ้านับตั้งแต่ OOO ผมก็คิดว่า Build นี้แหละ สามารถเป็นซีรีย์คาเมนไรเดอในใจของผมได้เลย
หนังมันค่อนข้างมีชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่ น่าสนใจครับ ปมเรื่องเนื้อหาที่ค่อนข้างจริงจัง แต่ก็มีการสอดมุกตลก
เข้าไป ทำให้หนังไม่เครียด แล้วมันค่อนข้างลงตัวครับ ถ้าตอนจบดี นี้มีสิทธิ์
ไรเดอที่ดีที่สุดเท่าทีเคยทำมาเลยนะครับ

ด้วยองค์ ประกอบ การดีไซน์ คาแรคเตอร์ การเล่าเรื่อง เพลงประกอบ
ถ้าเป็นคนที่ชอบดูคาเมนไรเดอ ผมคิดว่าไม่ควรพลาดครับ

2เรื่องนี้ดีครับ สนุกในคนละแบบ
ถ้าทนช่วงขายของ2-3เดือนแรกได้ หลังจากนี้ยาวครับ

เรื่องแรกก็ริวคิครับ
เดี๋ยวนะ ไนท์เป็นพระเอกนิหน่า

ผมว่า สตาร์ค รวมร่างร่างไปสมบูรณ์กับ มาสเตอร์ละครับ ตั้งเเต่ดาวอังคาร ทุกอย่างคือจิตสำนึกของสตาร์คทั้งหมด โชอิจิ เเค่ โผล่มาได้นิดๆเเบบนั้นเเหละ