พูดถึงเรื่องรื้อถอน ดูข่าวแถวพัทยาก็เห็นบ่อยๆนะ

แต่เป็นอาคารของเอกชน รื้อไปก็ไม่เสียดายงบชาติ

เคสพวกนั้นผิด กม. แต่ก็ไม่รู้หน่วยงานรัฐ ปล่อยให้สร้างได้ยังไง

ตอบด้านบน ผมคิดว่าหลายเคส เขาไม่รู้ว่าสร้างครับ หลายเคสก็ไม่รู้ว่าผิด สร้างได้ไม่ได้ ในกรณีที่ไม่รับเงินนะ การก่อสร้างของเอกชนมันเยอะ บางทีก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ดี ๆ เขา งานหนักแถมกดดัน



เขียนใหม่ก็ได้ ส่วนคดีครูจอมทรัพย์ ผมไม่คิดว่าจะทำลายน้ำหนักของโซเชี่ยลได้ ไม่งั้น ตอนนี้ อาชีพ ตำรวจ อัยการ ทนาย ตุลาการ คงไม่มีที่ยืนในสังคมแล้วละครับ เพราะ % ความผิดพลาดสูงมากกว่าหลายเท่า ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ แต่ส่วนมากจะเป็นความผิดที่ตั้งใจนี่สิ


ง่ายนิดเดียวประชาชนเขาจะหันไปพึ่งคนที่เขาคิดว่าช่วยเขาได้ สมัยก่อนมีเรื่องมีราวตีฆ้องเอา ทุกวันนี้ ทุกคนหันเข้าหาโซเชี่ยล เพราะ ถ้าเป็นเรื่องที่โซเชี่ยล โอกาศที่เขาจะได้รับความยุติธรรมจะมีมากกว่าเดิม ตำรวจจะทำงาน ทนายจะถูกจับตาดู อัยการก็เขียนมั่วนิ่มเข้าข้างนายทุนหรือคนมีอำนาจลำบาก คือโดนขยี้เละ


ไม่ต้องคิดอะไรมาก เมื่อประชาชนคนนึง เกิดเหตุไม่ได้รับความเป็นธรรมการที่เขาหวังพึ่งโซเชี่ยล ไม่ได้หมายความว่าโซเชี่ยลจะผิดนิ แต่เป็นเพราะประชาชนเชื่อถือโซเชี่ยลมากกว่ากระบวนการยุติธรรมในปัจจุบัน


ดังนั้นคนที่ต้องหันมาทบทวนตัวเองอย่างเร่งด่วน ผมมองว่าคือกระบวนการยุติธรรมครับ ทำยังไงความน่าเชื่อถือ และความน่านับถือถึงได้ตกลงไปขนาดนี้


ส่วนเรื่องที่แก้ไม่ได้ เพราะเอาตามความจริงคือ อำนาจในการแก้ อยู่ในมือของผู้ถือกฏหมายเท่านั้นแหละ แพทย์สภาย่อมเข้าข้างแพทย์ ต่อให้เลวแค่ไหนถ้าไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนจนคนในสังคมรู้กันทั่ว แพทย์สภาก็เข้าข้างครับ จะให้เพิ่มกฏถอดถอนเข้าไปก็ไม่มีทาง ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน มันทุกอาชีพแหละครับ ถ้าเอาตามความเป็นจริง ทุกวันนี้ ฝ่ายกฏหมายแกล้งโง่เพื่อเงินเยอะครับ % ดีมี แต่ลดลงเรื่อย ๆ จนน่าใจหาย แต่ก็นั่นแหละทุกคนมีครอบครัว ต้องกินต้องใช้ เราไม่ว่ากัน


ตอนนี้สิ่งที่ประชาชนต้องการคือพลังของประชาชนด้วยกันเองบนโลกโซเชี่ยล มันย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วครับ คือ มันมาถึงจุดที่สังคมยอมรับพลังจากโลกโซเชี่ยล ยอมรับพวกดาร์คเพจมากกว่าสื่อหลัก ไม่ว่าจะทีวี หรือ นสพ สื่อหลักทุกวันนี้ทำได้แค่โหนกระแสแล้วเอาไปปั่นต่อเท่านั้นเอง


บอกตรง ๆ ว่ากระบวนการยุติธรรมไทยทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเองแบบต่อเนื่องจริง ๆ แล้วเรื่องนี้ก็เอาไปอิงกับการเมืองได้ เพราะปรกติอำนาจตุลาการจะคานกับอำนาจทางการเมือง ปัจจุบันความน่าเชื่อถือของฝั่งตุลาการก็ง่อนแง่น มีเรื่องตลอด ล่าสุดเรื่องใช้จ่าบ้านพักบนเขาเข้ามาอีก แถมวันชี้แจงตัวแทนก็ไม่ไป จริง ๆ ไปรับหน้าหน่อยก็ยังดี


ถ้าเกิดประชาชนเห็นว่าฝ่ายตุลาการ แม่งก็ไม่ต่างจากพวกนักการเมืองแถมไอ้พวกนี้อยู่ยาวกว่านักการเมืองอีก การที่จะเกิดแรงพลักดันให้ฝ่ายตุลาการต้องมาจากฝ่ายการเมืองก็ไม่ใช่ว่าโอกาศจะเป็น 0 ต้องระวังจริง ๆ นะ คือมันจะกลายเป็นมองว่าทุกวันนี้ใครแตะพวกมึงไม่ได้ งั้นพวกกูเลือกฝ่ายการเมืองเพื่อไปเลือกพวกมึงเลยดีกว่า ซึ่งถ้าคิดแบบนั้นหายนะจริง ๆ

คดีหวย30 ล้าน ถ้าไม่โวยโซเชี่ยลเรื่องมันจะไปจบที่ ลุงจรูญเข้าคุกก่อนเลยครับ บอกตรงๆนะว่าซวยเพราะจำรวยภาคเจ็ดเขาบอกว่า พอดีลุงจรูญตอบไม่ดี แต่ฝั่งครู พยานเขาเยอะ

คดีหวย30 ล้าน ถ้าไม่โวยโซเชี่ยลเรื่องมันจะไปจบที่ ลุงจรูญเข้าคุกก่อนเลยครับ บอกตรงๆนะว่าซวยเพราะจำรวยภาคเจ็ดเขาบอกว่า พอดีลุงจรูญตอบไม่ดี แต่ฝั่งครู พยานเขาเยอะ

คือชาวบ้านทั่วไปเขาเชื่อทาง จรูญ มากกว่าไงเพราะ คิดดูคนถูกหวยไปแล้วได้เงินไปแล้วอยู่ดีดี ตำรวจเรียกไปคุยว่า มีคนกล่าวหาเขาจะให้แบ่งครึ่งๆ คนธรรมดาจะเตรียมตัวไปตอบอะไรเมิงได้ ตำรวจคนไกล่เกลี่ยมันก็บอกว่าตัวเองเป็นกลาง แต่ลุงจรูญเขาคิดว่า ตำรวจแม่งเข้าข้างฝั่งครูเต็มๆ

อีกเรื่องนะคือ ถ้าเป็นซีรีย์ Law and Order การต่อรองมันจะเกิดตอน อัยการต่อรองกับจำเลย คือหลักฐานมีสำนวนมี เรื่องไปถึงศาลแล้ว

หรือถ้าเป็นศาลแพ่งบ้านเรา กระบวนการมันจะมีการเรียกมาไกล่เกลี่ยกันโดยศาล บางทีคุยกันได้จะได้ไม่ต้องส่งเรื่องพิจารณาในศาล โดยมีทนายสองฝั่ง และคนของศาลไปช่วยคุยช่วยฟังด้วย

ถ้าบอกตำรวจฟังความฝ่ายเดียวแล้วไปเรียกคู่กรณีมาบอกเฮ้ย ครึ่ง-ครึ่ง ว่ะ ถ้าตกลงเรื่องจะได้ไม่ถึงศาลแบบนี้มันผิดนะครับ ฟังดูดีแต่จริงใครโดนเรียกไปแบบนี้ เขาจะคิดว่า ตำรวจ+คู่กรณีมันฮั้วกันหรือเปล่าวะ แล้วอยู่ดีๆเชิญไปคุยไม่ให้กูเอาทนายไปคุยด้วยเนี้ยนะ แบบนี้ไม่เรียกว่าไกล่เกลี่ยโดยตำรวจนะครับ มันจะกลายเป็นตำรวจรวมหัวกับกลุ่มกรรโชกทรัพย์มากกว่า

เรื่องมันไม่ชอบมาพากลตั้งแต่ตอนบอกว่า มีตำรวจใหญ่เรียกไปไกล่เกลี่ยแล้ว แล้วบอกปล่อยให้ตำรวจพื้นที่ทำสำนวนต่อเอง นี่คิดได้ไง? คือจะปล่อยให้ตำรวจทำหน้าที่ เก็บข้อมูล, ทำสำนวน, ไกล่เกลี่ย ด้วยเลยเหรอ? ทั้งที่ขั้นไกล่เกลี่ยน่าจะเป็นหน้าที่ศาลมากกว่า

สรุป คือตำรวจพื้นที่ไม่เหมาะที่จะทำสำนวนแล้วตั้งแต่มีหลักฐานว่ามีตำรวจใหญ่ในพื้นที่ เคยเรียกลุงจรูญไปไกล่เกลี่ย เพราะใครๆก็คิดว่าตำรวจทำไม่โปร่งใส

ดราม่าในข่าว ยุคสื่อดิจิตอล เป็นเรื่องดีหรือไม่ดี ?

ดี 10% ที่เหลือ 90% ไม่สร้างสรรค์ ไม่เกิดประโยชน์

ปัญหาคือ สื่อก็แย่ คนอ่านก็ไม่มีคุณภาพ

จริงเราต้องแยกพลังโซเชียล(ด้านบวก) กับดราม่า(ด้านลบ)นะ แต่โซเชียลของบ้านเรามันอิงดราม่า แยกกันไม่ออก เป็นอันเดียวกัน

พลังโซเชียล(ด้านบวก)มันต้อง
1 ใช้แสดงพลัง เรียกร้องเรื่องต่างๆได้
2 ถูกใช้เป็นเครืองมือตรวจสอบภาคปชช.
3 กระจายข่าวสาร เสรีภาพในการรับรู้ข่าวสาร
4 สะท้อนเสียงของปชช.จริงๆ ว่าต้องการอะไร

แต่สังคมอุดมดราม่าของบ้านเรามันแทบไม่ทำให้เกิดเรื่องพวกนี้เลย อย่างข่าวตรวจสอบต่างๆของอิศรา โซเชียลเอามาต่อยอดกันไหม ? แทบไม่มีเลย

คนยังคิดกันว่าได้ดราม่าเรื่องหวย ได้ด่าครู ทำตัวเป็นผู้พิพากษาออนไลน์เป็นเรื่องดี ซึ่งจริงๆมันผิด

ปัญหามาจากสื่อ เอาแต่ขายดราม่า เสี้ยมดราม่า บิดเบือน สื่อจะเขียนข่าวให้คนด่าคนรวย ด่าโน่นด่านี่ ด่าใครก็ได้

หวย ไม่มีโซเชียล ไม่ได้จบที่ลุงเข้าคุกนะครับ ก็ต้องไปสู้กันในศาล ศาลยังไม่ตัดสิน แต่พวกผู้พิพากษาโซเชียลตัดสินกันเองไปแล้ว

ความจริงคือเราไม่ใช่พระอินทร์มีแว่นทิพย์ส่องเห็นเหตุการณ์จริง แม้แต่ศาลก็ไม่รู้ ศาลแค่ตัดสินไปตามพยานหลักฐาน (คดีเป็นล้านคดีมันก็เลยมีที่พลาดได้ ถึงมีระบบรื้อคดี แบบครูจอมทรัพย์)

จริงๆไม่มีใครรู้หรอกว่า "หวยเป็นของใคร"
-จริงๆครูอาจจะซื้อจริง ทำหล่นจริง ถึงไม่ยอมถอย ตัดใจไม่ได้
-จริงๆลุงอาจจะซื้อ ครูอาจจะจำเลขผิด หรือคิดโกงลุง
-หวยไม่ใช่ของครู ของใครทำหล่นก็ไม่รู้ แต่ลุงเก็บได้

เรื่องใครจะเป็นเจ้าของที่น่าจะเป็นคนซื้อตัวจริง เราแค่เดากันตามหลักฐานพยาน แต่ที่แน่ๆหวยอยู่ที่ใคร คนนั้นก็เอาไปขึ้นเงิน

ส่วนผลคดี ศาลจะตัดสินยังไงก็ยังไม่รู้ ก็ต้องว่ากันตามพยานหลักฐาน ซึ่งลุงน่าจะได้เปรียบ แต่คดีอาจจะพลิกก็ได้ ซึ่งถ้าพลิกจะรับกันได้ไหม? ก็จะรับกันไม่ได้อีก

เคยบอกแล้วสมัยดราม่าจอมทรัพย์ "มันไม่เกี่ยวกับว่าเลือกข้างถูก หรือว่าเลือกข้างผิด แต่ประเด็นคือไม่ควรเลือกข้าง มันไม่ใช่ว่าศาลตัดสินให้ข้างที่ตัวเองเชียร์ชนะ แล้วตีปีกดีใจว่าเลือกถูก แล้วก็ทำตัวเหมือนเดิม ยังทุ่มสุดใจดราม่าเชียร์

ส่วนตัวผมคิดว่า พลังโซเชียลที่เกิดกับคดีต่างๆที่"ความจริงยังปรากฏแค่ครึ่งเดียว" ทำให้เรื่องยุ่งยากมีผลเสีย มากกว่ามีผลดีเพราะด้วยพลังความไม่รู้จริงนี่แหละพาคนทำงานลำบากไปหมด

ทุกอย่างมีด้านดีและไม่ดี บังเอิญบ้านเราผมเห็นด้านไม่ดีเยอะไปหน่อย


สื่อคนมีข้อมูลและข่าวอยู่ในมือ ยิ่งสำคัญใหญ่
อย่างเร็วนี้ อีจัน "เปรมชัยหลุด5ข้อหา " แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ชาวโซเชียลLV1จำนวนหลักหมื่นออกโจมตีอัยการกันหมด ความรู้ไม่ต้องมีขอแค่มันต้องตายเท่านั้น

อันนี้แหละน่าเป็นห่วงสำหรับพลังโซเชียลไทย

ุถึงเวลาต้องจัดระเบียบ วันสงกรานต์ใหม่ละ

ไม่ก็เพิ่มโทษการทำร้ายร่างกาย พกพาอาวุธ อาวุธเถื่อน ยิงคนตาย

ผ่านมา 30 ปีก็ยังเหมือนเดิม เมื่อก่อนตีกันในงานวัด ก็ยิงกันตาย ลอยกระทง ปีใหม่ สงกรานต์ วันทำบุญฝั่งลูกนิมิต มีตีกัน ยิงกันตายตลอด เลี้ยงรุ่นโรงเรียน ทุกวันนี้แทบไม่ต่าง ยังตีกัน ยิงกันตาย

ยังมีความเถื่อนในสังคมไทย นักเลงเพียบ จบไม่เกิน ม.3 เล่นยา แว้นมอไซร์ กินเหล้าเบียร์ทุกวัน
รุ่นผม ปืนปากกา ปืนสั้นกระสุนลูกซอง ใครเก๋าๆ ต้องมีกัน ทั้งนั้น ยิงเสร็จก็หนี ติดคุก ออกมา ยิงใหม่ หนี ติดคุกวนกันไป ความเป็นนักเลงท้องถิ่นมันจะเลิกก็เลิกยาก

True นี่แม่งท็อปฟอรม์ เอาข้อมูล ลูกค้า ไปเก็บ Cloud แต่ดันเปิด Public
มีคนไปเจอเขา ก็เตือน ก็ไม่ฟัง
กสทช นี่ก็ ไม่มีความเข้าใจเรือง ความปลอดภัย หรือได้เงินมาแล้ว ทำไม่รู้ไม่เห็น

เจริญละ ไทยแลนด์ 4.0

กสทช. นี่รักษาผลประโยชน์ประชาชนไม่ได้เลย ไอ้ที่ต้องช่วยไม่ช่วยไปช่วยไอ้ที่กำไรแม่งเป็นหมื่นล้าน


ประมูลคลื่นไปแล้ว กำไรปีนึงเป็นหมื่นล้าน แต่จะมาขอให้ลดดอกเบี้ย กสทช.ก็ทำท่าเหมือนจจะยอม

ผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้ยืนยันเองว่าหน้าบัตรปชช.ไม่ใช่ข้อมูลเชิงลึกอะไร หลุดไปก็ไม่เสียหายไรนี่ครัช จะไปลงโทษทรูทำไม เดี๋ยวเขาร้องไห้เสียใจล่ะแย่เลย

ผมอยุ่เชียงใหม่นะ ไนท์ซาฟารีกับพืชสวนโลก ตอนทำใหม่ๆก็มีกระแสต้าน มาเหมือนกันแต่น้อยมากทำกันแค่ในวงวิชาการแค่นั้นเอง สุดท้ายทำมามันก็มีประโยชน์กับคนในในเชียงใหม่ เข้าไปใช้ ไปพักผ่อนทำกิจกรรมได้ก็เหมือนจะวินวินกันไป

ส่วนบ้านป่าแหว่ง คือมันดีไซน์พื้นที่ได้ไม่เนียนพออะ ถ้าตัดตามแนวขวางขนานกับหมู่บ้านข้าราชการที่มีก่อนหน้านั้น ผมว่ากระแสก็คงไม่แรงแบบนี้ บวกกับมันไม่มีความจำเป้นมากพอที่จะต้องไถป่าขึ้นไปสร้างบนนั้น รวมๆออกมาก็เลยมองว่า ทำลายป่า สร้างบ้านพักสนองนี้ดตัวเอง

ป่าแหว่งมันทำบนดอยในจุดที่มองเห็นได้ชัดไง มันเป็นปัญหาเรื่องภูมิทัศน์ การจัดทัศนียภาพของเมืองเชียงใหม่ ถามว่าน่าเกลียดไหม ไม่น่าเกลียดหรอก ก็ดูหรูหราดีนะ แต่มันเป็นดอยสุเทพไง มันเลยไม่เหมาะ ดอย ป่า ผืนสุดท้ายที่อยู่ใกล้เมือง การที่คนเชียงใหม่อนุรักษ์กัน ต้องการให้อยู่ในสภาพเดิม มันก็เป็นเรื่องที่ดีมากนะ

ดอยอื่นๆที่สร้างวัด สร้างพระพุทธรูปกัน สวยก็ไม่สวย ไม่มีศิลปะ เหมือนเอารูปปั้นสั่วๆไปวางแปะไว้บนดอย แถมทำลายป่าเป็นบริเวณกว้าง ไม่ค่อยมีใครสนใจกัน เพียงเพราะมันเป็นพระพุทธรูป แต่มันปั้นไม่สวยเลย นึกอยากจะวางตรงไหนก็วาง เอาจริงๆก็ควรจะจัดการกันนะ อย่างน้อยถ้าจะทำก็ควรทำให้มันสวยๆดูดีมีรสนิยมกันหน่อย (รูปปั้นหลายๆที่ที่ชาวบ้านปั้นกัน ทำให้รู้ว่าทำไมเราถึงต้องเรียนศิลปะ)

อุบาทว์ไหมหละ 555