Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review : เพื่อน...ที่ระลึก (ก็แค่ขยายกิจการถั่วเหลืองไปต่างประเทศแค่นั้นเอง)

<<
<
1
Reply
Vote
# Mon 18 Sep 2017 : 6:16PM

Slashmeplease
member
หลังเขา รุ่นที่ 3
Since 25/7/2010
(2337 post)
Review : เพื่อน...ที่ระลึก (ก็แค่ขยายกิจการถั่วเหลืองไปต่างประเทศแค่นั้นเอง)

กำกับ : โสภณ ศักดาพิศิษฐ์ (โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต, ลัดดาแลนด์, ฝากไว้ในกายเธอ)

ติดตามรีวิว+พูดคุยเกี่ยวกับเกม ภาพยนตร์ และการ์ตูนได้ที่เพจของผมนะครับ[Link]

หนังผีเรื่องใหม่จาก GDH โดยผู้กำกับ ลัดดาแลนด์ ที่จับเอาพล็อตเรื่องมาจากกระทู้พันทิปสุดดังที่อ้างว่าเป็นเรื่องจริงเสียด้วย ดูแล้วก็น่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับตลาดภาพยนตร์ไทยที่น่าจะทำรายได้ถล่มทลายได้ไม่ยาก แต่เมื่อหนังออกฉายถึงแม้จะมีคำวิจารณ์ที่โอเค แต่รายได้กลับได้ไม่ตามเป้าซะงั้น มันเป็นเพราะอะไรแล้วเกี่ยวกับคุณภาพหนังหรือไม่ มาดูกันครับว่าผมคิดเห็นอย่างไรกับ “เพื่อน...ที่ระลึก”



“เพื่อน...ที่ระลึก” เริ่มเรื่องในปี 2540 บุ๋ม และ อิ๊บ เป็นเด็กนักเรียน ม. ปลายที่เป็นเพื่อนสนิทกัน โดยทั้งคู่มีพ่อเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฐานะร่ำรวย แต่แล้ววิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งก็เข้าเล่นงานประเทศไทย พ่อของทั้งคู่ไม่ได้ขยายกิจการถั่วเหลืองไปต่างประเทศเตรียมไว้จึงทำให้โครงการต่างๆพังพินาศ ครอบครัวของทั้งคู่ล้มละลายทันที บุ๋มและอิ๊บที่รับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้จึงตัดสินใจจะฆ่าตัวตายไปด้วยกัน โดยนัดกันมายิงตัวตายในวันเกิดครบ 15 ปีของบุ๋ม ณ ตึกสาธรเสตทที่พ่อของทั้งคู่ไม่สามารถจะสร้างเสร็จ เมื่อถึงเวลา อิ๊บได้ยิงตัวตายไปก่อน แต่บุ๋มนั้นเกิดความกลัวขึ้นมาและไม่ได้ฆ่าตัวตายไปตามสัญญา 20 ผ่านไป บุ๋มที่ต่อสู้ฟันฝ่ามรสุมชีวิตมาได้ได้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเตรียมจะฟื้นฟูตึกสาธรสเตทที่พ่อของเธอไม่เคยสร้างเสร็จ แต่หารู้ไม่ว่า วิญญาณเพื่อนของเธอกำลังจะกลับมาทวงสัญญาเมื่อ 20 ปีก่อน โดยครั้งนี้ สิ่งที่มันต้องการคือชีวิตของเบล ลูกสาวของเธอ



พล็อตเรื่องของเพื่อนที่ระลึกนั้นน่าสนใจทีเดียวใช่ไหมละครับ แล้วการ Execute บทเป้นยังไงบ้าง ผมว่าก็ทำได้โอเคนะ ชอบประเด็นทางเศรษฐกิจที่หนังเล่น สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ถึงจะร้ายแรง แต่ถ้าใจสู้ก็ต้องผ่านมันมาได้ ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไปครับ และเมสเสจเกี่ยวกับการไม่ยอมแพ้ก็เป็นสิ่งที่หนังเล่นไปจนจบเรื่อง ซึ่งเมื่อร่วมกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกที่หนังทำได้ดี แถมด้วยซีนอารมณ์ในช่วงท้ายที่กินใจดีทีเดียว มันก็ทำให้น่าซื้อมากขึ้นครับ (แอบรู้สึกว่าหนังได้อิทธิพลมาจากหนังผีแม่ลูกมาหลายเรื่อง เช่น Babadook, Under the Shadow เป็นต้น) ว่าแต่ ความเป็นหนังผีของหนังละเป็นยังไงบ้าง อันนี้คงต้องขอบอกว่าตรงส่วนนี้ผมคิดว่ามันเฟลแฮะ... คือนอกจาก Jumpscare สองสามครั้ง ที่ออกจะตกใจมากกว่ากลัว แต่นอกจากนั้นหนังก็ไม่มีความน่ากลัวเลยยยยยยยย ชั้นเชิงในการหลอกหลอนนี่งั้นๆมาก ถึงแม้จะพยายามสร้างสถานการณ์นู่นนี่มาพยายามจะให้กลัวก็ตาม ที่สำคัญดนตรีบิวท์ได้ผิดเบอร์มาก จัดหนักจัดเต็มแบบนี่แหละ น่ากลัวเอี้ยๆเลยนะ พอมันทำได้ไม่น่ากลัวเท่าดนตรีหนังมันเลยรู้สึก Off มากๆครับ หนังยังมีความประดักประเดิดอีกหลายอย่าง เรื่องของ Intention ของผีก็เช่นกัน ตกลงต้องการอะไร ต้องการชีวิตบุ๋ม? หรือต้องการชีวิตลูกสาว? แล้วต้องการชีวิตลูกสาววันไหน วันก่อนหน้านั้นหรือวันเกิดครบอยุ 15? แล้วถ้าต้องการชีวิตลูกสาวจริงๆทำไมจะต้องลีลาเยอะรอนู่นรอนี่ขนาดนั้น ตรงส่วนนี้ดูแล้วขมวดคิ้วนิ่วหน้ามากกว่ากลัวครับ บางฉากมีการตัดต่อที่แปลกๆและรู้สึกว่าไม่รู้จะมีไปทำไมอีกด้วย ซึ่งอาจจะเป็นผลจากการเอากระทู้พันทิปมาทำหนังซึ่งมันอาจจะเปะปะหน่อยขาดการขัดเกลาที่ดีพอ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าหนังเลือกที่จะทำเรื่องการต่อสู้ฟันฝ่าในสมรภูมิธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้มาตั้งแต่รุ่นพ่อ โดยมีชิวิตความเป็นอยู่ของตนเองและลูกเป็นเดิมพัน โดยที่ไม่ต้องไปเกี่ยวกับผีเลย อาจจะน่าดูกว่านี้ก็ได้นะ (แต่ GDH ไม่มีกึ๋นพอจะกล้าทำหรอก 555)



เรื่องของงานโปรดัคชั่นนั้นก็ดีมากสำหรับหนังไทยตามสไตล์ GDH มุมกล้องมีที่สวยๆน่าสนใจหลายฉาก บางฉากที่เป็นมุมสูงก็รู้สึกว่าทุ่มทุนดี แต่บางฉากก็มีการใช้ CG โดยไม่จำเป็นซึ่งพอมันไม่เนียนทำให้ Immersion เสียหมดเลย น่าเสียดายครับ ดนตรีประกอบ นอกจากฉากหลอกหลอนที่เล่นใหญ่ผิดเบอร์ตามที่ได้กล่าวไปนั้น นอกนั้นก็รู้สึกว่าไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไหร่ สุดท้ายคือการแสดง แม่บีทำได้ดีทีเดียว และค่อนข้างแบกหนังมาก ซีนอารมณ์ ซีนองค์ลง ทำได้ถึงหมด และบทจะโทรมก็ไม่ห่วงสวยกันเลยทีเดียว (แต่บทจะสวยก็อาจจะสวยเกินไป 555) ส่วนน้องลิลลี่เดอะเฟส ก็ถือว่าทำได้ดีสำหรับผลงานครั้งแรก พอจะซื้อได้อยู่ว่าเป็นลูกของแม่บีจริงๆ แต่ก็แอบถูกกลบหน่อยๆครับ (บทอาจจะส่งแม่บีมากกว่าด้วย)

สรุป : ชอบประเด็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ครอบครัว และการไม่ยอมแพ้ แต่ความเป็นหนังผีผมว่าสอบตกครับ แต่เมื่อรวมกับโปรดัคชั่น + การแสดง ก็ถือว่าโอเคอยู่นะครับ

คะแนน : 7.5/10 (B+) เฉยๆครับ


# Mon 18 Sep 2017 : 7:58PM

jet044
member

Since 5/6/2010
(72 post)
ดูมาแล้วครับ

ขัดใจตรงที่มีเวลาตั้ง 1 อาทิตย์ ทำไมไม่หาทางแก้ไขให้ดีกว่านี้ เช่นไปวัด หาพระ หรืออะไรก็ว่าไป

ตัวเอกดูโดดเดี่ยวมาก จะสู้กับวิญญาณด้วยตัวคนเดียวเนี่ยนะ

เป็นผู้บริหารขนาดนี้ น่าจะมี Skill การวางแผนรับมือวิกฤตได้ดีกว่านี้นะครับ (หรือผมคิดมากไป 5555)

ให้ 6/10 ครับ
View all 1 comments >

# Mon 18 Sep 2017 : 8:18PM

neogranzon
member

Since 5/2/2008
(1977 post)
ทำไมผมกลับชอบประเด็นเจอสิ่งลี้ลับกลับพยายามหาต้นตอด้วยตัวเองมากกว่าเอะอะหาพระ คือหนังผีแบบนั้นมันเยอะไป ผมกลับชอบแบบนี้มากกว่า เล่นกับบรรยากาศกดดัน คือซีนในห้องที่คอนโดแค่ห้องเดียวกลับทำเรากลัวได้ ทั้งๆที่ไม่มีผีเลย แบบนั้นผมว่ามันทำยากมากนะ ผู้กำกับเก่งมากเลย
View all 1 comments >

# Tue 19 Sep 2017 : 10:37AM

Pharmacy
member

Since 2016-08-06 11:49:14
(558 post)
เขียนว่าสร้างจากเรื่องจริง แต่ดูยังไงแม่งก็เรื่องแต่งชัด ๆ
เพื่อนโดดตึกตาย แต่ตูไม่โดด จะเลยแค้นเป็นผีอาฆาต แล้วแม่งปล่อยเวลาไป 20 ปีเพื่อทวงคืนความแค้น WTF

เหมือนทางค่ายพยายามปั่นกระแส เรื่องตีมที่เหมาะคือหนังผี เข้าถึงกับคนไทยง่าย ๆ ดี ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ดึงให้คนสนใจเข้าไปดู ดูเสร็จตามหาเจ้าของเรื่อง บอกต่อ จนคนเริ่มมาสนใจมากขึ้น

นอกเรื่องก็เหมือนเหมือนหนัง อาบัติ ดูยังไงก็รู้สึกทำกันมาเป็นกระบวนการ

<<
<
1
Reply
Vote




1 online users
Logged In :