Review : The Mummy 2017 (จักรวาลปืน)

กำกับ : Alex Kurtzman (People Like Us)

ติดตามรีวิว+พูดคุยเกี่ยวกับเกม ภาพยนตร์ และการ์ตูนได้ที่เพจของผมนะครับ[Link]

หนังเรื่องแรกในจักรวาล Dark Universe ที่ทาง Universal หมายมั่นปั้นมือว่าจะมาเป็นจักรวาลหนังฮิตของตนแบบหนังฮีโร่มาร์เวลและ DC ที่รวยเละกันไปทั้งสองค่ายแล้ว ซึ่งทาง Universal ได้ประกาศดาราชั้นนำหลายท่านที่จะมาเล่นเป็นอสุรกายในตำนานต่างๆในหนังหลายๆเรื่องโดยที่ The Mummy เรื่องแรกยังไม่ทันฉายเลยทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่ามันจะล่มเอาหรือเปล่า แล้วก็เอาเข้าจริงๆ กระแสรีวิว The Mummy ในช่วงแรกออกมาค่อนข้างแย่ Rotten Tomatoes ได้แค่ 26% เท่านั้นจนหลายคนต่างก็ออกมาคาดเดาว่าจักรวาลนี้เผลอๆจะไม่รอด แล้วผมละคิดยังไงกับ The Mummy มาดูกันครับ



The Mummy 2017 เล่าถึง Nick Morton (Tom Cruise) ทหารหนุ่มชาวอเมริกันที่มีนิสัยเสียชอบหยิบฉวยวัตถุโบราณต่างๆไปขายในตลาดมืด จนวันหนึ่งเขาได้จับพลักจับผลูไปพบกับสุสานอียิปต์โบราณแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อได้ให้ Jenny Halsey (Annabelle Wallis) นักโบราณคดีสาวตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นสุสานของเจ้าหญิง Ahmanet (Sofia Boutella) เจ้าหญิงที่ได้ทำสัญญากับเทพแห่งความตาย Seth และสังหารพ่อของตนเพื่อที่จะได้ครองอาณาจักรอียิปต์ แต่เธอถูกจับได้เสียก่อนและถูกทำเป็นมัมมี่ทั้งเป็น วิญญาณแค้นของเธอถูกจองจำจนเมื่อพวก Nick มาพบเธอจึงเป็นอิสระและได้เลือกให้ Nick เป็นผู้สืบทอดร่างเนื้อของเทพ Seth คนต่อไป ว่าแต่ Nick จะเล่นด้วยมั้ยละเนี่ย...



เมื่อผมดูหนังจบก็พบว่า...เฮ้ มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น 5555 ถึงหนังจะดู "พยายาม" มากก็ตาม แล้วก็มีความประดักประเดิดความไม่ประณีตอยู่เยอะ แต่ความสนุกมันก็ยังมีอยู่ ผมว่าสนุกกว่า Pirates อะ 555 อย่างแรกเลยชอบประเด็นความดีเลวในตัวพระเอกที่หนังเล่น และพอมันพลิกผันในตอนท้ายก็น่าสนใจดี (และอย่างที่หลายคนบอกว่าทิ้งเชื้อไว้ทำหนัง Dark Universe ไว้ได้ดี...บางทีจักรวาลนี้มันอาจจะไปรอดก็ได้นะ) ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือตัวละครเวลส์ ที่เป็นเพื่อนพระเอกที่ผมชอบมาก ออกแบบมาได้เก๋ดีทีเดียว เสียดายออกน้อยไปหน่อย มันเก๋ยังไงคงต้องให้ไปดูกันเอง และด้วยความพยายามจะสนุกของมัน ทำให้ The Mummy เป็นหนังที่ปล่อยมุกรัวมากๆเรื่องหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่มุกยังคมไม่พอ ยังมีทั้งแป้ก, ขำหึๆและขำก๊ากปนๆกันไป บทบู๊ บทผจญภัยต่างๆในหนังก็มีทั้งดีไม่ดีคละกัน คือฉากดีๆมันก็มีนะ ฉากเครื่องบินตก, พายุทราย สนุกเลยแหละ แต่การสู้บางอย่างพอมันเป็นแฟนตาซีมันก็เลยเหมือนไม่มีกฏตายตัว พอตัวละครทำบางอย่างแล้วชนะมันเลยมีความรู้สึกว่าเฮ้ย ได้เหรอ ทำให้ไม่สามารถอินกับหนังได้อย่างสนิทใจครับ ตำหนินู่นนี่อีกมากมายก็เห็นได้ค่อนข้างชัด การตัดต่อจังหวะการเล่าเรื่องค่อนข้างประดักประเดิด และการพยายามทิ้งเชื้อตัวละครบางตัวเพื่อสร้างเป็นจักรวาลต่อไปที่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเนียนไปกับเนื้อเรื่องครับ (ปัญหาเดียวกับ BVS เลย 55)



งานภาพ มีฉากที่ดีๆอยู่ ฉากพายุทรายอลังการมาก แต่บางฉากค่อนข้างขัดใจ จะทำหนังให้มืดไปไหน ทั้งๆที่เป็นฉากที่ตื่นเต้น+ปล่อยมุก แต่พอมันมืดมันเลยไม่เวิร์คเท่าที่ควรจะเป็น (อ๋อๆ เข้าใจละ "Dark Universe") การแสดง...จำใจต้องบอกว่าไม่ค่อยดี จังหวะปล่อยมุกบางทีไม่เป๊ะ ทั้งTom Cruise และนางเอกเลย ซึ่งคาแรคเตอร์มันเป็นตลกกวนอะนะอาจจะไม่ตรงคาแรคเตอร์ของนาย Tom เท่าไหร่ครับ (ว่าแต่มัมมี่สวยดีนะ อิๆ)

สรุป : ไม่ได้แย่มากมาย สนุกเพลินๆดี ถึงจะมีตำหนิเยอะไปหมด จักรวาลนี้อาจจะไปรอดก็ได้นะ 555

คะแนน : 7.2/10 (B) เฉยๆครับ

ขอแชร์ความคับข้องด้วยคนนะครับ

ผมชอบการดำเนินเรื่องในครึ่งแรกของหนังครับ
แต่พอเข้าครึ่งหลัง...ทิศทางของหนังนั้น....

ใครทันมัมมี่ภาคแรก 1999 ต้องสลัดภาคนั้นให้ออกจากหัวเลยนะครับ คือถ้ายังจำภาคนั้นได้ ภาคนี้จะเป็นภาคแค่ฆ่าเวลารอเพื่อนหรือแฟนไปเลย

ไม่มีดาราแม่เหล็กนี่ถ้าจะลำบาก พอได้ระดับ บีทั่วไป 6.5 - 7/ 10

รอดูเฮียออฟต่อ ไม่รู้ภาคนี้แม่งจะมั่วขนาดไหน ทรานนี่มันน่าจะจบไปตั้งแต่ภาคสามละ ให้ดีน่าภาคสองพอ

ขอถามหน่อยครับ คือยังไม่ได้ดู แต่อยากรู้มาก



ขอบคุณครับ

cinematic universe wanna be จนไข่สั่นอีกละ

ชอบนางเอกนะ Annabelle Wallis สวยดี

ดูสนุกดีครับ ไมไ่ด้ดูหนังแบบแนวผจญภัยแบบนี้มานานละ
เป็นหนังที่ให้ความบันเทิงดี ละการsetting จักรวาล dark universe ผมว่าทำมาได้ดีนะ
ทำให้พอรู้สโคปกว้างๆว่า เนื้อหา เบื้องหลัง มีอะไรบ้าง ขอให้ได้รายได้ดีๆ อย่าแป๊ก เดวจะอดดูเรื่องต่อไปๆ

8/10 จริงๆชื่อเรื่องไม่มีความจำเป้นต้องใช้mummy แต่เข้าใจว่าคำนี้มันใช้ขายได้

ผมสงสัย ทำไมต้องตัด dracura untold ออกจากจักรวาล dark univers หว่า องค์ประกอบอะไรก็ไม่น่าจะขัดกันนะ น่าสนุกขึ้นด้วยซ้ำ

อยากเอา Mummy, Dracula ,Frankenstein, Werewolf ไว้ในจักรวาลเดียวกัน...

ทำ Castlevania The Movie สิครับทั่น ไม่ต้องปูเนื้อเรื่องมากมาย 555

ที่ไม่ชอบคือทอม ครูซ นี่ละ แก่แลว แต่คงยังมีแฟนคลับอยู่เยอะ น่าจะหาพระเอกหนุ่มๆกว่านี้หน่อย เดียวภาคต่อไปทำไง เหี่ยวหมด

โดยรวมผมยังอยากดูมันต่อนะ ไม่ถึงขั้นชอบมากแต่ถ้าทำมาต่อก็ยังจะดูอ่ะ

ขอผู้กำกับเป็นคนนี้นะครับ




Castlevania The Movie ต้องคนนี้เท่านั้น เนื้อเรื่องไม่ต้องเยอะ 555

ถ้าเป็นคนนี้อาจจะนั่งคุยกันทั้งเรื่อง แล้วไปบู๊ฟาดแส้แค่ 10 นาทีท้ายได้นะคับ

ไม่สนุกอะ ไม่รู้จะอธิบายยังไง

หนังมันขาดๆเกินๆเยอะไป บางช่วงที่ลุ้นระทึตื่นเต้นก็กสนุกใช้ได้แต่มีน้อย แล้วก็ยัดจักรวาลดาร์คมาใส่เต็มไปหมดเนื้อเรื่องอืด หมดความเป็นเดอะ มัมมี่ไปแล้วกลายเป็นหนังไฮบริดลูกผสม แต่ยังดีที่มีทอม ครูซมาเป็นพระเอกนั่นแหละดึงดูดแฟนหนังแกได้ อย่างอื่นก็ตามที่เม้นท์บนว่ากัน