Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review : Wonder Woman (ดี่แดดี๊แดวแดวแดว ดีแดวแดวแดว ดีแด๊วแด๊วแด๊ว ดีแด๊วแด๊วแด๊ว)

<<
<
1
2
>
>>
Reply
Vote
# Sat 3 Jun 2017 : 11:24PM

Slashmeplease
member
หลังเขา รุ่นที่ 3
Since 25/7/2010
(2337 post)
Review : Wonder Woman (ดี่แดดี๊แดวแดวแดว ดีแดวแดวแดว ดีแด๊วแด๊วแด๊ว ดีแด๊วแด๊วแด๊ว)

กำกับ : Patty Jenkins (Monster)

**รีวิวนี้ผมพิมพ์ในมือถือนะครับ หากมีพิมพ์ผิดก็ขออภัยด้วย และต้องขออภัยที่มีรูปน้อยด้วยครับ**



หนังเรื่องล่าสุดของจักรวาลฮีโร่ DC ที่หลังจากมีหนังที่รีวิวโดยรวมค่อนข้างแย่มา 2-3 เรื่องติดกัน Wonder Woman นี้ก็เป็นเหมือนความหวังล่าสุดของแฟนๆ DC ในปีนี้ที่จะมีหนังรีวิวดีๆกับเขาซะที และดูจากกระแสรีวิวที่ออกมาในช่วงแรกนั้นก็ดูเหมือนว่าจะทำสำเร็จแล้วครับ ไปดูกันว่าผมคิดอย่างไรกับ Wonder Woman

Wonder Woman เล่าถึง Diana (Gal Gadot) เจ้าหญิงแห่งชนเผ่าอเมซอน เผ่าพันธุ์นักรบอันเก่งกาจเหนือมนุษย์ ที่อาศัยอยู่ในเกาะอันสวยงามที่แอบแฝงจากสายตาของมนุษย์ แต่วันหนึ่ง Steve Trevor (Chris Pine) ทหารฝ่ายพันธมิตรก็ได้ขับเครื่องบินมาตกยังเกาะแห่งนี้และถูก Diana ช่วยชีวิตไว้ เขาได้เล่าให้ Diana ฟังเกี่ยวกับสงครามครั้งยิ่งใหญ่ในโลกภายนอกที่ได้แผ่กระจายไปทั่วโลก (สงครามโลกครั้งที่ 1) โดยที่มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายมากมาย จน Diana ไม่อาจนิ่งนอนใจ เธอได้จับอาวุธวิเศษของชนเผ่าขึ้นมาและก้าวเข้าสู่สนามรบด้วยความตั้งใจที่จะหยุดสงครามครั้งนี้ให้จงได้

ผมชอบหนังมากกกก 555 คือคิดไว้ว่ามันก็น่าจะดีแหละ แต่ไม่คิดว่ามันจะดีขนาดนี้ มาฟังผมสาธยายความดีของมันกัน 55 เริ่มที่ตัวละครก่อน ตัว Wonder Woman นี่ออกแบบคาแรคเตอร์มาได้อย่างดีมากกกก มีทั้งความมุ่งมั่น แข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความ Naive ซึ่งมันทั้งน่ารักและกลายมาเป็นจุดอ่อนของเธอด้วยเหมือนกัน ซึ่งมันก็เปิดช่องให้ตัวละครพัฒนาได้ในภายหลัง ในขณะเดียวกันตัวละครอื่นๆก็ไม่ได้น้อยหน้าเลย ตัว Chris Pine นี้มีมิติและความน่าสนใจมากกว่าที่คิดไว้มาก ตัวร้ายก็ออกแบบได้ดีเหลือเชื่อ แม้แต่ตัวละครที่เรียกได้ว่าเป็นตัวประกอบก็มีการสร้างและปูพื้นที่ดีในระดับที่ถ้าเป็นหนังเรื่องอื่นคงถูกทิ้งไปแล้ว ตัวบทหนังยังตอบโจทย์ในด้านความสนุกได้ดีมาก ทั้งมุกตลกที่ตอนแรกปรามาสไว้ว่าแป้กกระจายแน่ๆแต่ที่ไหนได้ปล่อยมุกฮาก๊ากแบบไม่น้อยหน้าหนังมาร์เวลเลย ส่วนความสนุกของฉากบู๊นั้นก็ยังจัดหนักจัดเต็มเช่นเดิมครับโดยเฉพาะฉากสุดท้ายที่วินาศสันตะโรมากๆ 555 แม้แต่ฉากในช่วงกลางเรื่องที่ Wonder Woman มาถึงลอนดอนเป็นครั้งแรกซึ่งถ้าเป็นเรื่องอื่นนี่จะเป็นช่วงเนือยไปแล้วแต่คาแรคเตอร์ความน่ารักตลกขบขันก็ทำให้มันดูสนุกได้เรื่อยๆไปตลอดรอดฝั่งได้ครับ และแม้แต่ซีนบีบอารมณ์ดราม่า ที่หนังฮีโร่/บล็อคบัสเตอร์มักจะทำได้แค่พอผ่านเท่านั้น แต่กับเรื่องนี้นั้นทำได้ถึงจนเกินมาตรฐานเรื่องอื่นๆไปไกลครับ

หนังยังมีเมสเสจที่น่าขบคิดต่อในหลายประเด็นด้วยกัน ทั้งเรื่อง Hope in Humanity และเรื่องการเชื่อมั่นในพลังของตนเอง มันเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถ้าหากทุกคน Ignore ปัญหากันหมด สุดท้ายก็จะไม่มีใครทำอะไรเลย เชื่อเถอะครับว่าเรามีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงได้ และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยกับหนังเรื่องนี้คือประเด็น Feminism ครับ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำได้ฉลาดทีเดียว Wonder Woman นั้นเป็นผู้หญิงเก่งที่พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับผู้ชาย แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่เธอต้องการก็คือความเท่าเทียมที่แท้จริงโดยไม่จำเป็นจะต้องกดผู้ชายลงไปแต่อย่างใดครับ ซึ่งตัวละครชายในหนังเรื่องนี้ก็ยังมีฉากโชว์ฟอร์มเจ๋งๆอยู่ ไม่ต้องกลายเป็นตัวปัญญาอ่อนหรือเลวร้ายแบนราบกันไปหมดครับ หากจะหาข้อติในเรื่องบท ก็อาจจะเป็นซีนบู๊นี่แหละครับที่ถึงจะดูสนุกแต่ส่วนใหญ่มันก็เป็นการโชว์ฟอร์มฝ่ายเดียว กับการเบ่งพลังคอสโม่แข่งกันเสียมากกว่า กับความยาวของหนังที่ปาเข้าไป 2 ชม. 25 นาทีที่ถึงแม้มันจะดูสนุกตลอดทั้งเรื่อง แต่ผมเชื่อว่ามันน่าจะตัดต่อได้รวบรัดกว่านี้ได้ครับ

งานภาพนั้นดีมากครับ พวกเอฟเฟคต่างๆจะเห็นสไตล์ของ Zack Snyder อยู่ ซึ่งความอลังการนี่หายห่วงครับ อย่างไรก็ตามทัศนียภาพสวยๆและมุมกล้องที่น่าสนใจก็มีอยู่เช่นกัน เพลงประกอบนั้นขับเน้นอารมณ์ต่างๆได้ดีโดยเฉพาะช่วงท้ายเสริมได้ดีมากเลยทีเดียว Theme Wonder Woman โดย JunkieXL ก็ช่วยเสริมความเดือดให้ฉากบู๊ได้ดีมากครับ สุดท้ายการแสดง โอ้ววว Gal Gadot เล่นดีขึ้นจาก BVS มาก สมกับที่เป็นผกก.ที่เคยส่ง Chalize Theron ได้ออสการ์มา การแสดงอารมณ์ต่างๆหลากหลายขึ้นเยอะ แต่ก็แอบเห็นตำหนิบ้างไม่เป็นไรพยายามต่อไป (เรื่องความสวยนี่ชมกันเยอะแล้วเราจะไม่พูด ฉากที่ใส่แว่นนี่หัวใจแทบหยุด 555) ตัวละครอื่นๆก็ตามมาตรฐานนะครับ Chris Pine ยังคงกวนโอ๊ยปล่อยมุกเฉียบเหมือนเดิม แต่พอถึงซีนอารมณ์ก็ยังสอบผ่านครับ ส่วน Elena Alaya ในบท Dr.Poison ก็เล่นได้มีมิติดี ผมว่าคาแรคเตอร์เธอน่าสนใจดีนะ เสียดายที่บทสรุปสุดท้ายตัดจบไปหน่อย

สรุป : เป็นหนังฮีโร่ที่ชอบมากเป็นอันดับต้นๆเลย เผลอๆหนังปีนี้ที่ผ่านมาจะชอบสุดเลยมั้งเนี่ย

คะแนน : 8.7/10 (A+) ชอบครับ
[Edited 1 times Slashmeplease - Last Edit 2017-06-03 23:25:52]


# Sat 3 Jun 2017 : 11:45PM

"MnemoniC"
member

Since 2015-12-08 01:43:55
(5791 post)
ตอนแรกดูเสร็จให้คะแนน 7/10 พออ่านรีวิวนี้กับบทซาวด์แทร็คให้ 9/10 เลยครับ

# Sun 4 Jun 2017 : 1:53AM

PNA888
member

Since 2014-09-08 12:28:47
(4154 post)
- - มีรีวิวแล้วคุยได้ ปรกติ ผมไม่สนว่าผู้กำกับเป็นใคร ใครเขียนบท ใครแต่งเพลง นักแสดงดังแค่ไหน เพราะไม่มีความจำเป็นเท่าไร ขอแค่หนังสนุกก็พอ แต่เรื่องนี้ ทำให้ผมต้องไปหาว่าเธอเป็นใคร แม้แต่ตอนที่เธอแสดงฟาส ผมก็ยังเฉย ๆ นะ

พอไปหาประวัติแล้วต้องขอบอกเลยครับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยและรักษาหุ่นได้ดีมากเพราะเมื่อก่อนเธอเป็นทั้งทหารและนางงาม นี่ขนาดลูกสองแล้วนะ บอกตรง ๆ ว่าตกใจ และชื่นชมมาก



เป็นฮีโร่อีกคนนึงที่ผมยอมรับว่าหาคนมาเล่นได้เหมาะสมมากต่อจาก วูฟเวอรีน, ไอรอนแมน, กัปตันอเมริกา และ ธอร์

ที่ชอบมากอีกอย่างคือหนังเรื่องนี้ทำฉากที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกได้ดีมาก อย่างกัปตันอเมริกาภาคแรก ผมก็ชอบตรงบรรยากาศและการแต่งตัว แต่สำหรับเรื่องวันเดอร์วูแมนถือว่าอัพเกรดไปอีกหลายขั้น ทั้งฉาก ชุด บรรยากาศ ถือว่าดีกว่าหนังสงครามย้อนยุคหลายเรื่องซะอีก



พูดง่าย ๆ คือเก็บรายละเอียดได้ดีทั้งฉากและชุด จนลืมไปว่าเอิ่มเรื่องนี้เป็นหนังฮีไร่นะเฟ้ย พูดง่าย ๆ แฟนบอยบรรยากาศสงครามโลกได้ฟินกัน

นี่ยังไม่รวมฉากปะทะยิบย่อย ซึ่งทำได้ดีสมกับที่เป็นยุคสงครามโลก ผมว่าสงครามยุคนี้มันมีเสน่ห์มากกว่าในปัจจุบันหรือในอนาคตที่ยิงเลเซอร์กันมากมาย




ย้อนกลับไปต้นเรื่อง ผมชอบฉากเกาะของเผ่าอเมซอนมากมาย คือมันเนรมิตรได้เหมือนสวรรค์บนดินจริง ๆ แบบน่าไปเที่ยวพักผ่อนมาก ส่วนเผ่านี้ก็สมกับเป็นหญิงแกร่งฉากต่อสู้ทำดีเหมือนดูเรื่อง " ทรอย " การแต่งตัวระดับหัวนี่ นึกถึงธอร์เลยแฮะ




แต่จะมีหลายช่วงที่ดูเนือย ๆ แข็ง ๆ มึน ๆ งง ๆ แต่ถ้าพูดถึงตัวละครก็พอจะเข้าใจได้ แล้วผมก็รู้สึกดีที่ว่า ไม่มีการตัดต่อรวบรัดให้กระชับขึ้นจนพลาดหลาย ๆ ฉากไป เพราะบางฉากถึงจะดูเนือย ๆ แต่ก็เป็นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้รู้ถึงความเป็นไป รวมถึงความสัมพันธ์ ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างจัวละครหลาย ๆตัว

ส่วนการต่อสู้ค่อนข้างแบ่งระดับเรื่องพลังได้ดี โดยตัววันเดอร์สมควรแล้วที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปมาก แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นการเปิดตัวสู่โลกภายนอกและพึ่งจะได้สู้จริงจัง พร้อมกับพลังที่ยังไม่ตื่นอย่างสมบูรณ์ ถึงจะเหนือกว่าทหารทั่วไปมากแต่ก็เสียเวลาพอสมควร ซึ่งถ้าเทียบกับตอนที่เธอปรากฏตัวใน แบทแมน ซุปเปอร์แมนแล้ว ถ้าเอาระดับในเธอตอนนั้นมาแสดงตอนนี้ ผมคิดว่า ทหารมนุษย์ ไม่มีโอกาศแม้กระทั่งจะได้ยิงเธอครับ เพราะระดับเธอมันน้อง ๆ ซุปเปอร์แมนเลย

แถมตัวพระเอกเอง บอกตรง ๆ ว่าเขียนบทได้ดีมาก น่าจดจำ มีความหมาย คือไม่ใช่ออกมาส่ง ๆ ผมคิดว่าผู้หญิงที่ดูหนังเรื่องนี้ จะเข้าใจได้ว่าทำไมวันเดอร์ถึงได้ประทับใจชายคนนี้ แม้เวาผ่านไปนานแสนนานก็ยังนึกถึงเขา


จุดติหลัก ๆ มีแค่สองเรื่องคือ เรือรบในตอนแรก มัน??? กับเทพสงครามที่อ่อนไปหน่อย นึกว่าเทพแห่งปรัชญา 555 คือถ้าบอกว่าไม่แกร่งเหมือนแต่ก่อนเพราะโดนมาเยอะ พังอาจเหลือแค่ครึ่ง ตรงนี้ก็โอ


สำหรับหนังเรื่องนี้ 9/10


เป็นหนังที่คอ อคติ พยายามหาจุดด่าตั้งแต่ก่อนหนังออก สุดท้ายพอหนังออกมา ก็ไม่รู้จะไปด่าอะไรได้มากมาย เต็มที่ก็ทำได้แค่บอกว่าค่อนข้่างดี พอใช้ ไอ้ที่เตรียมตัวด่าแบบสาดเสียเทเสียก็ต้องกล้ำกลืนกันไป เป็นแค่ หนังพอใช้ได้แทน


เป็นไงละ พวกเกรียนทั้งหลาย ที่ชอบไปเทียบกับค่ายอื่น ตอนนี้ ดี แต่อย่าอวยเว่อร์, ดี แต่อย่าเทียบค่ายอื่น, ดี แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หนังค่ายอื่นดูด้อยลง ไปไม่เป็นเลย

ให้ 9/10 พอ ๆ กับแมนออฟสติล และ ไอรอนแมนภาคแรก


ผมแฟนหนังค่ายมาเวล แต่เบื่อไอ้พวกแฟนบอกที่มีหุ้นพันล้านในบริษัทมาเวล พวกนี้มากกกกกกกกกกกกกก


ย๊ากกกก ทุ่มใส่หัวแม่งงงงง แต แด ดี๊ แดว แดว แดว แด๋ว แด้ววว

View all 8 comments >

# Sun 4 Jun 2017 : 3:24AM

"MnemoniC"
member

Since 2015-12-08 01:43:55
(5791 post)
***อาจสปอยล์เล็กน้อย***

จุดดี
- หนังสร้างบรรยากาศหลายๆอย่างรวมไว้ในหนังเรื่องเดียวได้สมบูรณ์ ถ่ายทอดผ่านทางธีมสงครามโลกไว้ได้น่าสนใจทั้ง ความรัก เทพนิยาย ซุปเปอร์ฮีโร่ฯ
- ตัวละครนำทั้งเทรเวอร์กับไดอาน่าคอยปรับอารมณ์ร่วมให้คนดูทั้งเรื่อง ทั้งช่วงเริ่มต้นความเข้มข้นกลางเรื่องและบทสรุปสุดประทับใจ คาแรคเตอร์ทั้งสองคนได้โชว์ผลงานความเป็นนักแสดงได้สมราคา
- ดนตรีประกอบเรื่องนี้เอกลักษณ์อยู่ที่การใช้ดนตรีเครื่องสายผสมเทคโนซาวด์ บวกกับจังหวะตามสไตล์ของโปรดิ้วมิกซ์เสียงเพลง ทำให้หนังดูสนุกตื่นเต้นตอนฉากแอ็คชั่น และซึ่งเศร้าตอนมีเพลงบรรเลงช่วงที่เหตุการณ์ในหนังถึงจุดไคลแม็กซ์

จุดด้อย
- ภาพงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิกอยู่ในระดับธรรมดาไม่มีอะไรเป็นพิเศษ และการตัดต่อที่ค่อนข้างรวดเร็วทำให้งานด้านภาพเป็นงานแย่ที่สุดในเรื่อง อาจมีบางฉากที่ใช้เทคนิคภาพแบบสไนเดอร์มาใส่บ้าง แต่มันทำไม่ดีเท่าของแซ็คที่ได้กำกับดูแดเอง
- บทภาพยนตร์ตัวประกอบที่มีบทบาทไม่สมบทกับตัวเอก โดยการปล่อยให้เนื้อเรื่องดำเนินเรื่องราวเพียงสองคน จึงทำให้ความน่าจะเป็นหรือความสมจริงของหนังมันไม่สมดุล คือจุดนี้อาจเสียอรรถรสไปไม่มากเพราะสองตัวละครหลัก กลบจุดบอดนี้ได้ดีในระดับหนึ่ง
- หากถามความต้องการส่วนตัวที่จะได้อะไรกลับไปจากเรื่องนี้ ไม่มีอะไรที่ต้องการจากจักรวาล ดีซีอียู ในเรื่องนี้เลย เรื่องแรกคือปมจากแบทวีซุปกล่องมาเธอร์ บ็อกซ์ก็ไม่มีอะไร เรื่องที่สองความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆที่จะเห็นในจัสติส ลีคก็ไม่มี นอกจากป้ายโลโก้เวย์นเอ็นเตอร์ไพรส์แค่นั้น

หนังสนุกมากหลายคนอาจชอบหนังฮีโร่ที่มีเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ผมยังชอบแนวฮีโร่แบบเน้นความสมเหตุสมผล แบบถูกยิงเป็นสิบนัดแล้ววิ่งต่อได้อันแบบนั้นวัยก็เกินดูสนุกแล้ว



[Edited 1 times "MnemoniC" - Last Edit 2017-06-04 04:49:01]

# Sun 4 Jun 2017 : 2:57PM

Mr-Zero.
member

Since 11/9/2010
(337 post)
ผมว่าหนีงดีมากเลยนะ แต่เห็นเพจรีวีวหนังหลายๆเพจ อคติมาเต็มมาก

# Sun 4 Jun 2017 : 3:02PM

Yoyo-kunG
member
ส่องหาแต่นม #6
Since 26/5/2007
(6935 post)
ไหนๆก็มีฮัมเพลงประกอบหนังในชื่อกระทู้แล้ว ลงคลิปเพลงที่ว่าพร้อมตัวรีวิวหนังด้วยจะดีมากครับ จะได้อินตาม

# Sun 4 Jun 2017 : 4:24PM

Kiva
member

Since 2014-12-29 16:21:35
(2906 post)
ลลล
[Edited 1 times Kiva - Last Edit 2017-06-04 17:32:43]
View all 1 comments >

# Sun 4 Jun 2017 : 4:57PM

[LMD]Mozart
member

Since 10/12/2006
(19374 post)
^
^
ถามอะไรเกี่ยวกับเนื้อหา ใส่สปอยมั่งดิเห้ย.... เหมือนโดนสปอยว่ะ

# Sun 4 Jun 2017 : 5:18PM

Muerte
member

Since 14/6/2008
(14171 post)
Gal ตอนถ่ายบางฉากนี่ท้องประมาณ 5 เดือนแล้วนะ แต่ทีมงานใช้ผ้าเขียวคลุมช่วงท้องแล้วใส่ซีจีเอาทีหลัง
View all 1 comments >

# Sun 4 Jun 2017 : 8:32PM

Mozardd
member

Since 2012-09-04 18:05:33
(1139 post)
เป็นหนังที่ play safe ดำเนินตามสูตรของหนัง super hero โดยมี concept เนื้อเรื่องแบบ Captain America ภาคแรก ผสม Thor ภาคแรก

คือลูกเทพเจ้าเข้ามายังโลกมนุษย์ ท่ามกลางภาวะสงครามโลก แต่เป็น super hero ผู้หญิง โรยหน้าด้วยความเป็น feminist ไปหน่อย ไม่ต้องปรุงแต่ง เล่นซับซ้อน พลิกแพลงอะไรเยอะ แค่เรียบเรียงเนื่อเรื่องมาให้ดี แล้วตู้มออกมาเป็นหนัง Wonder Woman ยกเสิร์ฟตักแดกปุป เชดเข้!! เสือก อร่อยย!!

เพราะหนังมีวัตถุดิบที่ดีอย่าง Gal Gadot รับบทเป็น Diana หรือ Wonder Woman ซึ่งเอาจริงนางแสดงแข็งโป๊กมากนะ หน้าตาถ่ายทอดอารมณ์เดียวเกือบตลอด คงเพราะเนื่องด้วย Gal เติบโตมาสายนางงามอิสราเอล ไม่ได้มาจากการเรียนการแสดงมาก่อน แต่ด้วยเดชะบุญฟ้าประทานความสวย และสรีระมาให้แบบว่าแม่นาง born to be เพื่อมาเป็น Wonder Woman มาแต่กำเนิด ทำให้ออกมาดูสง่าสมบทบาทโดยไม่ต้องมีความพยายามใดๆเลย

ตบท้ายด้วยเครื่องเคียงอย่าง Chris Pine ที่รับบทเป็น Steve Trevor ด้วยเสน่ห์และอารมณ์ขันแบบพระเอกๆ เล่นได้เข้าขากับ Gal Gadot เป็นปี่เป็นขลุ่ย หนังมีหลายช่วงที่เรานั่งดู dialog ระหว่าง Diana กับ Steve กันเนือยๆ แต่มันไม่น่าเบื่อเพราะได้เห็นการเติบโตความสัมพันธ์ของทั้งสอง แถมประเด็นที่หยิบขึ้นเรื่องของความเชื่อมั่นในมนุษย์ อิสตรีเพศ ก็เอามาใส่ได้น่าสนใจ

พอเข้าถึงไคลแมกซ์ ฉากแอ็คชั่น คิวบู๊ จังหวะถ่ายภาพ ตัดต่ออกมาทำได้ลื่นไหลดีจนไม่น่าเชื่อว่ากำกับโดยผู้หญิง Patty Jenkins จะติก็ CG แบบหลุดมาจากวีดีโอเกมไรสักอย่าง ลอยๆเห็นได้ชัด

และหนังก็ตกอยู่ในสภาพแบบเดียวกับหนัง Marvel กำลังเผชิญอยู่ คือตัวร้ายนี่แหละ ที่ยังไม่ร้าย ไม่โดดเด่น ไม่มีความฉลาดในการเล่าเรื่องส่วนนี้เท่าไหร่ (ยกเว้น Civil Wars) ก็แบบเดียวกับแนว superhero เรื่องอื่น



แต่ก็ถือว่าเปิดตัวเป็นหนัง Super Hero หญิงได้ดี ซึ่งมันก็ดีพอๆกับหนัง Super Hero คุณภาพดีๆเรื่องนึง จังหวะขยี้ก็ทำได้กระแทกใจดี หนังดูง่าย enjoy ไปตลอดเรื่อง

หวังว่า DC ได้เรียนรู้อะไรจาก Wonder Woman นะ.......baby step

[Edited 4 times Mozardd - Last Edit 2017-06-04 20:45:00]

# Sun 4 Jun 2017 : 8:47PM

Ophen-Y-Offrers
member

Since 2013-03-24 23:46:34
(1812 post)
รู้สึกแค่ตอนจบมันรีบๆพุ่งเป้าไปเส้นชัยมากไปหน่อย ตอนแรกก็เดินเรื่องแบบเนิบๆกลางๆมาตลอด ช่วงท้ายเหมือนเร่งสปีดให้เจอบอสไวๆ อารมณ์เหมือนพยายามหาเวลาปูบทตัวร้ายยังไงยังงั้น ซึ่งก็โอเคนะ ผมค่อนข้างชอบแนวคิดตอนสู้ เพลินดี







# Sun 4 Jun 2017 : 9:05PM

Chengy
member

Since 8/3/2010
(1770 post)


Theme

# Mon 5 Jun 2017 : 8:58AM

ArcherAi
member

Since 29/12/2006
(15173 post)
เรื่องนี้ผมเสียดายแค่ตอนบอสไฟต์อะ... มันได้แค่อลังแต่คิวบู้ไม่ค่อยมันเท่าไหร่...

โดยรวมผมชอบสุดหล่ะที่ DC ทำ(เริ่มจาก MOS ป่าวหว่า)

# Mon 5 Jun 2017 : 11:01AM

PNA888
member

Since 2014-09-08 12:28:47
(4154 post)
ArcherAi wrote:
เรื่องนี้ผมเสียดายแค่ตอนบอสไฟต์อะ... มันได้แค่อลังแต่คิวบู้ไม่ค่อยมันเท่าไหร่...

โดยรวมผมชอบสุดหล่ะที่ DC ทำ(เริ่มจาก MOS ป่าวหว่า)





















View all 2 comments >

# Mon 5 Jun 2017 : 11:06AM

OffGamersThai
member

Since 2017-05-05 14:53:38
(68 post)
สวยจุงเลยยย
เป็นหนังที่ไม่อยากพาผู้ชายไปดูเลยค่ะ
กลัวหึง55555555
เราว่านางเป็นผญในอุดมคติของชายหลาย ๆ คนเลยนะ เราเป็นผู้หญิงเรายังชอบมาก ๆ เลย

<<
<
1
2
>
>>
Reply
Vote




1 online users
Logged In :