Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review : The Fate of the Furious (น้ำตาพี่ดอม)

<<
<
1
2
>
>>
Reply
Vote
# Mon 17 Apr 2017 : 12:20AM

Slashmeplease
member
หลังเขา รุ่นที่ 3
Since 25/7/2010
(2337 post)
Review : The Fate of the Furious (น้ำตาพี่ดอม)

กำกับ : F. Gary Gray (The Italian Job, Law Abiding Citizen, Straight Outa Compton)

หนังที่หลังจากภาค 5 เป็นต้นมาก็เริ่มพัฒนาเป็นซีรีส์โคตรฮิตขนาดที่ว่ายึดโรงแทบทุกโรงแล้วยังเต็มแทบทุกรอบอีก ก็ถือเป็นหนังไฟท์บังคับที่ยังไงผมก็ได้ดูแน่นอนเพราะเป็นหนังซีรี่ส์ที่ภรรยาผมชื่นชอบมาก แต่เรื่องความบันเทิงมันก็สอบผ่านมาตลอดแหละครับ แล้วภาค 8 นี้จะเป็นอย่างไรมาดูกันครับ



The Fate of the Furious เล่าถึง Dominick Toretto (Vin Diesel) นักซิ่งและนักบู๊มหาประลัย และก๊วนเพื่อนแก๊งเดิมของเขาที่ผูกพันกันเหมือนเป็น “ครอบครัว” แต่แล้วเขาก็ได้พบกับ Cipher (Chalize Theron) แฮ็คเกอร์สาวที่ถือไพ่บางอย่างเหนือกว่าเขา และทำให้เขาทำงานให้เธอและทรยศครอบครัวของเขาได้ สุดท้ายแล้ว ดอมจะได้กลับมาหาครอบครัวของเขาหรือไม่ แล้วเพื่อนๆของเขาจะให้อภัยให้เขางั้นหรือ? ติดตามใน The Fate of the Furious ครับ



ก็ถือว่าผมเห็นตรงกับรีวิวหลายๆเจ้าที่ว่า Fast ภาคนี้สนุกขึ้น คือรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเข้มข้นขึ้นจริงๆ หลายๆอย่างมัน At Stake วิกฤติมากขึ้น ไม่ใช่หาเรื่องมาขับรถกันเท่ห์ๆอย่างเดียว และรู้สึกว่าตัวละครหลายตัวมีการพัฒนา มีรสชาติมากขึ้น Roman จากตลกอยู่แล้วก็ตลกขึ้นอีก ตัว Deckard (Jason Statham) ก็ทวีความเท่มากขึ้น ได้โชว์บู๊มากขึ้น แถมยังเสริมความตลกเข้ามาอีกด้วย ทำให้ตัวละครมัน Likable ขึ้นมาก แล้วยังมีการขุดตัวละครเก่าๆขึ้นมาบางตัวอีกด้วยนะ (แต่จะเป็นใครต้องไปดูเองครับ) ส่วนตัวละครใหม่ที่เป็นลูกน้องของ Mr. Nobody ก็ทำได้ดีเช่นกัน ดูจะมาเป็นคู่กัดคนใหม่ของโRoman ได้เป็นอย่างดี



ฉากแอคชั่น และความตลก ก็ได้รับการพัฒนามาจากภาค 7 มากเช่นกัน คือภาค 7 นี่มันเหมือนจะมีหลายอย่างมาบีบเราว่าต้องชอบหนังนะ ต้องสนุกนะ เพราะเป็น Fast สุดท้ายของ Paul Walker และมีจา พนม แสดงด้วย (แต่เอาเข้าจริงฉากขับหนีโดรนท้ายเรื่องผมรู้สึกมึนๆดูไม่ค่อยรู้เรื่อง และฉากพี่ดอมกับ Deckard เอาท่อนเหล็กมาฟาดๆกันนี่ผมว่าจืดสนิท) แต่ภาค 8 นี้บอกได้เต็มปากเลยว่าสนุกจริงๆ ฉากไล่ล่ากลางทุ่งน้ำแข็งท้ายเรื่องนี้ผมให้อยู่ระดับเดียวกับฉาก “ลากตู้เซฟ” ที่เป็นหนึ่งในฉากที่ดีที่สุดของซีรี่ส์นี้เลยครับ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นชื่อเสีย(?) ของหนังตระกูล Fast เรื่องความเว่อร์ ความไม่สมเหตุสมผล ในภาคนี้ก็ยังคงมีอยู่ แถมบางอันมันก็น่าเกลียดมากจนไม่อาจให้อภัยได้จำใจต้องตัดคะแนน (อย่างตัวร้ายมีอุปกรณ์ไฮเทคมากมาย ดูกล้องได้ทุกตัวในเมือง แต่จะติดไมค์ดักฟังที่เสื้อพี่ดอมซักตัวนี่ไม่ได้เลยเรอะ) อ้อ อีกอย่างที่รู้สึกว่าพัฒนาขึ้นคือการแสดงครับ ที่ภาคนี้เราจะได้เห็นน้ำตาพี่ดอมซะที ซึ่งแกก็เล่นใช้ได้เลยครับ ถึงแม้จะไม่ใช่ระดับหวังรางวัล แต่มันก็ทำให้ตัวละครมีมิติขึ้น ดีกว่ากูเท่ห์ กูรู้ทันไปซะหมดเหมือนที่เคยเป็นมาเป็นไหนๆ

สรุป : ก็ถือเป็น Fast ที่ชอบมากกว่าภาคอื่นๆ พัฒนาขึ้นจากภาค 7 มาก สูสีกับภาค 5 ที่เป็นภาคที่ชอบครับ

คะแนน ให้ 7.9/10 (B+) ชอบครับ


# Mon 17 Apr 2017 : 12:43AM

"MnemoniC"
member

Since 2015-12-08 01:43:55
(5791 post)
การออกแบบฉากสตั้นสนุกไม่เท่าภาคที่แล้ว มีสูตรสำเร็จของหนังเรื่องอื่นมาใส่เพียบ ตั้งแต่องค์กรแบบมิสชั่น อิมพอสซิเบิ้ลและพวกพล็อตกลุ่มอำนาจไซเฟอร์ ที่สนุกใหม่สดถ้าสำหรับแฟรนไชส์นี้ แต่เกลื่อนมากกับหนังประเภทสายลับ แล้วก็รู้สึกตัดความสอดคล้องเรื่องตัวละครออกเยอะ เอาตัวร้ายภาคเก่ากลับมาเด่นแบบไม่เกรงใจแฟนหนังรถแข่งกันเลย

อย่างน้อยก็ยังมีฉากรถซอมบี้ที่ดูตื่นตาตื่นใจอยู่ซักหน่อย แต่ก็เคยเห็นฉากแบบนี้มาแล้วในคนเหล็กสามเมื่อหลายปีก่อน แล้วบทบาทของดอมภาคนี้ดูแล้วน่าจะเป็นตัวเอกหลักจริงๆแค่คนเดียว แต่ออกมาดูดีกว่าพวกแก็งค์เดิมทั้งแก็งค์ของดอมเยอะ
สนุกแต่เบื่อพวกแก็งค์มหาประลัยมาตั้งแต่ภาคหกแล้ว ถ้าไม่มีความอลังการงานแอ็คชั่นกับบทเท่ห์ๆของโดมินิค โทเร็ตโต้ และรถหรูหราสวยๆหลายคันไม่รู้ว่าเรื่องนี้ยังจะสนุกมั้ย

คะแนน 7/10

# Mon 17 Apr 2017 : 3:23AM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
แก่นของ The Fast ตั้งแต่ภาคแรกคือเป็นหนังทุนนิยม ขายความบันเทิง แต่ฉาบฉวย เคลือบด้วยความฝันแบบอเมริกันดรีม รถหรู สาวเซ็กซี่ เงิน และความหลากหลายเชื้อชาติ สีผิว แม้แต่ 3 ที่มีเนื้อเรื่องอยู่ในประเทศญี่ปุ่น

8 ก็เป็นอะไรที่ฉาบฉวย ตีหัวเข้าบ้าน บทจะเลื่อนเปื้อนยังไงก็ช่าง ขอแค่มันขายได้ ทำเงินให้สตูดิโอกับนายทุน และ 8 นี้ขายฝันอเมริกันดรีม อเมริกากู้โลกแบบเต็มตัว สื่อตรงๆทั้งพล็อต และจากไดอะล็อค

ในบรรดา Fast ยุคหลัง 4-8 ภาคนี้ถึงแม้จะบันเทิง แต่เป็นความบันเทิงที่ฉาบฉวยและกลวงที่สุด หนังเต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่น แต่เป็นแอ็คชั่นแบบดาดๆทั่วไป ไม่มีอะไรแปลกใหม่ หรือเป็นที่น่าจดจำ

(หลัง 7 หนัง Fury road ได้ออกฉายและขึ้นหิ้งเป็นมาสเตอร์พีช ..8 เห็นชัดว่าพยายามใส่องค์ประกอบแบบ Fury road เข้ามา ทั้งตัวดารา งานภาพ จังหวะสโลว์โมชั่น ฉากขบวนรถผู้ร้ายตามมาในที่โล่ง ระเบิดไฟลูกใหญ่ แต่เปลี่ยนจากทะเลทรายเป็นน้ำแข็ง)

เอฟ แกรี่เกรย์ กำกับหนังได้ดี จัดวางลำดับอารมณ์ Exposition>Complication>Climax เพียงแต่มันเป็นสูตรสำเร็จ รวมๆแล้วให้ 7 เจมส์ วานดีกว่าขั้นนึง ยังมีอะไรแปลกใหม่น่าจดจำกว่า ขนาดมีการแก้ไขขณะถ่ายทำกว่าครึ่งเรื่อง

# Mon 17 Apr 2017 : 7:08AM

eak054
member

Since 2006-04-20 19:32:08
(1260 post)
ทั้งเรื่องมีดีแค่ ชาร์ลิซ เธอรอน นอกนั้นเวอร์เกินนน
View all 1 comments >

# Mon 17 Apr 2017 : 9:13AM

neogranzon
member

Since 5/2/2008
(1978 post)
ส่วนตัวให้ 5 > 6 >8 > 7

แต่ภาค 8 ไม่ค่อยชอบที่ใส่มุขตลกมาเยอะเกินไป เยอะจนล้น

# Mon 17 Apr 2017 : 10:13AM

suede
member

Since 23/4/2006
(21894 post)
หนังแบบนี้ ผมก้อเน้นดูเอามันส์นะ

มาคิดเล่นๆว่า


นาย No Body ที่ทำงานใต้ดินเนี่ยะ มันต้องใหญ่ ต้องมีอำนาจมืดพอควร แถมในภาค 8 พี่แกบอกว่า พามาที่ No Where ก็ไม่ได้แปลกใจที่ ไซเฟอร์หาเจอ แต่แปลกใจที่ ดอมกะไซเฟอร์บุกกันมาสองคน

เฮ้ย มันน่าจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัยมานี่นา มันน่าจะเอิกเกริกแบบสุดๆ หรือไซเฟอร์แกแฮคอะไรบางอย่างแล้วเปิดประตูหย่อนตัวเองลงมาติดระเบิดห้องประชุมเลย

แถมบุกมาถึงที่โยนระเบิดอัมพาตแล้วไซเฟอร์น่าจะเก็บคนในห้องได้เรียงตัวเลย แต่กลับเอาแค่ตาเทพไป หรือ จริงๆเธอไม่โหด ก็ไม่น่าใช่ เพราะจิตขนาดเอาเรือดำน้ำไล่ชน หรือสั่งฆ่าอย่างโหดแล้วเนี่ยะ เธอน่าจะไม่ธรรมดา

ส่วนไอ้เรื่องที่คนบอกๆกันว่าหนังมากลายเป็นกู้โลกแบบนี้ได้ไงผมเฉยๆนะ เพราะหนังมันบอกชัดอยู่แล้ว

ตั้งแต่ภาค 5 ที่ปล้นครั้งสุดท้าย แล้วบังเอิญภาค 6 ฮอปจนปัญญาจับชอว์ เลยไปเรียกดอมมาช่วย

ซึ่งถ้าดูจากเนื้อหา มองว่าไซเฟอร์ กำลังทำแผนร้าย ซึ่งจริงๆไซเฟอร์น่าจะมีปัญหากับพวกรัฐบาล องค์กรใต้ดินอะไรแบบนี้อยู่ก่อนแล้ว ไปจ้างเดคคาน์ด ให้ขโมย อุปกรณ์บังตาในภาค 6 แต่ เดคไม่เล่นด้วย ไซเฟอร์เลยไปจ้าโอเว่นแทน โอเว่นดันเอาด้วย

กลับมาพูดถึงพวกดอม จริงๆ ชีวิต อาชญากรของพวกเค้าจบไปตั้งกะปล้นเรเยสแล้ว แต่ฮอป มาขอความช่วยเหลือโดยมีเรื่องเลทตี้ และการกลับมาอยู่บ้านของพวกดอม

ทำให้พวกเค้ารับงาน จุดนี้แหละ พวกเค้าจึงไม่ใช่แก๊งค์ปล้น อีกต่อไป แต่กลายเป็นมาช่วยรัฐทำงานในทางลับ แต่เพราะงานที่รับดันเป็นงานสกัดแผนของตัวเป้งอย่างไซเฟอร์ และ แผนการที่ 2 ของไซเฟอร์ในภาค 7
ที่จะเอาตาเทพ ยังโดนลากเข้ามาเกี่ยว ซึ่งตรงนี้หนังบอกผ่าน No Body ชัดเจน ว่า ที่จริงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับดอม แต่ดอมดันมาอยู่กลางสงคราม มันเลยเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แถมฝีมือยังได้รับการยอมรับจากองค์กรณ์ลับใต้ดินเลยเอามาเป็นทีมเฉพาะกิจ

ถามว่าเลอะเทอะไหม ผมว่า ก็ไม่นะ ที่โจรขโมย DVD กลายเป็นทีมฮีโร่ปกป้องโลกได้ไง หนังมันวิ่งตามเส้นเรื่องอะ คือ หน่วยยานยนต์ทหารของโอเว่นในภาค 6 ดันเป็นทีมซิ่งของจริง จะหาคนมาต่อกร มันก้อต้องระดับซิ่งล้างผลาญแบบทีมนี้แหละ คือ ถ้าหนังจบภาคแรก แล้วมาช่วยโนบอดี้ขับรถสู้เรือดำน้ำเลย ผมก้อว่ามันคงบ้ามากๆ

แต่หนังมันดำเนินผ่านมิชชั่นที่ยากขึ้นเรื่อยๆมา ทำให้เห็นว่าไอ้พวกนี้มันระห่ำจริง ประกอบกับคนดูแบบผมชิน และตื่นเต้นว่า หนังภาคต่อๆไป จะเจอกับอะไร

ภาคสี่ วิ่งไล่กันในอุโมง ดอมกลับมาเจอไบรอั้น มันน่าดูอยู่แล้ว แต่มิชชั่นมันยังไม่หนีภาค 2 เท่าไหร่

พอมาเจอ 5 ลากตู้เซฟถล่มเมือง แม่งโคตรมันส์ จนไม่คิดว่าหนังมันจะหาอะไรมาตื่นตาได้เท่ากับลากตู้อีกแล้ว

ภาค 6 ลากเครื่องบินยักษ์ลงมาระเบิดกลางรันเวย์ คือ ตอนเทรลเลอร์ออกครั้งแรก ผมนี่ตกใจเลย มึงหาจนได้นะ หาอะไรมามหาประลัยกว่าลากตู้จนได้ ก็คิดนะว่าแม่งหมดแล้ว มึงหาอะไรเว่อร์กว่านี้มาทำกะรถยนต์ไม่ได้แล้ว แล้วภาคนี้มีทั้งสู้กับ F1 จอมเสย และ รถถังด้วย ผมว่าหมดคลังจินตนาการแล้วแน่ๆ

ภาค 7 พอลตาย แต่มันก็ยังหาเรื่องบ้าๆมาทำกับรถอีกจนได้ เอารถดิ่งลงมาจากเครื่องบินเพื่อทำภารกิจ ไอ้ฉิบหายนี่มึงยังไม่ตันไอเดียอีกเรอะ ตอนท้ายเอาโดรนเอาฮอ มายิงมิซายถล่ม LA อีก คือ หมดแล้วใช่ไหม มุขพวกมึง


ภาค 8 แม่งเอาอีกแล้ววววว มึงคิดกันได้ไง เอารถไปขับกันที่ขั้วโลก โอเค 007 มันก็เคยไป แต่นี่เอาเรือดำน้ำมาไล่ถล่ม เอาเรือดำน้ำมาสู้กับรถซิ่งเนี่ยะนะ คือ มันยกระดับความบ้าขึ้นเรื่อยๆ บ้ากว่าหนังสายลับแท้ๆเสียอีก

มันเลยกลายเป็นติดใจ คือ เหตุผลอะไรช่างมันแล้ว ภาคต่อๆไป จะเอามุขไหนมาใช้อีก อยากรู้มากๆ มันกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของหนังแฟรนไชน์นี้สำหรับผม

อีกเรื่องที่น่าทึ่ง ไอ้สร้อยเส้นเดียวนั่นอะเปลี่ยนมือไปๆมาๆ จนกระทั่งภาค 8 คิดได้ไง


# Mon 17 Apr 2017 : 10:44AM

Mozardd
member

Since 2012-09-04 18:05:33
(1139 post)
นึก scenario ภาคต่อไปได้เลย หนังแบบนี้ (มีสปอยนะ)

นาย No Body ก็ introduce ตัวร้ายคนใหม่มา แสดงโดยดาราดังๆอีกหนึ่ง เงินเยอะไง จ้างใครก็ได้ (ซิลเวสเตอร์ สตอลลโลน อาร์โนลด์ หรือจัสติน บีเบอร์ ไม่ก็ เมอรีล สตรีพ ทอมแฮงค์ไรงี้ มายังได้) คราวนี้มาพร้อมกับ แสนยานุภาพทรงพลังใหม่ เราอาจจะต้องสู้กันนอกโลก แต่ไม่ต้องห่วงองค์กรเราสร้างจรวดไว้แล้ว

แรมซีย์ กับ เทจ ก็พ่นศัพท์เทคโนโลยีกับ IT บลา บลา บลา (ที่อาจจะไม่มีอยู่จริงในโลก) นายโรมัน ก็ทำตัวโง่ๆตลกๆเช่นเคย

คราวนี้เราไม่ได้ Fast แบบธรรมดา เรามาแบบ Faster with Flying!! ดอมพ่นคำพูดเท่ๆ ออกมาถ้ามีปีกหรือ spotlight ส่องด้านหลัง ดุจบรรลุนิพพานแล้ว ก็ทำได้เช่นกัน

นาย No Body ยืนพูดหน้าเก๊กนิดๆ "แต่ยังไงซะเราต้องยืมมือคนคนนี้เข้ามาช่วย ไม่งั้นภารกิจนี้ก็ทำไม่ได้" แล้วไซเฟอร์ โผล่มา ทุกคนในทีมตกตะลึง

ไซเฟอร์พูดกับดอม "เฮ้!! กูฆ่าแม่ของลูกมึง แล้วเกือบฆ่าลูกมึง แต่เรายังโอเคอยู่ใช่มะ"

ดอมกับไซเฟอร์มองหน้าดุๆกันพักนึง เหมือนนักมวยปล้ำกำลังจะเริ่มปล้ำ

ไซเฟอร์ "กูหิ้วเบียร์โคโลน่ามาให้มึงแดกด้วยนะ"

ดอมยิ้มพริมใจพร้อมยื่นมือรับเบียร์ "FAMILY"

แล้วภาค 9-10-11 ก็วนเนื้อเรื่องพล็อตแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่หนังก็ยังขายได้ร้อยล้าน พันล้าน

เค ไปดมกาวต่อละ
View all 1 comments >

# Mon 17 Apr 2017 : 11:51AM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
ส่วนตัวที่ยกให้ 7 ดีกว่า 8 อันนี้ในแง่คุณค่าของหนัง คือหนังมันฉาบฉวยพอกัน แต่ 7 มันยังพอมีอะไรจับต้องได้ แต่ 8 ไม่มี ดูเอามันส์อย่างเดียว เนื้อในกลวง (แน่นอนหนังขายความบันเทิง ก็นี่มัน The Fast นะ ไม่ใช่ The Salesman)

อันนี้พูดในแง่วิจารณ์ การที่ใครจะชอบไม่ชอบภาคไหน เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน และความชอบ/ไม่ชอบนี้ก็ยังเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อก่อนไม่ชอบภาคนี้ วันนี้มาดูอีกทีรู้สึกชอบภาคนี้ อย่าง John Wick บางคนก็ดูแล้วไม่สนุกนะ

เพราะงั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะวัดว่าภาคไหนสนุกกว่ากัน แต่คุณค่าของหนัง มันจะมั่นคงไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง (ถึงแม้จะขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละสังคม แต่ละยุคสมัย) อย่าง Fast ภาคแรกก็มีคุณค่าในฐานะต้นกำเนิด (จริงๆมี The fast and the furious ปี 1955 ด้วยนะ)

เคยตั้งกระทู้หนังแนวซิ่งรถ ผมยก The French Connection, C"etait un rendez-vous, Mad Max 2 (ตอนนั้นภาค4 ยังไม่ฉาย) พวกนี้มีคุณค่า ริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นที่น่าจดจำ แต่ถ้าเอาความมันส์เข้าว่าพวกนี้สู้ Fast 8 ไม่ได้ แต่ถ้าจะเอามันส์ ผมยกให้พวกรวมคลิปรถชนในยูป บางคลิปแค่ 15-20นาที แต่มันส์กว่า The fast ทั้งเรื่อง

# Mon 17 Apr 2017 : 12:48PM

Taka-Bou
member

Since 24/9/2009
(11539 post)
ผมว่าแรมซี่ดูน่ารักมากเลยอะ
View all 2 comments >

# Mon 17 Apr 2017 : 2:39PM

yentrek
member

Since 4/7/2008
(5993 post)
ช่วยทีครับผมตามหนังไม่ทัน


View all 1 comments >

# Mon 17 Apr 2017 : 9:46PM

MikuSukoy
member
เขาพยายามอย่างหนักเพื่อจุดไฟให้ลุกโชน
Since 2016-07-07 16:54:43
(2835 post)
8 สนุกกว่า 7 ครับ

7 นี้โดนแก้แถมปรับบทตอนพอลตาย ทำให้มันดูล้นๆ จืดๆ แถมเว่อร์เกินไปครับ แถมไคลแมกห่วย มาถือแป๊บเหล็กตีกันซะงั้น

แต่ยังไงๆ ตู้เซฟภาค5 คือมาสเตอร์พีช ครับ
View all 1 comments >

# Tue 18 Apr 2017 : 12:57AM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
The fast ภาคแรกนี่ลอกพล็อต Point Break มาทั้งดุ้น จนท.ตำรวจหนุ่มปลอมตัวเข้าไปสืบคดีโจรกรรมในกลุ่มแก๊งวัยรุ่นที่ชอบความบ้าบิ่นท้าทาย "ไบรอัน" ก็คือ "จอห์นนี่ ยูทา" ของคีนู รีฟ ส่วน "ดอม" ก็ถอดแบบมาจาก "โบรดี้" ของแพทริก สเวซี่ เป๊ะ โคลนนิ่งมาเลย

ภาคแรกถึงจะตีหัวเข้าบ้าน (จริงๆก็ตีหัวเข้าบ้านทุกภาค) เป็นหนังวัยรุ่น โชว์ความเท่ เอาใจวัยจ๊าบ ใช้รถแต่งเท่ๆเป็นจุดขาย แต่ก็เป็นภาคที่ดีที่สุด ถ้าจะเอาดราม่าภาค1 ก็มีมากที่สุด ก็ตอนนั้นยังเป็น "แอ็คชั่นดราม่า" อยู่ (ถึงแม้จะทำได้ไม่ถึง เพราะเน้นขายรถมากกว่า)

ภาค1 เป็นหนังวัยรุ่น มีประเด็นวัยรุ่นวัยคะนอง อารมณ์พุ่งพล่าน อยากเข้ากลุ่ม ตามเพื่อนตามฝูง อยากเด่นเป็นที่ยอมรับ "ดอม" ยังเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อ เป็นเด็กเก็บกด ไม่แสดงอารมณ์ มีปมฝังใจเรื่องพ่อ มีประเด็นเรื่องครอบครัว ต้องแบกภาระ ดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองกับน้องสาว ส่วน "ไบรอัน" ก็เป็นตำรวจตามพ่อ และต้องต่อสู้กับความสับสนในใจ ต้องเลือกระหว่างมิตรภาพกับหน้าที่ และความฝันของวัยรุ่น

ส่วนภาคหลังๆก็ลอกหลายเรื่อง แต่มันก็ทำให้แฟรนไชส์นี้แข็งแรงและยังขายได้ นี่ก็ไม่รู้ว่าจบภาค10 ปิดท้ายแล้ววิน ดีเซล จะไปทำอะไร

# Tue 18 Apr 2017 : 8:55AM

อามาคุ
member

Since 11/1/2008
(10492 post)
สนุกดีครับ 9 คะแนน ไปเลยสำหรับผม

# Tue 18 Apr 2017 : 9:52AM

ทาร์จัง
member

Since 25/2/2008
(7940 post)


เข้าใจหนัง ว่าจะขายอะไร ที่เหลือคือดูแล้วเขาคุมอยู่มั้ย
ตรึงให้คนดู ดูได้อย่างมีอรรถรสตลอด เกือบ 2 ชม. หรือไม่

ซึ่งมันผ่าน ตรึงทาร์จังให้มีสมาธิดู เพลิดเพลินได้ตลอด
แม้จะมีช่วงที่จะล้นๆกรอบอยู่บ้าง แต่ความมันส์ก็ตีกลับมาเข้ากรอบได้ตลอด

สรุป เอาไปเลย 9.1 คะแนน แฮ่

View all 9 comments >

# Tue 18 Apr 2017 : 12:00PM

ToonVPP
member

Since 2012-01-03 15:05:06
(711 post)
สนุกดีนะภาคนี้ ในแง่ความบันเทิงผมชอบกว่าวิค2อีก แต่ผมเสียดายตอนจบนิด..


View all 5 comments >

<<
<
1
2
>
>>
Reply
Vote




1 online users
Logged In :