Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
This thread is locked
กระทู้การเมือง ��าค 6 (แจ้งล่วงหน้าว่ากระทู้การเมืองจะปิดชั่วคราวในเวลา 15...

<<
<
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
>
>>
Reply
Vote
# Sun 28 May 2017 : 9:19AM

marcust
member

Since 22/9/2008
(9832 post)
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9600000054032

สิ่งดีๆ ของ รบ ลุงตู่ คสช ก็มีนะครับ (เดี๋ยวจะหาว่าตำหนิ อย่างเดียว)

1. ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ( ส่วนตัวผมรู้สึกว่ากวาดพวกฝั่งตรงข้ามมากกว่า) แต่อย่างว่าพวกเสื้อแดง สส ฝั่งแดงแม้ว ก็ผู้มีอิทธิพลระดับประเทศทั้งนั้น บางคนอุ้มฆ่า ไปหลายศพ แต่เรื่องเงียบกริบ บางคนเป็นโต๊ะบอลรายใหญ่ของประเทศ ปล่อยกู้นอกระบบ สะสมอาวุธสงคราม

2. จัดระเบียบ ทางเท้า ป้ายโฆษณาต่างๆ กทม ดูดีขึ้นนะ (แต่ค้าขายยากขึ้น ก็ต้องแลกมา.)

3. นโยบายต่างๆ ที่เล็งเห็นถึงอนาคต แต่ได้ผลหรือปล่าวต้องดูกันยาวๆ เพราะเปลี่ยน รบ นโยบายมันก็เปลี่ยนอีก


View all 3 comments >


# Sun 28 May 2017 : 11:28AM

Gorath
member

Since 20/3/2007
(5725 post)
เมียเริ่มด่าลุงตู่ทุกวัน เริ่มมีอาการหงุดหงิด ผมนี่สายเชียร์ลุงตู่ แต่ผมว่ามันก็จริงอย่างเมียว่า ทหารนี่ เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่แดรก
View all 7 comments >

# Sun 28 May 2017 : 1:54PM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)


อั้ม เนโกะ, ปิยบุตร, สมศักดิ์ เจียม ที่ตอนนี้ลี้ภัยไปอยู่ฝรั่งเศส สามคนนี้ต่อต้าน Emmanuel Macron ปธน.คนใหม่ของฝรั่งเศส หงอกเจียมนี่ก็เคยโพสแขวะว่าชนะโดยไม่ชอบธรรม ส่วนปิยบุตร กับ อีอั้ม นี่ก็ออกมาต่อต้าน

- อั้ม เนโกะ ออกมาโพสท์และถ่ายวีดีโอประกาศว่า นาย มาครองซึ่งเพิ่งจะชนะการเลือกตั้งนั้น ถือว่าเป็น "ศัตรูของฝรั่งเศส" ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอั้มเนโกะไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าความคิดของตนเองคือตัวแทนของคนฝรั่งเศส!!!!

- ปิยบุตรได้โพสท์วันที่ 7 พ.ค. ระหว่างที่มีการเลือกตั้งว่าถ้านายมาครองได้คะแนนเสียงแค่ 60% ถือว่าแพ้เลือกตั้ง (แม้ว่าจะชนะเลือกตั้งก็ตาม)


ร่านนี่แม่งสุดตีนกันจริงๆ เลือกตั้งนะเว้ย ไม่ใช่แทงบอล จะได้ต้องมีแต้มต่อ มีปป. มีครึ่งควบลูก



# Sun 28 May 2017 : 2:06PM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
ประเมินผลงาน ‘ต้านคอร์รัปชัน’ เกือบ 3 ปีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

ธิปไตร แสละวงศ์

การต่อต้านคอร์รัปชันถูกยกให้เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญอันดับต้นๆ ที่รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา สัญญาว่า จะแก้ไขตามนโยบายการส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ ในภาครัฐที่ ครม. แถลงต่อ สนช. เมื่อเดือนกันยายนปี 2557 นับจากช่วงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลได้ทำงานมาแล้วเกือบสามปี คำถามที่สังคมอาจกำลังรอคำตอบคือว่ารัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ได้ดำเนินการต่อต้านคอร์รัปชันนั้นคืบหน้า อย่างไร

ทีดีอาร์ไอได้ติดตามการออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาคอร์รัปชันในภาครัฐ และพบว่า รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ มีความ ก้าวหน้าอย่างมากในการออกกฎและระเบียบ เพื่อลดทุจริตในสองเรื่อง ได้แก่ การควบคุม การใช้ดุลยพินิจของหน่วยงานรัฐ และ การกำกับดูแลการจัดซื้อจัดจ้างให้เกิด ความโปร่งใส ในเรื่องการควบคุมการใช้ดุลยพินิจของหน่วยงานรัฐ รัฐบาลปัจจุบันได้ออกกฎ และระเบียบสองฉบับที่สำคัญ ได้แก่ พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก ในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ 2558 และ พระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. 2558

ในหลักการนั้น พระราชบัญญัติ การอำนวยความสะดวกฯ ถูกออกมาเพื่อกำหนดว่า อย่างน้อยหน่วยงานรัฐทุกแห่ง จะต้องจัดทำคู่มือชี้แจงให้ผู้มาติดต่อราชการทราบถึงระยะเวลา เอกสารหลักฐาน และ ขั้นตอนที่ต้องใช้ในการขออนุญาตทางราชการ แก่ประชาชน เช่น การทำใบขับขี่ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อความโปร่งใสในกระบวนการพิจารณา อนุญาตต่างๆ ในขณะที่พระราชกฤษฎีกา การทบทวนความเหมาะสมของกฎหมายกำหนดให้หน่วยงานรัฐจะต้องทบทวนว่ากฎระเบียบที่ตนเองถืออยู่มีเนื้อหาที่ สร้างภาระแก่ประชาชนเกินสมควร เช่น การพิจารณาให้อนุมัติหรืออนุญาตทางราชการ ต่างๆ ที่ไม่จำเป็น

แต่ในทางปฏิบัติ ประชาชนจะต้องติดตามการดำเนินการตามกฎหมาย สองฉบับนี้จะสำเร็จมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ ทีดีอาร์ไอสำรวจพบว่า ประชาชน 95% ไม่เคยได้ยินชื่อพระราชบัญญัติอำนวย ความสะดวกฯ และในส่วนของพระราชกฤษฎีกา การทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พบว่า มีหน่วยงานเพียงสองแห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่เริ่มทบทวนกฎระเบียบของตนเอง ในเรื่องการกำกับดูแลการจัดซื้อจัดจ้าง ของภาครัฐซึ่งเป็นเป้าหมายของการทุจริต เสมอมาเนื่องจากเกี่ยวข้องกับงบประมาณ กว่า 9 แสนล้านบาทต่อปี รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ได้ออกมาตรการถาวร 2 เรื่อง ได้แก่ การออกพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และการดำเนินโครงการ “ข้อตกลงคุณธรรม” (Integrity Pact) ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานรัฐต้องเปิดโอกาสให้มี “ผู้สังเกตการณ์” จากภาคประชาสังคมเข้าร่วมในกระบวนการดำเนินโครงการจัดซื้อจัดจ้าง

นอกจากนี้ ยังมีการออกมาตรการ ชั่วคราว 1 เรื่อง คือการดำเนินโครงการ “เพื่อความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ” หรือ CoST (Construction Sector Transparency Initiative) ซึ่งมุ่งให้ หน่วยงานรัฐที่มีโครงการก่อสร้างต้องเปิดเผย ข้อมูลตั้งแต่อนุมัติโครงการ จัดหาผู้รับเหมา จนถึงระหว่างการดำเนินการก่อสร้างให้สาธารณะได้รับทราบ เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่าโครงการ ก่อสร้างของรัฐมักถูกร้องเรียนว่ามีการฮั้วประมูล เกิดขึ้นบ่อยครั้ง การเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชน ได้ติดตามตรวจสอบจะช่วยให้การทุจริต เป็นไปได้ยากขึ้น

ปัจจุบัน โครงการ CoST ถูกนำร่อง ในโครงการก่อสร้างของภาครัฐ 5 โครงการ มูลค่ารวม 1.03 แสนล้านบาท ซึ่งรวมโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาท และโครงการก่อสร้างทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนองวงแหวนรอบนอก มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท แม้จะมีผลงานพอเป็นที่ประจักษ์อยู่บ้าง ข้างต้น แต่มาตรการทั้งหมดนี้ยังคงเป็น มาตรการต่อต้านคอร์รัปชันที่จะต้องรอให้ภาครัฐดำเนินการเท่านั้น รัฐบาลยังคงไม่มีความคืบหน้าในสามเรื่องที่จำเป็น เพื่อให้ การต่อต้านคอร์รัปชันเห็นผลมากขึ้นดังนี้

หนึ่ง เรื่องการสร้างการมีส่วนร่วม ให้ประชาชนได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐที่ผ่านมารัฐบาลกลับสร้างอุปสรรคให้ประชาชนมีส่วนร่วมน้อยลง เช่น การปล่อยให้มีการบังคับใช้ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เรื่องปิดกั้นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน ของรัฐ หรือล่าสุดคือการพยายามออกกฎหมายให้อำนาจรัฐเพื่อกำกับดูแลสื่อ

สอง เรื่องการกำจัดระบบพวกพ้องเส้นสายและผลประโยชน์ทับซ้อน รัฐบาลถูกตั้งคำถามจากสังคมและสื่อมวลชน อย่างมากว่า มีการละเว้นไม่ตรวจสอบทุจริตกับบุคคลบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ ใกล้ชิดกับบุคคลในรัฐบาลหรือไม่ เห็นได้จาก ข่าวการจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหมและกองทัพบางโครงการซึ่งถูกตั้งคำถามถึงความไม่โปร่งใสในการอนุมัติและประมูลโครงการ

สาม ยังคงไม่มีความชัดเจนถึงการออก มาตรการคุ้มครองข้าราชการที่สุจริตและประชาชนที่ต้องการเปิดโปงการทุจริต ไม่ให้ถูกกลั่นแกล้ง อย่างน้อยยังคงไม่มีข่าวความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมาย การฟ้องร้องหมิ่นประมาทไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือฟ้องปิดปากผู้เปิดโปงการทุจริต

โดยสรุป ผลงานการตรวจสอบทุจริตของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ที่ผ่านมายังเน้นการออกมาตรการซึ่งต้องดำเนินการโดยหน่วยงานภาครัฐ แต่ยังขาดการส่งเสริมกลไก การตรวจสอบภาคประชาสังคมซึ่งถือเป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้การต่อต้านคอร์รัปชันประสบความสำเร็จในอนาคต

หมายเหตุ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 4 พฤษภาคม 2560 ในกรุงเทพธุรกิจ คอลัมน์: วาระทีดีอาร์ไอ: ประเมินผลงาน’ต้านคอร์รัปชัน’เกือบ 3 ปีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

[Link]


##################################


คงไม่มีใครออกมาแขวะว่า TDRI มโน อวยรบ.หรอกนะ อ่านดีๆเขาวิจารณ์เป็นกลางมาก ค่อนข้างมีสาระและประโยชน์

# Sun 28 May 2017 : 2:25PM

[LMD]Mozart
member

Since 10/12/2006
(19374 post)
พ่อหนูทรนินปั้ม rep อีกแล้ว

เบิลโพสท์ทั้งๆที่โพสท์เก่ายังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ

ถ้าอยากแยกเรื่อง
กด edit. แล้วจะเว้นบรรทัด หรือขีดเส้นแบ่งก็ทำได้แท้ๆ. หรือว่าทำไม่เป็น???????
[Edited 1 times [LMD]Mozart - Last Edit 2017-05-28 14:34:10]

# Sun 28 May 2017 : 2:56PM

welzer
member

Since 30/9/2005
(9399 post)
ผมว่าถ้าเรื่องใหม่ก็โพสใหม่ไปเลยดีกว่า ถ้าเรื่องเดียวกันจะต่อยอดค่อยกด edit
View all 1 comments >

# Sun 28 May 2017 : 9:15PM

Taka-Bou
member

Since 24/9/2009
(11528 post)
ไปดูเพจไข่แมว เจอแต่โพสแบบนี้เกิดอะไรขึ้น?

ตรรกะที่ถูกแสดงโดย ไข่แมว จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุด

ลักษณะการบิดเบือนข้อมูล ตัดต่อภาพ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามถ้าหากข้อมูลเป็นเท็จ เเละทำให้ผู้อื่นเสียหายนั้นเป็นความผิดหมด บลาๆๆๆๆๆ
View all 5 comments >

# Mon 29 May 2017 : 7:08AM

Sukoy
member

Since 24/6/2005
(15460 post)
ผิดที่
[Edited 1 times Sukoy - Last Edit 2017-05-29 07:08:56]

# Mon 29 May 2017 : 9:37AM

"MnemoniC"
member

Since 2015-12-08 01:43:55
(5786 post)
7 วัน หลังระเบิด รพ.พระมงกุฎฯ การเมืองในระเบิด “การเมือง”

ครบ 7 วันแล้ว สำหรับเหตุลอบวางระเบิดใน รพ.พระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนตัดมูลเหตุจูงใจอื่นๆ จนเหลือเพียงเรื่อง "การเมือง"

เพราะไม่เพียงลงมือในวันครบรอบ 3 ปี การรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังกระทำการใน "ห้องวงษ์สุวรรณ" อันเป็นการท้าทายเชิงสัญลักษณ์ไปยังตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" ผู้ดูแลงานด้านความั่นคงของรัฐบาลปัจจุบัน

เหตุระเบิดที่ทำให้มีคนบริสุทธิ์บาดเจ็บถึง 25 ราย ไม่เพียงเรียกเสียงประณามจากทุกฝ่าย เพราะโรงพยาบาลควรจะเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุดแม้ในภาวะสงคราม ยังสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปยัง คสช.ที่ชู "จุดแข็ง" เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย และการดูแลความปลอดภัยของประชาชน

ไม่เพียงเท่านั้น สะเก็ดระเบิดยังลุกลามไปยังหลายๆ ฝ่าย เมื่อเหตุการณ์นี้ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการโจมตีและดิสเครดิตกันและกัน

สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับเหตุระเบิด รพ.พระมงกุฎฯ

-เช้าวันที่ 22 พ.ค. คนร้ายนำระเบิด "ไปป์บอมบ์" แรงกดดันต่ำ น้ำหนักระเบิด 1 ปอนด์ โดยใช้ตะปูและเศษเหล็กเป็นสะเก็ดระเบิด ซ่อนในแจกันดอกไม้สีเขียว พรางด้วยดอกไม้พลาสติกสีส้ม ติดด้วยกาวสองหน้า นำไปวางไว้ข้างผนังบริเวณเคาน์เตอร์จ่ายยาบริเวณหน้าห้องวงษ์สุวรรณ ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.พระมงกุฎฯ ในเวลาประมาณ 6 โมงเช้า และตั้งหน่วงเวลาไว้ให้ระเบิดทำงานในเวลาประมาณ 10 โมง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 25 ราย เป็นทหาร 15 ราย และพลเรือนอีก 10 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

-เดิมตำรวจตั้งมูลเหตุจูงใจไว้ 2 ประเด็น คือ "การเมือง" กับ "ภาคใต้" แต่หลังหน่วยงานตรวจวัตถุระเบิด (อีโอดี) เช็คพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ได้ตัดประเด็นภาคใต้ออกไป เพราะอุปกรณ์หน่วงเวลาที่เรียกว่า IC Timer ไม่เหมือนกัน

-กว่าที่ตำรวจจะได้รับอนุญาตจากทหารให้เข้าพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐาน โดยเฉพาะจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ก็ในช่วงบ่ายวันที่ 23 พ.ค. หลังเวลาผ่านไปกว่า 30 ชั่วโมง ในที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดทั้งสิ้น 11 ตัว แต่ใช้งานได้จริงเพียง 4 ตัว และมีกล้องที่อยู่ในห้องวงษ์สุวรรณเพียง 1 ตัว แต่มุมภาพกลับหันไปทางอื่น ทำให้ต้องไปดู กล้องวงจรปิดจุดอื่นใน รพ.พระมงกุฎฯ แทน ซึ่งได้มุมกล้องที่เป็นประโยชน์ 17 ตัว

-ปัจจุบันมีผู้ต้องสงสัย 1 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อ ปรากฎภาพในกล้องวงจรปิด เดินเข้าไปยังบริเวณที่เกิดเหตุด้วยท่าทีมีพิรุธพร้อมถือถุงพลาสติก แต่เมื่อกลับออกมา ไม่มีถุงพลาสติกแล้วแต่กลับถือร่มออกมาแทน ส่วนบุคคลที่เคยอยู่ในภาพสเก็ตช์ ปัจจุบันถูกตัดทิ้งไปแล้ว

-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสอบสวนในคดี โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เป็นประธาน พร้อมมอบอำนาจให้สั่งการทีมงานสอบสวนซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วประเทศถึง 201 คน พร้อมให้รวมเหตุระเบิดหน้ากองสลากเก่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย. และหน้าโรงละครแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ไว้ในสำนวนคดีเดียวกัน เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุมีความคล้ายคลึงกัน

-พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า เหตุระเบิดใน รพ.พระมงกุฎฯ มีความใกล้เคียงกับเหตุระเบิดหลายจุดช่วงปี 2550 ทั้งบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน หน้ากองบัญชาการกองทัพบก และซอยราชวิถี 24

-ข้อมูลจากแหล่งข่าวในชุดสืบสวนของตำรวจ ระบุว่า คนร้ายน่าจะมีราว 5-6 คน แบ่งงานกันทำ เมื่อวางระเบิดเสร็จก็ขับรถยนต์หลบหนีออกไปทางมอเตอร์เวย์ โดยแยก 2 ทาง ทางหนึ่งไปทางภาคตะวันออก อีกทางไปทางพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครยืนยันข้อมูลนี้ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ เพียงยอมรับว่า "คนร้ายน่าจะมีมากกว่า 1 คน"

-อีกประเด็นที่ตำรวจพยายามตรวจสอบ คือกรณีที่มีผู้ส่ง "จดหมายแจ้งเตือน" ไปยัง รพ.พระมงกุฎฯ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และสถาบันประสาทวิทยา 3 วันก่อนจะเกิดเหตุการณ์ ซึ่งจากการพิสูจน์ลายมือพบว่าเป็นบุคคลๆ เดียวกัน แต่อยู่ระหว่างการสืบหาว่าเป็นใคร

-นับแต่วันที่ 22 พ.ค. ถึงปัจจุบัน พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ปรากฎตัวต่อสาธารณชน แต่ใช้วิธีสั่งการหรือให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยข้อมูลจากสื่อระบุถึงสาเหตุไว้ 2 ทาง คือ 1.อยู่ระหว่างกายภาพบำบัดที่ รพ.แห่งหนึ่งภายในประเทศ และ 2.เข้ารับการผ่าตัดอาการเกี่ยวกับโรคหัวใจ

ท่าทีจากผู้เกี่ยวข้อง

หลังเกิดเหตุ นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ออกมาระบุผ่านหนังสือพิมพ์คมชัดลึกว่า คนร้าย "ไม่ใช่มือสมัครเล่น" และ "หวังผลทางการเมือง"

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ คดีระเบิด รพ.พระมงกุฎฯ นี้ มีนายทหารระดับสูงหลายคนออกมาให้ความเห็นถึง "ผู้ต้องสงสัย" ทั้งที่น่าจะเป็นหน้าที่ของชุดสืบสวนของตำรวจ

โดย พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยมีหลายกลุ่มทั้งอยู่ในประเทศ นอกประเทศ รวมไปถึงผู้เสียประโยชน์ ส่วนตัวทราบแล้วว่าเป็นใคร มีด้วยกัน 3-4 กลุ่ม และได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชารับทราบแล้ว ส่วน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ไปไกลกว่านั้น เพราะได้ระบุชื่อผู้ต้องสงสัย โดยพาดพิงถึงนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ "โกตี๋" แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ที่ปัจจุบันหลบหนีคดีอยู่

นอกจากนี้ ผบ.ทบ. ยังเปรยว่า ผู้เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการทบทวนว่าจะนำประกาศ คสช.ที่ 50/2557 ที่ให้ศาลทหารมีอำนาจพิเศษคดีเกี่ยวกับอาวุธสงครามกลับมาใช้หรือไม่

ขณะที่มีการปล่อยข่าวโดยบุคคลไม่ทราบฝ่าย ว่าผู้ต้องสงสัยคืออดีตนายพล ชื่อย่อ "ส." "พ." และ "ช." แต่ล่าสุด พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตที่ปรึกษานายกฯสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย รวมถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ.ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ด้านฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลก็เชื่อว่า รัฐบาลอาจเป็นผู้วางระเบิดใน รพ.พระมงกุฎฯ เอง อย่างนายวุฒิพงษ์ ระบุผ่านรายการ Thais Voice ออกอากาศทางยูทิวบ์ว่า "เป็นการทำกันเอง เพื่อให้ได้อยู่ในอำนาจต่อ" ซึ่งทีมโฆษก คสช. ก็ออกมาตอบโต้ในทันทีว่า ไม่ควรไปฟังข้อมูลจากผู้ต้องหาหลบหนีคดี

ที่น่าสนใจก็คือท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ระบุว่า หากบ้านเมืองยังไม่สงบ ยังมีเหตุระเบิดอยู่ ก็อาจต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป
หลายฝ่ายจึงเอาใจช่วยผู้เกี่ยวข้องให้จับกุมผู้กระทำผิดในคดีนี้ให้ได้โดยเร็ว เพื่อคลี่คลายปริศนาว่าใครเป็นผู้กระทำ จะได้คืนความสงบสุขให้กับสังคม และไม่เป็นเหตุกดดันให้นายกฯ ต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป หลังจากเลื่อนมาแล้วถึง 4 ครั้ง

# Mon 29 May 2017 : 10:20AM

rum
member

Since 2012-06-27 10:08:08
(912 post)
ตอนไล่อิปูว์ เห็นบอกบาทเดียวก็ถือว่าโกงนี่นา
View all 3 comments >

# Mon 29 May 2017 : 11:49AM

RedRaven
member

Since 30/9/2006
(-16117 post)
ไม่เป็นประเด็นที่นี่เลยแหะ จากรายการ นายกพบประชาชน นี่
สายข่าวลิเบอรัล เอาไปเล่นกันมันเลยแท้ๆ
นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมตอบคำถาม 4 ข้อส่งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อกำหนดอนาคตประเทศ พร้อมเตือนสติคนไทยต้องมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมให้ใครชักจูงปลุกปั่น ย้ำรัฐบาลจะทำที่ดีสุดเพื่อประชาชนทุกคน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชิญชวนพี่น้องประชาชนส่งความคิดเห็นจากคำถาม 4 ข้อไปยังศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัด ได้แก่

1) ท่านคิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่
2) หากไม่ได้จะทำอย่างไร
3) การเลือกตั้งเป็นส่วนสำคัญของประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งอย่างเดียวโดย ไม่คำนึงถึงอนาคตของประเทศ เช่น ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปนั้น ถูกต้องหรือไม่
4) ท่านคิดว่ากลุ่มนักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ควรจะมีโอกาสเข้ามาสู่การเลือกตั้งอีกหรือไม่ หากเข้ามาได้แล้วจะให้ใครแก้ไข และแก้ไขด้วยวิธีอะไร

“ท่านนายกฯ มุ่งหวังให้ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของบ้านเมือง และนำความคิดเห็นที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ เพราะที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินแต่ความเห็นของนักการเมือง นักวิชาการ หรือจากผลสำรวจของโพลล์ต่าง ๆ ที่เก็บข้อมูลจากตัวแทนของประชาชนเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น ครั้งนี้จะเป็นการรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่อีกทางหนึ่ง ที่จะสะท้อนกลับมายังรัฐบาลและนักการเมืองว่า อะไรคือความต้องการที่แท้จริงของประชาชน”

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังต้องการเตือนสติคนไทยว่า พี่น้องประชาชนต้องมีศักดิ์ศรีของตัวเอง โดยการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ มีคุณค่าต่อประเทศชาติ ไม่ยอมให้ใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดออกมาชักจูง ปลุกปั่น บิดเบือน หรือให้ความหวังแบบที่เคยทำก่อนการเลือกตั้งทุกครั้ง เช่น โจมตีรัฐบาล สัญญากับประชาชนว่าจะให้สิ่งนั้นให้สิ่งนี้ โดยหวังแต่เพียงคะแนนเสียงและปลุกกระแสการเลือกตั้ง ทั้ง ๆ ที่กรอบเวลาของการเลือกตั้งตามโรดแมปก็ยังมาไม่ถึง แต่ไม่เคยพูดถึงการแก้ไขปัญหาของชาติที่ตนเองมีส่วนสร้างไว้ในอดีต หรือจะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นเขาได้อย่างไร สำหรับรัฐบาลนี้ขอให้ความเชื่อมั่นว่า จะเร่งสะสางปัญหาที่หมักหมมและสร้างความเสียหายกับประเทศไว้ให้ดีที่สุด พร้อมทั้งเดินหน้าตามโรดแมปของการปฏิรูปประเทศไปสู่การเลือกตั้งตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ ความคิดเห็นที่พี่น้องประชาชนส่งไปยังศูนย์ดำรงธรรม จะถูกรวบรวมให้กับกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งต่อให้นายกรัฐมนตรี ส่วนรายละเอียดการปฏิบัติหรือการตอบคำถามของประชาชน รัฐบาลจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป


ซึ่งถามแบบนี่ เชิญอยู่ไปเถอะ พวกท่านมีเหนือกว่าอยู่แล้ว
[Edited 2 times RedRaven - Last Edit 2017-05-29 12:56:29]
View all 6 comments >

# Mon 29 May 2017 : 12:00PM

4Baht
staff

Since 19/9/2005
(10753 post)
ผมว่าคราวนี้ต้องมาตั้งคำถามกันแล้วละว่า

จะเอาเลือกตั้งไหม ถ้าเลือกตั้งแล้วประเทศอาจจะพัฒนาช้ากว่า แต่ถ้ามีการโกงก็ต้องทำหูไปนาตาไปไล่ ปิดตาข้างหนึงไป ถ้ามันไม่ได้โกงจนชาติล้มจม

ผมนี้ไม่รู้เลยเชียว ตอนนี้มันก็สงบดี อะไรหลายๆอย่างมันก็ไปได้ ส่วนโกงบ้างก็ต้องจำใจ เหมือนค่าตอบแทนที่ทำให้ประเทศสงบแล้วไปด้านหน้าได้
แต่กลัวว่าถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ คนที่แทนลุงตู่ยิ่งโกงหนักกว่าเดิม คราวนี้จะไล่ไปไม่ได้แล้วนะ

edited แก้คำผิด
[Edited 1 times 4Baht - Last Edit 2017-05-29 12:08:30]
View all 14 comments >

# Mon 29 May 2017 : 2:57PM

PNA888
member

Since 2014-09-08 12:28:47
(4154 post)
- - อย่างเลือกเอาไม่เอาที่ผ่านมาก็เป็นตัวชี้แล้วว่า เงินไม่มาก็ไม่ไปเลือก คือจริง ๆ ตามสัดส่วนแล้ว ครองเหนือ ครองอีสานได้ ก็เป็นรัฐบาลได้ มันไม่ใช่ประชาธิปไตยอะไรหรอก

แต่ภาคอีสานซึ่งเป็นฐานเสียงหลัก พอดูคะแนน เรื่องรับไม่รับ ไอ้ที่ไม่รับควรจะทิ้งห่างแบบลอยลำ กลับกลายเป็น บางที่ก็แพ้ บางที่ก็ชนะแบบจวนเจียน บางที่ก็ชนะแบบไม่ห่างกันมาก

นั่นเป็นเพราะ น้ำเลี้ยงไม่มา แต่ตัวหัวก็ทำถูกแล้ว เก็บเงินไว้วื้อเสียงและเป็นค่าใช้จ่ายตอนเลือกตั้งใหญ่ดีกว่า เพราะจ่ายตอนนี้ก็ไม่ได้ทุนคืน ไปชนะตอนเลือกตั้งใหญ่เพื่อเอาทั้งทุนแล้วกำไรด้วยไม่ดีกว่าเรอะ


เอาจริง ๆ บ้านเราไม่มีประชาธิปไตยหรอกครับ หรือจะใช้คำว่าเงินคือประชาธิปไตยก็ได้ พอได้เข้ามาแล้วถ้าไม่ชนะขาดก็ต้องหาพรรคร่วม ซึ่งก็คือมาตกลงกันล่วงหน้าว่าใครจะไปอยู่กระทรวงไหนแล้วได้อะไรมาแบ่งกินเข้าพรรคบ้าง

ส่วนพรรคเล็กบ้านเราเองก็ไม่ได้จัดตั้งเพื่อประชาธิปไตยอะไรหรอก เกือบทั้งหมดคือตั้งขึ้นเพื่อตัดคะแนนเสียงคู่แข่ง อีกอย่าง พรรคโนเนมไม่มีทางได้เกิดหรอกครับ มันต้องมีทุน แค่ค่าป้าย ค่าโฆษณา ค่าใช้จ่ายตอนหาเสียง แค่ใจ แค่ความรู้ มันทำไม่ได้หรอก มันต้องมีทุน

ปัญหาตอนนี้ของประชาชน เป็นปัญหาสะสมที่ยากจะแก้ไขครับ หลัก ๆ คือขาดเงินสดในมือกัน เพราะที่ผ่านมาใช้เครดิตกันไปหมดแล้ว

คนไทยเราส่วนมากจะไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง รัฐบาลจึงเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ นี่ขนาดยังไม่พ่วงเรื่องการเมืองเข้ามานะ เลือกตั้งก็ดี ยังไม่เลือกก็ดี ข้อดีข้อเสียก็ต่างกัน แต่ไอ้เลือกเสร็จแล้วจะเกิดความสงบเราจะได้ประชาธิปไตยกลับมาอะไรพวกนั้นมันไม่จริงหรอก


เพราะยังไงก็ต้องมีการชุมนุม อย่างอเมริกาเอง คำประกาศอิสระภาพก็ระบุไว้ว่า หากรัฐบาลไม่มีความชอบ ประชาชนสามารลุกขึ้นมาต่อต้านได้


ทีนี้ ไอ้รัฐบาลที่ไม่มีความชอบ มันต้องไปถึงระดับนึงที่ชัดเจนว่าโกงกินเป็นกระบวนการ ทำให้ประเทศสูญเสียมหาศาล หรือ รัฐบาลเป็นผู้ทำผิดกฏหมาย จึงออกมาประท้วงครั้งใหญ่ในแบบอดีต


แต่ตอนนี้การประท้วงของบ้านเราเกิดขึ้นง่ายมาก เพราะเราตีความคำว่า รัฐบาลไม่มีความชอบ = รัฐบาลที่กูไม่ชอบ


- -" มันก็เลยเอวัง ล่องจุ้นอย่างที่เห็น แต่ในตอนนี้ก็ถือว่าดีกว่าที่ผมคิดไว้มากมายเลยนะ จริง ๆ ก็เพราะการแสดงออกของประชานส่วนมาก หลัง 13 ตุลาคม ปีที่แล้วด้วยละ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีนะ ตอนนี้มันแค่อั้น ๆ รอวันเท่านั้นเอง


ส่วนเรื่องแม้ว ส่วนตัวผมคิดว่า แม้ว ไม่น่าจะให้เงินแกนนำเพื่อปลุกระดมอย่างที่ผ่านมา แกอายุมากขึ้นน่าจะปลงแล้วละ เป็นรัฐบาลเพื่อเนียนกินไปตามปรกตินั่นดีสุดแล้ว ส่วน ปชป ที่อดอยากมานาน ถ้าแม้วมันไม่อะไรมากก็น่าจะเลยตามเลย ได้กินน้อยก็ดีกว่าไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย


ส่วนเรื่องทหาร หลายคนเข้าใจผิดแล้วนะ ถึงใครจะมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องอนุมัติโครงการให้ทหารอยู่ดี เพื่อความปรองดอง อีกทั้งได้ส่วนต่างอีกนิสหน่อยด้วย
View all 13 comments >

# Mon 29 May 2017 : 3:50PM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
ส่วนตัวก็ยังมองว่าระเบิดเป็นเรื่องของการต่อรอง !!

เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุกประเทศที่มีความขัดแย้งกัน ระเบิดจะมาก่อนจะมีการหารือเจรจาเสมอ เช่น ไอร์แลนด์ หรือที่ภาคใต้

หลังเหตุระเบิดเราถึงได้เห็นความเคลื่อนไหวของทั้งสองฝั่ง

“สวัสดีพี่น้องผู้รักประชาธิปไตย รักบ้านเมือง บ้านเมืองหาทางออกยากขึ้น ยิ่งเจอระเบิดโรงพยาบาล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทหาร การระเบิดสดๆร้อนๆในวาระ3ปีของคสช.ยึดอำนาจ เป็นระเบิดที่ไม่ต้องแปลเลย หมายความคือไล่คสช.ตรงๆ มีคนช่วยคิดสโลแกนให้ในโอกาสครบ3ปีบอกว่า เสียงระเบิดถี่ เพราะพี่คสช.ไม่ยอมไปชะที”

- "สุนัย”เพื่อไทย-คนหนีผิดคดีม.112 โผล่คลิป!!!บึ้ม“รพ.พระมงกุฎฯ”เป็นระเบิดไล่“คสช.”บอกระเบิดถี่เพราะคสช.ไม่ยอมไป ??? [Link]

- จตุพร ปรองดองก่อนการเลือกตั้ง

- ประยุทธ์ ยั๊วะ ไม่สงบก็อาจจะไม่มีเลือกตั้ง และตามมาด้วย 4 คำถาม

- คือเรื่องมันข้ามช็อตไปถึงการจัดตั้งรบ.หลังเลือกตั้งโน่นเลย

- นักการเมืองออกมารวมหัวกัน มีการเสนอให้ 4 พรรคร่วมมือกันจัดตั้งรบ.สู้กับคสช.

- ปชป.ก็แตกกันในพรรค แบ่งเป็นสายหนุนคสช. และสายที่ไม่เอาคสช.

- ในขณะที่คะแนนนิยมคสช.ตก คะแนนนิยมนักการเมืองในช่วง 3 ปีนี้มันก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

- ถ้าคสช.ไม่มีแนวร่วม ก็น่าจะเซ็ตซีโร่นะ ง่ายดี


ส่วนระเบิดจะเป็นฝีมือใคร ยังไง อันนั้นก็ต้องไปตามจับให้ได้


แล้วถ้าไม่เซ็ทซีโร่ ปัญหามันไม่จบหรอก มันก็จะยังหลับหูหลับตาอวยกันโง่ๆ ไม่เอาความจริงอยู่อย่างนั้น ตราบใดที่มันยังมีขั้วให้เกาะ มันต้องไม่เหลือขั้วการเมืองเท่านั้น มันถึงจะสงบกันได้ (ตอนนี้มันก็สงบดีนะ แต่แก๊งร่านหน้าหมามันรอเวลาวันปล่อยผีนี่สิ)

คือบึ้มแต่ละที มันก็ยังมโนกันไปเรื่อย ง้องแง้งกันไปเรื่อย (ทั้งสองฝั่ง)


##########################################






ก็มันเป็นกันแบบนี้แหละ ยังงมโข่งกันไม่เลิกอยู่ในมิติควายแดง


ระบายข้าวจำนำล็อตสุดท้ายแล้ว หลังยิ่งลักษณ์ผลาญเงินไป 7 แสนล้านบาท

พาณิชย์ประกาศจำหน่ายข้าวสาร ในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ใน 191 คลัง ปริมาณ 1.7 ล้านตัน รวมมูลค่าเสนอซื้อประมาณ 1.68 หมื่นล้านบาท จะเหลือข้าวในสต็อกของรัฐ ที่ระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมอีก ปริมาณ 2.5 ล้านตัน

ในช่วง 3 ปีที่ คสช. เข้ามาบริหารประเทศ สามารถดำเนินการได้ 12.74 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.14 แสนล้านบาท หรือมีการขายเฉลี่ยตันละ 9,038 บาท ซึ่งจะทำให้ขาดทุนจากต้นทุนรับจำนำข้าวเปลือก 1.5 หมื่นบาท รวมทั้งสิ้น 1.9 แสนล้านบาท


เรื่องข้าวไม่ได้เน่านี่ ไม่รู้ว่าพวกแดนเซอร์แดงมันไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ไปเอาข้อมูลมาจากไหน ?

# Mon 29 May 2017 : 10:37PM

Kiva
member

Since 2014-12-29 16:21:35
(2906 post)
ลายจุดโชว์โง่อีกแล้ว
[Link]
View all 1 comments >

<<
<
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
>
>>
Reply
Vote




1 online users
Logged In :