China Xinhua News

คมกริบ！วาทะสีจิ้นผิง เจ้าแห่งการเปรียบเปรย บนเวทีเศรษฐกิจโลก

ในการเปิดการประชุมเศรษฐกิจโลก ประจำปี 2017 อย่างเป็นทางการ ณ เทศบาลดาฟอส สวิตเซอร์แลนด์ สีจิ้นผิง ผู้นำแห่งประเทศจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์อันโดดเด่น ซึ่งมีการยกตัวอย่างและคำเปรียบเปรยจำนวนมากมาใช้ในการพูดถึงโลกาภิวัตน์ เศรษฐกิจโลก การกีดกันทางการค้า การพัฒนาประเทศจีน ฯลฯ และนี่คือส่วนหนึ่งของวาทะของสีจิ้นผิง

ถ้ำสมบัติและกล่องแพนดอร่า

"มีบางคนตำหนิว่าโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจเป็นตัวก่อให้เกิดความวุ่นวายทั่วโลก ทั้งที่ในอดีตโลกาภิวัตน์เช่นนี้เคยถูกมองว่าเป็นถ้ำสมบัติที่อาลีบาบาเป็นผู้ค้นพบ ล้ำค่าดั่งในนิยายอาหรับราตรี แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นกล่องแพนดอร่าที่สร้างความหายนะ ในสายตาของใครหลายๆคน"

ดาบสองคมและเค้ก

"อย่างไรก็ตาม เราควรตระหนักว่าโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจถือเป็นดาบสองคม เมื่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกตกอยู่ภายใต้ความกดดัน ก็กลายเป็นเรื่องยากที่เราจะทำให้เค้กของเศรษฐกิจโลกมีขนาดใหญ่กว่าเดิมได้"

แตงหวาน เถาขม และพุทรา

"กวีจีนโบราณมีคำกล่าวที่ว่า 'แตงหวานเกิดจากเถาขม พุทราดีย่อมมีหนาม’ ความหมายในแง่ปรัชญาก็คือ ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ"

มหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาล

"เคยมีการสรุปไว้แล้วว่า การบูรณาการเข้าสู่เศรษฐกิจโลกเป็นแนวโน้มในอดีต ที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง จีนจึงต้องมีความกล้าที่จะแหวกว่ายในตลาดโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลราวกับมหาสมุทร สำหรับผู้ที่กลัวพายุหรือกลัวการออกไปสำรวจดินแดนใหม่ ผู้นั้นก็จะจมลงในมหาสมุทรไม่ช้าก็เร็ว จีนจึงมุ่งหน้าต่อไปอย่างกล้าหาญเพื่อโอบกอดตลาดโลกเอาไว้ ซึ่งเราก็เจอมาหลายปัญหา ทั้งการสำลักน้ำ เจอน้ำวน และคลื่นที่เปลี่ยนทิศอย่างรวดเร็ว แต่เราก็ได้เรียนรู้ว่าควรจะว่ายน้ำอย่างไรในมหาสมุทรนี้ และพิสูจน์จนรู้แล้วว่านี่เป็นทางเลือกที่เหมาะสม"

ทะเลสาบและอ่าวเล็กที่อยู่โดดเดี่ยว

"ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ แต่เศรษฐกิจโลกก็เป็นมหาสมุทรขนาดใหญ่ที่คุณไม่สามารถว่ายหนีออกมาได้เลย ไม่ว่าคุณจะพยายามตัดช่องทางการไหลของเงินทุน เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม และผู้คนออกมามากเท่าไหร่ หรือพยายามเปิดช่องทางให้น้ำจากมหาสมุทรมาไหลลงมาสู่ทะเลสาบหรืออ่าวเล็กๆ ที่อยู่โดดเดี่ยว ก็ล้วนแต่เป็นวิธีที่สวนทางกับแนวโน้มในอดีต"

การขังตัวเองอยู่ในห้องมืด

"การผลักดันให้เกิดการกีดกันทางการค้าก็เหมือนกับการขังตัวเองไว้ในห้องมืด ถึงแม้ว่าลมและฝนภายนอกอาจจะสงบลงแล้ว แต่ห้องมืดก็ยังบดบังแสงแดดและอากาศไม่ให้เข้ามาในห้องได้ ซึ่งจะไม่มีใครสามารถคว้าออกมาชัยชนะในสงครามทางการค้าได้เลย"

รถไฟด่วน สายการพัฒนาของจีน

"เราไม่ได้อิจฉาในความสำเร็จของผู้อื่น อีกทั้งจะไม่กล่าวหาว่าใครเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากโอกาสที่เกิดขึ้น เพราะการพัฒนาของประเทศจีน แต่เราจะอ้าแขนรับผู้คนจากประเทศอื่นๆ ต้อนรับพวกเขาขึ้นสู่รถไฟสายด่วน ที่รวดเร็วราวกับการพัฒนาของจีน"



###############################################################################################


คือพูดได้ล้ำลึกมาก สีเจิ้นผิงนี่สุดยอดมากอ่ะ (ในแง่ผู้นำของประเทศมหาอำนาจนะ แต่จีนนี่ก็กดดันไทยพอสมควร อย่างเรื่องระเบิดเกาะแก่งแม่โขง เพื่อให้เรือ 150-300 ตันวิ่งได้ คือวิ่งมาถึงเชียงแสน ไทย ลาว ก็ยื้อมานาน แต่สุดท้ายอ่ะนะ ประเทศเล็กก็ตานทานพลังของอาเฮียจีนไม่ไหว)

ของบ้านเราเสือกมีพวกลิ่วล้อโง่ๆ ที่ไปขุดข่าวเก่ามาเล่น งานเข้าพวกตัวเองเลย 5555

ส่วนทรัมป์พวกนักร้องแสดงถอนตัว เอวังจริงๆ

ส่วนวันที่ 21 ก็ตามด้วยการเดินขบวน Women's March ที่ให้ทุกเพศเข้าร่วมได้ ดารานัดกันมาเพียบ อันนี้รับน้องปธน.ใหม่เลย หลังเข้ารับตำแหน่ง 1 วัน แต่อันนี้ก็มาจากบักทรัมป์เสือกยังไปปากหมานเรื่องเหยียด เรื่องกำแพง อันนี้แสดงว่านโยบายทรัมป์ ซึ่งมันทำแน่ หลายอย่างจะมีคนออกมาเดินขบวนต้านตลอด อาจได้เห็นม็อบในอเมริกากันตลอดปี 2017 เลย

พูดถึงจีนแล้ว

ตอนนี้ที่เกี่ยวกับประเทศเราโดยตรงก็ไม่พ้นเรื่องแม่น้ำโขง ไม่นับจีน ก็มีไทย ลาว กัมพูชา เวียด แต่ถ้าพูดถึงในแง่ความสำคัญจริง ๆ ต่อประชาชน ก็คือ ไทยกับลาว เพราะ กัมกับเวียดมีอย่างอื่นที่สำคัญกว่าอย่างกัมก็มีโตเลน

ผมว่าท้ายสุดไทยน่าจะโดนบีบเรื่องระเบิดอยู่ดี เพราะถึงสำคัญกับลาว แต่นาทีนี้ลาวเป็นลูกไล่จีนแบบเต็มตัวแล้ว

ถึงเราจะมีหัวโขนเป็นพี่ใหญ่ในอาเซียนแต่เรื่องจริงคือเราแทบไม่มีอำนาจในการต่อรองอะไรบนเวทีระดับโลก หรือกับประเทศใหญ่ ๆ เลย

ผมไม่แน่ใจในเรื่องผลประโยชน์ด้านค้าขายมากนักเพราะเราอยู่ใต้น้ำ แถมไม่ใช่ปลาจะว่ายทวนน้ำไปวางไข่ก็ใช่เรื่อง ต่างจากจีนที่สามารถอาศัยเป็นเส้นทางหลักเพื่อทำตลาดสินค้าเกรด B และ C ได้อย่างสบาย ส่วนเกรด A โน่น ไปยุโรปละครับ

สำคัญที่สุดตอนนี้ผมว่าคงเป็นเรื่องการประนีประนอม โดยใช้ความสัมพันธ์ทางการทูต และความเป็นพี่น้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดเท่าที่เราจะได้เท่านั้นละครับ

นอกจากทรัมป์ ผมงงกับโอบามาอีกคนเรื่องการอภัยโทษ ขนาดกลาโหมยังไม่เห็นด้วยเลย

ส่วนทรัมป์ นี่ กับจีนผมเดาไม่ถูกเลยว่าจะเป็นยังไงเพราะบางเรื่องผมว่ามันแกล้งโง่นะ แต่หลายเรื่องแม่งทั้งโง่และบ้าจริง แต่ก็ชอบมันมากกว่าป้านะ 555

ทรัมป์คือตัวอันตรายของภูมิภาคนี้เลย

ว่าที่รมว.ต่างประเทศ Rex Tillerson ออกมาประกาศว่า สหรัฐจะไม่ให้จีนเข้าไปในบริเวณพื้นที่หมู่เกาะในทะเลจีนใต้ เพราะว่าจีนเป็นภัยคุกคาม (คุกคาม ???? เมิงนั่นแหละคุกคาม)


บักทรัมป์ประกาศไม่ยอมรับนโยบายจีนเดียว ประกาศว่าอเมริกาจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือไต้หวัน


ท่าทางยุทธภพภูมิภาคจะหาความสงบสันติมิได้แล้วเสียกระมัง ???

ความร่ำรวยของจีน และเจริญรวดเร็วของเวียดนาม เป็นการทำลายความเชื่อแต่เด็กของเรา(และน่าจะเกือบทุกประเทศ) ที่ถูกใส่มา
ว่าประเทศคอมมิวนิส ชั่วร้าย ข่มเหงประชาชน และไม่มีทางเจริญ

ทุกวันนี้ประเทศพัฒนาแล้ว+ประชาธิปไตย เลือกใช้บริการจีนในการผลิตสินค้า
ไม่เห็นหัวประเทศ ปชต อย่างเราที่ประเทศพวกนั้นบังคับมาตลอด

นักการเมืองเสื้อสีไทยก็เลิกเอาเรื่อง ปชต มาเป็นข้ออ้างนึกถึงประเทศไห้มันจริงๆเหมือน นกม ประเทศอื่น
ก่อนที่เราจะแพ้เวียดนาม ด้วยคำว่า ปชต เต็มปาก

ความเชื่อแต่เด็ก มันไม่ใช่ความคิด หรือความเข้าใจที่ถูกต้องน่ะสิครับ มันเป็น propaganda จากผู้ปกครองในสมัยนั้น นำโดยท่าน ป. นั่นเอง

ลองมองแยกระบบการเมือง และระบบเศรษฐกิจ นะครับ

ระบบการเมือง สุดโต่งสองทางคือ
ประชาธิปไตยประชาชนเลือกผู้ปกครอง ตรงกันข้ามกับ เผด็จการคือผู้ปกครองมีอำนาจเบ็ดเสร็จแถมสืบทอดอำนาจก็ยังได้

ระบบเศรษฐกิจ สุดโต่งสองทางคือ
คอมมิวนิสต์แบ่งปันผลผลิตกันกันเท่าเทียม และทุนนิยมเสรี มือใครยาวสาวได้สาวเอา

ผมพูดถึงสุดโต่งนะครับ มันยังมีอะไรที่อยู่ระหว่างกลาง อีกมากมาย

แนวคิดแบบคอมมิวนิสต์ในยุคแรกๆ โลกหลังม่านเหล็กพยายามผลักดันประเทศไปเป็นประชาธิปไตย คือมีการเลือกผู้นำ และใช้ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ ส่วนโลกเสรี ใช้แนวทางประชาธิปไตย และเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ในตอนแรกมันไม่มีหลักการเมืองประเภท กูตั้งธงจะมาเป็นเผด็จการ กดขี่พวกมึงหรอกครับ มันต้องมีหลักการสวยหรูยูโทเปียกันมาก่อนทั้งนั้น แต่อยู่ๆ ไปมันอีกเรื่อง

ไปๆ มาๆ การที่จะรักษาระบอบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ไว้ได้ มันต้องเป็นเผด็จการ ทำให้ทุกประเทศที่พยายามจะเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นเผด็จการกันเกือบทั้งหมด นั่นทำให้เราสับสนในประเด็นนี้ และพอต่อๆ ไปนานๆ เรื่องเศรษฐกิจคอมมิวนิสต์ก็เป็นเรื่องรอง คนปกครองมันไม่สนล่ะ สนใจแต่ทำไงถึงรักษาอำนาจไว้ได้

ในปัจจุบัน ผมบอกได้ว่าไม่มีประเทศไหนในโลกที่ยังเป็นระบอบคอมมิวนิสต์จริงๆ เพราะมันได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นระบบที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ล้มเหลวกระทั่งอดตายไม่มีจะกิน เพราะไม่มีใครสนใจทำงาน

ปัจจุบัน จีนเป็นเศรษฐกิจแบบระบบทุนนิยม ประชาชนมีเสรีภาพทางเศรษฐกิจในระดับสูงถึงสูงมาก แต่ในทางการเมืองการปกครอง ประเทศจีนใช้ระบบเผด็จการโดยพรรคการเมืองเดียว ประชาชนไม่มีสิทธิ์เลือกผู้นำ และโดนกดขี่ในเรื่องการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอยู่บ้าง แต่โชคดีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนมันมีความเป็นสถาบัน มีสมาชิกจำนวนมาก และสมาชิกพรรคก็เป็นชนชั้นนำทางความคิดของสังคม มีการศึกษา และมีวัฒนธรรมองค์กรที่ผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างยิ่งยวดเท่านั้นถึงขึ้นมาเป็นระดับผุ้นำพรรคได้ สั้นๆ เรียกว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือระบอบอำมาตย์ Technocrat ก็ได้ นิยมคนเก่ง มีความสามารถ

ประเทศเขาถึงเจริญ ไม่เหมือนเผด็จการแบบที่อื่น ที่กำลัง = อำนาจ เรื่องความรู้ความสามารถไม่สน คุ้นๆ ไหม 555

ลองทำความเข้าใจซักนิดนะครับ

edit: ตอบผิดที่

เราไม่รู้หรอกว่าเบื้องหลังความดำมืดของระบบการปกครองประเทศอื่นเป็นยังไงแต่อย่างจีนนี่ปกครองตามระบบคอมฯแน่นอน. และจำกัดสิทธ์ในการถือครองที่ดินจริงครับ.

เราดูง่ายๆแบบ ไม่ต้องไปดูชื่อตามตำราก็ได้นะ. แบบพื้นฐานจริง. สังคมที่ดีต้องการปกครองที่เป็นธรรม ,มีเมตตา,ทำเพื่อส่วนรวม. ฯลฯ.
จุดที่จะเสื่อมในการปกครองในปวศ. จะมีเช่น ผู้ปกครองไม่มีวิศัยทรรศน์, เผด็จการ, ระบบศก.,กฏหมายล้าสมัย,ข้าราชการ สืบทอดอำนาจแบบไม่เป็นธรรม,มีการฉ้อราชบังหลวง,ระบบยัดเงินเพื่อเลื่อนตำแหน่ง,การปกครองแบบกดขี่ ซึ่งประเทศชั้นนำมันก็เคยเจอๆมาทั้งนั้นแต่เขาเลือกทางออกไปหลายแบบ

อังกฤษ ใช้ระบบรัฐสภา มีเลือกตั้ง+วุฒิสภา,. กฏหมายที่มีระบบศาล ไต่สวนให้เป็นธรรม
อเมริกา ได้อิสระภาพเพราะรบกับอังกฤษ ,ฐานอำนาจมาจากประชาชนที่เสียเลือดเนื้อกันไปมาก จึงเลือกประชาธิปไตย
จีน เคยตกต่ำในยุคราชวงศ์, ต่อด้วยเผด็จการทหาร. ,จึงต้องหาทางออกด้วย คอมมูนิสต์ ช่วงแรก น่าจะเกลียดระบบนายทุนยึดที่นาด้วยถึง จำกัดสิทธ์ถือครองที่ดิน


อย่างบ้านเรา ฝรั่งน่าจะมองว่า เพราะทหารเข้ามายุ่งอยู่เรื่อย. เขาก็รู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรม ถึงหาเรื่องแซะบ่อยๆ (บ้านเขาเสียเลือดเนื้อสู้กับอำนาจเผด็จการจนอำนาจมาอยู่ในมือประชาชนแล้วไง)


ผมให้ข้อคิดจากหนัง มหาภารตะ นะกฤษณะ เคยเปรยให้คนที่ทรงอำนาจอย่างภีษมะ ว่า ยุคสมัย,จารีต,ประเพณี,หรือการปกครองมันก็เหมือนผลมะม่วง ตอนมันเป็นผลติดต้นจะมีคนฝาด, ต่อมาจะมีรสเปรี้ยว คนที่ชอบรสเปรี้ยวเท่านั้นจึงจะรับมัน, เมื่อสุกจะมีรสหวาน เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน. แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันจะต้องบูดเน่า คนที่บริโภคมันจะเจ็บป่วย. สิ่งที่ทำได้กับมะม่วงเน่าคือ เอามันไปฝังลงดินเพื่อให้เกิดเป็นต้นใหม่ ออกดอกผลใหม่

ภีษมะกล่าว" แล้วใครจะเป็นคนบอกว่าสิ่งใดมันควรยึดถือ สิ่งใดควรทิ้งล่ะ"
กฤษณะ "เวลาจะเป็นผู้บอก เมื่อ พระอาทิตย์ เปลี่ยนวงโคจร(ฤดูกาล) มนุษย์ก็ดำเนินชีวิตเปลี่ยนตาม (หมายถึงเพาะปลูกตามฤดูกาล, กลางวันทำงาน กลางคืนนอน) มนุษย์จะเลือกสิ่งเหมาะสมให้ตัวเอง. ส่วนใครที่ยังยึดติดจะต้องถูกกระแสของเวลากลืนกิน

เมื่อถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ท่านต้องเป็นคนเลือกเองที่จะเปลี่ยนหรือ จะอยู่กับสิ่งเก่าๆแล้วถูกทำลาย

อย่าไปมองแบบ ประชาธิปไตย,คอมฯ, แบบคนยุคเก่าเลย เอาให้มันเหมาะกับสภาพจริงๆของเรา กับเวลาของเราดีกว่า. ที่ประเทศอื่นเขาปกครองคนละแบบ เพราะเจอมาไม่เหมือนกัน,คิดไม่เหมือนกันด้วยแหล่ะ.
แต่ที่แน่ๆคือถ้ายึดติดจนไม่คิดจะเปลี่ยนอะไรเลย ต่อไปประเทศเรามันก็จะเสื่อมลงๆ เพราะประชาชนขาดความเชื่อมั่น, สร้างความสุขให้มวลชนไม่ได้.

มะม่วงบ้านเราแม่งนอกจากฝาด(เลือกตั้ง)เป็นพักๆ บางทียังเจอคนยัดมะม่วงเน่ามาให้กินสลับกันอีก ช่วงชีวิตผมเจอมะม่วงเน่าไปสามผลใหญ่แล้วมั้ง

[Link]

คือช่วงระยะเวลาที่อเมริกาทำการต่อต้าน กลุ่มความวุ่นวายหัวรุนแรงต่างๆ เศรษฐกิจอุตสาหกรรมด้านสายความมั่นคงเพิ่มขึ้นให้ทั่วโลก
แต่ความเสียหายยังมีอยู่อีกมากมาย หลังจากหมดวาระของโอบาม่า ส่วนในงานของคำว่าประธานาธิบดีอเมริกาในอัฟกานิสถาน ยังคงต้องการบูรณะเยียวยาให้ประเทศกลับคืนมา

ประเด็นคือโดนัลด์ ทรัมป์จะมีศักยภาพมากพอ ที่จะสามารถดูแลส่วนเรื่องความสัมพันธ์ ภายนอกประเทศได้ดีเท่าโอบาม่าหรือเปล่า ในตอนที่ความช่วยเหลือต่างๆในอัฟกานิสถานยังคงต้องได้รับอย่างเร่งด่วน
แต่เวลาคนนี้คนที่ชี้ชะตาประเทศที่ทำสงครามมาหมาดๆ อย่างทรัมป์การตัดสินใจของเขาที่ดูขาดเหตุผล พูดแบบตรรกกะวาทะกรรมในแบบถึงลูกถึงคน อาจเป็นเรื่องเกินความรู้ของทรัมป์ไปแล้วก็ได้

ถ้าจะทำสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นมา อเมริกาภายใต้การนำทัพของทรัมป์ คงไล่เก็บประเทศด้อยพัฒนาได้ทุกประเทศในโลก แต่การฟื้นฟูเยียวยาหลังจากสงคราม ทรัมป์ก็ไม่น่าแตกต่างกับโอบาม่าที่มอมเมาประชาชนในประเทศตัวเอง ว่าเราคือฮีโร่และชนชาติอื่นคือฮิตเลอร์ในยุคโลกาภิวัฒน์ใหม่นี้

เอาเป็นว่า ทรัมมันจะรอดตายวันนี้ก่อนรึเปล่าเถอะ มีแต่ข่าวเรื่องจะลอบสังหารวันนี้

- - พูดถึงที่ดินจีน พื้นที่เขากว้างกว่าแต่โหดกว่าเราเยอะนา อย่างซื้อคอนโด บ้านเราซื้อกี่ตารางเมตรเราก็ได้ตามนั้นเป๊ะ ๆ แต่จีนเวลาซื้อมันบวกพื้นที่ส่วนกลางด้วย เช่นซื้อห้าสิบตารางเมตรแต่เราจะได้จริงราว ๆ 70 - 80% แล้วแต่โครงการ ที่เหลือคือไปแชร์ทางเดิน ออกกำลังกาย สระว่ายน้ำอะไรเทือกนี้

เตรียมขนมขบเคี้ยวพร้อม ส่วนสงครามโลกสาม สาเหตุจากผู้นำไม่น่ามี แต่ถ้าจากระดับนายพลเลือดร้อนอันนั้นอีกเรื่อง

โรงแรมในเครือapa ข งญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องเขียนหนังสือเกี่ยวกันเหตุการณ์ที่นานกิง จีนแผ่นดินใหญ่บอยคอต ไต้หวันแห่มาจองเต็มแทน ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ทันที

ถึงตอนนี้ทรัมป์น่าจะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา เกือบร้อยเปอร์เซนต์เป็นที่แน่นอนแล้ว แต่การตรวจสอบข่าวใหม่คราวนี้เป็นการบ่งบอกแล้ว ว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่จะรับอำนาจต่อจากรัฐบาลโอบาม่า คงจะไม่ได้ทำงานสะดวกกันมากนัก
ภายหลังจากเอฟบีไอซีไอเอความมั่นคงของชาติ เตรียมเอาจริงกรณีทรัมป์เรื่องแฮคข้อมูลของรัสเซีย
ความน่าจะเป็นไปได้หากปูตินยังคงยืนยันว่ารัสเซียไม่เกี่ยวข้อง แต่สหรัฐตรวจสอบแล้วพบจุดบกพร่องนี้ เกิดปัญหาระดับชาติระหว่างอเมริกากับปูตินอย่างแน่นอน

มองอีกแง่คนเริ่มเปิดประเด็นนี้ขึ้นมาก็คือโอบาม่า อาจเป็นเกมส์การเมืองของรัฐบาล เพื่อลดค่านิยมในตัวโดนัลด์ ทรัมป์ก็อาจเป็นได้
แต่ตอนนี้เองฝั่งรัสเซียและปูตินก็พยายามแย้งข้อสงสัยทั้งหมด ด้วยความสนิมสนมกับทรัมป์แล้วเหมือนเหตุผลปูตินยังขัดกันและเบาบาง เมื่อเวลาปูตินโต้แย้งโต้ตอบกับโอบาม่า และคำพูดของทรัมป์ก็ยังมีความเป็นมิตรต่อรัสเซียอีกด้วย มันคงเป็นเรื่องที่จบลงแบบไม่เคลือบแคลงใจครูไม่ได้
แต่ถ้าไม่เกิดข้อสังเกตุหลายๆอย่างขึ้นมา ไม่รู้ระบบรักษาความมั่นคงของอเมริกา จะตื่นตัวหรือหาความจริงกันบ้างหรือเปล่า

เอฟบีไอแน่นอนระบบการทำงานของหน่วยงานนี้ ใครขวางคุกใครทุจริตคุกใครเอื้อผลประโยชน์ต่างๆคุก แล้วถ้าจะให้ไล่นับคดีรัฐบาลกับเอฟบีไอแล้วมีเป็นร้อยคดี
แล้วผลถ้าปรากฏออกมาเป็นสิ่งที่ประชาชนในประเทศยอมรับ การเมืองของอเมริกาจะเกิดการสั่นคลอนขึ้น
แต่บางส่วนแน่นอนว่าส่วนใหญ่ที่เห็นข้อบกพร่องนี้ อาจนำไปสู่การลองของกับประเทศที่มีความมั่นคงอันดับต้นของโลก และอาจลากยาวจนกลายไปเป็นสงครามไซเบอร์ขึ้นมาอีกภายในอนาคต
หน่วยงานทั้งหมดของอเมริกาตอนนี้หากไล่ตรวจสอบประเทศไทย เชื่อเลยว่าพบปมทุจริตมากมายได้สบาย แต่นี้คือภาพลักษณ์ของประเทศผู้นำโลก หน่วยงานต่างจะนำเสนอเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างไร