Review : Bohemian Rhapsody

กำกับ : Bryan Singer, Dexter Fletcher (The Usual Suspects, X-Men, Superman Returns)



*รีวิวมีสปอยล์เล็กน้อย

- หนังชีวประวัติ Freddie Mercury ตำนานนักร้องนำวง Queen หนึ่งในวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แค่พล็อตเรื่องก็น่าจะดึงดูดให้หลายคนไปดูได้แล้ว แล้วยิ่งตัวอย่างตัดมาได้ดีมากๆยิ่งน่าดูเข้าไปใหญ่ ผมเป็นติ่งวง Queen อยู่แล้ว ยังไงก็ไม่รอด 55

- แต่หนังก็มีความน่าเป็นห่วงอยู่เพราะมีปัญหางานสร้างมาก เริ่มตั้งแต่ความไม่ลงรอยกันระหว่าง Rami Malek ดารานำผู้รับบท Freddie กับ Bryan Singer จนในเวลาต่อมา Singer ก็ถูก Fox ไล่ออกจากพฤติกรรมที่ไม่ค่อยยอมมากองถ่ายของเขา ทั้งๆที่หนังถ่ายทำไปได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น Singer ถูกแทนที่ด้วย Dexter Fletcher ผกก.หน้าใหม่ที่ยังไม่มีผลงานภาพยนตร์ (แต่กำลังกำกับหนังชีวประวัตินักดนตรีอีกเรื่องคือ Rocketman หนังชีวประวัติ Elton John) ซึ่ง Fletcher ก็สามารถสานต่องานจนแล้วเสร็จลงได้ (แต่ในเครดิตภาพยนตร์จะเห็นเพียงชื่อ Singer เท่านั้น)

- ซึ่งเมื่อหนังออกฉายก็เป็นอย่างที่กลัวกัน คะแนนนักวิจารณ์จากเวบ Rotten Tomatoes เมื่อหนังเปิดตัวได้ไปเพียง 56% เท่านั้น (ปัจจุบันขึ้นมาเป็น Fresh แล้วคือ 60%) จะเห็นว่าคะแนนครึ่งๆกลางๆและเป็นหนังที่เสียงแตกพอสมควร แล้วผมละคิดอย่างไร

- สำหรับ Bohemian Rhapsody ผมคิดว่ามันเป็นหนังที่มีดีมากทีเดียวครับ หนังมีฉากที่ดีและทรงพลังมากหลายฉาก หากคุณเป็นแฟนวง Queen แล้ว ฉากการแต่งเพลงต่างๆ การที่ไอเดียของทุกคนกลั่นตัวออกมากลายเป้นเพลงในตำนานที่พวกเรารู้จักกันดี ฉากเหล่านี้ดูแล้วรู้สึกฟินดีจริงๆ เรายังจะได้เห็นชีวิตในมุมลึกของ Freddie Mercury ด้วย ซึ่งหลายอย่างที่นำเสนอมาในหนังนั้นผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย และในช่วงท้ายที่ทุกอย่างพลิกผันไปในทางเลวร้ายหนังก็สื่อความนึกคิดของเขาออกมาได้ดีทีเดียว โดยจะมีบทเพลงของ Queen ที่เลือกใส่เข้ามาได้อย่างเหมาะเจาะบรรเลงคลอไปตลอดเรื่อง จนมาถึงฉากสุดท้ายคือฉากการแสดงคอนเสิร์ต Live Aid ที่เป็นตำนาน ซึ่งฉากนี้ขอบอกว่าถ่ายทำมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีมุมกล้องที่แสนจะยิ่งใหญ่อลังการ หวือหวา การแสดงที่แข็งแรงมากๆของ Rami Malek และซาวนด์ประกอบที่ดังกระหึ่มแทบจะเทียบเท่าคอนเสิร์ตจริงๆ ทำให้ฉากนี้เป็นฉากปิดที่สวยงามและทรงพลังมากครับ

- แต่หนังก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสีย และข้อเสียมันก็ไม่ใช่เล็กๆด้วย คือ ถึงแม้ว่าหนังจะมีฉากดีๆหลายฉาก แต่เมื่อมันนำมาเรียงร้อยเข้าด้วยกันมันกลับไม่ค่อยสละสลวยเอาเสียเลย จังหวะการดำเนินเรื่องดูประดักประเดิดไปหมด ซึ่งมันดูออกเลยว่านี่เป็นหนังที่มีปัญหางานสร้างและเปลี่ยนผกก.กลางคัน ดูแล้วคล้ายๆกับจะเป็นหนัง Doc มากกว่า (แต่นี่ไม่ใช่หนัง Doc และหนังก็ได้มีการใส่สีตีไข่ Dramatize ไปจากความจริงอยู่มาก เช่น การทะเลาะกันของสมาชิกในวงเมื่อ Freddie เซ็นสัญญาไปเป็นศิลปินเดี่ยวก็ไม่เกิดขึ้นจริง) อีกทั้งในช่วงแรกหนังก็ดำเนินเรื่องเร็วมากจนรู้สึกว่าบางจุดของหนังควรจะลงลึกเล่าให้ละเอียดกว่านี้ เช่น การมีชื่อเสียงขึ้นมาจากอัลบั้มแรกของ Queen ที่รู้สึกว่าเล่ารวบรัดเกินไปนิด

- งานภาพ อันนี้ขอชมว่าทำได้ดีมาก ทั้งบรรยากาศต่างๆในการทำงานเพลง บรรยากาศความเป็นยุค 80’s อันนี้สื่อออกมาได้ดีทีเดียว และฉากคอนเสิร์ต Live Aid ที่ทำออกมาได้อลังการสุดยอดจริงๆ ดนตรีประกอบ เป็นเพลงวง Queen ซึ่งสุดยอดมากอยู่แล้ว แต่จังหวะจะโคนในการใส่เพลง การเลือกเพลงที่เข้ากับเหตุการณ์ในฉากนั้นๆก็ทำได้ดีมาก ไม่ได้สักแต่ว่าใส่ๆไปแบบ Suicide Squad ที่ผมคงจะตามแขวะไปจนสุดขอบโลก 555 สุดท้ายการแสดง คนที่สำคัญที่สุดก็คงเป็น Rami Malek ในบท Freddie ซึ่งก็ขอบอกว่าเขาสอบผ่านฉลุยมากๆ ทั้งพฤติกรรม การแสดงบนเวที เขาสามารถสื่อออกมาได้เป็น Freddie จริงๆ เห็นว่า Train การแสดงออกบนเวทีอยู่นานก็ขอยินดีด้วยที่มันสัมฤทธิ์ผลครับ สมาชิกอื่นๆในวงก็ทำได้ดีนะครับเพียงแต่ว่าต้องยอมรับว่าหนังมันเน้น Freddie มากที่สุด คนอื่นจะออกตัวประกอบเท่านั้น

- สรุป : ถึงแม้ว่าหนังจะมีปัญหาใหญ่พอตัวซึ่งเกิดจากปัญหางานสร้าง แต่ ผู้สร้างหนังและนักแสดงก็สามารถสื่อ Passion ความรักต่อวง Queen ออกมาได้ ทำให้สิ่งที่ดี ฉากที่ดีๆต่างๆมันก็ฉุดไว้ให้เราชอบหนังและเรียกได้เต็มปากว่าเป็นหนังดีได้ และหากคุณเป็นแฟนวง Queen นี่ห้ามพลาดจริงๆครับ

- เกรด : หากคุณเป็นแฟนวง Queen ให้ A หากคุณไม่ใช่แฟนวง Queen…ไปหาเพลงเขามาฟังเถอะครับ 5555