ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ แดน โคทส์

แต่ข้อสรุปดังกล่าวยังแสดงได้ว่ามีความขัดแย้งกับการให้การของทรัมป์ ที่กล่าวถึงการตัดประเด็นจากการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียซ้ำอยู่บ่อยๆ

ทรัมป์ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า "ข้อเท็จจริง" พิสูจน์ว่าเขาได้รับผลกระทบความรุนแรงจากรัสเซีย มากกว่าในยุคสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า
แต่เป็นที่ชัดเจนว่าไม่ใช่ประเด็นหรือกรณีอะไรเป็นพิเศษ ที่ต้องกล่าวโทษทางรัสเซียเรื่องแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ

แต่ทรัมป์ก็เคยได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเพื่อลงโทษรัสเซียหลายครั้ง จากกรณีที่รัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในปี 2016 แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่ารัฐสภาเกือบทั้งหมดเห็นเป็นเอกฉันท์ ต้องให้ทรัมป์ดำเนินการสอบสวนหาบทสรุปข้อเท็จจริง ก่อนจะให้ผ่านร่างกฎหมายที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา
และแม้เจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสจะเป็นพยานว่ารัสเซีย กำลังพยายามที่จะทำลายการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2018 นี้ก็ตาม



โรเจอร์สระบุอย่างชัดเจนเมื่อวันอังคารว่าการตอบโต้ของสหรัฐฯต่อการแทรกแซง จากกรุงมอสโกในการเลือกตั้งในปี 2016 ยังไม่เพียงพอและไม่ค่อยมีผลกระทบใดๆ ในการยับยั้งการโจมตีอย่างต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

หัวหน้าหน่วยงาน เอ็นเอสเอ กล่าวต่อฝ่ายนิติบัญญัติว่าสหรัฐฯมีความฉลาดและแข็งแรงพอ ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการลักลอบแข่งขันด้านไซเบอร์ในรัสเซีย แต่โรเจอร์สยอมรับว่าระบบรักษาความปลอดภัยมันไม่เพียงพอ

ซีเอ็นเอ็น-นิโคล กัวเต้ ผู้ร่วมจัดทำรายงานนี้

ข้อมูลจาก:ซีเอ็นเอ็น