Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
OT อัพเดทข่าวสารพูดคุย JoJo ��าค4 Diamond is Unbreakable

Reply
Vote
# Mon 26 Dec 2016 : 11:34AM

Neo Kabuto
member

Since 25/1/2006
(10850 post)
ขอแบ่งปันสิ่งที่เราได้จากโจโจบ้างค่ะ หลังจากที่ดูภาค 4 จบ เราก็ได้คิดทบทวนในหลายๆอย่าง ของ "ฟิลโจโซฟี" นี้

คิระเคยพูดพูดไว้เมื่อครั้งนึง เมื่อไหร่สักเวลานึงว่า "มือของผู้หญิงที่จิตใจโหดร้าย และช่างพูด จะเรียว และสวยเป็นพิเศษ"...ไม่รู้ว่าเป็นกุสโลบายหมายถึงคนที่มือสวย(+ดูสะอาด?)กว่าใคร เพราะไม่ได้ต่อสู้ฟันฝ่าเอง แต่กลับใช้ความได้เปรียบและวาจาอย่างไร้ความสัตย์จริง จนชีวิตสบายได้ทั้งๆที่มือยังไม่ทันได้สัมผัสกับความลำบาก (มั้ง ? อันนี้มาจากการตีความส่วนตัวค่ะ

แต่นอกจากมือแล้ว คิระยังชอบ"ต้นคอที่เรียวสวย" ด้วย ผู้หญิงธรรมดาบนรถไฟ หรือชิโนบุซังเองก็เคยเกือบถูกย่ำยีเพราะจุดนี้มาแล้ว (ตอนที่คิระฝึกคัดลายมือ) แต่ความห่วงหาอาทรที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาอย่างที่ท่านแบ๊งตูมว่าค่ะ "ค่อนข้างจะช้าไป" นี้ก็ไม่แรงพอที่จะทำให้จิตใจคิระเปลี่ยนแปลงได้...แต่คิระเองก็คงไม่อยากยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ลึกๆ เพราะจะขัดกับ "ปรัชญาของการใชีชีวิตแบบผักหญ้า" ของเขา เพราะความรักทำให้คนเราเติบโต และการเติบโตคือการเปลี่ยนแปลง...และในวาระสุดท้ายคิระเองก็ไม่ได้นึกถึงชิโนบุ เพราะกรรมที่มาพบเจอกันนั้น ยังไม่แรงพอ (แรงดึงดูดของกรรมของเรมี่ซังสูงกว่า...ในฐานะคิระ ไม่ใช่โคซาคุ)

ส่วนของโคซาคุนั้นแม้ชิโนบุจะเคยมีความสุขในชีวิตคู่มาช่วงนึง แต่ด้วยความที่โคซาคุเขาเป็น "ผักหญ้าโดยธรรมชาติ" เลยทำให้เกิดความเบื่อหน่ายขึ้น ชิโนบุเองก็ไม่ชอบในส่วนนั้น ส่วนทางโคซาคุที่ไปหาอายะซัง ก็น่าที่จะเพราะว่าอยากเปลี่ยนแปลง เพราะไม่พอใจในชีวิตที่เหมือนผักหญ้านั้นเหมือนกัน จนเป็นที่มาให้พบกับคิระ และกลายเป็นการเติมเต็มชีวิตคู่ของชิโนบุ...ชิโนบุนั้นแม้ไม่ได้รักอะไรโคซาคุมาก แต่ก็ไม่ได้เชิงเกลียดอะไรค่ะ แค่รู้สึกว่า "นายคนนั้นมันน่าเบื่อเหลือเกิน" และโคซาคุที่ลงทุนไปหาอายะซัง ก็คงเพราะ "อยากเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ครอบครัวมีความสุข" ... ตรงนี้ก็เหมือนกับคิระค่ะ ตรงที่ "ค่อนข้างจะช้าไป" เพราะมาประจวบเหมาะพบกับคิระเข้าพอดี...ในมิติของชิโนบุนั้นเราว่าเขามารู้สึกรักชอบในตอนนี้ เป็นเพราะเธอรู้สึกถึงว่า "เป็นโคซาคุที่เปลี่ยนไป" แม้จะไม่รู้ว่านั่นคือคิระ แต่ในใจของชิโนบุนั้น เราว่าเธอคงจะประทับใจในตัวสามีที่เปลี่ยนไปขนาดนี้ เข้าหาเธอมากขึ้น เล่นกับลูก(?) มากขึ้น...โชคดีที่ควรจะเกิดกับโคซาคุตัวจริง ตอนนี้คิระได้รับไปแล้ว เรารู้สึกว่าถ้าเป็นโคซาคุผู้เปลี่ยนจากผักหญ้าน่าเบื่อกลายเป็นสามีสุดฮ็อตแล้ว ชิโนบุกับฮายาโตะจะมีความสุขขนาดไหนกันนะ ?

ในส่วนของคิระนี้เราไม่ค่อยสงสารคิระเท่าไหร่ เพราะนิสัยเสียที่เขาเก็บงำมาตลอด เป็นนิสัยที่ทำร้ายคนอื่นอย่างอดใจไม่อยู่ โดยตั้งใจว่าจะแบกรับไปตลอดพร้อมกับหาชีวิตที่เหมือนผักหญ้า ไม่อยากให้ใครมาใกล้ชิด และไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงใดๆ ตรงนี้เราว่าเป็นเพราะความเป็นเหมือนวัวสันหลังหวะที่มีกรรมมีคดีติดตัว และตัวเองก็รู้ดีว่าชีวิตแบบนี้มันไม่ง่ายเลย กับการต้องอยู่อย่างรักษาปรัชญาส่วนตัว ควบคู่ไปกับนิสัยเสียๆเช่นนี้

อย่างที่โคอิจิบอกว่า "คงมีอีกหลายต่อหลายคน ที่ยังคงรอคอยคนสำคัญของเขาอยู่...รอคอยคนที่ไม่มีวันได้กลับมาอีกแล้ว"...นี่คือข้อแตกต่างที่ว่า คนที่คิระสังหารไปล้วนมีชีวิตที่ปกติ ดีบ้างไม่ค่อยดีบ้าง แต่ก็เป็นชีวิตของคนที่มีกันและกัน แต่ชีวิตของคิระนั้นตั้งใจให้เป็นเหมือนผักหญ้า ไร้ซึ่งความเปลี่ยนแปลงและการผูกสัมพันใดๆ ดังนั้นพอเขาตายไป จึงไม่เป็นที่คาดหวังและคิดถึงของใครๆที่ยังคงเหลืออยู่....ในทางกลับกันโคซาคุ ที่เปลี่ยนชีวิตไปแล้วนั้น ยังคงเป็นที่โหยหาของชิโนบุ และฮายาโตะ...เป็นสิ่งที่"คิระ"ไม่มี...ความโดดเดี่ยวนี้น่าสงสารก็จริง แต่เราว่ามีคนที่น่าสงสารกว่าอีกมากค่ะ อย่างเช่น พี่อายะ ที่เป็นนางฟ้าเปลี่ยนชีวิตให้ผู้คนอยู่ดีๆ ก็ต้องมาถูกสังเวยในคดีนี้ และโคซาคุตัวจริง ที่กำลังจะได้เปลี่ยนชีวิตครอบครัว ก็ถูกสวมรอยโดยคนอื่นไป

ปรัชญาของโจโจ้ "ฟิลโจโซฟี" ที่ อ.อารากิใส่มาในทุกภาค ก็เชื่อมโยงกันตั้งแต่ภาค 1-7เลย นั่นคือปรัชญาที่ว่าด้วย "การหาความจริงแห่งชีวิต"




สรุปคือ โจโจ้ เป็นการ์ตูนที่เขียนขึ้นเพื่อปลูกฝังให้ผู้อ่านมีความพยายามไม่ย่อท้อ รับมือกับอุปสรรค์อย่างชาญฉลาด และไม่ละทิ้งซึ่งอุดมคติอันมีค่า...ค่ะ

สอนได้ดีกว่าหนังสือเรียนบางเล่มอีก

Reply
Vote




1 online users
Logged In :