Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review : Arrival (อะไรเล่า!!!)
Slashmeplease at 2017-01-16 17:46:32 , Reads (3682), Comments (19) , Source :

Review : Arrival (อะไรเล่า!!!)

ผู้กำกับ : Denis Villeneuve (Prisoners, Enemy, Sicario)

Denis Villeneuve เป็นผู้กำกับดาวรุ่งที่ผลงานของเขานั้นเข้าตาคอหนังคุณภาพมากในช่วงหลังๆมานี้ ทั้ง Prisoner ที่แสนจะเกรี้ยวกราดดุดัน, Enemy ที่เล่นกับสัญลักษณ์ต่างๆได้อย่างชาญฉลาด และ Sicario ที่...ผมยังไม่ได้ดู 5555 แต่เขาว่ากันว่าดีนะ และเมื่อโปรเจคล่าสุดของผกก.มือทองคนนี้หันมาจับแนว Sci-fi ที่ผมชอบมาก แบบนี้ผมจะพลาดชมได้อย่างไร และนี่คือหนังที่เราจะมารีวิวกันในวันนี้ครับกับ Arrival



Arrival เล่าถึง Dr. Louise Banks (Amy Adams) นักภาษาศาสตร์ระดับเซียน ที่ไม่ใช่แค่สามารถแปลภาษาต่างๆได้หลากหลายมากเท่านั้น เธอยังมีความรู้ด้านทฤษฎีภาษาเป็นอย่างดีอีกด้วย และเมื่อเกิดเหตุการณ์ยานลึกลับขนาดยักษ์จากนอกโลก 12 ลำได้ลงจอดตามจุดต่างๆในโลก 12 จุดนั้น Dr. Louise ก็ได้รับคำเชิญจากผู้พัน Weber (Forest Whitaker) ให้เธอ “แปลภาษามนุษย์ต่างดาว” ให้ได้ เธอต้องทำงานร่วมกับ Ian Donnelly (Jeremy Renner) นักฟิสิกส์ เพื่อหาจุดประสงค์ที่มนุษย์ต่างดาวมายังโลกนี้ให้ได้ ในขณะที่สถานการณ์ของโลกกำลังตึงเครียด และเวลาของทั้งสองก็เหลือน้อยลงไปทุกที



สำหรับคอหนังไซไฟนั้น ผมเชื่อว่า Arrival จะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ให้ความบันเทิงให้กับพวกคุณได้เป็นอย่างดีครับ เพราะมันเป็นหนังที่เล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ได้อย่างชาญฉลาดมาก ตลอดทั้งเรื่องหนังจะป้อนคำถามให้เราตลอดเวลา พวกต่างดาวมาทำอะไร? ส่วนนี้หมายถึงอะไร? ซึ่งน่าจะถูกใจเหล่าคอไซไฟเช่นผมไม่ใช่น้อยให้สามารถติดตามหนังทั้งเรื่องไปได้อย่างสนุกครับ แต่หากไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของหนังแล้วอาจจะรู้สึกน่าเบื่อหน่อย เพราะ Pacing ของหนังนั้นจะเนิบๆมาก อารมณ์ขันนั้นสำหรับผู้กำกับคนนี้ขอให้คุณลืมไปได้เลย Arrival ที่มีหึๆแค่สองสามครั้งนี่แหละคือตลกสุดของนาย Denis แล้ว คนอะไรทำแต่หนังเครียดๆ 555 ถ้าหวังให้เป็นหนังป็อปคอร์นเอเลี่ยนบุกโลกยิงกันตูมตามอันนี้ไม่ตอบโจทย์ครับ (หลังออกจากโรงผมแอบได้ยินคนบอกว่าหลับด้วย...) อีกอย่างที่ทำอารมณ์ผมสะดุดก็คือตอนเฉลยครับ มันได้อารมณ์ว่า “มึงเอางี้เหรอ” ไปนิด 555 แต่ก็ไม่ถึงกับทำลายหนังนะครับ ยังพอซื้อได้อยู่ และหนังก็รีบบิดไปซึ้งอย่างรวดเร็วในช่วงท้ายสุด และก็ทำได้ถึงซะด้วย ทำให้อารมณ์ในตอนจบรอดตัวไปได้ครับ



งานภาพนั้นดีมากครับ มีทั้งโลเคชั่นสวยๆ และสามารถถ่ายทอดความอลังการและความลี้ลับของยานต่างดาวได้อย่างดี มีมุมกล้องเจ๋งๆหลายมุมที่น่าศึกษาครับ ดนตรีประกอบก็ชอบครับ มีทั้งที่สามารถสื่ออารมณ์ถึงความลี้ลับ และช่วงเค้นอารมณ์ในตอนท้ายก็ทำได้ไพเราะมากๆ สุดท้ายคือการแสดง Amy Adams เก่งอีกแล้ว อารมณ์กดดันแทบทั้งเรื่องก็ทำได้ดี ดูเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุดในทีมทั้งหน้าจอและหลังจอเลยครับ (ดูเรื่องนี้แล้วเสียดาย ไม่อยากให้เธอกลับไปเป็น Lois Lane เลยอะ 555 ตอน bvs นี่พังมาก) ส่วน Jeremy Renner นั้น บทของเขาจะกึ่งๆสมทบหน่อย แต่ก็ทำได้ดีครับ ดูเป็นนักวิทยาศาสตร์เนิร์ดๆได้โออยู่ และมุกตลกกวนๆของเขาก็ช่วยผ่อนคลายความเครียดของหนังได้ดีครับ

สรุป : เป็นหนังไซไฟที่สนุกมากๆเรื่องหนึ่งในช่วงหลายปีมานี้ ถึงตอนเฉลยจะเหวอไปบ้าง แต่หนังก็เอาตัวรอดไปได้ครับ

คะแนน : 8.5/10 (A+), ชอบ ครับ

แสดงความคิดเห็น
รออ่านรีวิวท่าน....เป็น fc ไปแล้ว...555
Like : Slashmeplease, Rajeedz, fenrill
View all 1 comments >
ขอบคุณมากครับ
รีวิวตรงเผงเลยครับ เพื่อนผมที่ไม่ใช่คอหนังไซไฟก็บอกว่าน่าเบื่อเหมือนกัน

แต่สำหรับผมนี่นั่งลุ้นอยู่ทั้งเรื่องอ่ะ พึ่งรู้ว่าผู้กำกับคนเดียวกับ Sicario ถึงว่าฉากกับเพลงเทพมากก
ผมไม่คิดจะดูตั้งแต่ trailer แรกละ ขนาดเป็นคอ sci-fi นะ
- เปิดมากับฉาก ซิงเกิลมัม ตัวคนเดียว (เพื่ออะไร)
- คุณเป็นคนเดียวที่ ทำสิ่งนี้ได้บลาๆ.. (WTF คนทั้งโลกมีเป็นพันล้าน ต้องมาพึ่งยัยนี่คนเดียวเรอะ.. จะปิดละ ทนดูอีกหน่อย)
แล้วฉากที่ไม่สมเหตุ สมผล ทั้งหลายก็ประดังเข้ามา
ยาเอเลี่ยนเท่าบ้านลอยลงมากลางเมือง ทหาร คนที่ดูเหมือนพระเอก ฯลฯ
กดปิด trailer...

จบ

*ดิท* ผมว่าจะโพสแค่ 99 ก็พอละ เลขสวย จะได้ไปปั้น ID ใหม่

จากตัวอย่าง หนังพยายามจนถึงขั้น โฉ่งฉ่าง
ที่จะนำเสนอ สิ่งที่เรียกว่า first contact
แต่เมื่อเทียบกับ sci-fi น้ำดีที่ผ่านมา เค้าทำได้สุขุม และนุ่มลึกกว่าเยอะ
แล้วไอ้การที่จู่ๆ สิ่งมีชีวิต(ดูเหมือนจะ)ทรงภูมิ
มาโผล่โด่เด่กลางหัวชาวบ้านเค้ามันไม่ make sence
เพราะถ้าคุณฉลาดมากๆ คุณจะมีวิธีติดต่อกับคนที่ด้อยกว่าได้ฉลาดกว่านี้
จะส่งคลื่นวิทยุ 3มิติ ก็ทำไปดิ สร้างเสาสำหรับวิวัฒนาการไว้ตามจุดต่างๆ ของจักรวาล ก็ทำไปดิ
แต่นี่มัน...

ถ้าให้ผมเดาแบบไม่สปอยนะ เจ้าของยานเนี่ย ถ้าไม่โง่มากๆ
ก็คงเป็นไอเดียของใครบางคนบนโลกนี่ล่ะแหกตาเรา

แล้วปฏิกริยาของตัวละครในเรื่องก็อเมริกันจ๋ามากๆ
โอ้.. พวกเรา จงแยกอาวุธบุกตะลุย ไปพร้อมผู้กล้ากันเถอะ
มุกนี้ หาได้ตามหนังแอคชั่นทั่วๆไป..

สรุปแล้ว มันก็ไม่ต่างจากหนัง blockbuster เมกันจ๋า
ที่เคลือบน้ำตาลไว้..ว่านี่ sci-fi นะ จงไปเสพ
สำหรับคอหนังที่โหยหา sci-fi มานานหลายปี ก็จะรีบคว้าเข้าปากทันที
แต่ผมไม่หลงกลหรอก..
View all 8 comments >
ประเด็นที่ว่าในหนังมีคำตอบนะครับ
Like : daft club
ประเด็น single mum มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะะๆๆๆๆ
Like : daft club
คอหนัง sci-fi จริงๆหรอ คอหน้ง sci-fi คงไม่ตัดสินหนังที่ trailer หรอกนะ ^^
Like : Mozardd, daft club
ว้าว ตัดสินหนังจาก trailer สุดยอดไปเลย
Like : daft club, DoraCub
อุ๊ป! มีการแก้ให้ยาวขึ้น
Like : daft club
ไม่ควรตัดสินหนังที่ Trailer ครับ ยิ่งไปด่าเค้าว่าโง่แล้วคุณยังไม่ได้ดูเองเนี่ย มันเข้าตัวเลยครับ บทเรียนราคาแพงเลยครับ
Like : daft club
คุณเดาผิดครับ
เป็นการเดาที่ไม่ถูกแม้แต่เสี้ยว
ดูแล้วครับ ก็สนุกในระดับที่พอใจ

หนังเล่นกับความคิดของมนุษย์ได้ดีครับ

ความไม่รู้ของคนทำให้อยากพิสูจน์ว่าคืออะไร ยานต่างดาวมาทำอะไร ต้องการอะไร

เมื่อไม่รู้หรือไม่แน่ใจย่อมเกิดความกลัว คิดไปต่างๆนาๆ จุดนี้ก็ทำได้ดีนะ



sicario ต้องดูครับ หนังเหนือความคาดหมายมาก
View all 2 comments >
ดูละครับเมื่อคืน พูดได้คำเดียวว่าโหดสัส
Sicario แบบโหด ดาร์คสุดๆ Arrival ยังไม่กดดันมากเท่าเรื่องนี้
แต่โดยรวมผมชอบผลงานของผู้กำกับคนนี้เกือบทุกเรื่อง แกทำหนังแนว Thriller ได้สุดติ่งจริงๆ
Sicario

นักฆ่าโครตเท่ การแสดง สีหน้า อย่างกับผ่านโลกมาจริงจัง