รีวิวนี้จะหลีกเลี่ยงไม่สปอยล์ไม่ว่าหนักหรือเบา เพราะฉะนั้นคนยังไม่ได้เล่นหรือรอเล่นภาคภาษาอังกฤษในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าก็สามารถอ่านได้
ที่ต้องระวังอีกอย่างคือส่วนคอมเมนท์เดี๋ยวบางทีเจอเซอร์ไพรส์
เพราะฉะนั้นเรามาอ่านบวกดูคะแนนกันเล่น ๆ ก็พอครับ แล้วก็ทางนี้ได้เล่นเกมตอนวันที่ 14 กะว่าจะจบ 19-20 เพราะติดธุระ 21-23 พยายามปั่นไป 70 ชั่วโมงก็ยังไม่จบ ยังดีที่ท้ายเกมแล้วยังพอมามั่วนิ่มรีวิวได้ คือถ้าค่อยเล่นวันละ 2-5 ชั่วโมงแบบมนุษย์มนาปกติก็น่าจะใช้เวลาเป็นเดือน ใครอยากจะเล่นแบบเก็บละเอียด ๆ มันทุกเม็ดแบบผู้รีวิวก็ทำใจได้เลยว่ายาวแน่นอน (แล้วระหว่างนี้ก็หลีกเลี่ยงกับเล่นเน็ตด้วยเพื่อหลบสปอยล์ รู้สึกชีวิตดี๊ดี...)
เข้าเรื่องกันเถิด
รีวิวด้วยเวอร์ชั่น PlayStation 4 (*เผื่อถาม* 30fps เหมือน PS3 ภาพคมกว่านิดนึงมั้ง...)
ครั้งหนึ่งผมก็เคยสงสัย ทำไม Persona 5 ถึงทิ้งช่วงจากภาค 4 นานจัง ตั้ง 8 ปีแน่ะ ทราบมาเล็กน้อยว่าเริ่มทำช่วงปี 2011 เป็นต้นมาแล้วประกาศตัวช่วงปี 2013 ว่าจะวางจำหน่ายปี 2014 สุดท้ายก็เลื่อนยาวไป 2015 จน 2016 โหย...รอแหง่กเลย โดยลืมไปว่าช่วงปี 2014 บริษัทแม่ของ ATLUS โดนคดีจนต้องปิดตัวลงไปครับ ก็มีคนมาบอกให้ไปอ่านสัมภาษณ์ทีมงานก็คือ "เกมนี้เกือบจะต้องล้มโปรเจคต์ไปแล้ว" ทั้งที่ทำค้างไว้นั่นล่ะ ขอบคุณผีปีศาจชั่วเมก้าเทนและ SEGA จริง ๆ ที่ทำให้รอดมาได้ อุมบาซ่า
ถ้าถามว่าทำไมพูดเรื่องนี้ในรีวิว อวดรู้เหรอ? เกี่ยวกันหรือเปล่า? ก็เกี่ยวนิดหน่อยครับ ตรงที่เราจะพูดถึงในส่วนแรกสุดก็คือเทคของเกมแล้วก็กราฟิก ซึ่งก็โอเคว่าคงไม่มีสาวก Persona หรือเมก้าเทนคนใดจะเล่นซีรีส์นี้เพราะภาพ แต่ปัญหาของงานโปรดัคชั่นมันมาลงตรงนี้เยอะเลยครับ อันดับแรก (1) เนื่องจากตอนแรกคงตั้งใจลงให้แต่ PS3 เครื่องเดียว และด้วยข้อจำกัดทางด้านฮาร์ดแวร์ ฉากแผนที่ในแต่ละโซนจะเล็กมากและจะมีการโหลดค่อนข้างเยอะครับ ยังดีที่โหลดไม่นาน แต่ถี่มากจนสังเกตได้ ดันเจี้ยนแต่ละดันยังสำรวจไม่เต็มที่เลยโหลดเปลี่ยนฉากอีกละ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มันน่าเสียดายอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ภาคนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ อย่างโตเกียว แต่แผนที่แต่ละโซนเล็กติ๊ดเดียวเอง มันก็ดีอยู่หรอกที่รู้สึกระทัดรัดดีไม่ชวนงงมาก แต่ก็... (2) เทกเจอร์ถ้าเล่นจะสังเกตเห็นเลยครับว่าอันนี้เอามาจาก assets เก่า ไม่รู้ว่าจากสมัย PS2 เลยหรือเปล่าเพราะแตกมาก คือ...ทำภาพตัวอย่างหายไปแล้ว แต่มันเห็นได้ชัดมากครับ ทุนต่ำได้น่าเกลียดจริง ๆ (3) โมเดลตัวละครบางตัวในเกมกับในฉากอนิเมไม่เหมือนกัน ตรงนี้คงเพราะอนิเมน่าจะเสร็จก่อนนานมากแล้วแก้ไปก็เปลืองเงิน นอกจากตัวอนิเมแล้ว บางจุดก็พอจะสังเกตได้ว่าทำก่อนเปลี่ยนไปอยู่กับ SEGA บางอย่างก็ทำทีหลังอันสุดท้ายนี้แค่เสริมจากความรู้สึกนะครับ ไม่ได้มีหลักฐานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ทว่าทั้งหมดทั้งปวงนี่เรื่องเล็กน้อย มองข้ามได้ คือตัวงานศิลป์กับสไตล์สามารถกลบได้หมด โมเดลตัวละครกับศัตรู โมชั่น แล้วพวกคัตอินต่าง ๆ ก็ปั้นมาดีครับ ฉากเนื้อเรื่องนอกจากอนิเมที่มีเยอะแล้วก็ตั้งใจทำเป็น cut scene เต็ม ๆ ก็กำกับออกมาดูแล้วตื่นเต้นดี ประทับใจ ข้อเสียอัลไลก็เลยช่างศีรษะมัน
ในส่วนที่อยากจะติจริง ๆ คือตรงนี้ ชุดที่ตัวละครเอกกับพรรคพวกในเกมใส่มีเยอะมาก แต่ในเกมนี่ดูเหมือนตอนสู้จะเปลี่ยนได้แค่ชุด DLC?! นี่มันอะไรกัน! คือบางทีก็อยากจะใส่ชุดว่ายน้ำหรือเสื้อยืดกางเกงยีนส์ไล่ตบศัตรูเหมือนกันนะ! ทำไม่ได้ซะงั้น? นี่พี่กะเก็บไว้ให้เปลี่ยนได้ภาคสมบูรณ์แบบตอนสมัย P3 P4 สินะ ไม่ค่อยเล้ย
อีกอย่างคือธีมเกมสีแดงแป๊ดดด แล้วก็เอฟเฟ็คต์อะไรต่าง ๆ กับพวก UI นี่บางทีรกเกิน ยิ่งตอนฉากสู้นี่เมนูตัวหนังสือนี่บังทุกอย่างมิดเลย บางทีก็หรูเริดเกินตัดไปตัดมาชึบชับ ๆ คนที่สายตาล้าง่ายอาจจะเล่นนาน ๆ ไม่ได้ครับ เป็นอีกจุดหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้อยู่
สำหรับทางด้านเนื้อเรื่อง สัญญาแล้วว่าจะไม่สปอยล์ ก็จะขอสรุปง่าย ๆ ละกันว่าพวกเราเป็นโจรคุณธรรมครับ ออกปล้นหัวใจคนชั่วร้ายเพื่อพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นโดยใช้พลังสแตน..เอ่อ....เพอร์โซน่าให้เป็นประโยชน์ในการเข้าไปขโมยใจกันในอีกโลกหนึ่ง จบ ที่เหลือรอเล่นเอง ส่วนของเนื้อเรื่องกับตัวละครรับรองว่าอร่อยระดับห้าดาว ถ้าถามว่าดีกว่า 3 หรือ 4 มั้ยยังไม่สรุปดีกว่า เพราะว่าช่วงนี้กำลังเห่อครับ (ให้ลำเอียงสุด ๆ คือยังไม่มีใครชนะ 2 ได้หรอก!)
บางคนก็ว่าภาคนี้เนื่อเรื่องออกคาร์ค แต่ผมได้ยินคำนี้จากแฟนการ์ตูนแฟนเกมหลายรอบหลายเรื่องหลายเกมแล้ว มันจะดาร์คอะไรกันนักหนา? คือจากใจคนเสพแต่เรื่องแนว ๆ บัดซบแล้วผมไม่ค่อยเข้าใจค่านิยม "เอะอะอะไรก็ปวดตับ" เท่าไรนักนะครับ อันนี้โนคอมเมนท์ คือสมมติต่อให้พระเอกนางเอกตายกลางเรื่อง อยู่ดี ๆ โลกระเบิดบู้มมม หรือตัวร้ายได้ดิบได้ดี = true end นี่ผมมองว่าออกจะแปลกใหม่ดีด้วยซ้ำ อันนี้ไม่ได้พูดถึง Persona 5 เสียย่อหน้าไปเปล่า ๆ หลายบรรทัด...
โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ทราบว่าเกมอื่นจะให้มุมมองนี้หรือเปล่าเพราะว่าไม่ค่อยได้เล่นมากเท่าไร แต่ผมคิดว่า Persona เล่นแล้วมีประโยชน์ดีนะ คือคนที่เล่นมาจะทราบกันดีว่าเกมค่อนข้างไปทาง "คุณธรรมจ๋า" มาก (เขาเลยล้อว่าพวกเมก้าเทนสาย Persona เป็นพวก Lawfags) เวลาใช้ชีวิตปกติก็อย่าให้ด้านมืดเข้ามาครอบงำเรามากกว่าเกินไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราทุกคนมีอะไรที่ไม่ดี ๆ ไม่อยากนึกถึงกันทุกคน แล้วก็การเข้าสังคม การสะสมมิตรภาพทั้งกับเพื่อนวัยเดียวกันกับผู้ใหญ่ คนทั่วไป ก็ถูกสื่อสารออกมาให้ไปในแนวทาง "ทำทุกอย่างให้ดีขึ้น" ตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะในภาคนี้เน้นเป็นพิเศษเลย คือแก๊งโจรของเราเนี่ยออกปล้นเพื่อ "ทำให้สังคมดีขึ้น" ตรง ๆ เรื่องใกล้ตัวมาก ซึ่งผมคิดว่ามีประโยชน์นะ วัยรุ่นควรจะเล่นกันเยอะ ๆ แล้วอ่าน (ฝึกภาษาด้วยนะ) แล้วเก็บไว้เป็นคติสอนใจได้ก็ดี ประมาณว่าคนเราทุกคนก็มีปัญหาจุดแกร่งแล้วก็จุดด้อยกันทั้งนั้น ทั้งเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ แต่ถ้ายึดมั่นในคุณธรรมกับมิตรภาพไว้ สุดท้ายก็จะผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดีครับ
OST นี่คงไม่ต้องบันระระยายยายยายมาก ถึงพักนี้เมกุโระจะไม่ค่อยเมทัลเท่าไรแต่ก็ยังเทพเหมือนเดิม สำหรับแฟน ๆ ผู้แต่งคนนี้ก็รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ แล้วก็ผู้เล่นใหม่ ๆ หลงมาลองก็การันตีได้ว่าต้องติดใจหลงรักแน่นอน แต่ละเพลงนี่สไตลิชมากเข้าบรรยากาศด้วย มีหลายเพลงที่ชอบมากตอนเขียนรีวิวก็เปิดฟังอยู่ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเกิดวันไหนผมตกอับขึ้นมาแล้วต้องไปปล้นชาวบ้านหากิน ผมจะเปิดเพลงนี้ทุกครั้งเวลางัดบ้านสุจริตชนครับ https://www.youtube.com/watch?v=571Lu0-LZp8 (alt. https://www.youtube.com/watch?v=lBRFhWW9__4)แล้วก็กำลังหาเพลงเวลาหนีพี่ ๆ โปลิศอยู่
สำหรับงานพากย์ ถึงแม่ว่าไม่ full voice แล้วก็เท่าที่มโนเทียบในใจกับ P3 P4 ดูฉากพากย์จะค่อนข้างน้อยกว่า คือโอเคว่าคุยไร้สาระทั่วไปในเหตุการณ์เสริมหรือคุณกับ NPC ตัวประกอบไม่จำเป็นต้องพากย์อยู่แล้ว แต่ฉากเนื้อเรื่องหลักหลายจุดนึกอยากจะไม่พากย์ก็ไม่พากย์เลยก็ดูแปลกดีครับ แต่ส่วนตัวไม่ได้คิดมากอะไร ผมสายอ่านมากกว่า
ในส่วนของเกมเพลย์ Persona ตั้งแต่ภาค 3 เป็นต้นมาจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือ Life simulation หรือการใช้ชีวิตปกติในฐานะนักเรียนมัธยมปลาย ในส่วนนี้คนที่ไม่เคยเล่นแนวนี้มาก่อนอาจจะทำความเข้าใจลำบากนิดหนึ่งเพราะผู้รีวิวก็อธิบายอะไรไม่ค่อยเก่ง ก็คือประมาณตื่นนอนไปเรียน หลังเลิกเรียนก็เลือกเอาว่าจะไปร่อนกับเพื่อนกับคนรู้จัก (cooperation สร้างผู้สมรู้ร่วมคิดกับแก๊งโจร) เพื่อนบางคนหรือ NPC ตัวสำคัญ ๆ บางตัวอาจจะต้องใช้ค่าพลัง ค่าเสน่ห์อะไรพวกนี้ในการเข้าหา บางคนก็อาจจะต้องไปทำภารกิจก่อนจึงจะสร้างมิตรภาพต่อไป อันนี้ก็ต้องไปอัพค่าไปทำเควส ผลการเรียนก็สำคัญด้วยมั้ง...คือว่าภาคนี้รู้สึกสอบได้ที่หนึ่งไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา นี่คือทีมสร้างเกมกำลังแขวะการศึกษา? เปล่า? คนรีิวิวอยากแขวะเอง (หัวเราะ)
แฟน ๆ น่าจะเข้าถึงส่วนแรกนี้ได้ง่ายครับ เล่นแล้วแทบไม่ต่างอะไรกับ Persona 4 เลย! และนี่ไม่ใช่การชม!! ทุกวัน ๆ (ในเกม) ต้องมานั่งคำนวณว่าทำอะไรคุ้มสุด จะปั้นค่าสเตตัสอะไรแล้วขึ้น 3 แต้ม ไปเดทกับสาวหรือหนุ่มคนนี้แล้วต้อง +point แบบเป๊ะ ๆ perfect ตอบผิด ให้ของขวัญผิด อัพสเตตัสแล้วไม่ถูกใจ พลาดตรงนั้นตรงนี้ ๆ ๆ ก็โหลดเซฟสิครับ โหลดใหม่กันเกินร้อยรอบไม่ใช่ด้วยน้ำมือศัตรูเก่ง ๆ แต่ด้วยปมด้อย perfectionist สุดท้ายตอนจะจบเกม อ้าวตูพลาดค่า coop ไป x ช่อง...........บั.....ด.....ซ....บ.......ที่เล่นอย่างระวังตัวมาตลอดเกือบ 100 ชั่วโมงปิ๋วในพริบตา แล้วเป็นแบบนี้มาหลายภาคแล้วไม่เข็ดด้วยนะ! อันนี้เป็นจุดที่ทำใจให้ชอบเกมแนว Simulation ไม่ลงครับ คือมันมีจุดเปรียบเทียบด้วยว่า Tokyo Mirage Session หรือเมก้าเทนภาคที่คนไม่ค่อยเล่นกันเพราะเจอฤทธิ์เดช idol shit เข้าไป มัน 100% ง่ายแบบไม่วุ่นวายชีวิตมากเท่านี้ในระยะชั่วโมงเล่นที่น้อยกว่าด้วย แต่ทำใจแล้วครับ ภาค 6 ก็คงลงอีหรอบนี้อีก เจ็บแล้วไม่จำคือ xxx จริง ๆ เลยเรา
ส่วนที่สองคือการพัฒนาตัวละครกับการต่อสู้ที่ได้รับผลมาจากการใช้ชีวิตปกติอีกทีส่วนหนึ่ง อันนี้คือจุดที่ทำได้ดีกว่าภาคก่อนอย่างเห็นได้ชัด อย่างแรกเลยคือเวลาไปลุยศัตรูดันเจี้ยนตามเนื้อเรื่องเป็นแบบตั้งใจปั้นแล้ว มีปริศนาและพัซเซิ่ลด้วยที่ไม่ยากเกินไปด้วย โดยสเกลอาจจะไม่ใหญ่โตมาก เล่นแป๊บ ๆ ก็ผ่าน (ต้องผ่านสองรอบ รอบแรกคือมาดูต้นทาง รอบสองคือส่งจดหมายเตือนว่าเค้าจะปล้นตะเองแล้วนะ แล้วก็ตู้ม! เจอบอสประจำบท อันนี้ครีเอตดีครับ ชอบ) ระบบซุ่มโจมตีศัตรูเพื่อเข้าฉากต่อสู้แบบได้เปรียบก็ดูแปลกดีถึงแม้ว่าบางทีจะบังคับยากไปบ้าง โดยทั้งหมดนี้ก็ยังไม่ทิ้งดันเจี้ยนแบบสุ่ม แต่ยกตรงนั้นไปเป็นดันเจี้ยนเสริมไว้ทำเควส ฟาร์มของกับเก็บเลเวลแทน อันนี้ก็ไม่มีข้อจะติอะไรมากนอกจากมันดูเล็ก ๆ ง่าย ๆ ไปนิด แต่ยากไปคนก็ไม่เล่นเนาะ ส่วนการเก็บเลเวล การซื้ออาวุธชุดป้องกันมาเสริมความแกร่งตัวละคร แล้วก็การผสมเพอร์โซน่าไว้ใช้ ก็ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ตัวเกมอธิบายค่อนข้างละเอียดแล้วก็เรียนรู้ได้ง่ายมาก อ่านไม่ออกก็พอเล่นได้นะคิดว่า
ทีนี้มาถึงระบบสู้ ได้ยินว่าเดี๋ยวนี้มีการดีเบตกันว่า Turn base ยืนจ้องศัตรูผลัดกันตีมันตายไปแล้ว! สมัยนี้ต้อง real time ARPG ATB ABC JAV บลา ๆๆ ฯลฯ อะไรก็ว่าไป แหม พูดแบบนี้เกรงใจ DQ เกรงใจ Pokemon บ้างสิครับ เทิร์นเบสมันยังไปได้อยู่แหละ คนแก่ ๆ ต้องใช้เวลาคิดในแต่ละมูฟนะจ๊ะหลาน ๆ (หงัก ๆ) ปู่ไม่ว่าเรื่องรสนิยม (หงัก ๆ) แต่เกมนี้พิสูจน์แล้วว่ายืนจ้องหน้ากันในฉากต่อสู้เป็นนาทีไม่กดตีกันสักทียังเล่นแล้วมันอยู่เฟร่ย! บอกแค่นี้แหละ ไม่ถกต่อนะ เพราะปู่คนนี้จะ BTS หรือ MRT ก็บ่ยั่น เล่นได้หมด (หงัก ๆ) ถ้าเด็กรุ่นใหม่เล่นไม่ได้ เล่นแล้วแพ้ ปากบวม ผื่นขึ้น ก็ไปหาหมอละกัน
ในเรื่องความยาก ผมว่าภาคนี้โหมด Hard ยากจริงนะ สารภาพจากปากคนเล่น Persona Q แบบ Extreme ตั้งแต่เริ่มต้น ว่าถ้าผมยังดึงดัน Hard ตลอดเวลาใน Persona 5 หมดเดือนนี้ก็คงไม่จบ ตัวศัตรูไม่เท่าไร แต่การบริหารทรัพยากรอย่าง HP SP กับไอเท็มนี่เล่นเอาโทรมเลยตอน 40 ชั่วโมงแรกของเกม ต้องระวังเรื่องการใช้ SP (หรือ MP ค่าใช้เวท) มาก ตามกดกันเข้าไปพวกน้ำกระป๋อง ทำกาแฟ จะใช้ทีก็คิดแล้วคิดอีก เผลอไปเปลืองเข้ากับศัตรูที่ไม่จำเป็นต้องเปลืองก็อาจจะต้องโหลดเล่นใหม่เลยดีกว่า (ซึ่งก็โชคดีไปที่จุดเซฟค่อนข้างถี่) แล้วตัว Hard นี่ศัตรูอึดไม่เท่าไรเพราะว่าถ้าเล่นแบบจะเอาให้ผ่านจริง ๆ ก็ต้องอย่าให้มันได้เทิร์นอยู่แล้ว ซุ่มแล้วฆ่าเร็วอย่างเดียว ปัญหาอยู่ที่ตรงบอสคือต้องสู้นานมาก พลาดทีคือตายเลยเพราะตีแรงมากเช่นเดียวกัน แล้วไม่มีโทรฟี่หรือรางวัลอะไรสำหรับคนเล่น Hard นั่นก็คือเล่นเพราะว่าอยากโดนเฆี่ยนโดนตีทางจิตใจอย่างเดียว ในขณะที่ Normal นี่ยกเว้นบอสแล้วเกมหมูไปเลยโดยที่ไม่ต้องมีเพอร์โซน่าเทพ ๆ ไว้ใช้ก็ผ่านได้ ตัวเกมก็มีไอเท็มที่ใช้แล้วศัตรูแรร์ออกบ่อยปั๊มเลเวลได้อีก สรุปก็คือสมดุลค่อนข้างแปลกอยู่ หรือไม่ก็อาจจะเพราะชินแล้วครับ เล่นมานานแล้ว ผู้เล่นใหม่อย่าเอาคนรีวิวเป็นมาตรฐานจะดีกว่า เพราะว่าเพื่อนบางคนที่เล่นอยู่ด้วยแค่ Normal ก็ตายรัว ๆ แล้ว
ส่วนของสมดุลอีกอย่างที่คิดว่าแปลกคือไอ้การที่เกมที่ธาตุเยอะไว้สำหรับเป็นจุดอ่อนจุดแข็งเวลาต่อสู้มันก็ดูหลากหลายดีอยู่ คือภาคนี้ทำในช่วงเวลาฉลอง 20 ปี Persona series ด้วยก็คือนำพวกอาวุธปืนกับธาตุจาก Persona ภาคแรกใส่เข้ามาให้แฟน ๆ รุ่นแก่ ๆ ได้ระลึกความหลัง ก็คือมี ตีปกติ ปืน ไฟ น้ำแข็ง สายฟ้า ลม พลังเจได นิวเคลียร์ แล้วก็คำสาปกับธาตุแสงก็นอกจากจะมีท่าทีเดียวตายปกติแล้วก็ยังมีท่าสำหรับโจมตีของสองธาตุนี้เพิ่มมาด้วย ดูไม่ค่อยจำเป็นเท่าไรเพราะว่ามีเยอะแบบนี้แล้วบาลานซ์ดูเพี้ยนไปหมดเลย อธิบายลำบากแต่คำพูดที่ว่า "เยอะไปไม่ดี" นี่พอจำกัดความตรงนี้ได้นิดหน่อย แต่ในฐานะการเป็นแฟนเซอร์วิสโอครับ โอจริง ๆ คิดถึงภาคแรกอะ nostalgic มาก 10/10
ก็...8 ปี...พอใจมั้ยก็พอใจนะ ให้ 9 คะแนนครับ นอกจากจะรักษามาตรฐานไว้ได้ดีมาก ๆ พัฒนาจากภาคก่อน ๆ ในแทบทุกด้าน แล้วยังยกระดับ jRPG ขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบสู้ Turn base ที่ออกแบบมาอย่างดี เล่นแล้วสนุกตื่นต้น ระบบ Life simulation ที่มีใส่ใจในรายละเอียด เนื้อเรื่องสดใหม่ ฯลฯ แฮปปี้ครับ คุ้มค่าที่รอมานาน
สำหรับเรื่องทางลบคือไม่ค่อยอยากพูดเท่าไรเพราะไม่มีหลักฐานว่าจะทำ แล้วก็ไม่อยากจะเบรคคนลังเลซื้อดีไม่ซื้อดี แต่ผมคิดว่าอาจจะมีภาคสมบูรณ์แบบแน่ใจประมาณ 70% ได้ พวก Persona 5 FES, Persona 5 Golden, Super Persona 5 Pro etc. คิดแล้วสยอง! แล้วก็ ATLUS ยังเพิ่ง HD รอบแรกครับ (ไม่นับงานลองของ Catharine กับเกมที่ทำทีหลังแต่ออกก่อนอย่าง Tokyo Mirage Session)
ถ้าอยากได้งานที่พร้อมกว่านี้เก็บใจไว้รอภาค 6 ดีกว่า comment (spoiler): ในฐานะสาวกเมก้าเทนแล้วส่วนตัวคิดว่า Shin Megami Tensei IV: Final (Apocalypse) เป็นผลงานที่ ขัดเกลามาดีกว่าแล้วก็มีจุดเว้ยเฮ้ย! มากกว่าเยอะครับ เช่น ท่านชาร์พากย์เป็นเทพวัยรุ่นเกรียน ๆ มี waifu กลับพลังมิตรภาพด้วย! ...อ้าว waifu กับมิตรภาพกรูตายห่ะกันหมดเลย... อ้าวสวัสดี เล่นพระเจ้าอีกแล้ว เป็นต้น พูดแล้วอยากลองเล่นภาคภาษาอังกฤษจัง (end spoiler)
เวอร์อังกฤษออก วันวาเลนไทน์ปีหน้า (สงสัยจะสื่อว่าเกมนี้จะ ขโมยหัวใจคุณผู้เล่น) ก็นับว่าไม่นานนัก พอจะอดใจรอได้ แถมยังมีเวอร์ชั่นกล่องเหล็กรูปสวย ตามรูปข่างล่างอีกนะ
แต่ทำไปทำมา เดือน 2-3 ปี 17 เกมน่าเล่นออกอ่วมอรทัยอีกแล้วสิ (เกมญี่ปุ่นแปลอังกฤษก็หลายเกม) จะมีตังค์ซื้อแบรนด์เนมปลายปีนี้ไหมเนี่ยเรา
อดใจรอเล่น eng แต่ขอซื้อเครื่องตอน DQ11 ออกนะค่อยเล่น ตอนนี้ไปหาวิธีฆ่าพระเจ้ากับเมกาเทน eng ที่ออกก่อน
รอ persona6 ละกัน ขอเดินเล่นในเมืองกว้างๆหน่อย
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ