Menu
Home
News
Space
N
Market
Forum
Feed
ทั้งหมด
ทั่วไป
เกม
อนิเม / มังงะ
ซื้อขาย
บทสรุป
แจ้งปัญหา
[--mobilemenu--]
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ขอลิ้งยืนยันใหม่
ลืมรหัส
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
[email protected]
หรือ
[email protected]
This thread is locked
ทั้งหมด
>
เกม
[OT] -- ราชันย์ผู้คืนบัลลังก์ -- FINAL FANTASY XV
#Final Fantasy XV
#มีสาวๆเข้าตี้แล้วนะ
#release 2016
Tweet
Reply
Vote
#
Wed 28 Dec 2016 : 3:06PM
bank-Ultima
member
Overheat - System Down
Since 7/4/2006
(17267 post)
Final Fantasy XV เนื้อหาหลัก
******************************************************
บทนำ
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่นอคต้องออกเดินทางไปยังออลทิเชเพื่อเข้าร่วมพิธีอภิเษกสมรสกับลูน่าเฟรน่า โดยเรกิสได้เดินทางมาส่งนอค ได้ฝากฝังเหล่าองครักษ์ให้ช่วยดูแลนอค ขอให้นอคให้ความสำคัญกับเพื่อนกับภรรยาในอนาคต อย่าออกนอกลู่นอกทาง ให้ระมัดระวังตัวเข้าไว้ และในฐานะที่เป็นราชวงศ์ลูซิส ยืดอกด้วยภาคภูมิในความเป็นราชวงศ์อยู่เสมอๆด้วย
******************************************************
บทที่ 1 ออกเดินทาง
เจ้าชายนอคทิส ลูซิส เชลัม ได้ออกเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเข้าร่วมงานอภิเษกสมรสของตัวเอง โดยมีเพื่อนร่วมทาง 3 คน เดินทางไปกับเรกาเรีย รถยนต์คันโปรดของพ่อของเขา
- แต่เริ่มเดินทางได้ไม่ทันไรเรกาเรียก็เสียซะงั้น พวกนอคจึงต้องเข็นรถไปถึงแฮมเมอร์เฮดและได้พบกับซิดนี่ โซเฟีย หลานสาวของซิด โซเฟีย ทำหน้าที่เป็นช่างเครื่องประจำจุดพักเดินทางแฮมเมอร์เฮด
- ส่วนซิดก็ได้ออกมาทักทายบอกรถคันนี้เป็นรถที่มีคุณค่ามาก เรกิสไม่ได้บอกเหรอไงว่าให้ดูแลดีๆ แถมยังบอกนอคว่าทำหน้าเหมือนพ่อตัวเองอีก ซิดเลยสั่งให้ซิดนี่นำเรกาเรียไปเข้าอู่
- ไม่รู้จะน่าเวทนาหรือยังไงดี เจ้าชายออกเดินทางไปงานอภิเษกสมรสของตัวเอง แต่ดันไม่เหลือเงินตั้งแต่เริ่ม เพราะต้องนำไปซ่อมเรกาเรีย อิกนิสเลยให้นอคไปขอความช่วยเหลือจากซิดนี่
- เรกิสได้ฝากฝังนอคไว้กับซิดแล้วว่าให้คอยสั่งสอนถึงโลกภายนอกด้วย ซึ่งซิดก็ได้ฝากฝังไว้กับซิดนี่ต่อ ซิดนี่เลยให้พวกนอครับงานขับไล่สัตว์ป่าเพื่อแลกกับเงินรางวัล
- ทีนี้บอยแบนด์ทั้ง 4 ก็เริ่มงานขับไล่สัตว์ป่า เพื่อหาเงินซ่อมเรกาเรีย แล้วไปรอขึ้นเรือที่ "กาดีน่า" ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของภูมิภาครี้ด
- หลังจากทำงานขับไล่สัตว์ป่าเสร็จ ซิดนี่ก็โทรมาหานอค ขอให้ตามหาฮันเตอร์คนหนึ่งที่มีชื่อว่า "ดีฟ" ซึ่งเขาได้รับบาดเจ็บอยู่ เนื่องจากสัตว์ป่าแถวนี้ดูแปลกไป ซึ่งเหลือแค่ตัวเดียวที่ยังไม่ได้กำจัด ดีฟจึงไหว้วานให้นอคช่วยสานงานต่อ
- ซึ่งรายชื่อสัตว์ป่าที่ต้องกำจัดจะอยู่ในกระท่อมระหว่างที่เราตามหาดีฟ โดยตัวสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่คือบลัดฮอร์นตัวนี้ เมื่อกำจัดเสร็จ ซิดนี่จะโทรมาหา เนื่องจากเธอได้รับการติดต่อจากดีฟแล้ว
- เมื่อกลับมาที่แฮมเมอร์เฮด ซิดนี่ก็นำเรกาเรียที่ซ่อมเสร็จมาส่ง
- ทีมบอยแบนด์ก็เตรียมออกเดินทางกันต่อ โดยซิดนี่ได้ฝากให้นอคช่วยส่งของให้โมเต็ลที่เรสสตอป อยู่ระหว่างทางไปกาดีน่า
- เมื่อส่งของเสร็จนอคจะพบกับอัมบรา สุนัขสีดำของลูน่า
- โดยเมื่อ 12 ปีก่อน นอคกับลูน่าทั้งสองคนได้เริ่มส่งบันทึกแลกเปลี่ยนไปมา โดยทั้งสองจะแปะ Sticker ไว้ พร้อมกับเขียนคำพูดถึงกันและกัน โดยตอนนี้ลูน่าบอกว่าเธอกำลังจะเดินทางออกจากเทเนบราเอ
- ขณะเดินทางไปยังกาดีน่า เราจะได้ยินข่าวการปราศรัยของลูน่าว่าเธอมีความรู้สึกยินดีกับการสงบศึกระหว่างอาณาจักรลูซิสกับจักรวรรดินิฟุลไฮม์ แล้วก็พูดถึงงานแต่งงานของเธอกับนอค ถึงเธอจะแต่งงานแล้ว แต่เธอก็จะปฏิบัติหน้าที่ของคันนากิต่อไป โดยจะเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆเพื่อรักษาผู้คน โดยเนือ้หานี้เราสามารถฟังมาก่อนได้ที่ร้านเคนี่โครในเรสสตอป
- เมื่อมาถึงกาดีน่า นอคจะพบกับชายน่าสงสัยคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่าตอนนี้เรืองดออกเดินทาง น่าจะเป็นเพราะผลกระทบของการสงบศึก
- ซึ่งก็เป็นจริงตอนนี้เรืองดออกไม่มีกำหนด
- ในขณะที่นอคกำลังลำบาก เพราะไปยังออลทิเชไม่ได้ "ดีโน่" นักข่าว ที่รู้ว่านอคทิสเป็นเจ้าชายได้เสนอทางเลือกให้นอค ดีโน่จะช่วยพานอคไปยังออลทิเชให้ โดยนอคต้องทำงานแลกเปลี่ยนโดยการหาอัญมณีมาให้เขา เนื่องจากดีโฯ่เป็นทั้งนักข่าวและช่างทำเครื่องประดับ
- โดยอัญมณีนี้พวกนอคต้องไปย่องเบาไปเก็บ โดยไม่ให้นกยักษ์ซูรู้ตัว เมื่อนำมามอบให้ดีโน่ ดีโน่ก็บอกว่าเรือจะมาถึงในพรุ่งนี้ คืนนี้เลยให้พวกนอคไปพักผ่อนเสียก่อน
ในวันที่นอคออกเดินทาง พิธีเซ็นสัญญาสงบศึกของลูซิสกับนิฟุลไฮม์ก็เกิดความโกลาหลขึ้น จากเหตุการณ์ใน Kingsglaive นั่นเอง คริสตัลของลูซิสถูกขโมย ทำให้กำแพงเวทเสื่อมอำนาจ กองทัฟของนิฟุลไฮม์จึงยกทัพเข้ามาในอินซอมเนีย ส่วนราชาเรกิสก็ถูกสังหารโดยนายพลกราวก้า
- เช้าวันต่อมานอคได้ทราบข่าวเรื่องที่อินซอมเนียล่มสลาย แถมราชาก็สิ้นพระชนในคืนเมื่อวาน
- นอคจึงตัดสินใจกลับไปยังอินซอมเนียเพื่อไปพิสูจน์ให้แน่ชัด
- ซึ่งก็พบว่าอินซอมเนียล่มสลายไปแล้ว แถมยังมีข่าวกระกาศว่าราชาเรกิส เจ้าชายนอคทิส และลูน่าเฟรน่า คันนากิตระกูลฟรูเร่จากเทเนบราเอ ได้เสียชีวิตทั้งหมด
- ทันใดนั้นนายพลโคลก็ได้ติดต่อเข้ามา เพื่อให้นอคไปพบกับเขาที่แฮมเมอร์เฮด ซึ่งเขาจะอธิบายเรื่องนี้ให้ฟัง
******************************************************
บทที่ 2 กลับเข้าที่เข้าทาง
เมืองหลวงอินซอมเนีย ได้ล่มสลายลงในเวลาหนึ่งคืน ทั้งสี่คนได้หันหลังให้กับบ้านเกิดของพวกเขา แล้วมุ่งหน้าไปยังแฮมเมอร์เฮด
- ลูน่าได้หลบหนีออกมาจากอินซอมเนียได้จากเหตุการณ์ใน KG และได้พบกับสุนัขทั้ง 2 ของเธอ ไพรน่ากับอัมบรา โดยเธอได้เก็บแหวนประกายแสงที่ราชาเรกิสฝากมอบให้กับนอคไว้กับตัว
- พวกนอคได้เดินทางไปยังแฮมเมอร์เฮด ซึ่งกราดิโอ้ ได้เล่าให้ฟังว่าอิริสน้องสาวของเขากับกลุ่มคนบางส่วน กำลังหลบหนีไปยังเลสตาลุม
- เมื่อมาถึงแฮมเมอร์เฮด ซิดนี่ก็รอด้วยความเป็นห่วง โดยนายพลโคลได้ฝากบอกเรื่องราวต่างๆไว้ที่ซิดแล้ว
- ซิดจึงเล่าถึงเป้าหมายของจักรวรรดิว่า เป้าหมายที่แท้จริงคือการแย่งชิงคริสตัลกับแหวน ไม่ได้มีความคิดที่จะยอมสงบศึกเลยมาตั้งแต่แรก
- นอคก็ไม่พอใจที่ตัวเองโดนหลอก
- ซิดเลยจะให้นอคไปฟังรายละเอียดอื่นๆจากนายพลโคลต่อ โดยนายพลโคลตอนนี้กำลังรออยู่ที่สุสานราชาที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแฮมเมอร์เฮด
- ระหว่างทางไปสุสานราชา จะพบกับที่พักชั่วคราวบนทุ่งหญ้ารกร้าง ที่นั่นจะพบกับ "โมนิก้า" หนึ่งในองครักษ์ของลูซิส เธอได้พาอิริสหลบหนีออกมาได้ แต่องครักษ์ส่วนมากได้เสียชีวิตลงในอินซอมเนีย
- ส่วนตอนนี้ "ดัสติน" อดีตองครักษ์ ได้พาอิริสไปถึงเมืองเลสตาลุมได้อย่างปลอดภัยแล้ว โมนิก้าจึงบอกกับนอคทิสว่าตอนนี้นายพลโคลกำลังรอนอคทิสอยู่ที่สุสานราชา
- ภายในสุสานราชาจะพบกับนายพลโคลที่มารออยู่ก่อนแล้ว นายพลโคลสั่งให้นอคทิส ทำหน้าที่ของราชา โดยการรวบรวมพลังจากราชาองค์ก่อนๆ จากการสัมผัสกับดวงวิญญาณของราชาที่ล่วงลับไป เพื่อส่งมอบพลังให้กับราชาคนใหม่
- แต่นอคทิสยังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ตัวเองทำ ทั้งๆที่ไม่มีประเทศแล้ว จะทำหน้าที่ไปทำไม แม้ว่าโคลจะบอกถึงหน้าที่ของราชา คือการปกป้องประชาชนของตัวเอง แต่นอคกลับคิดว่าเรกิสปล่อยให้ลูกชายหนีเอาตัวรอดออกมาคนเดียว
- โคลเชื่อว่าช่วงเวลาที่เรกิสมาส่งนอคทิสออกเดินทาง เป็นช่วงที่แสดงถึงความเป็นพ่อ ไม่ใช่ราชา เพราะเรกิสเชื่อว่าถ้าเป็นนอคทิสจะต้องเป็นราชาที่ฝากฝังประเทศและประชาชนเอาไว้ได้
- นอคจึงสืบทอดพลังจากราชามา ต้องออกเดินทางเพื่อรวบรวมพลังของราชวงศ์จากอาวุธที่อยู่ในสุสานราชา ซึ่งมีทั้งหมด 13 แห่ง แต่สถานที่บางที่ยังไม่แน่ชัด
- ซึ่งบริเวณใกล้ๆสุสานราชาแห่งนี้จะมี "บังเกอร์ใต้ดินกิกะทรีค" ที่มีสุสานราชาอยู่ด้านใน โดยนายพลโคลได้มอบกุญแจที่ใช้เปิดสุสานให้กับนอคทิส ส่วนนายพลโคลจะไปสังเกตุการณ์จักรวรรดิ
- จนกระทั่งนอคทิสได้พบกับสุสานราชาข้างในบังเกอร์ใต้ดินกิกะทรีค และได้พลังของราชวงศ์
- เมื่ออกมาด้านนอกนอคจะได้รับการติดต่อมาจากนายพลโคล โดยเขาบอกว่าได้รับพลังจากราชามาแล้ว ส่วนนายพลโคลจากการสังเกตุการณ์จักรวรรดิ ทำให้นายพลโคลค้นพบฐานทัพของจักรวรรดิที่กำลังก่อสร้างอยู่บนพื้นที่ดัสก้าตะวันตก ซึ่งจะปล่อยไว้ไม่ได้เพราะจะทำให้กำลังรบทางตะวันตกของจักรวรรดิมีมากขึ้น นายพลโคลจึงขอให้นอคทิสไปรวมกลุ่มกับโมนิก้า
- หลังจากพบกับโมนิก้า เธอก็นัดหมายพวกนอคทิสไปยังจุดรวมพลเพื่อแบ่งกำลังออกเป็นสองส่วน โดยนอคทิสจะไปกับนายพลโคลเพื่อเข้าโจมตีจากด้านใน ส่วนกราดิโอ้ อิกนิส พรอมโตะ และโมนิก้า จะไปเบี่ยงเบนความสนใจ
- หลังจากเสร็จภารกิจ ทั้งสองกลุ่มกลับมารวมตัวกันและได้พบกับ "โลกิ" ผู้บัญชาการกองทัพนิฟุลไฮม์ ที่หวังจะปลิดชีพนายพลโคลที่ได้สมญานามนายพลที่ไม่มีวันตาย จากผลงานการสู้รบในอดีต
- สุดท้ายโลกิก็แพ้แล้วก็ตายคาหุ่น นายพลโคลก็พอจะไว้วางใจพวกนอคทิสได้แล้วเขาจึงกลับไปสอดส่องจักรวรรดิต่อ ส่วนพวกนอคทิสก็ออกเดินทางตามหาสุสานราชาต่อไป
******************************************************
บทที่ 3 โลกที่กว้างใหญ่
จักรวรรดิเป็นศัตรูที่มีแสนยานุภาพทางการทหารอย่างมาก หนทางที่จะกอบกู้คริสตัลกลับคืนมาคงอีกยาวไกล นอคทิสที่ได้รับพลัง กำลังเดินทางไปยังสถานที่แห่งใหม่
- เริ่มมาอิโดร่า จักรพรรดิของจักรวรรดินิฟุลไฮม์กำลังหารือกับนายพลเรอุสและวาสไต หัวหน้ากลุ่มวิจัย เนื่องจากนอคทิสยังมีชีวิตอยู่ ส่วนลูน่าเฟรน่าก็กำลังหลบหนี อิโดร่าก็ไม่สนทำยังไงก็ได้ จะฆ่าก็ได้ ขอให้ได้แหวนมาก็พอ
- โดยวาสไตได้พูดเชิงข่มขู่เรอุส เนื่องจากคันนากิเป็นวัตถุดิบชั้นดีของการวิจัย เนื่องจากพลังของ 6 เทพที่เกินกว่าสติปัญญาของมนุษย์นั้นท้ายที่สุดจะส่งมอบให้กับราชา โดยมีคันนากิเป็นเสมือนตัวกลาง เรอุสจึงรับหน้าที่ตามหาเจ้าชายกับคันนากิ แม้ว่าคันนากิจะเป็นน้องสาวของตัวเองก็ตาม
- หลังจากที่บอยแบนด์ถล่มฐานของจักรวรรดิเสร็จกลุ่มเจ้าชายก็ได้เดินทางมายังพื้นที่ดัสก้า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใหญ่กว่าเกรนมหาศาล ซึ่งพื้นที่ดัสก้าจะเป็นทางผ่านไปยังเมืองเลสตาลุม เมืองที่อิริส น้องสาวของกราดิโอ้หลบไปซ่อนตัวอยู่ ซึ่งเลสตารุมจะตั้งอยู่ในพื้นที่เกรน
- จะเล่าถึงเรื่องราวในพื้นที่ดัสก้าให้ฟังกันก่อนละกัน พื้นที่ดัสก้าโดยมากเป็นพื้นที่เปียกชื้น อุดมไปด้วยธรรมชาติ โดยในอดีตที่ใจกลางของพื้นที่เคยมีอุกกาบาตหรือเมเทโอตกลงมา ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า "จานขนาดใหญ่แห่งคาเทส" ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในพื้นที่ดัสก้า
- ระหว่างทาง นอคจะได้รับการติดต่อมาจากอิริสว่าตอนนี้เธอมาถึงเมืองเลสตาลุมอย่างปลอดภัย เธอกำลังรอพวกนอคมาหาอยู่ โดยมีกราดิโอ้ยืนบ่นอยู่ข้างๆ กับพี่ชายตัวเองยังไม่ยอมโทรมาหา แต่อิกนิสก็บอกว่า เธอคงเป็นห่วงเจ้าชายเลยโทรมาหา
- เมื่อไปถึงเลสตาลุม นอคจะเห็นภาพนิมิตบางอย่างคล้ายกับยักษ์ เมื่อไปถึงโรงแรมจะพบกับ "จาเร็ท" พ่อบ้านที่ทำงานให้กับตระกูลอะมิชเทีย ตระกูลของกราดิโอ้กับอิริส และ "ทัลคอท" หลานชายของจาเร็ท ที่หนีมาด้วยกันกับอิริส
- คืนนั้นพวกนอคทิสได้ถามกับอิริสถึงสภาพเมืองอินซอมเนียหลังถูกรุกราน สภาพโดยรอบตัวปราสาทเสียหายอย่างหนักแต่ก็ยังอยู่ในสภาพที่ดี แล้วอิริสก็ได้ยินข่าวลือมาว่าลูน่าเฟรน่ามาที่เมืองนี้ แต่ก็ออกจากเมืองไปแล้ว ท่าทางเธอจะปลอดภัย
- เช้าวันต่อมา อิริสได้ชวนนอคทิสไปแนะนำสถานที่ต่างๆในเมืองเลสตาลุม อารมณ์แนวออกเดทกันแบบลับๆอยู่ โดยระหว่างออกเดท อิริสได้ซื้อของที่จะเป็นเครื่องรางให้กับนอคทิส แต่ไว้ให้ในโอกาสหลังดีกว่า จนกระทั่งทั้งสองกลับมาที่โรงแรม ทัลคอทก็ได้บอกกับนอคทิสว่า เขาพบน้ำตกแห่งหนึ่ง ข้างในนั้นอาจจะมีดาบในตำนานที่นอคทิสตามหาอยู่ก็ได้
- พวกนอคทิสจึงไปสำรวจถ้ำข้างในน้ำตกและได้พบกับสุสานราชา แต่หลังจากรับพลังจากราชา นอคก็พบกับภาพยักษ์ในนิมิตอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เขาได้เห็นสถานที่แห่งหนึ่ง นั่นก็คือสถานที่ที่เมเทโอเคยตกลงมา จานขนาดใหญ่แห่งคาเทสนั่นเอง
- เมื่อกลับมาที่โรงแรม นอคทิสได้ขอบคุณทัลคอทที่ช่วยบอกข่าวให้กับเขา แต่ภาพนิมิตก็ปรากฏขึ้นอีก คนในกลุ่มจึงชวนไปที่สวนสาธารณะเพราะที่นั่นสามารถมองเห็นจานขนาดใหญ่แห่งคาเทสได้ง่าย แถมยังมีกล้องส่องทางไกลให้ใช้อีก
- แต่เมื่อไปถึงจะพบกับชายน่าสงสัยอยู่ที่นั่น และได้ถามกับนอคทิสว่าสนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์บ้างไหม ว่ากันว่าที่ใต้ก้อนหินมียักษ์ที่กำลังเรียกหาราชาอยู่ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจภาษาของเทพแล้ว เมื่อฟังอาจจะมีอาการปวดหัวก็ได้ ชายน่าสงสัยจึงได้ชักชวนให้นอคทิสลองเข้าไปดูข้างในนั้น ซึ่งพวกนอคทิสก็ตกลงจะเข้าไปท่ามกลางความหวาดระแวงกับชายน่าสงสัยคนนี้
- ชายน่าสงสัยคนนี้จึงได้แนะนำตัวว่า ชื่อของเขามันยาว เรียกย่อๆว่า "อาเดน" ละกัน
******************************************************
บทที่ 4 การกลับมาอีกครั้งของตำนานเทพเจ้า
อาการปวดหัวของนอคทิสจะมาทุกครั้งพร้อมกับการเกิดแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นถี่ๆช่วงนี้ อาเดนได้บอกว่าสิ่งนั้น คือ ยักษ์กำลังเรียกหาราชาอยู่ ทั้งสี่คนที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จึงมุ่งหน้าไปหายักษ์ไททันที่กำลังหลับไหลอยู่ในจานขนาดใหญ่แห่งคาเทส
- พวกนอคทิสได้หยุดพักระหว่างเดินทางไปยังจานขนาดใหญ่แห่งคาเทส โดยเช้าวันรุ่งขึ้นจะมีประกาศข่าวเกี่ยวกับลูน่าที่ทำหน้าที่เป็นคันนากิตั้งแต่เด็กจนถึงตอนปัจจุบัน เธอไม่หยุดที่จะช่วยเหลือผู้คน เพราะมันเป็นหน้าที่ของคันนากิ และเธอก็เห็นด้วยกับการสงบศึกระหว่างลูซิสกับนิฟุลไฮม์ เพราะจะเป็นการลดจำนวนผู้บาดเจ็บ
- หลังจากนั้นก็ออกเดินทางกันต่อ โดยระหว่างทางจึงทราบว่า เมเทโอที่ตกลงมายังดัสก้า ได้เทพยักษ์เป็นคนมารับไว้จนถึงตอนนี้ สะเก็ดที่มันแตกออกมาเลยกระจายไปทั่วดัสก้า ทำให้เห็นหลุมอยู่มากมาย จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้คนหันมาเคารพเทพยักษ์กับเมเทโอกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าด้านล่างจริงๆแล้วเป็นยังไง
- เมื่อไปถึงทางเข้าจานขนาดใหญ่แห่งคาเทส อาเดนไปขอให้ผู้ดูแลประตูเปิดทางให้พวกนอคเข้าไป ส่วนตัวเองจะไม่เข้าไป เพราะ แค่มาส่งพวกนอคให้ถึงที่อย่างปลอดภัยเท่านั้น
- โดยข้างในสุดจะพบกับสุสานราชาหลังจากที่นอครับพลังจากราชารุ่นก่อนเสร็จจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้น นอคกับกราดิโอ้พลัดตกไปด้านล่างและได้พบกับเทพยักษ์ไททัน ที่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว
- นอคกับกราดิโอ้ได้แยกทางกับอิกนิสและพรอมโตะ โดยระหว่างทางอาการปวดหัวของนอคก็กำเริบขึ้นเรื่อยๆ ส่วนอิกนิสก็ติดต่อมาบอกว่าพบกองทัพจักรวรรดิอยู่ที่นี่
- เมื่อนอคกลับไปคุยกับไททันอีกครั้งแต่ก็คุยกันไม่เข้าใจ เพราะนอคไม่เข้าใจภาษาของเทพ ไททันก็เริ่มจู่โจมใส่นอค โดยกราดิโอ้เป็นคนกันให้นอคหนีออกไป
- นอคจึงเริ่มต่อสู้กับไททันอีกครั้งจนทุกคนในกลุ่มกลับมา โดยระหว่างนั้นกองทัพของจักรวรรดิก็เข้ามาต่อสู้กับไททันด้วย
- ในที่สุดพวกนอคก็เอาชนะไททันได้สำเร็จ ไททันก็ได้ทำสัญญากับนอค นอคได้เห็นภาพในอดีต เป็นภาพที่ลูน่าได้เข้ามาคุยกับไททันมาก่อนที่นอคจะมาหาไททันแล้วทำสัญญา
- ทันใดนั้นภูเขาไฟเกิดการประทุ ยานขนส่งลำนึงของจักรวรรดิได้ลอยเข้ามา โดยมีอาเดนอยู่บนนั้น เขาได้แนะนำตัวอีกครั้งว่าเขาชื่อ "อาเดน อิสเนีย" ซึ่งเขาเป็นรัฐมนตรีของจักรวรรดินิฟุลไฮม์ โดยเขามาช่วยพวกนอคโดยจะไม่จับพวกนอค นอคจึงต้องยอมรับความช่วยเหลือจากอาเดน
******************************************************
บทที่ 5 เมฆสีดำ
จากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด พวกนอคสามารถหนีเอาตัวรอดออกมาได้สำเร็จ (จากความช่วยเหลือของอาเดน) แต่ทว่าพวกนอคก็สูญเสียเรกาเรียไปจากการจอดไว้ที่จานขนาดใหญ่แห่งคาเทส กองทัพจักรวรรดิก็ได้ทำการปิดถนน พวกนิคทิสจึงทำได้แค่รวบรวมข่าวสารเท่านั้น
- มีสัมภาษณ์ข่าวถึงเรื่องการสั่งปิดถนน เป็นคำสั่งของเรอุส โดยเขาให้เหตุผลว่ากำลังตามหาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการลอบโจมตีงานเพิธีเซ็นสัญญาสงบศึก ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วแต่ก็ขอให้เข้าใจด้วย เพื่อความสงบสุขของประชาชน โปรดเข้าใจด้วย
-และยังมีเรื่องพื้นที่ดัสก้ากับเกรน เกิดแผ่นดินไหว เรอุสได้ให้คำตอบไปว่า สาเหตุเกิดจากเทพยักษ์ตื่นขึ้นมาอาละวาด ทางจักรวรรดิได้เข้าไปปราบปรามจนควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว
- ส่วนพวกนอคก็กำลังหาข่าวสารเกี่ยวกับเรกาเรียที่หายไปอยู่ ซึ่งเป็นไปได้ว่าทางจักรวรรดิเป็นคนเก็บไป พรอมโตะก็มีแซวไปว่า คงจะได้รับความช่วยเหลือจากอาเดนในการตามหาเรกาเรียอีกแหงๆ ทำเอาทุกคนในกลุ่มถึงกับส่ายหน้า ตอนนี้เลยต้องรอการติดต่อจากซิดนี่
- ปรากฏว่าอัมบรามาหานอค และพาไปพบกับ "เกนเทียน่า" เธอบอกให้นอคไปทำสัญญากับเทพสายฟ้า
- และเพื่อหาทางนำคริสตัลที่จักรวรรดิขโมยไปกลับคืนมา ตอนนี้คันนากิได้ทำพันธะสัญญากับเทพสายฟ้าเสร็จแล้ว เธอกำลังรออยู่เมืองแห่งน้ำพร้อมกับแหวนแห่งแสง และขอให้นอครีบไปพบลูน่า แล้วเกนเทียน่าก็หายตัวไป
- อิกนิสได้เล่าให้ฟังว่าเกนเทียน่า เป็นข้ารับใช้ของเทพ หรือก็คือผู้คอยช่วยเหลือคันนากิในเทพนิยายนั่นเอง
- กลับมาต่อที่บันทึกของลูน่า ลูน่าได้เขียนถึงนอคว่า ขอให้นอคทิสปลอดภัยเช่นกัน
- กลับไปที่ความทรงจำเมื่อ 12 ปีก่อน ลูน่าได้บอกกับนอคว่า ความรุ่งเรืองของมนุษย์ที่มีมายาวนาน มาจากการเกื้อหนุนของคริสตัล
- นอคจึงสงสัยว่าคริสตัลอยู่ที่เมืองหลวงอินซอมเนีย ทำไมถึงมีแค่พวกนอคที่ได้ใช้ ลูน่าจึงให้เหตุผลไปว่าไม่ใช่แค่ใช้แต่ราชายังปกป้องดูแลคริสตัล โดยคริสตัลจะทำการเลือกราชาที่แท้จริง และมอบพลังให้ ราชาองค์ก่อนๆก็ทำเช่นเดียวกัน คือ เฝ้ารอเวลาและดูแลรักษาคริสตัลไว้
- ซึ่งนอคก็ได้รับเลือกเช่นเดียวกัน มีแต่ราชาที่แท้จริงเท่านั้นที่ได้รับเลือกจากคริสตัล ที่จะกำจัดศัตรูที่ทำให้ดวงดาวเกิดการหวาดกลัว โดยคันนากิจะทำหน้าที่ช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ เพราะหน้าที่ของคันนากิคือการสนับสนุนราชา
- เกนเทียน่าได้พูดเข้ามาในหัวของนอคโดยตรงว่า ให้ไปยังจุดที่มีสายฟ้าผ่าลงมาที่ศิลา 3 จุด เพื่อทำสัญญากับเทพสายฟ้า
- เป็นอันว่าตอนนี้ลูน่าปลอดภัยดี และกำลังรออยู่ที่ออลทิเช การจะเดินทางไปนั้น ต้องนั่งเรือที่แหลมคาเอม ซึ่งเป็นท่าเรือที่ถูกซ่อนของราชวงศ์ลูซิส
- ระหว่างเดินทางจะได้รู้จากนอคเพิ่มครับว่า เกนเทียน่าเป็น 1 ใน 24 ข้ารับใช้ของ 6 เทพ, ลูน่าที่กำลังปลุก 6 เทพขึ้นมา เพื่อจะมอบพลังให้กับราชา
-เมื่อไปสัมผัสกับศิลาอันแรก จะย้อนกลับไปยังอดีตเมื่อ 12 ปีก่อน นอคสมัยอยู่ที่เทเนบราเอ หลังจากฟื้นขึ้นมาจากเหตุการณ์ถูกลอบโจมตีในวัยเด็ก อ้างอิงจาก Brotherhood และ Platinum Demo นอคได้พบกับเกนเทียน่า ในตอนนั้นเธอก็แนะนำตัวว่าเป็นข้ารับใช้ของ 6 เทพ มีแซวด้วยว่านอคกับลูน่าดูสนิทกันดี เหมาะสมแล้วที่เป็นราชากับคันนากิคู่กัน
- โดยศิลาอันสุดท้ายจะอยู่ข้างในถ้ำฟอชชิโอ้
- ข้างในจะพบกับ ชิไค ชื่อ นากา กำลังตามหาลูกอยู่ ซึ่งในส่วนนี้ถ้ามีข้อมูลที่แน่ชัดขึ้น จะนำมาเสนอเพิ่มเติม
- หลังจากกำจัดนากาเสร็จนอคก็ได้ไปสำรวจศิลาอันสุดท้ายและได้ทำสัญญากับเทพสายฟ้า "รามู" และพบภาพในอดีตที่ลูน่าเข้ามาหารามูก่อนหน้านั้น
- เมื่อออกมาจากถ้ำ จะได้รับการติดต่อมาจากซิดนี่ว่า เรกาเรียตอนนี้อยู่ข้างในฐานของจักรวรรดิที่อยู่ใกล้กับเมืองเลสตาลุม ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นสถานที่ที่หลงเหลือจากสงครามก่อนๆ จึงมีกำแพงกั้นล้อมรอบ อิกนิสจึงรอให้ถึงเวลากลางคืน เพื่อวางแผนบุกเข้าไป
- ซึ่งแผนบุกเข้าไปก็ไม่เชิงเป็นแผนเท่าไหร่ เนื่องจากจำนวนคนที่น้อยเลยเลือกที่จะเข้าไปในเวลากลางคืนเพื่อให้ศัตรูรู้สึกตัวช้าขึ้น เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ซ่อนของเรกาเรีย
- เมื่อบุกเข้าไปข้างในจนพบกับเรกาเรีย และได้ลองใช้พลังของรามู 1 ใน 6 เทพ กำจัดกองทัพจักรวรรดิจนหมด
- เมื่อกลับไปที่เรกาเรียอีกครั้งจะพบกับนายพลเรอุส เข้ามาถากถางนอคทิสว่าเจ้าชายไม่เอาไหนคนนี้ถึงได้รับเลือกเป็นราชา ทำสัญญากับเทพสายฟ้าทั้งๆที่ไม่รู้ถึงความหมายที่แท้จริง
- และยังอัดกราดิโอ้จนกระเด็น ดีที่อาเดนเข้ามาห้ามไว้โดยให้เรอุสกลับมาที่กองทัพ ซึ่งครั้งหน้าอาเดนจะไปพบกับนอคทิสที่อีกฟากฝั่งนึงของทะเล เพราะอาเดนก็มีธุระกำลังเทพน้ำอยู่
- พรอมโตะเพิ่งจะเคยเจอกับเรอุส อิกนิสจึงเล่าให้ฟังพว่าเรอุสเป็นพี่ชายของลูน่า
- หลังจากที่ออกจากฐาน มีประกาศข่าวว่าทางจักรวรรดิได้ยกเลิกการปิดถนนตรวจตราบนพื้นที่ดัสก้าแล้ว
-ระหว่างกลับไปยังเลสตาลุม พวกอิกนิสได้คุยกันว่าเรอุสได้ขึ้นเป็นนายพล ดูเหมือนว่านายพลคนก่อนที่บุกเข้าโจมตีอินซอมเนียได้เสียชีวิตลง ซึ่งหมายถึงนายพลกราวก้า จากเหตุการณ์ใน Kingsglaive นั่นเอง
- เมื่อไปถึงโรงแรมในเลสตาลุมจะพบกับอิริสรอพวกนอคอยู่ เธอเล่าให้ฟังว่า กองทัพจักรวรรดิมาที่นี่เพื่อตามหานอค ทั้งๆที่ไม่มีใครพูดอะไรเลย พวกจักรวรรดิก็ฟันจาเร็ท พ่อบ้านของอิริสเสียชีวิต
- ทัลคอทเข้ามาหาพวกนอค นอคก็ขอโทษที่ช่วยไว้ไม่ได้ แต่เขาสัญญาจะกำจัดจักรวรรดิให้ได้
- อิริสเลยจะพาทัลคอทไปที่แหลมคาเอมกับเธอด้วย เพื่อตอบแทนจาเร็ทที่เคยดูแลเธอ
******************************************************
บทที่ 6 ปลุกใจ
กว่า 30 ปีที่ราชวงศ์ลูซิสใช้เป็นท่าเรือลับของราชวงศ์ ดูเหมือนว่าจะมีเรือของเรกิสที่เคยใช้งานไว้อยู่ เพื่อที่ทั้ง 4 คนจะข้ามทะเล พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปยังท่าเรือที่แหลมคาเอม
- เช้าวันต่อมา จะได้รับข่าวจากซิดนี่ว่าพวกเธอไปรอซ่อมเรืออยู่ที่แหลมคาเอม จากการติดต่อของจาเร็ท
- พวกนอคจึงเดินทางไปยังแหลมคาเอม โดยมีอิริสนั่งเรกาเรียมาด้วย ระหว่างทางจะพบกับกองทัพของจักรวรรดิที่โอลด์เลสต้า พวกนอคจึงให้อิริสรออยู่ที่เมือง พวกเขาจะไปล้างแค้นให้กับจาเร็ท
- พวกนอคบุกเข้าไปยังฐานวาเรโอ้ของจักรวรรดิ โดยพรอมโตะกับกราดิโอ้จะไปดึงดูดความสนใจของศัตรู ส่วนนอคกับอิกนิสจะเข้าไปจับกุมผู้บัญชาการฐานแห่งนี้
- เมื่อตกดึกจึงเริ่มแผนการ โดยผู้บังคับการของจักรวรรดิคือ "คาริโก้"
- ระหว่างที่ลอบสังเกตุการณ์คาริโก้ เขาจะบอกว่าตอนนี้อาเดนให้ "อะราเนีย" มาคอยเฝ้าดูคาริโก้โดยไม่รู้สาเหตุ
- เมื่อได้จังหวะเหมาะ นอคก็ได้เข้าจับกุมคาริโก้ ประกอบกับสัญญาณที่ฝั่งพรอมโตะให้ อิกนิสได้นำตัวคาริโก้ไปหาพวกฮันเตอร์ และให้นอคไปรวมกลุ่มกับกราดิโอ้
- หลังจากทำลายเครื่องกำเนิดฟิลด์ อิกนิสก็กลับมาบอกว่าเขาส่งตัวคาริโก้ให้กับฮันเตอร์แล้ว แต่ดูเหมือนคาริโก้จะหนีไปได้
- ระหว่างออกจากฐานพวกนอคถูกผู้หญิงคนหนึ่งชื่ออะราเนียลอบโจมตี แต่สู้ได้ซักพักเธอก็ถอยออกมา เนื่องจากหมดเวลาค่าจ้างของเธอ สู้ต่อไปเธอก็ไม่ได้ค่าจ้าง
- พวกนอคจึงกลับไปหาอิริสแล้วพาเธอไปยังแหลมคาเอมต่อ ที่นั่นจะได้พบกับซิดนี่ที่มารอรับ
- ตอนนี้ซิดนี่กำลังประสบปัญหาในการซ่อมเรือเนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนเพียงพอ
- แล้วก็ตอนนี้ดัสติน คนที่พาอิริสหนีออกมาจากอินซอมเนีย และโมนิก้า ก็มาช่วยซิดนี่ด้วย ซึ่งตอนนี้สิ่งที่ขาดคือแร่มิสริล ซึ่งหาไม่ได้ในพื้นที่นี้ รายละเอียดต่างๆต้องไปถามทัลคอทต่อ
- เมื่อไปถึงด้านบนของแหลมคาเอมจะพบกับบ้านของทัลคอท ทัลคอทจึงบอกข้อมูลเกี่ยวกับมิสริลให้ฟังว่า บันทึกของจาเร็ทเขียนบอกเอาไว้ ทางตอนเหนือของแหลมคาเอมจะมีโบราณสถานอยู่ข้างในถ้ำน้ำตก ที่นั่นสามารถเก็บแร่มิสริลมาได้
- อิริสจึงให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า น้ำตกที่ว่า น่าจะหมายถึงน้ำตกเวสเปล ซึ่งพวกโมนิก้าได้ข้อมูลมาว่าทางจักรวรรดิกำลังปิดเส้นทางบริเวณนั้นอยู่
- นอคทิสจึงตัดสินใจไปที่นั่น แต่กราดิโอ้มาขอแยกเดินทางชั่วคราวกับนอคทิสก่อน
******************************************************
บทที่ 7 การเดินทาง 3 คน
การเตรียมการซ่อมเรือนั้น จำเป็นต้องใช้แร่มิสริลที่ล้ำค่า ทั้ง 3 คนที่ได้ข้อมูลของแร่หายากนี้มาว่าอยู่ในโบราณสถานแห่งหนึ่ง พวกเขา 3 คน จึงมุ่งหน้าไปยังโบราณสถานแห่งนั้น ท่ามกลางการตรวจตราของจักรวรรดิ
- เริ่มต้นบท ลูน่าได้รับข้อความตอบกลับของนอคจากอัมบรา
- จากข้อมูลของทัลคอทหลายวันต่อมาพวกนอคจึงออกเดินทางไปยังน้ำตกเวสเปล ระหว่างทางก็มีพูดคุยกันว่านายพลโคลช่วงนี้ก็ยุ่งๆกับงานขับไล่ ส่วนงานตามหาสุสานราชาก็ให้กลุ่มฮันเตอร์ของเมลดาชิโอ้เป็นคนตามหา ไหนจะเรื่องที่พบกับอาเดนบ่อย
- เมื่อไปถึงน้ำตกเวสเปลก็พบกับอาเดนตามที่คาดไว้จริงๆ อาเดนได้บอกว่ากองทัพของจักรวรรดิอยู่ที่นี่ เขาเลยจะเป็นคนพาเข้าไปข้างในเอง เพราะรู้ว่าเป้าหมายของพวกนอคคือแร่มิสริล เนื่องจากมันมีค่ามาก จักรวรรดิเลยปิดเส้นทางไว้
- โดยอาเดนไม่คิดจะแบ่งแร่มิสริลให้นอค แต่ถ้าเก็บได้เองก็อีกเรื่อง
- อาเดนจึงไปคุยกับทหารที่เฝ้าทางเข้าโบราณสถานอยู่ ซึ่งทหารที่รักษาการอยู่ก็คืออะราเนีย โดยอาเดนเข้าไปคุยกับอะราเนียโดยบอกว่านอคจะมาเข้ารับการฝึกฝน อะราเนียเป็นทหารรับจ้างที่ทางจักรวรรดิจ้างมา
- เธอจึงชวนให้พวกนอคลงไปสังเกตการณ์ภายในโบราณสถาน แต่การสังเกตุการณ์นั้นจะทำได้เฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น
- ระหว่างที่ลงไปสำรวจอะราเนียจะบอกถึงเรื่องราวของจักรวรรดิให้ฟังว่า ตอนนี้ทางจักรวรรดิกำลังรวบรวมข้อมูลของชิไคอยู่ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับอาวุธ ซึ่งพวกนอคคุ้นเคยเป็นอย่างดี เมื่อลงไปถึงด้านในสุดจะพบกับเคซคอโทล นกตัวหนึ่ง
- หลังจากกำจัดเคซคอโทลได้ อะราเนียจึงยอมเล่าความจริงให้ฟัง ทหารมาโด เกิดจากการทดลองเกี่ยวกับชิไคของจักรวรรดิ เธอจึงบอกให้นอคทิสระวังตัวไว้ให้ดี
- อะราเนียถึงจะเห็นเป็นแบบนี้แต่แรกเดิมทีเธอเป็นทหารรับจ้างที่ทำงานกำจัดชิไคกับลูกน้องของเธอ
- หลังจากทำหน้าที่สังเกตุการณ์ภายในโบราณสถานเสร็จ อะราเนียก็ขอแยกตัวออกมา พวกนอคทิสก็ขอบคุณอะราเนีย ตอนแรกพวกเขากลัวว่าอะราเนียจะหลอกพวกเขา แต่กลับไม่ทำแบบนั้นแถมยังช่วยพวกเขาอีก แต่อะราเนียก็นึกขึ้นได้ว่าอาเดนสั่งให้เธอพาพวกนอคไปส่งด้วย
- อิกนิสได้รับการติดต่อมาจากซิดนี่ จึงบอกให้พวกนอคไปหาช่างตีเหล็กที่เลสตาลุม เพื่อนำแร่มิสริลไปให้กับเพื่อนของซิดนี่ ซึ่งอยู่ที่โรงงานในเมือง
******************************************************
บทที่ 8 ออกเรือ
จากความช่วยเหลือของอะราเนียผู้บัญชาการจักรวรรดิ ทำให้ได้รับมิสริลมาได้อย่างปลอดภัย หลังจากนั้น ทั้ง 3 คนจึงนำแร่มิสริลที่ได้รับคำขอมาจากซิดนี่ มุ่งหน้าไปยังเลสตาลุม เพื่อพบกับ "โฮลี่" เพื่อนของซิดนี่
- เมื่อเดินทางมาถึงเลสตาลุมจะพบว่าเมืองกำลังเกิดเหตุวุ่นวายอยู่ พวกอะลาเนียไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ จึงให้เป็นหน้าที่ของพวกนอคในการช่วยเหลือประชาชน
- หลายชั่วโมงต่อมา พวกนอคได้พบกับโฮลี่ และได้ทราบถึงสาเหตุความวุ่นวายในเมือง เนื่องจากชิไคได้เข้าไปในโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า แล้วกำลังทำให้เครื่องจักรเสียหาย ซึ่งอาจเกิดระเบิดขึ้นได้ เนื่องจากชุดป้องกันภัยเหลือแค่ชุดเดียว นอคจึงเป็นคนเข้าไปในโรงงาน เพราะรูปแบบการต่อสู้ของนอคเหมาะกับการเข้าไปคนเดียวมากกว่า
- ก่อนหน้านั้นได้มีฮันเตอร์คนนึงเข้าไปก่อนแล้ว โฮลี่จึงให้นอคตามไปสมทบ ส่วนเธอจะนำแร่มิสริลไปแปรรูประหว่างรอ
- นอคได้พบกับฮันเตอร์อีกคนแล้วก็ช่วยกันกำจัดชิไค หยุดการระเบิดของเครื่องจักรในโรงงานไว้ได้
- เมื่อออกจากโรงงานโฮลี่ได้กล่าวขอบคุณนอคกับฮันเตอร์อีกคนหนึ่ง ฮันเตอร์คนนั้นก็คือกราดิโอ้นั่นเอง ระหว่างที่กำจัดชิไคด้านใน ฮันเตอร์คนนี้จะบอกว่าทักษะการต่อสู้ของนอค เหมือนเจ้าชายที่ไหนซักคน
- เมือ่กราดิโอ้กลับมาเข้ากลุ่มจะสังเกตเห็นแผลเป็นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปกติจะมีแผลเป็นเป็นเส้นตรงจากบนลงล่าง บริเวณใบหน้าด้านซ้าย
- ทันใดนั้นอิริสกับดัสทินก็มาหา และอาสาจะนำแร่มิสริลแปลรูปไปให้ซิด เพื่อซ่อมเรือก่อน
- ในระหว่างนี้จะมี Quest ขึ้นมาเควสหนึ่ง เกี่ยวกับอิริส หากยังจำกันได้ เรื่องที่อิริสจะให้เครื่องรางกับนอค เครื่องรางอันนั้นคือตุ๊กตาม๊อคคุริ หรือ ม๊อคนั่นเอง
- เมื่อกลับไปที่แหลมคาเอมจะพบกับอัมบรา นำข้อความของลูน่ามาส่งให้นอค ตอนนี้ลูน่ากำลังรออยู่ที่ออลทิเช
- ประภาคารที่แหลมคาเอมจะมีลิฟท์ลงไปยังท่าเรือ ที่นั่นจะพบกับทุกคนที่เคยให้ความช่วยเหลือนอคมารออยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะนายพลโคลที่มาขอโทษนอค เนื่องจากเขาไม่สามารถปกป้องเรกิสไว้ได้ เนื่องจากเหตุการณ์ในดราม่า CD เรกิสสั่งให้โคลเป็นคนอพยพประชาชน ซึ่งซิดก็ขอให้นอคช่วยเข้าใจ แล้วก็เอาใจใส่เพื่อนพ้องของตัวเองด้วย
- เมื่อเตรียมการเสร็จทั้งหมดแล้ว นอคจึงออกเดินทางไปยังเมืองแห่งน้ำ ออลทิเช เพื่อไปตามหาลูน่า
******************************************************
บทที่ 9 ชะตากรรมแต่ละอย่าง
นอคทิสออกเรือไปยังออลทิเช โดยมีทุกคนมาคอยให้กำลังใจ สถานที่ที่เขามุ่งหน้าไปเพื่อขอพลังจากเทพน้ำ และใช้ในการกำจัดจักรวรรดิ แต่ลึกๆในใจแล้ว เขาคาดหวังที่จะได้พบกับลูน่าอีกครั้ง
ก่อนเริ่มต้นจะขออธิบายไว้ล่วงหน้าก่อน ออลทิเชที่กำลังจะไป คือ ชื่อเมืองหลวงของประเทศอคอลด์
- เริ่มต้นบทจะพบกับเรอุสและอาเดนอยู่ที่ออลทิเช โดยเรอุสวางแผนจำกำจัดเทพน้ำ หลังจากที่เขาไปพบกับลูน่ามาก่อนที่อาเดนจะมาหา
- ถัดมาที่พวกนอคที่กำลังร่องเรือข้ามทะเลไปยังออลทิเช ก็ได้พูดคุยหลายเรื่อง
- แหวนแห่งแสงที่อยู่กับลูน่า ตรงนี้ใน Movies Kingsglaive ได้มีการเฉลยไว้โดยเรจิสได้ฝากให้กับลูน่า เพื่อนำไปมอบให้กับนอค
- เรอุสที่สูญเสียแขนซ้ายไป ตรงนี้ก็มีเฉลยใน Movies Kingsglaive ผู้ที่ไม่ได้รับเลือกจากคริสตัล ไม่สามารถใส่แหวนเพื่อรับพลังมาได้ เรอุสเสียแขนซ้ายไป แต่ก็ได้แขนเทียมขึ้นมา แถมยังมีพลังเหนือมนุษย์ทั่วไปอีก
- เรอุสทำไมถึงได้ขึ้นเป็นนายพล หลังจากที่นายพลกราวก้าตายใน Movies Kingsglaive ทั้งๆที่เรอุสเป็นคนของเทเนบราเอ ไม่รู้ว่าเป้นเพราะมีสายเลือดของคันนากิหรือไม่ ถึงได้รับเลือกให้มาเป็นนายพล
- ซิดได้เล่าถึงการเดินทางครั้งสุดท้ายของซิด ทำให้ต้องแยกทางกับเรกิส ซึ่งเขาก็ไม่ได้พบหน้าเรกิสมานาน ในจุดนี้ Drama CD จะมีพูดถึง แต่ก็ยังติดต่อหากัน
- ซิดนี่ที่สูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็ก เลยต้องมาอยู่กับซิด
- เป้าหมายแรกของการมาออลทิเช คือ การตามหาวิสคัม ในอดีตวิสคัมเป็นเพื่อนของเรกิสเหมือนกับซิดและเครลัส พ่อของกราดิโอ้ ปัจจุบันวิสคัมมาเปิดร้านอาหารชื่อมาโก้อยู่ที่ออลทิเช
- ระหว่างเข้าเมืองออลทิเช จะมีประกาศข่าวขึ้นมาว่า จะมีการปราศรัยเกี่ยวกับการปลุกเทพน้ำขึ้นมาโดยลูน่าเฟรน่า ที่เคยมีข่าวแพร่ออกมาว่าได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว
- พวกนอคได้เข้ามาในเมืองออลทิเชด้วยเหตุผลว่า กำลังทำการวิจัยเกี่ยวกับอาหารและวัตถุดิบ
- ระหว่างที่กำลังตามหาร้านอาหารมาโก้ จะได้ยินประชาชนในเมืองพูดคุยถึงชุดแต่งงานของลูน่าจนเป็นประเด็นทอร์คออฟเดอะทาวเลยก็ว่าได้
- เมื่อมาถึงร้านอาหารมาโก้ ที่วิสคัมเป็นเจ้าของ โดยวิสคัมเคยพบกับนอคมาตั้งแต่เด็กแล้วแต่นอคจำไม่ได้
- นอคจึงถามข่าวคราวกับวิสคัม อคอลด์เมื่อ 150 ปีก่อน ตกเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิ แต่ปัจจุบันนี้ได้รับอนุญาตให้ออลทิเชปกครองตนเองภายใต้จักรวรรดิ
- ส่วนเรื่องข่าวปราศรัยของลูน่า วิสคัมก็ไม่สามารถยืนยันได้ เพราะสื่อต่างๆไม่สามารถทำข่าว ถูกรัฐบาลควบคุมอยู่
- เรื่องของเทพน้ำ สถานการณ์ในท่าเรือยังปกติดี แต่มีข่าวมาว่าจะมีการเปิดวิหารเพื่อทำพิธี
- ซึ่งประชาชนก็หวาดกลัวว่าออลทิเชจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันแบบลูซิสที่ เทพยักษ์ปรากฏตัวขึ้น เนื่องจากจักรวรรดิต้องการจะปกครองโลก การปรากฏตัวของเทพต่างๆจึงเป็นเป้าหมายหลักของจักรวรรดิ (ในอดีตชีว่าก็ถูกจักรวรรดิกำจัดจนเหลือแต่ซาก ตอนไททันตื่น พวกจักรวรรดิถึงเข้าไปโจมตี)
- ระหว่างที่นอคกำลังคุยกับวิสคัม "คาเมเรีย" รัฐมนตรีของอคอลด์ ก็เข้ามาที่ร้าน เธอมาบอกกับนอคว่าตอนนี้รัฐบาลกำลังให้ความคุ้มครองลูน่าอยู่ เพื่อส่งตัวลูน่าให้กับจักรวรรดิ
- คาเมเรียจึงชวนนอคทิสมาต่อรองกับเธอก่อนไหม ในฐานะราชาของลูซิส วิสคัมจึงให้นอคไปพักผ่อน ก่อนที่จะเริ่มการต่อรองในวันพรุ่งนี้
- เช้าวันต่อมานอคได้เข้าไปต่อรองกับคาเมเรีย โดยการต่อรองนี้จะแตกต่งกันไปตามตัวเลือกของแต่ละคน แต่เป้าหมายหลักๆของคาเมเรียก็คืออยากจะให้อคอลด์หลุดจากการเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิ จึงต้องหาคนมาช่วยจัดการ แต่เธอก็คำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของอคอลด์ก่อน
- หลังจากต่อรองเสร็จคาเมเรียจะกังวลเกี่ยวกับนอคทิส เนื่องจากราชาเรกิสก็เสียชีวิต คริสตัลก็ถูกขโมย แม่ของนอคทิสก็ถูกกำจัดไปตั้งไม่รู้กี่ปี่แล้ว ทางจักรวรรดิช่วงหลายสิบปีก็น่าสงสัยขึ้นเรื่อยๆ
- ในช่วงที่ลูน่าทำพิธีกับเทพน้ำ พวกนอคจำเป็นต้องปกป้องการโจมตีของจักรวรรดิที่จะมาขัดขวางพิธี ซึ่งจะให้เป็นหน้าที่ของอิกนิส กราดิโอ้และพรอมโตะเป็นคนอพยพผู้คนหลบหนีก่อน ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างนอคกับคาเมเรีย
- ถัดมาที่คาเมเรียกับลูน่า จากสถานการณ์ของอคอลด์ ไม่ว่ายังไงทางจักรวรรดิก็จะเข้ามาแทรกแซงลูน่าไม่ว่าจะการปราศรัยหรือการทำพิธีกับเทพน้ำ ซึ่งคาเมเรียจะให้ความคุ้มครองตลอดช่วงนี้ จนกระทั่งพิธีการทั้งหมดจบลง เธอไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของลูน่าไว้ได้ โดยทหารของนิฟุลไฮม์ก็เข้ามาควบคุมตัวลูน่า เพื่อพาไปยังสถานที่ปราศรัย
- ลูน่าได้เริ่มต้นการปราศรัยของเธอ ปัจจุบันโลกนี้สูญเสียแสงสว่างไปเรื่อยๆ ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้ โลกก็จะถูกความมืดปกคลุม ความมืดเป็นบ่อเกิดของความโศกเศร้า ความขัดแย้ง ที่เกิดในใจของมนุษย์ เหมือนกับโศกนาฏกรรมที่เกิดกับลูซิส
- จากเหตุการณ์สงบศึกทำให้มีผู้คนเสียชีวิตไปเยอะมาก แต่ทว่าลูน่ายังมีหนทางอยู่ คือ การใช้พลังของเทพคุ้มครอง เธอจึงมาที่ออลทิเชเพื่อทำพิธีเรียกเทพน้ำขึ้นมา
- ปรากฏว่ากองทัพของจักรวรรดิก็เริ่มทยอยเข้ามา พวกนอคจึงเริ่มทำตามแผน โดยให้เพื่อนอีกสามคนไปเริ่มอพยพคน
- ลูน่าทำพิธีเรียกเทพน้ำ "รีไวอาซัน" ขึ้นมา เพื่อขอให้ทำสัญญากับราชาที่ถูกเลือกจากคริสตัล
- ทางด้านนอคจึงรีบไปยังพิธีเพื่อที่จะได้ปกป้องเทพน้ำจากจักรวรรดิ แต่ผลตรงกันข้าม เนื่องจากรีไวอาซันหยิ่งทะนงในความเป็นเทพ ไม่ยอมทำสัญญาง่ายๆ หนำซ้ำยังจะให้ผู้คนเทิดทูนบูชาตัวเอง
- นอคที่ฝ่ากองทัพของจักรวรรดิ ก็ได้พรอมโตะที่ล่วงหน้ามาช่วยพาไปหาเทพน้ำ ด้วยพาหนะของจักรวรรดิ นอคก็ต้องการพลังของเทพน้ำ โดยต้องแสดงพลังของตัวเองให้เทพน้ำยอมรับด้วยการต่อสู้กับเทพน้ำ
- ทางฝั่งลูน่าก็ได้พบกับอาเดน โดยอาเดนสั่งให้ลูน่ามอบแหวนแห่งแสงให้กับเขา แต่ลูน่าไม่ยอมมอบให้จึงถูกอาเดนเอามีดแทงเข้าที่ตัวเธอ นอคที่สะบักสะบอมกับการต่อสู้กับเทพน้ำก็เห็นเข้า แต่ไม่สามารถไปช่วยได้
- ลูน่าจึงใช้พลังคันนากิของเธอกับอาเดน โดยบทพูดคือ "ขอให้ผู้ที่ได้รับความมืด จงไปสู่สุคติ" แต่กลับเจออาเดนตบแล้วพูดประโยคใกล้เคียงย้อนใส่
- ลูน่าจึงใช้พลังสุดท้ายของตัวเองเพื่อช่วยเหลือนอค โดยการเรียกพลังของราชารุ่นก่อนๆที่นอคเคยได้รับมาจากสุสานราชา เพื่อใช้สู้กับรีไวอาซัน จนกระทั่งนอคหมดสติแล้วไททันเข้ามาช่วย
- ภายในโลกแห่งความฝันของนอค นอคได้พบกับลูน่า โดยลูน่ามาบอกลานอค เนื่องจากเธอทำหน้าที่ของเธอในฐานะที่เป็นคันนากิเสร็จสิ้นแล้ว นั่นก็คือการมอบแหวนให้กับนอค โดยลูน่าขอให้นอคไปเยี่ยมสวนดอกไม้ที่เทเนบราเอของเธอหลังจากที่ไปเจอกับเพื่อนๆคนอื่น
- เมื่อตื่นขึ้นมา นอคได้รับแหวนมาจากลูน่า และพบกับอิกนิสที่สูญเสียการมองเห็นจากเหตุการณ์อพยพผู้คนในเมืองออลทิเช ส่วนลูน่าได้รับการยืนยันแล้วว่าเสียชีวิต
******************************************************
บทที่ 10 ผู้ที่สมควรเป็นราชา
พวกนอคทิสได้เดินทางข้ามแผ่นดินเพื่อไปยังเมืองหลวงของนิฟุลไฮม์ด้วยรถไฟ และแสวงหาพลังมากขึ้น ถ้าหากนำคริสตัลกลับคืนมา ก็จะสามารถฟื้นฟูบ้านเกิดได้อีกครั้ง แต่ทว่านอคทิสที่รู้สึกยาที่จะทำใจกับเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้เขายังไม่ได้สวมแหวน
- พวกนอคได้เดินทางมายังแผ่นดินที่ตั้งของจักรวรรดินิฟุลไฮม์กับเทเนบราเอ โดยนอคอยากจะแวะกลางทางไปยังเทเนบราเอ บ้านเกิดของลูน่า ซึ่งต้องแวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีคัลตานาติก้าก่อน
- แต่กราดิโอ้ไม่เห็นด้วย และขอให้นอคคิดทบทวนใหม่ คนที่ลำบากตอนนี้ไม่ใช่มีแค่นอค แต่ยังมีอิกนิสที่ต้องสูญเสียสัมผัสการมองเห็นไป แล้วแหวนที่แลกมาด้วยชีวิต ก็ไม่ยอมใส่ จะเก็บเอาไว้ดูอย่างเดียวหรือไง จนสุดท้ายทั้งสองคนก็ทะเลาะกัน จนรถไฟแล่นถึงสถานี
- ภายในรถไฟขบวนนี้จะมีข่าวลงไว้ว่า
การเสียชีวิตของคันนากิ ท่านลูน่าเฟรน่า
ในขณะที่ท่านลูน่าเฟรน่ากำลังทำพิธีอัญเชิญเทพน้ำ ท่านได้ถูกปืนใหญ่ของกองทัพจักรวรรดิยิงใส่จนจมน้ำเสียชีวิตลง
ส่วนทางด้านเจ้าชายนอคทิสแห่งลูซิสที่เข้าร่วมพิธีเช่นเดียวกัน ได้นอนหมดสติมาเป็นเวลานาน จนกระทั่งปาฏิหารย์เกิดขึ้น ปัจจุบันเจ้าชายนอคทิสกำลังอยู่ในช่วงรักษาตัว
- และในรถไฟขบวนเดียวกันจะมีการประกาศข่าวทางวิทยุของรัฐมนตรีคาเมเรียของประเทศอคอลด์ เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความพิโรธของเทพน้ำ โดยเธอได้บอกว่ารัฐบาลอคอลด์รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ท่านชายนอคทิสปลอดภัย
- ถึงแม้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะมากก็ตาม การจะฟื้นฟูตัวเมืองต้องใช้เวลา แต่ความเสียหายไม่ได้มากไปกว่านี้ เป็นเพราะบุญคุณของท่านนอคทิสและท่านลูน่าเฟรน่า บุยคุณนี้เธอจะไม่มีวันลืม
- เมื่อลงมาสถานีคัลตานาติก้า พรอมโตะจะบอกบริเวณข้างล่างของสถานีจะมีเหมืองแร่อยู่ จากข้อมูลของนายพลโคล ด้านในสุดของเหมืองแร่จะมีสุสานราชาซ่อนอยู่
- เหมืองแร่เคสติโน่ แต่แรกเดิมทีเคยเป็นเหมืองแร่ที่อุดมไปด้วยทรัพยากร จนกระทั่งกลาเยป็นเหมืองแร่ร้างและในที่สุดกลายเป็นรังของสัตว์ป่า
- ซึ่งด้านในสุดของเหมืองแร่จะพบกับสุสานราชาที่มีไข่ของโมลบอลปิดบังประตูทางเข้า หลังจากที่นอคกำจัดโมลบอลด้วยความช่วยเหลือของอิกนิส ก็ทำให้เขาได้รับพลังของราชวงศ์มาอีกหนึ่ง
- แต่อิกนิสก็ได้เอ่ยปากถามทุกคน เนื่องจากเขาไม่สามารถมองเห็นได้อีกแล้ว แต่เขาก็อยากจะเดินทางไปกับทุกคนต่อ แต่กราดิโอ้ไม่เห็นด้วย เพราะมันมีชีวิตเป็นเดิมพันอยู่ จึงไม่อยากให้อิกนิสมาเสี่ยง
- แต่พรอมโตะเสนอว่า ให้อิกนิสเป็นคนตัดสินใจเอง ซึ่งอิกนิสก็อยากไปกับทุกคน จะไม่พูดหว่านล้อมใดๆ ถ้าเขาไม่สามารถตามทุกคนไปได้ ถึงตอนนั้นเขาจะเป็นคนตัดใจเอง
- อิกนิสได้สอนนอคอีกอย่างว่า ราชาจะไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ต่อให้มีการเสียสละยังไงก็ตาม มีแต่ต้องเดินหน้าต่อไปเท่านั้น สิ่งสำคัญสำหรับนอคตอนนี้ก็คือเวลาในการเตรียมใจ
- กราดิโอ้จึงยอมรับคำขอของอิกนิส แต่เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว เขาไม่รู้ไม่ชี้ด้วยนะ
- เมื่อกลับมายังสถานี นอคจึงถามกับทุกคนว่า เขาอยากจะแวะไที่เทเนบราเอได้ไหม ซึ่งทุกคนก็ยินยอม โดยทุกคนย้ำกับอิกนิสว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้รีบบอกนะ
- แต่โชคร้ายที่รถไฟขบวนนี้ อาเดนก็ตามขึ้นไปด้วย
******************************************************
บทที่ 11 กับดัก
จากการตัดสินใจของอิกนิส แม้ว่าจะเป็นอันตรายก็ตามแต่บรรยากาศในกลุ่มก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง 4 คนได้เปลี่ยนรถไฟคันใหม่ เพื่อไปยังบ้านเกิดของลูน่าเฟรน่าที่เทเนบราเอ
- พวกนอคเดินทางไปยังเทเนบราเอ อิกนิสได้พูดคุยถึงเหตุการณ์ที่ออลทิเช ในช่วงที่จักรวรรดิกำลังถอยทัพอยู่ มียานขนส่งลำหนึ่งลงจอด ยานลำนั้นคือยานของอาเดน หลังจากที่อิกนิสโดนโจมตีเข้าที่ตา สิ่งสุดท้ายที่อิกนิสมองเห็นคือ อาเดนกำลังเดินไปที่วิหาร หลังจากนั้นเขาก็หมดสติลงไป เขาขอโทษที่ช่วยสะกัดไว้ไม่ได้
- นอคก็ไม่ได้ว่าอะไร ดีแล้วที่อิกนิสรอดมาได้ แล้วกราดิโอ้ก็เดินกลับมาหา โดยอิกนิสได้ไหว้วานกราดิโอ้ให้ช่วยตามหาคน เพราะเขามีเรื่องสงสัยอยู่
- ในตอนนี้ ช่วงเวลากลางคืนมันยาวนานกว่าเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้ถ้ายังมีอีกเรื่อยๆ จะทำให้ในวันนึงมีแต่ช่วงเวลากลางคืน แถมชิไคก็จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น
- กราดิโอ้จึงพาอิกนิสไปหาคนที่กำลังตามหาอยู่ ส่วนนอคก็นั่งรออยู่ในที่นั่งของตัวเองจนพรอมโตะเข้ามาหาขณะที่กำลังชมทิวทัศน์นอกรถไฟ ที่เกิดความผิดปกติขึ้น
- ทันใดนั้นเวลาในรถไฟก็หยุดนิ่ง แล้วอาเดนก็ปรากฏตัวขึ้นมา นอคไม่รอช้าวิ่งเข้าโจมตีใส่อาเดนทันทีจนอาเดนบอกใจเย็นๆก่อน แต่นอคก็ไม่สนวิ่งไล่ตามอาเดนจนจนมุม
- จนกระทั่งรถไฟที่นั่งก็ถูกกองทัพจีกรวรรดิโจมตี เมื่อนอครู้สึกตัวอีกทีพรอมโตะก็มาปลุกนอคขึ้นมา นอคถามหาอาเดนแต่พรอมโตะก็ไม่เห็นว่ามีคนอื่นอยู่ที่นี่นอกจากนอค แปลว่าการที่รถไฟหยุดวิ่ง ก็เป็นเพราะอาเดนแน่ๆ
- โดยตอนนี้พวกกราดิโอ้กำลังไปหาสาเหตุที่ห้องเครื่องยนต์ ส่วนพรอมโตะกับนอคจะไปสำรวจสถานการณ์ที่ท้ายขบวน ซึ่งทหารมาโดกำลังโจมตีเข้าที่รถไฟ พวกนอคจึงสะกัดกองทัพทหารมาโดจนรถไฟวิ่งได้อีกครั้ง
- แต่กองทัพทางอากาศของจักรวรรดิก็บุกมาเรื่อยๆ จนนอคต้องกำจัดทั้งหมดลง
- แต่เมื่อกลับมาที่รถไฟจะพบกับอาเดนเอาปืนจ่อพรอมโตะอยู่ นอคจึงเข้าโจมตีใส่อาเดนจนพลัดตกรถไฟ แต่คนที่ตกรถไฟจริงๆกลับไม่ใช่อาเดน แต่เป็นพรอมโตะ
- อาเดนจึงถามกับนอคว่า รู้ไหมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ย เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน (หมายถึงอาเดนสลับตัวกับพรอมโตะ)
******************************************************
บทที่ 12 โลกที่บิดเบือน
ในช่วงเวลาเพียงชั่วครู่ที่เวลาภายในรถไฟหยุดนิ่ง อาเดนได้สลับตัวกับพรอมโตะ แต่ทว่า หลังจากที่นอคทิสตื่นขึ้นมา เพื่อที่จะทำหน้าที่ของราชาให้สำเร็จ เขาจึงต้องเดินไปยังข้างหน้าต่อไป
- หลังจากที่นอคได้สติขึ้นมา จึงติดต่อหาอิกนิสเพื่อที่จะหยุดรถไฟไปตามหาพรอมโตะ แต่อิกนิสบอกนอคให้ใจเย็นๆ การจะหยุดรถไฟในตอนนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะอาจถูกลอบโจมตีได้อีก อีกไม่นานก็จะถึงเทเนบราเอแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นจะให้ผู้โดยสารคนอื่นลงจากรถ
- ส่วนเรื่องของอาเดนมีความเป็นไปได้ว่าจะพาตัวพรอมโตะไปด้วย ตอนนี้อิกนิสจึงขอให้นอคมารวมกลุ่มกับเขาและกราดิโอ้
- ระหว่างเข้าอุโมงสัญญาณโทรศัพท์จะขาด แถมภายในอุโมงยังเต็มไปด้วยชิไค แต่นอคก็ได้รับความช่วยเหลือจากเทพน้ำ รีไวอาซัน จนเดินทางมาถึงเทเนบราเอ
- เมื่อมาถึงสถานี นอคได้พบกับอะราเนียอีกครั้ง เธอจะนำทางนอคไปยังวิหาร ซึ่งการโจมตีต่างๆของจักรวรรดิ อะราเนียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะเมื่อวานเธอเพิ่งจะลาออกจากกองทัพ แต่แรกเดิมทีเธอเป็นทหารรับจ้าง และตอนนี้เธอนำกองกำลังของเธอมาช่วยเหลือผู้คน
- อิกนิสเลยขอความช่วยเหลือจากอะราเนีย ให้ช่วยนำผู้โดยสารคนอื่นลงจากขบวนรถไฟ อะราเนียเลยเสนอคนขับรถไฟไปยังเมืองหลวงของจักรวรรดิให้กับพวกนอค 2 คนนั้นก็คือ "บิ๊กกับเวจ" พวกนอคเคยพบมาก่อนตอนไปสังเกตุการณ์ในโบราณสถาน
- นอคจึงไปพูดคุยกับบิ๊กและเวจ โดยทั้งสองคนก็ยินดีที่จะขับรถไฟไปยังเมืองหลวงของจักรวรรดิให้ ซึ่งระหว่างทางจะผ่านเทือกเขาหิมะที่เป็นซากของเทพน้ำแข็งชีว่า โดยก่อนจะเดินทางบิ๊กและเวจ ได้ชักชวนให้นอคไปคุยกับคนของวิหารซึ่งอยู่บริเวณใกล้ๆนี้ เธอเคยเป็นข้ารับใช้ของตระกูลฟรูเร่มาก่อน มีเรื่องอยากจะคุยกับนอคให้ได้ ส่วนบิ๊กกับเวจก็ไปเตรียมรถไฟไว้ให้ก่อน
- อะราเนียก็บอกว่าหมู่นี้มีแต่เรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้น นายพลเรอุสได้รับการลงโทษ จักรพรรดิก็เกิดอาการป่วย ส่วนรัฐมนตรีอาเดนก็ทำอะไรตามใจชอบ
- ผู้ดูแลหลายๆคนก็หายตัวไปบ้าง ตายไปแล้วบ้าง เลวร้ายที่สุดก็ล่มสลายไปกับงานวิจัยชิไค เพราะยังมีทหารมาโดที่ยังไม่ได้รับคำสั่ง ชิไคที่ถูกจับมาแล้วถูกปล่อยปะละเลย ซึ่งตอนนี้เมืองหลวงของจักรวรรดิเต็มไปด้วยชิไคแล้ว
- ทหารมาโดถึงจะเหมือนๆเดิมแต่ชิไคก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น แถมช่วงเวลากลางวันที่น้อยลง ชิไคจะออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ
- ส่วนคริสตัลที่ถูกขโมยไป ก็ถูกกักไว้ในส่วนลึกด้านในของฐานทัพอย่างแน่นหนา เพราะเคยมีเรื่องเล่าความเชื่อว่า คริสตัลจะทำให้ความเป็นอยู่ของผู้คนและเมืองดีขึ้น
- นอคจึงไปหา "มาเรีย" ข้ารับใช้ตระกูลฟรูเร่ ซึ่งเคยพบกับนอคมาก่อนสมัยที่มายังเทเนบราเอเมื่อ 12 ปีก่อน แต่นอคจำไม่ได้แล้ว
- มาเรียมีเรื่องที่ต้องบอกกับนอคให้ได้ เธอได้ถามนอคว่าได้รับแหวนมาจากลูน่าหรือยัง นอคจึงตอบกับมาเรียว่าได้รับแล้ว มาเรียจึงดีใจมากและขอให้นอคช่วยไปกล่าวขอบคุณเรอุสด้วย
- เหตุการณ์ย้อนไปที่ออลทิเช ช่วงเวลาที่เรอุสได้พบกับลูน่า ลูน่าได้ขอให้เรอุสช่วยมอบแหวนแห่งแสงให้กับนอคแทนเธอ เนื่องจากร่างกายของเธอเริ่มจะขยับไม่ได้ตามใจแล้ว
- เรอุสได้ปฏิเสธและขอให้ลูน่าเป็นคนมอบให้ด้วยตัวเอง
- การมอบแหวน เป็นการทำให้ราชาตระหนักถึงหน้าที่ของตัวเอง เป็นหน้าที่ของลูน่า เธอจะเป็นอะไรไปก่อนไมได้เด็ดขาด เรอุสเลยให้กำลังใจลูน่าให้เธอทำหน้าที่ของตัวเองให้สำเร็จ ในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง จงไปพบกับนอคทิสเพื่อบอกความรู้สึกและการเตรียมตัวเตรียมใจของเธอ
- มาเรียยังได้บอกอีกว่าตอนนี้เรอุสตั้งใจจะมอบดาบของเรกิสให้กับนอค ถึงการจะพบเจอกันอีกครั้งจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากก็ตาม นอคก็ได้ให้สัญญาไว้
- ก่อนจากลา มาเรียได้บอกอีกเรื่องหนึ่งว่า ไพรน่า สุนับสีขาวของลูน่า ได้ตายไปแล้วจากเหตุการณ์ในเมืองออลทิเช
- ระหว่างเดินทางไปที่รถไฟ อะราเนียจะมาเน้นย้ำกับนอคว่า คริสตัลถูกกักเก็บไว้เป็นอย่างดี ขนาดจักรพรรดิยังเข้าใกล้ได้ยาก แถมมีข่าวลือจากนักวิจัย ถึงความสัมพันธ์ระหว่างคริสตัลกับชิไค
- แต่แรกเดิมทีราชาจะปกป้องดูแลคริสตัล แต่พอจักรวรรดิเอามาก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ มันสมควรที่จะกลับไปหาผู้ที่เหมาะสมมากกว่า
- พอใกล้จะถึงรถไฟก็มีเด็กผู้หญิงมาถามนอคว่า ไม่ชอบลูน่าเหรอ ทั้งๆที่ลูน่าดีใจมากตอนที่ชุดแต่งงานของเธอมาส่ง
- ภาพก็ตัดไปในอดีตตอนที่ลูน่าคุยกับเกนเทียน่าในเทเนบราเอ เรื่องที่ว่าราชาเรกิสกังวลเกี่ยวกับโชคชะตาของนอคทิสที่ได้รับเลือกจาคริสตัล แต่แล้วความกังวลก็หมดไป ทั้งเรกิสและนอคที่เพิ่งฟื้นขึ้นมา เป็นเพราะลูน่ามีสิ่งสำคัญบางอย่างอยู่กับตัว ไม่ใช่ในฐานะของคันนากิ
- ลูน่าบอกกับเกนเทียน่าว่าเธอไม่มีพลังพิเศษอะไรหรอก แต่ตอนที่พูดถึงเรื่องการหมั้น เธอรู้สึกดีใจมาก เพราะเธอจะได้พบกับนอคอีกครั้ง แม้จะได้พูดคุยแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม เธอก็รู้สึกดีใจ เธอจะใช้พลังทุกสิ่งที่เธอมีในการช่วยเหลือนอคทิส
- เมื่อเตรียมการทั้งหมดพร้อมแล้วจึงเริ่มออกเดินทาง อะราเนียก็เดินมาส่งบอกเธอจะดูแลประชาชนให้เอง ขอให้พวกนอคระวังตัวไว้ด้วยเมื่อเข้าเมืองหลวงของจักรวรรดิ ทันใดนั้นหิมะก็เริ่มตก
- ตอนนี้รถไฟของพวกนอคกำลังแล่นผ่านช่องแคบโกรบุส เป็นช่องแคบที่มีอุณหภูมิหนาวอย่างมาก และเป็นสถานที่ที่ตั้งของซากเทพน้ำแข็งชีว่าอีกด้วย ซึ่งพื้นที่ยุเซโร่จะมีทั้งทะเลทรายและทุ่งหิมะ ซึ่งส่วนที่เป็นหิมะก็ได้รับอิทธิพลมาจากซากของเทพน้ำแข็งนั่นเอง
- ภายในรถไฟจะพบกับข่าว การล่มสลายของนิฟุลไฮม์อีกด้วย โดยเนื้อข่าวจะพูดถึงความล้มเหลวของจักรวรรดิที่เกิดขึ้นที่เมืองออลทิเชเป็นสิ่งที่ทำให้จักรวรรดิกำลังไปสู่การล่มสลาย ถึงแม้ว่านายพลเรอุสจะได้รับโทษก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีการประกาศผู้ที่จะมารับตำแหน่งนายพลแทน
- จากคำบอกเล่าของศูนย์วิจัยฮอลเฮคส์ที่ดูแลความเรียบร้อยของชาวเวสเทีย ตอนนี้ทหารมาโดที่ปราศจากการควบคุมกำลังไล่ทำร้ายมนุษย์ที่กำลังหลบหนีอยู่ นี่คงจะเป็นผลตอบแทนของการที่มนุษย์หันหลังให้กับเหล่าเทพก็ได้
- ขณะที่รถไฟวิ่งอยู่ น้ำแข็งก็เข้าเกาะที่ตัวรถไฟจนหยุดแล่น ซึ่งสถานที่ที่รถไฟจอดอยู่ก็คือบริเวณซากของเทพน้ำแข็ง แล้วพวกชิไคก็โผล่ออกมา เมื่อกำจัดเสร็จภายในรถไฟเกิดความผิดปกติขึ้น กราดิโอ้จึงเรียกให้นอครีบกลับไปในรถไฟ
- แต่นอคกลับเห็นอาเดนอยู่ในรถไฟขบวนนี้ด้วย
- ภายในรถไฟเต็มไปด้วยพายุหิมะและน้ำแข็ง โดยมีอาเดนยืนอยู่ท่ามกลางกราดิโอ้และอิกนิสที่ล้มนอนอยู่
- ทันใดนั้นเกนเทียน่าก็เดินเข้ามาหา แล้วทำการแช่แข็งอาเดนไว้
- โดยเกนเทียน่าเข้ามาจะทำสัญญาที่เคยให้ไว้กับลูน่า ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเกนเทียน่าคือ 1 ใน 6 เทพ เทพน้ำแข็งชีว่านั่นเอง
- เมื่อนอคทำสัญญากับชีว่า จะปรากฏภาพในอดีตขึ้นมา เป็นช่วงเวลาที่เทเนบราเอ เรอุสสั่งให้ลูน่าตัดใจ เนื่องจากนอคไม่สามารถเป็นราชาได้ แต่ลูน่าก็ไม่ยอม เพราะเป็นหนทางเดียวเท่านั้น แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของลูน่าก็ตาม แต่ลึกๆก็หวังว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนที่เธอได้พูดคุย, หัวเราะและได้กุมมือของนอค
- หลังจากทำสัญญากับชีว่า นอคก็ได้รับอาวุธของราชา หอกของคันนากิมา นอคจึงใช้หอกเล่มนี้ฆ่าอาเดนที่ถูกแช่แข็งแล้วปลุกเพื่อนๆขึ้นมา แล้วบอกว่าเทพน้ำแข็งมาที่นี่
- นอคจึงขอให้พวกกราดิโอ้ไปสำรวจจุดอื่นๆในรถไฟ จนนอคได้เห็นภาพหลอนของลูน่าขึ้นมา นอคจึงรู้สึกผิดที่ไม่ได้ถามอะไรถึงลูน่าบ้างเลย
- เมื่อนอคออกสำรวจขบวนรถไฟก็พบกับอาเดนที่ยังไม่ได้ตาย เขายังบอกว่าไม่ได้เจ็บปางตายแบบนี้มานาน สมแล้วที่เป็นพลังของเทพ แต่เขานะแข็งแกร่ง แม้จะอยากตาย ก็ไม่อาจจะตายได้
- อาเดนจึงโชว์ปืนกระบอกนึงให้นอคดู แล้วถามว่าปืนนี่ของใครกันนะ จำได้ไหมเอ่ย
- อาเดนจึงบอกกับนอคว่าตอนนี้ พรอมโตะอยู่ที่เมืองกราแร เมืองหลวงของจักรวรรดิ ถ้าไปที่นั่นก็อาจจะได้พบก็ได้ แถมคริสตัลของลูซิสก็อยู่ด้วย ซึ่งคริสตัลมีพลังที่ใช้ในการกำจัดชิไค
******************************************************
บทที่ 13 แย่งชิงกลับคืนมา
อาเดนที่แย่งชิงสิ่งต่างๆมามากมายจากนอคทิส บ้านเกิด คริสตัล บุคคลที่ไม่สามารถจะหาสิ่งอื่นมาแทนที่ได้ หลังจากนี้ ที่เมืองหลวงกราแรกำลังรอต้อนรับความโกรธแค้นต่างๆอยู่
- รถไฟใกล้จะไปถึงเมืองหลวงกราแรแล้ว ซึ่งตอนนี้ภายในเมืองเต็มไปด้วยชิไค โดยเป้าหมายหลักของพวกนอคคือการบุกเข้าไปยังฐานทัพ "จิกนาทัส" ซึ่งเป็นฐานบัญชาการใหญ่ของจักรวรรดิ ซึ่งพรอมโตะกับคริสตัลอยู่ที่นั่น
- พวกกราดิโอ้ก็เพิ่งจะเคยได้ยินว่าคริสตัลมีพลังที่ใช้ในการกำจัดชิไค การจะแย่งชิงคริสตัลกลับคืนมา ไม่เพียงแค่ทำเพื่อลูซิส แต่เป็นการทำเพื่อช่วยเหลือโลกอีกด้วย
- ทันใดนั้นรถไฟก็หยุดวิ่ง เนื่องจากระบบป้องกันตัวเองทำงาน เพราะพวกชิไคได้บุกเข้าโจมตีขบวนรถไฟ บิ๊กกับเวจจึงรีบหนีออกจากรถไฟ ส่วนพวกนอคไม่สามารถอัญเชิญอาวุธขึ้นมาได้เพราะสาเหตุบางอย่างจากอาเดน
- พวกนอคจึงรีบหนีไปขบวนรถไฟท้ายสุด เพื่อนำเรากาเรียมาใช้หลบหนี จนสามารถฝ่ากำแพงป้องกันตัวเองทั้ง 4 จุด โดยมีกองทัพจักรวรรดิไล่โจมตีอยู่ตลอด
- ท้ายที่สุดเรากาเรียก็ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว พวกนอคจึงกล่าวขอบคุณเรกิสที่ให้เขาใช้เรกาเรียมาจนถึงตอนนี้
- พวกนอคจึงต้องบุกเข้าฐานปราศจากอาวุธ และนอคยังต้องพลัดกับอิกนิสและกราดิโอ้ โดยตั้งแต่นี้เราจะได้ยินเสียงของอาเดนพูดผ่านวิทยุมาเรื่อยๆ
- ในที่สุดนอคก็ยอมที่จะใส่แหวนแห่งแสง ซึ่งแหวนนี้ทำให้นอคสามารถใช้เวทเดธกับโฮลี่ได้ หลังจากใส่แหวนแล้วนอคก็ฝ่าตัวเมืองเข้ามาถึงฐานทัพจิกนาทัสได้
- ภายในห้องพักทหารจะมีประกาศทางวิทยุ พูดคุยถึงสถาบันวิจัยชิไคว่าหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีวี่แววของผู้คนเลย แถมชิไคที่จัดเตรียมไว้ภายในก็ได้เล้ดลอดหนีออกมา การติดต่อจากภายในก็ถูกตัดขาด ผลกระทบที่ตามมาทำให้รถไฟของจักรวรรดิแต่ละประเภท รวมไปถึงขบวนรถไฟภายในอคอลด์ต้องหยุดการให้บริการเช่นกัน
- ระหว่างทางนอคจะพบวี่แววของอาเดนกับพรอมโตะอยู่เป็นระยะ แถมยังโดนลุกเล่นบางอย่างของอาเดนพรางตาให้นอคเห็นพรอมโตะเป็นซากทหารมาโดอีกด้วย
- นอคจะได้พบกับศพของเรอุสและดาบของเรกิสตามที่มาเรีย ข้ารับใช้ตระกูลฟรูเร่บอก
- แล้วนอคก็ได้พบกับชิไคตัวหนึ่งที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้เรื่อยๆ จนนอคต้องรีบหนีออกมาก่อน
- อาเดนได้บอกกับนอคถึงเรื่องราวของจักรวรรดิให้ฟัง การทดลองชิไคของจักรวรรดิดำเนินการไปได้ราบรื่นเพราะเขา ในอดีตที่ฐานทัพจิกนาทัส ก็เป็นสถานที่ที่สร้างชิไคขึ้นมา แต่แรกเดิมทีชิไคก็คือ มนุษย์ สัตว์ สิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ
- ส่วนทหารมาโดก็สร้างขึ้นมาจากการเสียสละชีวิตของเด็ก โดยเด็กทารกจะได้รับการควบคุมดูแล และตีตราบาร์โค้ดไว้บนแขน
- ทีนี้ในฐานทัพจะมีบันทึกต่างๆ ดังนี้
1. วิธีการรับมือสภาวะไม่ทนต่อแสงของทหารมาโด
- ปัญหาการใช้อาวุธชีวภาพเป็นๆ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพลาสโมเดี่ยมที่ใช้งาน
- ร่างต้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะมีสภาวะที่ไม่มั่นคงเมื่อได้รับแสง และในช่วงเวลาสั้นๆร่างต้นก็จะเกิดการเสื่อมโทรมลง
- การเปลี่ยนแปลงของอนุภาคที่ไม่มีผลเสียนั้นจะไม่ส่งผลต่อร่างต้นที่เสื่อมลง การจะคงสภาพการใช้งานด้านการรบ จำเป็นต้องพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้ในการปิดกั้นแสงโดยด่วนที่สุด
รู้ไหมครับพลาสโมเดี่ยวคืออะไร มันคือ ปรสิตชนิดหนึ่ง ที่ต้องอาศัยโฮสในการมีชีวิตอยู่ ซึ่งหลักๆก็คือโฮสที่มีกระดูกสันหลัง อย่างโรคมาลาเรียก็เกิดจากปรสิตจำพวกนี้
2. รายงานบันทึกการติดเชื้อที่พบในเขตตอนเหนือ
- รายงานการแพร่ระบาดในพื้นที่ 5 เขต ที่ได้ปิดกันไว้ ปัจจุบันได้รับการยืนยันแล้วถึงปริมาณชิไคที่มากขึ้นในพื้นที่
- มีความเป็นไปได้ว่าการปรากฏตัวของชิไคจะเป็นสาเหตุต้นตอของการแพร่ระบาดของเชื้อ ซึ่งชิไคกำลังแพร่ขยายไปยังทั่วทุกพื้นที่
3. รายงานความที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายของสถาบันวิจัยมาโด
- จากการตรวจพบชิไคจำนวนมากในเขตตะวันตกและเหนือ สถาบันวิจัยได้รับความเสียหายส่วนหนึ่ง ระบบควบคุมทหารมาโดก็สูญเสียการทำงาน
- ทหารมาโดที่ไม่ได้รับการลงโปรแกรมก็กระทำการต่างๆอย่างไร้จุดหมาย ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาการเก็บกู้
- การทดลองรักษาผู้ติดเชื้อ 125 คน ในสถาบันวิจัย ก็สูญหายอย่างไร้ร่องรอย จนมีคนตั้งข้อสงสัยว่าคล้ายคลึงกับการหายตัวไปของคนในหมู่บ้าน
4. วันที่ 16 เดือน 5
- หลังการติดเชื้อ ร่างกายไม่ได้หายไปไหน แต่กลายเป็นชิไคขึ้นมา
- ถึงมนุษย์เหมือนกัน กลายเป็นชิไคขึ้นมา ก็แตกต่างกับทหารมาโดที่ถูกควบคุมไว้อยู่ เพราะไม่สามารถควบคุมไว้ได้
5. วันที่ 28 เดือน 6
- มนุษย์ภายในฐานกว่าครึ่งได้กลายเป็นชิไคไปแล้ว ทหารมาโดที่ไม่ได้รับคำสั่งจากมนุษย์ แทบจะหมดหนทางในการกำจัด
- ในที่สุดประชาชนในเมืองก็ค่อยๆกลายเป็นชิไค
6. รายงานที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์คลื่นไฟฟ้ารบกวนที่ส่งผลต่อภายในประเทศลูซิส
- มีการทดสอบอุปกรณ์คลื่นไฟฟ้ารบกวนต่อกำแพงเวทมนต์ จากการเก็บข้อมูลการต่อสู้กับหน่วยรบพิเศษของลูซิส "ดาบของราชา Kingsglaive" เป็นรูปแบบกระบวนการเดียวกัน
- ความสามารถในการเคลื่อนย้ายของหน่วยรบพิเศษกับเวทมนต์จึงถูกอุปกรณ์คลื่นไฟฟ้ารบกวนควบคุมด้วยเช่นกัน
- จนกระทั่งนอคได้กราดิโอ้กับอิกนิสช่วย และตามหาพรอมโตะที่ถูกจับไว้อยู่จนเจอ
- นอคเลยไปตามหาอุปกรณ์ที่ปิดผนึกพลังของเขาจนพบ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากต้องการรหัสยืนยัน
- ซึ่งพรอมโตะเป็นคนเปิดประตูให้ด้วยหลักการเดียวกันกับทหารมาโด ที่ข้อมือขวาของพรอมโตะมีรหัสบาร์โค้ดอยู่ (จากตรงนี้ Brotherhood กับตัวเกมหลัก จะเห็นว่าพรอมโตะสวมปลอกข้อมือ ถุงมือ บังเอาไว้ตลอด) ซึ่งตรงตามที่อาเดนได้บอกกับนอคเมื่อมาที่ฐานแห่งนี้
- จึงได้ทราบว่าแท้ที่จริงแล้วพรอมโตะเป็นชาวนิฟุลไฮม์และเกิดที่ฐานทัพแห่งนี้ โดยนอคก็ไม่ได้ว่าอะไร จะเกิดที่ไหนก็ไม่สำคัญ
- เมื่อเข้าไปในห้องดังกล่าวจะพบกับบัลลังภ์ของอิโดร่าที่มีแต่ชุดของเขาและอุปกรณ์ที่ปิดผนึกพลัง เมื่อทำลายแล้วนอคจึงกลับมาใช้พลังของราชวงศ์ได้อีกครั้ง
- ระหว่างตามหาคริสตัล จะพบกับชิไคที่นอคเคยหนีออกมาก่อน เมื่อกำจัดชิไคตัวนั้นเสร็จ จึงรู้ว่าชิไคตัวนั้นคือจักรพรรดิอิโดร่า จากตรงนี้จะพอทราบถึงเจตนาของอิโดร่า คือ อิโดร่าต้องการให้จักรวรรดินิฟุลไฮม์ปกครองโลก แล้วให้คริสตัลนำความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศของตัวเอง เพื่อที่ตัวเองจะได้กลายเป็นราชา (หวังจะให้นิฟุลไฮม์กลับมารุ่งเรืองเหมือนสมัยเป็นโซลไฮม์)
- ภายในส่วนลึกของฐาน ใกล้ที่กักเก็บคริสตัล จะพบกับเรอุสที่กลายเป็นชิไคไปแล้ว เนื่องจากแขนซ้ายของเรอุสที่เป็นเครื่องจักร ใช้วิทยาการเดียวกันกับทหารมาโด ซึ่งมีชิไคเป็นองค์ประกอบ เรอุสจึงขอให้นอคฆ่าเขา
- ทันใดนั้นประตูทางไปโกดังเก็บของจะปิดตัวลง พวกอิกนิสจึงให้นอคล่วงหน้าไปก่อนคนเดียว โดยมีอาเดนพูดถากถางว่า สมกับเป็นราชาจริงๆ เลือกที่จะเหยียบย่ำพวกพ้องของตัวเอง เพื่อทำหน้าที่ให้สำเร็จ
- จนกระทั่งนอคได้พบกับคริสตัลที่ถูกซ่อนอยู่ด้านใน นอคจึงขอยืมพลังจากคริสตัล แต่มันเป็นการกระทำที่ผิด นอคกำลังถูกดูดเข้าไปข้างในคริสตัล แล้วอาเดนก็เข้ามา
- อาเดนจึงเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง ในอดีตมีโรคระบาดเกิดขึ้น โดยสาเหตุเกิดจากปรสิต ผู้ที่ติดโรคนี้จะกลายเป็นปีศาจแล้วจะถูกฆ่า ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น มีชายคนหนึ่งจากตระกูลลูซิส ได้รับเอาโรคต่างๆทั้งหมดไว้ที่ตัวเอง เพื่อที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยทุกคน แต่ชายคนนั้นก็ถูกราชาที่ยังไม่ได้รับเลือกจากคริสตัลฆ่า ทั้งๆที่ชายคนนั้นเป็นคนที่ช่วยเหลือผู้คนแต่ก็ต้องถูกฆ่าเพราะกลายเป็นปีศาจ
- คนๆนั้นก็คืออาเดน "อาเดน ลูซิส เชลัม" คือชื่ออย่างเป็นทางการ ส่วนนามสกุลอิสเนียเป็นของใคร ไม่มีการกล่าวถึง อาเดนจึงหลอกล่อให้นอครับหลังจากคริสตัล เพื่อจะได้เป็นราชาที่แท้จริง เพราะการกำจัดคริสตัล และพลังต่างๆของราชาให้หมดไป คือความปรารถนาของอาเดน
- แล้วนอคก็ถูกดึงเข้าไปข้างในคริสตัล โดยพวกกราดิโอ้มาช่วยไว้ไม่ทัน ถึงกราดิโอ้กับพรอมโตะจะโจมตีใส่อาเดน แต่ก็ไม่มีท่าทีแสดงอาการบาดเจ็บ
- นอคที่เข้ามาข้างในคริสตัล ซึ่งเป็นสถานที่ที่วิญญาณของดวงดาวสถิตอยู่ โดยจะพบกับเทพดาบบาฮามุท 1 ใน 6 เทพ ที่จะมอบพลังที่สั่งสมมาของคริสตัล ให้กับราชาที่ถูกเลือกที่ข้างในคริสตัลนี้ เพื่อที่จะทำหน้าที่ของราชาที่แท้จริงให้สำเร็จ
- บาฮามุทจะเล่าถึงเรื่องราวต่างๆให้ฟัง พลังของราชาที่แท้จริง คือ การรวบรวมพลังทั้งหมดมาไว้ที่แหวน เพื่อที่จะใช้กำจัดอาเดนและนำช่วงเวลาใกล้รุ่งกลับคืนมา
- อาเดน คือ บุคคลที่นำปรสิตที่เป็นต้นกำเนิดของชิไคไว้กับตัว ด้วยพลังที่เป็นภัยต่อดวงดาวทำให้อาเดนกลายเป็นคนที่ไม่มีวันแก่ไม่มีวันตาย เพราะร่างกายที่แปดเปื้อนจึงถูกคริสตัลปฏิเสธตำแหน่งราชา เพราะฉะนั้นอาเดนจึงหาทางแก้แค้นราชวงศ์ ด้วยการทำให้โลกนี้ถูกความมืดปกคลุม จนกว่าจะกำจัดนอคทิสที่เป็นคนในราชวงศ์เหมือนกัน ความแค้นนี้ก็ไม่มีวันจางหาย
- พลังของราชาที่แท้จริงคือพลังที่ใช้ในการกำจัดอาเดน ด้วยดาบของราชารุ่นก่อนๆ เวทมนต์จากคริสตัล และพลังจาก 6 เทพ ให้พลังทั้งหมดนี้มารวบรวมไว้ในแหวน พลังทั้งหมดนี้จะใช้ในการชำระล้าง เมื่อองค์ประกอบครบแล้ว ที่เหลือก็แค่ให้นอคไปนั่งที่บัลลังภ์ แล้วทำการเสียสละชีวิตของตัวเอง
- การแลกเปลี่ยนด้วยชีวิต จะเป็นการปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะจบลง ทิ้งความสุขในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง แล้วทำหน้าที่ของราชาให้บรรลุ ซึ่งตอนนี้ราชาจอมปลอมกำลังรออยู่ที่บัลลังภ์ ขอให้นอคมุ่งหน้าไปที่ประเทศของตน
- เมื่อรู้สึกตัวอีกที นอคก็ดูมีอายุมากขึ้น อยู่ในคุกหินที่เกาะมิคาเกะ ที่นั่นนอคได้พบกับอัมบราที่มาส่งข้อความถึงนอคว่า กำลังรออยู่ที่แฮมเมอร์เฮด
******************************************************
บทที่ 14 กลับบ้านเกิด
เมื่อนอคทิสเดินออกมาจากคุกหินได้ซักพัก จะพบกับเรือที่ซิดเคยซ่อมไว้ในสภาพที่ไม่ต่างจากเดิมจอดอยู่ข้างริมหาด นอคทิสจึงใช้เรือลำนั้นเดินทางไปยังกาดีน่า
- เมื่อนอคเดินทางมาถึงกาดีน่าจะพบว่าโลกตอนนี้ถูกความมืดปกคลุม เต็มไปด้วยชิไค ขณะเดินทางไปยังแฮมเมอร์เฮด นอคจะพบกับทัลคอท หลานชายของจาเร็ทที่โตเป็นหนุ่มแล้ว
- จากเหตุการณ์ที่นอคเข้าไปในคริสตัลก็ผ่านมาแล้ว 10 ปี สถานการณ์โลกตอนนี้เปลี่ยนไปมาก มนุษย์จึงพากันไปรวมตัวที่เลสตาลุมโดยอาศัยแสงไฟจากเมเทโอที่จานขนาดใหญ่แห่งคาเทส แต่ก็มีบางส่วนไปๆมาๆที่แฮมเมอร์เฮด
- ตั้งแต่นอคหายตัวไป โลกก็ถูกปกคลุมด้วยกลางคืนมาโดยตลอด หากยังจำกันได้ว่าช่วงเวลากลางคืนในเกมมันนานมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่นอคคุยกับอิกนิสบนรถไฟจนมาถึงตอนที่เจออะราเนียอีกครั้ง
- ทางด้านซิดก็ยังมีชีวิตอยู่แต่ด้วยสุขภาพที่ไม่ค่อยดีจึงดูไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน
- นายพลโคลกับอิริสก็เป็นศูนย์กลางของกลุ่มขับไล่ชิไคในแต่ละพื้นที่ กราดิโอ้ก็เป็นคนคอยช่วย ส่วนพรอมโตะก็เป็นแกนนำหลักที่แฮมเมอร์เฮด แถมเป็นคนช่วยงานซิดนี่ด้วย ทางด้านอิกนิสก็ยังปกติดี ซึ่งแรกๆทุกคนคัดค้านที่จะให้อิกนิสคอยช่วยงาน เนื่องจากตาของอิกนิสมองไม่เห็น แต่สถานการณ์ในปัจจุบันโลกที่มืดมิด ถึงจะมองเห็นก็ไม่ช่วยอะไรมากอยู่ดี
- ซึ่งกราดิโอ้ พรอมโตะ และอิกนิส ทั้ง 3 คน ก็ออกไปทำงานด้วยกันอยู่เป็นประจำ
- เมื่อเดินทางมาถึงแฮมเมอร์เฮด จะได้พบกับกราดิโอ้ พรอมโตะ และอิกนิสที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานถึง 10 ปี นอคจึงเล่าเรื่องราวต่างๆให้ทุกคนฟัง และเตรียมตัวสำหรับศึกสุดท้าย
ในตอนนี้จะมีเอกสารสำคัญอยู่ 2 ฉบับ ที่บอกถึงสถานการณ์ในตอนนี้
1. รายงานเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ
- จากการตรวจสอบอนุภาคในอากาศเหนือพื้นดินไปยังความสูงระดับหนึ่ง มีการค้นพบอนุภาคสีดำที่มีการเพิ่มจำนวน โดยปริมาณความเข้มข้นของอนุภาคสีดำ ยิ่งอยู่ในที่สูงก็จะยิ่งมากขึ้น
- อนุภาคสีดำที่มีความเข้มข้นสูงจะเข้าไปแทนที่ชั้นโอโซนและบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียก็จะหายไป
- นอกจากนี้อนุภาคสีดำยังมีลักษณะพิเศษอีก คือ การดูดแสงอาทิตย์ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมปริมาณแสงอาทิตย์ถึงลดลงนั่นเอง
ขยายความเพิ่มจะได้เข้าใจง่ายๆ ชั้นบรรยากาศโลกจากพื้นขึ้นไป 20 ไมล์ จะเป็นชั้นสตราโตสเฟีย ซึ่งในชั้นนี้ก็จะมีชั้นโอโซน ซึ่งทำหน้าที่กรองแสงอาทิตย์
2. รายงานการตรวจสอบอนุภาคสีดำ
- โครงสร้างของอนุภาคสีดำที่กำลังเพิ่มปริมาณในชั้นบรรยากาศ เป็นสาเหตุให้เกิดการกลายเป็นชิไค มีหลักการคล้ายคลึงกับพลาสโมเดี่ยม จึงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าอนุภาคสีดำเป็นต้นกำเนิดของการเกิดชิไค
- ชิไคที่ไม่ทนต่อแสงนั้น ไม่เพียงแต่จะพ่นอนุภาคสีดำที่มีความทนทานต่อแสง แต่เวลาชิไคตายแล้วจะปล่อยอนุภาคสีดำในปริมาณที่มากกว่าปกติ จึงมีการคาดคะเนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของดวงดาว
- หลังจากเตรียมตัวพร้อมแล้ว พวกนอคจึงออกเดินทางไปยังอินซอมเนีย เพื่อไปหาอาเดน โดยในคืนนั้นพวกเขา 4 คน ได้ตั้งแคมป์ที่ไม่ได้อยู่ร่วมกันมาถึง 10 ปี
- ในที่สุดพวกนอคก็กลับมาถึงเมืองหลวงอินซอมเนียที่ล่มสลายและได้พบกับอาเดน อาเดนจึงกลับไปรอนอคที่บัลลังภ์โดยเทพไฟ อิฟรีท ได้ออกมารอต้อนรับพวกนอค
- โดยระหว่างที่นอคต่อสู้กับอิฟรีท บาฮามุทและชีว่าก็เข้ามาช่วย จนนอคเอาชนะอิฟรีทได้สำเร็จ
- เมื่อกลับเข้าไปในปราสาท ก่อนที่จะไปที่บัลลังภ์ นอคได้ขอรูปถ่ายที่พรอมโตะเคยถ่ายไว้ เก็บไว้กับตัวหนึ่งรูป
- ที่บัลลังภ์ของราชาจะพบกับอาเดนที่นั่งรอยู่ โดยมีตุ๊กตาเรกิส ลูน่า อิโดร่า และ นิค (ตัวเอกจาก Kingsglaive)
- นอคจึงสั่งให้อาเดนถอยออกมา เก้าอี้ที่อาเดนนั่งอยู่เป็นบัลลังภ์ของราชา ซึ่งอาเดนไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นราชา
- ในที่สุดก็ถึงเวลาที่อาเดนจะบดขยี้ราชาและอนาคต อาเดนจึงโจมตีใส่กราดิโอ้ อิกนิส และ พรอมโตะ เพราะการต่อสู้หลังจากนี้ คือการต่อสู้ของราชาที่ถูกเลือกกับราชาที่ถูกเขี่ยทิ้ง
- ระหว่างการต่อสู้ช่วงท้าย ราชารุ่นก่อนๆจะมารับชมการต่อสู้ระหว่างนอคกับอาเดน โดยนอคได้ใช้อาวุธของราชารุ่นก่อนๆทั้ง 13 อย่างในการเอาชนะอาเดน
- อาเดนจึงถามกับนอคว่า จะสร้างโลกที่สงบสุขจากการกำจัดชิไคเหรอ ตัวตนของอาเดนก็จะถูกลบออกไปจากประวัติศาสตร์อีกครั้ง เหมือนกับตอนที่เขารับเอาปรสิตทั้งหมดมาที่ตัวเองจนไม่ได้รับเลือกจากคริสตัล ซึ่งนอคก็บอกกับอาเดนว่าให้หลับให้สบายไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีก แล้วร่างของอาเดนก็หายไป
- กลับมาที่หน้าปราสาท นอคได้บอกลากับทุกคน เพื่อจะไปทำหน้าที่ของราชาที่แท้จริง โดยเพื่อนทั้ง 3 คน ได้รับมือกับชิไคอยู่หน้าปราสาท
- ในที่สุดนอคก็ได้กลับมาที่บัลลังภ์ของราชาและได้ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เขามาถึงวันนี้ได้ ไม่ว่าจะลูน่าหรือเรกิส
- นอคจึงทำหน้าที่ของราชาที่แท้จริงตามที่บาฮามุทเคยบอกในคริสตัล ด้วยการนั่งบัลลงภ์และเรียกราชาลูซิสรุ่นก่อนๆมา โดยการเสียสละชีวิตของตน เพื่อให้พลังของราชารุ่นก่อนๆมารวบรวมไว้ในแหวนแห่งแสง ซึ่งผู้ที่ลงดาบคนสุดท้ายก็คือ ราชาเรกิสพ่อของนอคนั่นเอง
- จนกระทั่งนอคได้กลับมาในคริสตัลและพบกับอาเดน โดยนอคในตอนนี้มีพลังจากคริสตัลที่เลือกราชา พลังจาก 6 เทพ และพลังของราชารุ่นก่อนๆทั้ง 13 และยังมีความช่วยเหลือจากลูน่า
- ในที่สุดอาเดนที่เป็นต้นตอของชิไคก็ได้สูญหายไป หน้าที่ของราชาที่แท้จริงก็จบลงพร้อมกับแหวนที่แหลกสลาบ
- โดยโลกหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร ไม่มีใครทราบ เนื่องจากต้นตอของชิไคที่เกิดจากปรสิทของอิฟรีทที่อยู่ในตัวของอาเดนได้สลายไปแล้ว แต่ชิไคบนโลกก็ยังคงมีอยู่ ได้แต่คิดว่ามนุษย์ที่เหลือจะกำจัดชิไค หาวิธีกำจัดอนุภาคสีดำ เพื่อให้แสงอาทิตย์ส่องกลับมาที่โลกอีกครั้ง และในตอนนี้โลกก็ปราศจากราชาและคันนากิที่จะคอยชี้แนะมนุษย์แล้ว
- เป็นอันจบเรื่องราวของ Final Fantasy 15 ตามข้อมูลเกมตอนนี้ครับ
Like
: MairunA, NeoDio, npanda, RedRaven, 255BB, ThunderBird, xterlnw, Iseria Queen, jaku, Narl, Dark Light, theprogrammist, cassanova, Onetime, pcmt, busterwolf, SD_A, ejvijedl[wmfpw, nickroot, l3IueSky, Josephin, Eyrios, BGAlucard, BEGiTSU, Nuecifera, Nurinaki, Chaiya Suriyan, Unkaiser, Gamesstty, airkungja, DMCseries, takechi, Noctis, melodian
Reply
Vote
Related Thread
อัพเดท FF XV ทาบาตะลาออก ส่วน Episode Aranea, Lunafreya และ Noctis ยกเลิก เหลือแต่ Ardyn ทำต่อ
Final Fantasy XV ส่งขายได้ทั่วโลกแล้วกว่า 5 ล้านชุด - ขายเร็วสุดในซีรีย์
ประกาศลดราคาแผ่นเกมส์ Final Fantasy XV ที่วางจำหน่ายในไทย
เทรลเลอร์ท้ายเดโม FINAL FANTASY XV : Judgement disc
เดโมใหม่ FF XV: Judgment Disc ชาวญี่ปุ่นโหลดได้แล้วและเผยโหมด PS4 Pro และเพื่อนร่วมก๊วนชั่วคราว
Popular Thread
ประกาศ Danmachi ss5
Like a Dragon Gaiden: The Man Who Erased His Name คะแนนรีวิว
ยังอยากหากินกับบุญเก่าเหมือนเดิม Blizzard เผย มีความคิดจะนำ World of Warcraft ลงเครื่องเกมคอนโซล
KOF XV DLC|HINAKO SHIJO|Trailer
4 online users
Logged In :
member
Since 7/4/2006
(17267 post)