Menu
Home
News
Space
N
Market
Forum
Feed
ทั้งหมด
ทั่วไป
เกม
อนิเม / มังงะ
ซื้อขาย
บทสรุป
แจ้งปัญหา
[--mobilemenu--]
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ขอลิ้งยืนยันใหม่
ลืมรหัส
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
[email protected]
หรือ
[email protected]
ทั้งหมด
>
เกม
[ไม่ใช่ OT] เนื้อเรื่อง Star Ocean 5 ตั้งแต่ต้น-จบ
#Star Ocean 5: Integrity And Faithlessness
#JRPG
#เปลือง 3G
Tweet
Reply
Vote
#
Tue 5 Apr 2016 : 2:36PM
bank-Ultima
member
Overheat - System Down
Since 7/4/2006
(17267 post)
Part 7
61. หลังจากนั้นจะพบกับพ่อแม่ของริเรีย ที่เป็นนักวิจัยทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ให้กับเธอ พวกเขาได้เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า พวกเขามีวิทยาการณ์ตราสัญลักษณ์ที่สูงส่งกว่าสหพันธ์และได้ทำการวิจัยตราสัญลักษณ์ขั้นสุดท้ายอยู่ นั่นก็คือ ตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลา โดยเมื่อ 16 ปีก่อน ทางสหพันธ์ทางช้างเผือกได้ปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าองค์กรโครนอส เพื่อต่อกรกับสหพันธ์ พวกเขาจึงทำการวิจัยสิ่งชีวิตที่มีตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลาขึ้นมา จนกระทั่งปีศกราชอวกาศที่ 526 โครนอสถูก CFNZบังคับใช้ขึ้นมาซึ่ง CFNZ คือการร่วมมือกันเพื่อสันติภาพ แต่นั่นเป็นเพียงทฤษฎีขอทางสหพันธ์เท่านั้น โครนอสจึงเป็นฝ่ายที่ต้องรับเงื่อนไข โดยไม่มีสิทธ์เลือก นักทดลองได้สร้างร่างทดลองออกมาเป็นจำนวนมาก แต่มีเพียงแค่ริเรียและเฟเรีย 2 คนเท่านั้น ที่เติบโตมาได้ถึงตอนนี้
62. ความเป็นไปได้ที่จะทดลองสิ่งมีทีชิวตที่มีสัญลักษณ์มนตราแห่งกาลเวลา ก็คือที่ดาวเฟครีดดวงนี้ จากการทดลองต่างๆจึงทำการปลดปล่อยสัตว์ทดลองออกมาโลกภายนอกของดาวดวงนี้เพื่อเก็บข้อมูลโดยเก็บเป็นความลับต่อคนบนดาวดวงนี้ ทั้งหมดเป็นสิ่งจำในการต่อกรกับสหพันธ์ เอเมอสันก็โกรธว่าแบบนี้ก็เหมือนกล่าวมาว่าทางสหพันธ์เป็นฝ่ายผิด แต่ลาฟิเน่ได้แย้งว่าเหมือนจะใช่ แต่ไม่ใช่ เพราะพวกนักวิจัยทำการทดลองเพื่อสันติภาพจริงๆ แต่พวกเธอก็รู้สึกผิดจึงทำการช่วยเหลือริเรียหลบหนีออกมาช่วยกระสวยอวกาศ นั่นคือเหตุการณ์ที่ฟิเดลและมิกิพบในตอนแรก แต่แผนการทั้งหมดทอลัสหัวหน้าศูนย์วิจัยได้เฝ้าจับตามองอยู่ และสั่งโจมตีกระสวยอวกาศจนตก
63. หลังจากนี้พวกนักวิจัยจะใช้ข้อมูลที่ได้จากริเรียทำการปลดปล่อยพลังจากตราสัญลักษณ์ของเฟเรีย เนื่องจากการปรากฏตัวของสหพันธ์ทำให้นายพลอัลม่าเร่งรีบขึ้นไปอีก ลาฟิเน่จึงขอร้องให้พวกฟิเดลช่วยปลดปล่อยริเรียและเฟเรียออกจากการเป็นเครื่องมือด้วย ผู้รับหน้าที่เป็นพ่อของริเรียได้มอบการ์ดที่ใช้เขาวิหารมนตราที่อยู่ทางตอนเหนือของนอสโซม่า โดยด้านในสุดของวิหารจะทำให้ทราบเรื่องราวทั้งหมดว่าทำไมองค์กรโครนอสถึงเลือกดวงดาวแห่งนี้เป็นสถานที่ทดลอง หลังจากนี้พ่อแม่ของริเรียก็ได้บอกลาริเรีย เนื่องจากสหพันธ์ได้ตรวจพบการวิจัยนี้แล้ว ทำให้พวกเขาทำการวิจัยต่อไปไม่ได้ เอเมอสันจึงสั่งให้ทำการเคลื่อนย้ายกลับยานของเขาทันที
64. เมื่อมาถึงยานเอเมอสันจึงสั่งให้ลูกเรือทำการค้นหาอัลม่าทันที ส่วนแอนนุมาตรวจสอบวิหารมนตรา แล้วพบว่าหลังจากที่เธอทำการสแกนวิหารนี้ ได้พบอุปกรณ์บางอย่างซึ่งไม่ใช่ของโครนอส โดยรอบๆนี้มีสัญญาณรบกวนหลากหลายประเภทปิดกั้นอยู่รอบๆไปหมด ซึ่งไม่น่าจะมีวิทยาการที่สูงส่งอยู่บนดาวดวงนี้ และทางสหพันธ์ก็ไม่เคยมีบันทึกไว้ด้วย พวกฟิเดลจึงตัดสินใจออกเดินทางไปยังวิหารมนตราแห่งนี้
65. วิหารมนตราตั้งอยู่บนทิศเหนือของเทือกเขาเอฮิด เขตพื้นที่นอสโซม่า ที่ด้านในสุดเป็นทางตัน จะพบกับรูปปั้นของ “พาลาฟิทอส” ผู้ที่ค้นพบวิหารมนตราและทำการตีความมนตราที่สลักอยู่บนผนังของวิหารนี้ได้สำเร็จ แอนนุจึงทำการตรวจสอบห้องด้านในนี้พบว่ามีคลื่นไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ แอนนุเลยขอให้ฟิเดลนำการ์ดที่ได้รับมาทดสอบบางอย่างกับรูปปั้น ปรากฏว่ามีทางลับซ่อนอยู่ด้านในไม่รู้ว่ามีกับดักหรือเปล่า แต่ริเรียก็วิ่งเข้าไปก่อนใคร
66. เมื่อพ้นจากทางลับที่ซ่อนอยู่ในวิหาร พวกฟิเดลหลุดออกมาอีกสถานที่หนึ่ง เป็นสถานที่ที่แปลกมาก แทนที่จะเรียกว่ายืนอยู่บนถ้ำใต้ดิน แต่เป็นยืนอยู่บนดาวเคราะห์น้อยที่ไม่มีอากาศเสียมากกว่า ทันใดนั้นริเรียบอกว่าเธอรู้จักที่นี่ แล้วเธอก็วิ่งขึ้นไปด้านบนของสถานที่นี้พบกับอุปกรณ์บางอย่าง
67. อุปกรณ์ที่อยู่ด้านใน เป็นอุปกรณ์ที่เอเมอสันกับแอนนุเคยเห็นแค่ในวีดีโอ ทันใดนั้นอุปกรณ์นี้ก็ทำงานขึ้น และทำการฉายภาพประวัติศาสตร์ต่างๆตั้งแต่เหตุการณ์ปีคริสต์ศักราชจนขึ้นศักราชอวกาศ มาจนถึงเหตุการณ์ทดลองสิ่งมีชีวิตที่มีตราสัญลักษณ์และจากผลการทดลองทำให้สร้างตัวริเรียขึ้นมา
68. ในที่สุดริเรียก็จำเรื่องราวได้ทั้งหมดแล้ว เธอไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นร่างทดลองที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอาวุธใช้สำหรับการฆ่าผู้คน แต่ฟิเดลไม่สนใจเรื่องนั้น ถึงผู้คนที่เกิดมาจะมีความทุกข์ แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเกิดมาได้ยังไง แต่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไรต่างหาก ริเรียเลยขอบคุณทุกคน และขอความช่วยเหลือจากทุกคนให้ช่วยเหลือเฟเรีย เนื่องจากริเรียมีทุกคนอยู่ด้วย แต่พี่ของเธอไม่มีใครเลย แน่นอนว่าทุกคนยินดีให้ความช่วยเหลือริเรีย
69. แอนนุรู้สาเหตุที่โครนอสทำการเลือกดาวเฟครีดลำดับที่ 4 เป็นสถานที่ในการทดลองแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ทราบว่าทำไมถึงมีสถานที่แบบนี้อยู่บนดาวดวงนี้ เอเมอสันจึงสั่งให้ทุกคนรีบออกจากที่นี่ เนื่องจากพอเข้ามาที่สถานที่นี้ทำให้สัญญาณสื่อสารถูกตัดขาด เนื่องจากอุปกรณ์ที่อยู่ด้านในนี้ หลังกลับมาที่ด้านในของวิหาร เอเมอสันได้รับการติดต่อมาว่ากองยานของโครนอสกำลังจะมาถึงอาณาเขตที่ยานชาลส์ดีโกลอยู่ภายในอีก 12 ชั่วโมง โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นกองยานของนายพลอัลม่าหรือไม่ ให้รีบออกจากวิหารนี้เพื่อเตรียมทำการเคลื่อนย้ายกลับขึ้นยาน
70. เมื่อมาถึงยานดราโค่ได้รายงานว่ากองยานของโครนอส4 ลำ กำลังเคลื่อนที่มาทางนี้ และจะใช้เวลา 7 ชม มาถึงยานของเอเมอสัน ทันใดนั้นก็มีสัญญาณติดต่อเข้ามาที่ชาลส์ดีโกล เมื่อฉายภาพขึ้นจอพบว่าเป็นสัญญาณจาก “มูทัล” ประธานาธิบดีของโครนอส ซึ่งทางมูทัลไม่สามารถติดต่อกับกองทัพส่วนหนึ่งได้ นั่นก็คือนายพลอัลม่า และเขายังบอกอีกว่าทางโครนอสไม่คิดที่จะละเมิดสนธิสัญญา CFNZ ที่ทำร่วมกันกับสหพันธ์เลย เหตุการ์ความไม่สงบนี้เกิดจากนายพลอัลม่าและกองทัพภายในส่วนหนึ่งที่ต้องการเป็นปรปักษ์กับสหพันธ์ จึงได้ตั้งแผนการ “คูเดต้า” ขึ้นมา
Part 8
71. มูทัลไม่ต้องการให้เกิดสงครามขึ้นระหว่างโครนอสกับสหพันธ์ เพราะ มันจะเป็นการตัดอนาคตของโครนอส เขาต้องการร่วมมือกันระหว่างโครนอสกับสหพันธ์เพื่อระงับแผนการคูเดต้าของนายพลอัลม่า เอเมอสันจึงรับเรื่องไว้แล้วจะนำไปแจ้งให้กับผู้บัญชาการ “ดีน”
72. วิคทอลไม่เห็นด้วยกับการกระทำของมูล จึงโต้แย้งกับเอเมอสัน เอเมอสันได้ให้เหตุผลว่า ถึงนายพลอัลม่าจะเป็นโครนอส แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโครนอสจะเป็นศัตรูของเราทั้งหมด นี่อาจจะเป็นกับดักของมูทัลก็ได้ วิทยาการที่ได้พัฒนาเรื่อยมาหากนำไปใช้ผิดวิธีการแล้ว จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้คนหมู่มาก ในกรณีที่เลวร้ายสุดก็จะเกิดการล่มสลายของอารยธรรมขึ้น และถึงเราจะมีวิทยาการที่สูงส่ง ก็ไม่คิดที่จะทำสงครามง่ายๆขึ้นมา ทำให้วิคทอลโกรธเมื่อนึกถึงดวงดาวเฟครีดของเขาที่กำลังทำสงครามกันอยู่ระหว่างอาณาจักรเรสเรียและอาณาจักรเทรคูล แต่เอเมอสันไม่ได้จะสื่อถึงแบบนั้น ท้ายสุดวิคทอลก็ขอโทษเอเมอสัน และขอเชื่อมั่นในสิ่งที่สหพันธ์เป็นคนตัดสินใจ
73. ในที่สุดการพูดคุยกันระหว่างประธานาธิบดีมูทัลจากโครนอสกับผู้บัญชาการดีนแห่งสหพันธ์ก็เริ่มตึ้นขึ้น ดีนจึงประกาศว่าทางสหพันธ์เพ่งเล็งถึงสันติภาพเป็นหลัก จึงตัดสินใจให้ความร่วมมือกับโครนอส และมอบหมายหน้าที่ให้กับเอเมอสันเป็นทูตไปเจรจากับนายพลอัลม่า เนื่องจากมีเพียงยานชาลส์ดีโกลอยู่ใกล้อาณาเขตที่สุดส่วนมูทัลได้ส่งพิกัดตำแหน่งฐานลับของนายพลมูทัลที่ซ่อนอยู่ในดาวเคราะห์น้อยให้กับเอเมอสัน แต่กองยานของอัลม่ามีมากกว่า 10 ลำ ซึ่งอาจจะกลายเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก
74. ในระหว่างที่ชาลส์ดีโกลกำลังวาร์ปอยู่นั้น ได้มีช่องสัญญาณปริศนาของนายพลอัลม่าทำการติดต่อเข้ามา เอเมอสันจึงทำการเจรจาต่อรองเพื่อไม่ให้เกิดสงครามขึ้น นายพลอัลม่าจึงโกรธขึ้นมาเนื่องจากสหพันธ์ได้ลิดรอนสิทธิต่างๆ โดยไม่มีข้อเสนอใดๆทั้งสิ้น เอเมอสันจึงให้เหตุผลว่าทางสหพันธ์ทำไปเพื่อให้เกิดสันติภาพที่แท้จริง ไม่ได้บังคับให้ทางโครนอสเป็นฝ่ายเข้าร่วมกับสหพันธ์เลย (เรื่อง CFNZ) นายพลอัลม่าจึงประกาศสงครามกับสหพันธ์และกลุ่มโครนอสที่ทรยศเข้าร่วมกับสหพันธ์ หลังจากนี้นายพลอัลม่าจะสถาปนาโครนอสขึ้นมาใหม่ และนี่จะเป็นการต่อสู้กันระหว่างผู้ครอบครองร่างทดลองที่มีพลังของตราสัญลักษณ์ ฟิเดลและนายพลอัลม่าเอเมอสันจึงให้ทุกคนไปพักผ่อน เตรียมรับศึกครั้งใหญ่ที่กำลังจะมา
75. ในคืนนั้นมิกิได้พูดคุยกับฟิเดลว่า พวกเธอเดินทางมาไกล ต่างจากเรื่องราวในอดีตที่เคยอยู่แต่หมู่บ้านสตาล ไม่เพียงแค่นั้นเธอยังรู้สึกว่าหมู่นี้เธอค่อนข้างห่างเหินกับฟิเดลอีกด้วย เพราะว่ามีเรื่องของสงครามและเรื่องของเฟเรียเข้ามา มิหิเลยบอกกับฟิเดลว่าอย่าทิ้งเธอไปเด็ดขาดนะ ไม่งั้นไม่ให้อภัยด้วย พรุ่งนี้เธอจะตั้งใจต่อสู้เพื่อเฟเรีย เพราะฉะนั้นช่วยอยู่ข้างๆเธอด้วย (SO5.5)
76. ก่อนเริ่มต้นสงคราม นายพลอัลม่าต่อว่ามูทัลว่าทำอะไรหละหลวม ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้นำของโครนอส เขาจะกำจัดทั้งพวกสภาของโคนอสและสหพันธ์ให้พินาศเอง เอเมอสันจึงสั่งให้ยานของมูทัลถอยห่างจากแนวสงคราม ส่วนกองยานอื่นๆของมูทัลและยานของเขา เขาจะเป็นคนบัญชาการรบเอง
77. ในที่สุดสงครามก็เริ่มต้นขึ้นกองทัพของอัลม่าเป็นฝ่ายได้เปรียบ กองยานของสหพันธ์เสียหายหนักขึ้นเรื่อยๆ วิคทอลได้สั่งให้เอเมอสันทำการถอยทัพไปตั้งหลัก แต่เอเมอสันปฏิเสธเนื่องจากเป็นการยืดเวลาให้กับศัตรู ฟิเดลจึงเสนอความคิดให้พวกเขาบุกเข้าไปในฐานเองโดยใช้ความสามารถของริเรียฝ่าเข้าไป แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากอัลม่าหลบซ่อนอยู่ในฐานลับข้างในดาวเคราะห์น้อยโดมีเกราะกำบังอยู่ ทำให้เข้าไปใกล้ไม่ได้ แต่แอนนุได้ทำการวิเคราะห์ไว้แล้วว่าระยะห่างระหว่างจากยานไปยังอาณาเขต หากใช้ตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลาจะทำให้ลอดผ่านไปได้ โดยพลังตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลาของริเรียจะทำให้เกราะกำบังนั้นไร้ผล หากได้รับการฝึกฝนมาเพียงพอ แต่พลังของเธอในตอนนี้แค่ส่วนหนึ่งก็เพียงพอจะทำให้บุกเข้าไปได้
78. แต่ริเรียไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ แต่แอนนุจะคอยช่วยเหลือเอง ฟิเดลจึงพูดปลุกใจริเรีย เพื่อไปช่วยเฟเรีย
79. เอเมอสันจึงนำทางทุกคนไปยังเครื่องย้ายมวลสาร โดยก่อนอื่นต้องทำให้เกราะกำบังไร้ผลเสียก่อน แต่เมื่อริเรียลองใช้ตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลาเพื่อสร้างฟิลด์ของตัวเองขึ้นมา กลับได้รับความเสียหายเองเนื่องจากฟิลด์ของเฟเรียกำลังกางอยู่
80. แอนนุจึงทำการแสกนผลลัพธ์ออกมาว่า หากริเรียเปิดใช้ฟิลด์ในบริเวณใกล้ๆจะมีความเป็นไปได้มากกว่าที่อยู่ในยานเอเมอสันจึงตัดสินใจให้ทุกคนไปขึ้นกระสวยอวกาศ ซึ่งเป็นวิธีที่อันตรายมาก เนื่องจากอาจถูกยิงตกก่อนได้
Part 9
81. ในที่สุดพวกฟิเดลก็ใช้ฟิลด์ของริเรีย บินฝ่าฟิลด์ของเฟเรียมาได้ โดยวิคทอลได้มองเห็นฐานลับของนายพลอัลม่า พวกเขาจึงบุกเข้าไปข้างในฐานลับได้สำเร็จ อัลม่าชื่นชมพวกฟิเดลเป็นอย่างมากที่ใช้พลังจากตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลาฝ่าเข้ามา และได้ท้าทายให้มาหาเขา จะได้ตัดสินว่าใครเป็นผู้ใช้ตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลาที่เหมาะสมกว่ากัน และจะเป็นการตีแผ่ประวัติศาสตร์ความถูกต้องที่เหมาะสมของนายพลอัลม่า
82. ระหว่างทางที่บุกเข้าไปข้างในฐานลับ “ฟอเทรส ออฟ ไทรดอล” จะพบกับโทลัสและรองหัวหน้าสถาบันวิจัยของโครนอส ได้ปล่อยสัตว์ทดลองที่มีตราสัญลักษณ์เข้ามาต่อสู้กับพวกฟิเดล เพื่อทำการเก็บข้อมูลนำไปปรับแต่งสัตว์ทดลองที่มีตราสัญลักษณ์ให้ดีขึ้น ซึ่งระหว่างต่อสู้พวกโทลัสสังเกตเห็นถึงความแตกต่างระหว่างมนตรา (ของดาวเฟครีดที่มิกิและฟิโอเร่มี) มันแตกต่างจากตราสัญลักษณ์สร้างความสนใจให้พวกเขา แต่สิ่งที่ทำให้โทลัสต้องตกตะลึงคือการพัฒนาความสามารถในการต่อสู้ของพวกฟิเดลที่มากขึ้น ทำให้พวกโทลัสหนีออกไป
83. พวกฟิเดลจึงไล่ตามเข้าไปข้างในและได้พบกับโทลัสอีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้เตรียมตัวอย่างของการทดลองชั้นเลิศไว้ให้ พวกฟิเดลไม่ต้องการที่จะเสียเวลา แต่โทลัสได้ถ่วงเวลาไม่ให้ไปหานายพลอัลม่า เนื่องจากนายพลอัลม่าเป็นสปอนเซอร์หลักให้กับการทดลองของโทลัสนั่นเอง
84. ร่างทดลองต่อไปที่โทลัสนำมาใช้ คือ ร่างโคลนของเฟเรีย ถึงแม้จะไม่ใช่ร่างจริงแต่ก็มีพลังที่พอทัดเทียมกับตัวจริงอยู่ โทลัสจึงยั่วไปว่า กล้าพอไหมที่จะหันคมดาบเข้าใส่ร่างโคลนของเฟเรีย แต่ว่ารองหัวหน้าสถาบันวิจัยของโครนอสได้พูดเตือนกับโทลัสไว้ว่า ร่างโคลนนี้เป็นร่างเดียวที่ทำการโคลนออกมาได้สำเร็จ ถ้าหากนำมาใช้โดยไม่บอกนายพลอัลม่าก่อนจะไม่ดี แต่โทลัสก็ไม่สนใจ ขอแค่เอาชนะพวกฟิเดลได้ก็พอ
85. หลังจากที่เราเอาชนะร่างโคลนของเฟเรียได้ ในระหว่างที่เราต่อสู้อยู่ โทลัสมันจะจำร่างทดลองอื่นมาใช้ต่อ แต่มอนิเตอร์ก็ฉายภาพนายพลอัลม่ากับเฟเรียขึ้นมา นายพลอัลม่าโมโหกับการกระทำของโทลัสอย่างมาก ที่นำร่างโคลนที่สำคัญมาใช้โดยพลการ ถึงแม้ว่าโทลัสจะแก้ตัวด้วยการจะสร้างร่างโคลนขึ้นใหม่ แต่นายพลอัลม่าก็มองการกระทำของโทลัสออกว่า การทดลองทุกอย่างที่ทำไป ไม่ได้ทำเพื่อโครนอส แต่ทำเพื่อส่วนตัว คนแบบนี้ไม่เป็นที่ต้องการสำหรับเขา แต่เมื่อมองย้อนคุณงามความดีที่โทลัสเคยทำมา นายพลอัลม่าจึงมอบโอกาสให้กับโทลัสอีกครั้ง
86. ทันใดนั้นร่างของสัตว์ทดลองตัวหนึ่งถูกส่งตัวมาตรงหน้าโทลัส อยู่ๆเวลาโดยรอบก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ทำให้พวกฟิเดลหลุดมายังอีกมิติหนึ่งที่เรียกว่า “โครนอสพาเลซ” แอนนุจึงตรวจสอบพบว่ามิติสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลา และได้พบกับโทลัสที่รวมเป็นหนึ่งกับสัตว์ทดลองตัวนั้น โทลัสดูจะถูกอกถูกใจกับร่างนี้มาก ด้วยร่างนี้เขาไม่จำเป็นต้องไปพึ่งพานายพลอัลม่าอีกต่อไป เขาจะแสวงหาสัจธรรมที่แท้จริงด้วยตัวเขาเอง
87. หลังจากกำจัดโทลัสแล้ว มอนิเตอร์ได้ฉายภาพนายพลอัลม่า เขาพูดจาถากถางเอเมอสันว่านี่หรือคนที่จะมาตัดสินให้รู้แล้วรู้รอดกับเขา สภาพดูไม่เอาอ่าวแบบนี้ แล้วได้ท้าทายทุกคนให้มาหาเขา
88. หลังจากเอาชนะบอสตามทางก็มาพบกับนายพลอัลม่าและเฟเรียอยู่ด้านใน นายพลอัลม่าได้ชักชวนให้ฟิเดลกับริเรียมาร่วมมือกับเขา แต่ริเรียอยากอยู่กับฟิเดลและมิกิ ส่วนฟิเดลได้ต่อว่านายพลอัลม่า“ใครมันจะไปร่วมมือกับคนที่ใช้เด็กเป็นเครื่องมือกัน ชีวิตไม่ใช่ของเล่นของแก” นายพลอัลม่าจึงสั่งให้รองหัวหน้าสถาบันวิจัยของโครนอสทำการลบความทรงจำของเฟเรีย แล้วให้เฟเรียมอบพลังให้กับนายพลอัลม่า
89. การโจมตีทางกายภาพรวมถึงการโจมตีด้วยมนตรา ไม่สามารถทำอะไรนายพลอัลม่าได้ เนื่องจากรอบๆตัวเขามีเกราะบางอย่างห่อหุ้มอยู่ด้วยพลังจากตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลา เป็นเพราะฟิเดลทำให้เขาไขความลับอีกหนึ่งอย่างของตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลาได้สำเร็จ เมื่อร่างทดลองทำการปลดปล่อยพลังของตราสัญลักษณ์ (ปกติ) จะมีการหลั่งฮอร์โมนบางชนิดในสมอง ฮอร์โมนนั้น คือความรู้สึก ความเชื่อใจ ของร่างทดลองที่มีต่อฟิเดล รวมกันเป็นความรู้สึกที่แรงกล้าผสมเข้าด้วยกัน ถ้าหากเข้าใจถึงขั้นตอนกระบวนการแล้ว ก็เป็นไปได้ที่จะทดแทนฮอร์โมนที่ขาดไปด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เบื้องต้นก็เริ่มจากการล้างสมอง ถ้าหากยังไม่เพียงพอ ก็ทำการกระตุ้นฮอร์โมนเข้าไปตรงๆ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ คือ ทำให้นายพลอัลม่าได้พลังที่แท้จริงของตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลามา
90. ริเรียเกิดอาการกลัว แต่ฟิเดลก็ให้กำลังใจริเรียจนเธอลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง และทำการช่วยเหลือจิตใจของเฟเรียให้กลับมา เมื่อเฟเรียได้สติอีกครั้ง เกราะที่เกิดจากพลังของตราสัญลักษณ์แห่งกาลเวลาของนายพลอัลม่าก็หายไป พวกฟิเดลจึงทำการต่อสู้ต่อจนนายพลอัลม่าเสียท่า
Like
: Davichi Rebecca
[Edited 1 times bank-Ultima - Last Edit 2016-04-19 15:19:07]
Reply
Vote
Related Thread
ข้อมูลใหม่ Metaphor: ReFantazio ปล่อยข้อมูลรายละเอียดโลกทัศน์ เนื้อเรื่อง และตัวละครในเกม
2 โปรเจ็คใหม่ของ kickstarter จากทีมทำ Wild Arms กับ Shadow Hearts
[OT] Soul Hackers 2 | แฮกวิญญาณ เรียกปีศาจ ฟาดปากคู่อริ
[OT] Xenoblade Chronicles 3 | ชีวิตคือการต่อสู้ สู้เพื่อมีชีวิต !
มาแล้วลูกจ๋า Classic RPG ��าษาไทย The Gate : The Remant memory Mobile Version ตัวเต็มออกแล้วครับ
Popular Thread
ประกาศ Danmachi ss5
Like a Dragon Gaiden: The Man Who Erased His Name คะแนนรีวิว
ยังอยากหากินกับบุญเก่าเหมือนเดิม Blizzard เผย มีความคิดจะนำ World of Warcraft ลงเครื่องเกมคอนโซล
KOF XV DLC|HINAKO SHIJO|Trailer
1 online users
Logged In :
member
Since 7/4/2006
(17267 post)